พิมพ์

[raponsan]

แกะรอย “พระผงสุพรรณ” กรุพระปรางค์... วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

เกิดมาไม่เคยสนใจเรื่องพระเครื่อง พระบูชา ก็ได้มีความรู้ตอนที่ไปตะลอนไหว้พระเมืองสุพรรณบุรีนี่ละค้า...คุณขา!! ออกจากวัดเขาดีสลัก แวะหาของอร่อยๆใส่ท้อง ต้องที่นี่เลยค่า...ร้านกวยจั๊บน้องแตนไปทางวัดวิหารแดง ถ้ามาจากตัวเมืองสุพรรณฯให้เข้าทางถนนโพธิ์พระยา-วิหารแดง ร้านนี้อยู่เลยวัดวิหารแดงไปประมาณเกือบกิโลค่า...

ไปถึงร้านอย่าตกใจถ้าจะเห็นรถจอดเต็มสองข้างทาง กับผู้คนที่จับจองโต๊ะนั่งกันเต็มร้าน การันตีความอร่อยแบบบ้านๆ เมนูเด็ดของร้านคือ กวยจั๊บ แต่ถ้าใครไม่ชอบเขาก็มีอาหารอย่างอื่นให้สั่งพิเศษได้ ไม่ว่าจะเป็นผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก หรืออาหารตามสั่งอื่นๆ รวมถึงเมนูพิเศษอย่างผัดไทยเกี๊ยวกรอบ ก็น่าลองอยู่นะค้า...

...งานนี้ มิสป๊อปปูลาร์ สั่งกวยจั๊บสูตรเด็ดของน้องแตน...มาลองลิ้มชิมรส แป้งกวยจั๊บนุ่มลิ้น กินกับน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม มีหมู เต้าหู้ ไข่ ช่วยเพิ่มรสชาตินอกจากอิ่มท้องแล้ว ยังอิ่มอร่อยอีกด้วยคร้า...คุณขา เอาเป็นว่า ถ้าผ่านไปเมืองสุพรรณฯก็ลองแวะไปลิ้มลองกันนะคะ อ้อ! ก่อนออกจากร้านแนะนำให้ซื้อกล้วยแขกกับขนมไข่นกกระทาทอดติดไม้ติดมือมากินด้วย คนขายเป็นคุณป้า หยิบช้าๆแต่นับชิ้นครบถ้วน รสชาติอร่อยอีกละ...

 

ออกจากร้านกวยจั๊บน้องแตน คราวนี้มุ่งหน้าสู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ที่เขาร่ำลือกันว่า มีพระเก่าแก่ พระดังอยู่มาก ทางไปวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็ไม่ยากค้า ...วัดอยู่ในเขต ต.รั้วใหญ่ ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ห่างสะพานข้ามแม่น้ำไปประมาณ 200 เมตร สังเกตทางแยกตรงถนนมาลัยแมน เข้าไปทางถนนสมภาร ไม่ไกลมากนัก

วัดนี้มีประวัติที่มาจากบันทึกหลักฐานหลายเล่ม บ้างก็ว่าสร้างในสมัยอยุธยา แต่นักประวัติศาสตร์เขาก็มาถกเถียงกันทีหลัง... ว่า ดูจากศิลปะที่มีทั้งศิลปะสมัยอู่ทอง และ ทวารวดี แล้วสันนิษฐานว่า วัดนี้น่าจะสร้างก่อนสมัยอยุธยา

 

มิสป๊อปปูลาร์ ไปถึงก็ตรงไปที่วิหารหลังใหญ่ ทางด้านหน้าของพระปรางค์ประธาน ได้เจอกับพระเฉลิม เตชธัมโมกราบนมัสการท่านขอให้ช่วยเล่าความเป็นมาของพระ ประธานองค์ใหญ่ในวิหาร ท่านบอกว่า เดิมทีวิหารนี้เป็นวิหารหลวง พระประธานที่เห็นนี้ สมัยก่อนมี 2 องค์ นั่งหันหลังชนกันอยู่ บางคนจึงเรียกว่า “หลวงพ่อแฝด” แต่ต่อมาพระอีกองค์ด้านหลังถูกพังลง เหลืออยู่เพียงองค์เดียว องค์พระเป็นสีดำ คนก็เรียกชื่อใหม่ว่า “หลวงพ่อดำ” เป็นพระปางมารวิชัย สมัยอู่ทองผสมกับสุโขทัย ตอนนี้พระปิดทองทั้งองค์แล้ว แต่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหลวงพ่อทองนะคร้า...คนสมัยก่อนยังคงเรียกหลวงพ่อพระแฝด แต่บางคนก็คุ้นกับชื่อหลวงพ่อดำมากกว่า แต่ชื่อเต็มๆอย่างเป็นทางการของท่าน คือ “พระปิยะทัสสะสี” ค่า...

 

กราบพระเสร็จ สะดุดตากับเศียรพระที่ตั้งอยู่ด้านหน้า พระเฉลิมท่านบอกว่า เป็นเศียรพระพุทธรูปหินทรายที่พบในพงหญ้า ตอนที่พบนั้น...เบ้าพระเนตรโบ๋ พระนาสิกขาด ติ่งพระกรรณด้านขวาบิ่น ปลายยอดสุดเปลวเพลิงพระเกศาหักลง...จึงนำมาบูรณะให้สมบูรณ์ขึ้น และตั้งไว้ให้ผู้คนได้มา

กราบไหว้บูชา มิสป๊อปปูลาร์เห็นเศียรพระท่านแล้ว น้ำตาร่วงค้า...คนใจร้ายใจดำ คงพยายามที่จะขโมยนำท่านออกไปจากที่นี่ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านคงไม่ยอมไป เลยถูกทำร้ายจนขาดวิ่นบิ่นสะบั้นแบบนี้ นอกจากพระประธานองค์ใหญ่ เศียรพระที่ถูกตัดแล้ว ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปเรียงรายอีกมากมาย ซึ่งพระเฉลิมท่านเล่าว่า เป็นพระพุทธรูปหินทราย จำนวน 279 องค์ ตอนที่ขุดพบนั้น แต่ละองค์มีสภาพไม่สมบูรณ์ เป็นซากปรักหักพัง เรียกว่าเจอเป็นชิ้นๆนั้นละค้า...ส่วนเศียรบ้าง พระอุระบ้าง หน้าตักบ้าง ที่เห็นเป็นเต็มองค์ตอนนี้คือ บูรณะขึ้นใหม่หมด บางองค์ก็ครอบของเดิม บางองค์ก็ตัดต่อชิ้นส่วนเพิ่มเข้าไป จนเป็นพระพุทธรูปเรียงรายอย่างที่เห็น

 

จากวิหารเดินไปด้านหลัง สุดยอด... จริงๆค้า...คุณขา!! พระปรางค์โบราณองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน พระปรางค์องค์นี้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์อู่ทอง ซึ่งก็หมายความว่ามีอายุมามากกว่า 700 ปีเลยทีเดียวเชียวนะค้า...นอกจากบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระปรางค์องค์นี้ยังเคยถูกคนลงไปขุดหาสมบัติทรัพย์สินต่างๆ รวมไปถึงพระผงสุพรรณบุรี หนึ่งในเบญจภาคี 5 พระเครื่องยอดนิยมนั่นละค้า...กรุในองค์พระปรางค์นี้ ถือเป็นต้นกำเนิดพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรีที่โด่งดังมาก

ดูจากหลักฐานการก่อสร้างแล้ว นักโบราณคดีเขายืนยันว่า พระปรางค์องค์นี้น่าจะเป็นศิลปะการก่อสร้างสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ เพราะเป็นการก่ออิฐไม่ถือปูน ซึ่งเป็นวิธีการเก่าแก่ก่อนสมัยอยุธยา มีตำนานเกี่ยวกับการขุดกรุพระภายในพระปรางค์นี้เยอะมากค่า...ถ้าจะให้เล่าคงต้องเขียนหนังสือกันเป็นเล่มๆเลยเชียวล่ะ เอาเป็นว่า กรุพระในพระปรางค์องค์นี้นั้นเป็นพระดังเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระกำแพงศอก ที่ว่ากันว่าพุทธคุณของท่านคือเป็นพระกันไฟ พระผงสุพรรณหน้าหนุ่ม หน้าแก่, พระมเหศวร พระลีลาอกใหญ่

 

ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุยังมีสถานที่ที่ควรค่าแก่การศึกษาทั้งประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมือง ที่แม้แต่เคยหายไปจากประวัติศาสตร์ชาติไทยในยุคหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ก็เคยนะค้า... นอกจากนี้ยังมีศิลปะ โบราณวัตถุ โบราณ สถานที่...มิสป๊อปปูลาร์การันตีได้เลยค้า ...ว่า วัดนี้เป็นเสมือนบันทึกประวัติศาสตร์เล่มโตที่จะทำให้เรารักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ของเรามากขึ้น

อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า สุพรรณบุรีไม่ได้มีดีแค่ถนนกว้าง 8 เลน กับอดีตนายกรัฐมนตรีร่างเล็ก ที่พยายามปั้นแต่งเมืองสุพรรณฯให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวท็อปเทน...เท่านั้นค้า...คุณขา!!!!

มิสป๊อปปูลาร์

ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/451528