คัมภีร์มูลกัจจายน์ มี ทั้ง หมด 16 สาย
1.โยชนา มูลกัจจายน์ ( ไม่นิยมในมคธ แต่นิยม แคว้นอื่น ๆ เพราะว่า คัมภีร์ พุทธศาสนา นั้นจารึก ด้วยภาษา มาคธี จำเป็นต้องเรียนโยชนาก่อน)
มี 8 หมวด 673 รูป 683 ปสิทธิ ทั้งหมดเรียกว่า รูปสิทธิ
1.สนธิกัณฑ์ 2.นามกัณฑ์ 3.การกกัณฑ์ 4.สมาสกัณฑ์ 5.ตัทธิตกัณฑ์ 6.อาขยาตกัณฑ์ 7.กิพพิธานกัณฑ์ 8.อุณาทิกัณฑ์
2. มูลกัมมัฏฐาน กัจจายน์
มี 23 ปริจเฉท 496 บท 42 หมวด ( อันนี้สนใจมากที่สุด )
3. พยากรณ์ กัจจายนะ
มี 3 หมวด บทจำไม่ได้ ( ได้แต่อ่านผ่าน เพราะไม่สนใจ )
1.โลกพยากรณ์ 2.พุทธพยากรณ์ 3.อรหันตพยากรณ์
ข้อความคล้ายคลึงกับพระไตรปิฏก ในส่วน พุทธวงศ์
4- 16 จำชื่อไม่ได้ เพราะไม่ได้สนใจศึกษา ส่วนใหญ่ ที่พบเป็น โยชนามูลกัจจาย์ ไม่ใช่ มูลกัมมัฏฐาน กัจจายน์
โยชนามูลกัจจายน์ ในไทย แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คัดลอกเป็นทางการในสมัย ร2 แต่ชัดเจนมากในสมัย ร3 เพราะเนื่องด้วยบันทึกขณะนั้นไม่ได้มีการตรวจทาน ความถูกต้อง บางฉบับก็ผิด บางฉบับตกหล่น มาก มีการชำระกันเป็นทางการสมัย ร3
ฉบับที่ 1 ชื่อว่า ฉบับรดน้ำดำทอง ต่อมามีการคัดลอกออกเป็น 2 ฉบับอีก คือ ฉบับ ทองน้อย และ ฉบับเทพพนม มาในยค ร4 ฉบับทองน้อยได้ถูกคัดลอกไปอีก 3 ฉบับอย่างเป็นทางการ คือ ฉบับล่องชาด ฉบับวัดสังกระจาย ฉบับทองทึบ
ต้นฉบับที่ถูกนำมาคัดลอก เกิดจากการท่องจำ ผู้ที่ชำนาญด้านภาษาบาลีมากที่สุดคือ พระสังฆราชสุข ( เป็นพระอาจารย์สอนบาลีให้กับ สมเด็จพุฒาจารย์โต ) ไม่ใช่สังฆราช หลวงปู่สุก ( ไก่เถื่อน ) แต่หลวงปู่สุก ก็มีความชำนาญด้าน คัมภีร์มุลกัจจายน์ โยชนามาจากกรุงศรีอยุธยา จากวัดโรงช้าง ด้วยเช่นกัน