ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าจิตไม่แปลรูปบัญญัติ จิตก็จะไม่ทุกข์ ที่ทุกข์ เพราะไปแปล ที่แปลเพราะมีเรา  (อ่าน 3685 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


"วันนี้อาจจะพูดเรื่องที่เข้าใจได้ยาก อีกเรื่องหนึ่ง สำหรับผู้ภาวนาใหม่ ๆ น่าจะมีประโยชน์ เพราะการเป็นผู้สอน ก็ลำบาก แต่การเป็นผู้ที่ถูกสอน สำหรับคนที่สอนคนอื่น นั้นนับว่าเป็นเรื่องลำบากเช่นกัน แต่ฉันชอบนั่งฟัง คนอื่นสอนนะ มันเป็นมาสักสองปีแล้ว แต่ขณะที่ฟัง ไม่ใช่ว่าฉันด้อยกว่าเขา หรือ ฉันเหนือเขา หรือ เสมอเขา แต่เป็นเพราะว่า มันจากเรา ว่างจากความถือดี บางครั้งฉันก็นั่งฟังคนอื่นพูด เป็นชั่วโมง เป็นวัน เคยไปนั่งฟัง เสียงอึกทึกในงาน วัดเพื่อนๆ อยู่สองครั้ง ขณะที่ฟัง เราก็ฟัง เป็นเพียงสักแต่ว่าได้ยิน และฟัง ไม่แปลออกเป็นรูปบัญญัติ ใด ๆ มีเพียงเสียงที่เกิดขึ้น สูง ๆ ต่ำ ๆ สลับกันไป ไม่แปลความหมายว่าเป็นอะไร ฉันนั่งฟังตลอดคืน โดยที่ไม่รู้ความหมายบัญญัติของเสียงเหล่านั้น ฟังไปฟังมา เขาจุดพลุอยู่ช้าง ๆ หลายร้อยนัด มันฟังเหมือนเป็นเสียงน้ำตก และพอเลื่อนฟังเสียงข้างนอก ก็ลองเลื่อนฟังเสียงกายตัวเอง ได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตุบ ๆ ๆๆ ระรัว ๆๆๆ ได้ยินเสียงชีพจรที่ข้อมูล ไม่วิ่ง ปุป ๆ ปัป ๆ ไปเรื่อย พอนาน เข้า ก็ไปฟังเสียงเลือดวิ่งอยู่ทีหูขึ้นไปบนสมอง เสียงมันดัง ฟู่ ๆๆ ฟ่า ๆ เสียงทั้งหลายเหล่านี้ ที่กล่าวมาเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะหากจิตท่านเป็นสมาธิ เสียงต่าง ๆ ในกาย จะสามารถเพ่งจิตไปฟังได้ อันนี้เป็นเรื่องของสมาธิ แต่ที่ถูกต้อง ครูอาจารย์ท่านสอนว่า ให้ฟังเสียงทุกเสียงที่เกิดๆ ดับๆ คงอยู่นั้นเป็นเพียงสักว่าเสียง โดยไม่ต้องให้จิตไปแปลบัญญัติว่าเป็นเสียงอะไร ให้มีแต่เสียงที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมไป เมื่อก่อนไม่เข้าใจ เดี๋ยวนี้ชอบฟังแบบนี้ นะ และ ..... "
ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนา และ การเดินทาง ของธัมมะวังโส
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
"จิตของคนเรา มีแหล่งเกิดทุกข์ 6 ทาง วันนี้จะพูดแหล่งสำคัญ และเป็นอันดับที่หนึ่ง ที่ผู้ภาวนาต้องฝ่าฟันให้ได้ก่อนเป็นด่านแรก นั่นคือด้านเสียง
เสียงเป็นเสี้ยนหนาม แห่ง สมาธิ ( สำคัญมาก ) และ เป็นที่มา ของใจที่หวั่นไหว คนเรานี้ใจหวั่นไหว เพราะเสียงมากกว่า รูป เพราะเสียงสามารถสัมผัสได้ดีกว่า สายตา บางครั้ง เสียงเป็นต้นตอ แห่ง มโนภาพ นึกไม่ออกใช่หรือไม่ ลองฟังโฆษณาทางวิทยุดูสิ ดังนั้นเวลาท่านมาปฏิบัติภาวนา จึงต้องมีการสกัดกั้นเสียง เพื่อไม่ให้จิตของท่านฟุ้งซ่าน สิ่งที่ต้องทำก็คือ ปิดต้นตอของเสียง นั่นก็คือ ปิดวาจา เมื่อปิดวาจา ก็ต้องมาฝึกเข้าสะกดกรรมฐาน ในสายกรรมฐาน มีการเข้าสะกดเสียงด้วยสมาธิ หลายรูปแบบ แบบที่นิยมก็คือ การเคาะจังหวะ แต่ของกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ วัดราชสิทธารา ใช้ลูกสะกดติดเทียน ตั้งบนบาท เป้าหมายก็คือการเข้าสะกด ไม่ให้เสียงมาเป็นเสี้ยนหนามแห่งสมาธิ อย่างนี้เป็นต้น ....."
ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนา และการเดินทาง ของ ธัมมะวังโส
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
"ไอ้ควาย ไอ้บ๊องส์ ไอ้อ้วน ไอ้บ้า ( นี่เป็นเพียงตัวอย่าง อักขระแทนเสียง สะใจ )
อักขระ แทนเสียงเหล่านี้ ถ้าจิตเรารับรู้ ก็เพียงแค่สี แล้วไม่แปลบัญญัติ จิต ของเราก็ไม่ทุกข์ เบื้องต้นควรเป็นอย่างนั้น

แต่ด้วยปัญญา ของหลายท่าน ฟังแล้ว แปลบัญญัติ รู้ความหมาย สิ่งที่ต้องทำก็ คือ เห็นตามความเป็นจริง ว่า อารมณ์ ที่เกิด กระทบกับใจ ก็ว่างจากเรา ว่างจากของเรา ว่างจาก ตัวตนของเรา เช่นกัน เรียกว่า ถ้ามันหลงเข้าไปแปลแล้ว ก็ต้อง รู้เห็นตามความเป็นจริง ว่า มันก็ว่างจากเรา ว่างจากความเป็นของเรา เป็นเพียงแต่ อารมณ์ ทีเกิด และ ดับ เท่านั้น จิต ก็จะไม่เป็นทุกข์ ...."

ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการภาวนา และการเดินทาง ของ ธัมมะวังโส
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st12 st12

  ผมอยากให้ช่วยแก่ ศัพท์ ที่เขียนผิดครับ เพราะอ่านแล้ว เหมือนไม่ได้ ทาน สิ่งที่พิมพ์ ครับ จึงทำให้ต้องเดาความหมายที่ พระอาจารย์ ต้องการสื่อแสดงไว้ ครับ

 like1
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

bajang

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 325
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st11 st12 st12 like1
 เอาเนื้อหาสาระก่อน ส่วนคำพิมพ์ผิด เป็นอันว่าละ พอเข้าใจในความหมาย พระอาจารย์ ท่านลำบากพิมพ์แล้ว

 
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

kindman

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 272
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

                ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา