ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "วัดเฉลิมพระเกียรติฯ" ลำปาง...อันซีนบนยอดเขา มหัศจรรย์แห่งศรัทธา  (อ่าน 1970 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ทิวทัศน์ด้านบนภูเขาวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

"วัดเฉลิมพระเกียรติฯ" ลำปาง...อันซีนบนยอดเขา มหัศจรรย์แห่งศรัทธา

        ขณะนี้แหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงที่สุดในจังหวัดลำปาง ต้องยกให้ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว “อันซีน” เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก แต่ภาพอันงดงามของเจดีย์สีทองที่สร้างขึ้นบนภูเขาสูงเสียดฟ้า ล้อมรอบไปด้วยสายหมอกและทิวเขาสูงที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ก็ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเดินทางไปชมกันเป็นจำนวนมาก
       
       สำหรับวัดเฉลิมพระเกียรติฯ นั้นตั้งอยู่บนภูเขาใหญ่ในอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง อยู่ในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท บนยอดเขาแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ เป็นที่เคารพบูชาของชาว อ.แจ้ห่ม มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อก่อนนี้ยังไม่มีการทำถนนขึ้นสู่ดอย ดังนั้นพุทธศาสนิกชนผู้ศรัทธาจึงต้องเดินเท้าผ่านป่าทึบและหน้าผาสูงขึ้นไปสักการบูชารอยพระพุทธบาทแห่งนี้

หน้าอุโบสถบริเวณด้านล่าง
       
พระประธานในอุโบสถ

        และต่อมา หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล (พระเทพวิสุทธิญาณ) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ซึ่งแต่เดิมท่านเป็นชาวอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางโดยกำเนิด ได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทโดยการเดินเท้า พลังศรัทธาของท่านเป็นที่มาของการสร้างวัดขึ้น ประกอบกับในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระราชสมภพครบ 200 ปี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2547 ทางคณะสงฆ์จึงมีมติให้สร้างวัดเฉลิมพระเกียรติแด่พระองค์ท่านเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้สร้าง “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ที่ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางขึ้น
       
       ภายในบริเวณวัดจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ หรือ 3 ชั้นก็ว่าได้ สำหรับชั้นแรก เป็นที่ตั้งของตัว “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” หรือชื่อเดิมเรียกว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” หรือที่บางคนเรียกกันง่ายๆ ว่า “วัดล่าง” บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของอุโบสถและเจดีย์ เราสามารถเข้าไปกราบพระพุทธรูปภายในอุโบสถที่จำลองมาจากพระนิรันตราย ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 4 องค์หนึ่ง ส่วนตัวอุโบสถมีลักษณะเหมือนวัดทางล้านนา มีหลังคาลดหลั่นสองชั้น และมีสิงห์คู่ยืนเฝ้าอยู่บริเวณทางเข้าสู่ลานอุโบสถ


องค์เจดีย์ด้านหลังอุโบสถ
       
สภาพเส้นทางเดินขึ้นเขามายังเจดีย์ด้านบน

        สำหรับคนที่อยากจะขึ้นไปชมบรรยากาศของตัววัดบริเวณชั้นบนต่อ สามารถจอดรถไว้ที่ลานจอดรถที่ชั้นนี้ได้ เพราะถนนที่จะขึ้นไปด้านบนนั้นชันมากทีเดียว ต้องเป็นรถกระบะหรือรถโฟร์วีลและคนขับชำนาญเส้นทาง สำหรับใครที่ไม่อยากขับขึ้นไปเองก็สามารถใช้บริการรถสองแถวของวัดที่มีให้บริการรับส่งไปยังชั้นที่ 2 โดยมีค่าบริการแบบเหมาไปกลับคันละ 600 บาท/10 คน (หรือคนละ 60 บาท)
       
       รถสองแถวพาเราไต่ระดับความสูงชันขึ้นมาอีกราว 3 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็จะถึง “ภูผาหมอก” หรือ “ดอยจิหมอก” (จิหมอก เป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง จับหมอก) บริเวณลานจอดรถนี้มีเส้นแบ่งเขตของ 2 อำเภอในจังหวัดลำปาง คืออำเภอเมืองปาน และอำเภอแจ้ห่ม ลองสังเกตที่ถนนดูจะเห็นเส้นที่แบ่งเขตไว้


อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
       
จุดชมวิวด้านบนมองเห็นได้กว้างไกล

        บริเวณชั้น 2 นี้เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ที่ต้องเดินจากลานจอดรถมาทางซ้ายมือประมาณ 300 ม. รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เองซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวแจ้ห่มและชาวลำปางมาเนิ่นนาน และทุกๆ ปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 จะมีการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทขึ้นเป็นประจำ ภายในศาลาจะมีรอยพระพุทธบาทจำลอง และมีรอยพระพุทธบาทอยู่ในพื้นหินบริเวณใกล้เคียงด้วยเช่นกัน
       
       ได้มากราบไหว้รอยพระพุทธบาทแล้ว คราวนี้ต้องออกแรงเดินขึ้นดอยไปสู่ชั้นที่ 3 คือ “ดอยพระบาท” จากลานจอดรถเราจะเดินขึ้นจากฝั่งอำเภอเมืองปาน ลัดเลาะขึ้นไปตามภูเขาประมาณ 1 ก.ม. โดยทางวัดทำบันไดเหล็กให้เดินขึ้นได้อย่างสะดวก แต่สภาพเส้นทางที่ค่อนข้างชัน ค่อยๆ เดินไปพักไปก็จะดีที่สุด ระหว่างทางยังมีจุดชมวิวให้แวะพักแวะชมวิวสวยๆ กัน โดยมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นวิวของตัวอำเภอเมืองปาน มองเห็นบ้านเมืองและทุ่งนากว้างไกล


ไต่บันไดขึ้นมายังองค์เจดีย์
       
ทิวทัศน์อันงดงามด้านบน

        ช่วงที่เราเดินทางขึ้นเขานี้มีฝนตกปรอยๆ ตลอดเส้นทาง ทำให้บันไดเหล็กค่อนข้างลื่น จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินมากทีเดียว ยิ่งเดินขึ้นสูงเรื่อยๆ ก็ยิ่งหมดแรง แต่ระหว่างทางก็มีป้ายให้กำลังว่า “อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” ทำให้เกิดแรงฮึดสู้เดินกันต่อไป อีกไม่นานเดินขึ้นมาถึงด้านบนจนได้ ใช้เวลาราว 1 ชม. ด้วยกัน
       
       ด้านบนนี้เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุสีทอง หากเดินแยกไปทางขวาจะได้ขึ้นไปนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆ ชันๆ ขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง แต่วิวด้านบนนั้นงดงามเป็นอย่างยิ่ง มองเห็นทิวทัศน์ของอำเภอแจ้ห่ม และมองเห็นบริเวณวัดวัดเฉลิมพระเกียรติฯ ที่อยู่ด้านล่างได้ด้วย แม้ว่าจะในวันนั้นฟ้าจะไม่สดใส แต่สายหมอกก็ช่วยสร้างบรรยากาศอันงดงามให้ดอยพระธาตุแห่งนี้ได้ อีกทั้งอากาศเย็นฉ่ำชื่นใจก็ทำให้เราสดชื่นมากทีเดียว

บรรยากาศในวันที่เมฆหมอกปกคลุม
       
ทิวทัศน์เมื่อมองไปจากฐานเจดีย์

        เมื่อได้กราบองค์พระธาตุแล้ว หากเดินแยกไปทางซ้ายก็จะไปสู่ศาลาสวดมนต์ ซึ่งไม่ได้มีพระสงฆ์จำวัดอยู่ แต่จะเป็นสถานที่ที่พระจะขึ้นมาสวดมนต์ทุกๆ วันแรม 8 ค่ำ บนศาลาสวดมนต์จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้กัน อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกหนึ่งจุด มองไปเบื้องหน้าเป็นวิวของอำเภอแจ้ห่ม มองไปด้านหลังเป็นเจดีย์องค์เล็กองค์น้อยประดิษฐานอยู่บนยอดภูเขาราวกับมีคนจับวาง
       
       เมื่อมองไปทางขวาจะเห็นเป็นวิวขององค์พระธาตุสีทองบนยอดเขา และหากมองมาทางซ้ายจะเห็นเจดีย์สีขาว 5 องค์อยู่ริมชะง่อนผาหินไกลๆ มองแล้วก็ต้องทึ่งว่าใครหนอช่างมีความพยายามไปสร้างเจดีย์ไว้ในที่ที่แม้แต่เดินตัวเปล่าก็ยังยากลำบาก แต่ด้วยแรงศรัทธาของมนุษย์ก็สามารถทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์


เจดีย์น้อยใหญ่อยู่บนภูเขา
       
องค์เจดีย์สีขาวเหนือหน้าผาสูงมองดูน่าอัศจรรย์
       
มองลงมายังอุโบสถและบริเวณวัดเบื้องล่าง

        สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะมาเยือนวัดวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์แห่งนี้ บอกเลยว่าคุ้มค่า แม้จะต้องนั่งรถออกมาไกลจากตัวเมือง ต้องนั่งรถสองแถวขึ้นเขาในเส้นทางที่ค่อนข้างวิบาก แถมยังต้องเดินเท้าอีกเป็นกิโลๆ แต่ถ้าหากจิตใจพร้อมและกายพร้อม ก็ขอเชิญมาชมภาพอันงดงามที่หาไม่ได้จากที่ไหน นอกจากที่นี่ที่เดียว “วัดพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” อันซีนแห่งเมืองลำปางแห่งนี้
       
       “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งทอง ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ผู้ที่ต้องการใช้บริการรถสองแถวของทางวัดขึ้นไปบนเขา สามารถจอดรถได้ 2 จุด คือบริเวณวัดพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ทางด้านล่าง และบริเวณลานจอดรถของ อบต.วิเชตนคร อีกหนึ่งจุด มีค่าบริการ 600 บาท/คัน นั่งได้ 10 คน หรือคนละ 60 บาท หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ (ดูแลพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง) โทร.0 5327 6140-2


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000129519
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ