ความทุกข์ เป็นสิ่งที่ทนได้ยาก
ความประสพกับสิ่งไม่เป็นที่รัก ที่พอใจก็เป็นทุกข์
ความไม่สมหวัง ก็เป็นทุกข์
มีความปรารถนา สิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์
ผู้ปรารถนาดี เช่น พระอรหันต์ของลูก พระพรมหของบุตร แม่พิมพ์ของชาตินั้น
ก็ย่อมมีความปรารถนา ให้ทุกคนทีี่เกี่ยวข้องเป็นคนดี และได้ดี
แต่คน ก็เป็นคน บางครั้งเกิดในตระกูลที่ดี ก็ใช่จะเป็นคนดีเพราะตระกูล
บางครั้ง เรียนอยู่ในสถานที่ดี ก็ใช่ว่าจะเป็น คนดี
ดังนั้น คนจะเลว จะดี ไม่ได้อยู่ที่ตระกูล หรือชาติกำเนิด แต่หากอยู่ที่การอบรม
นั้นส่วนหนึ่ง และ ส่วนหนึ่งอยู่ที่อุปนิสัยที่ติดมาแต่กำเนิดส่วนหนึ่ง
ดังนั้น บางครั้งเช่น พ่อ แม่ เห็นลูกไม่ดี ก็เพราะความรักจึงได้ตีลูก แต่เพราะความโกรธ นั้นมันระเบิดออกไป
ด้วยจึงกลายเป็นการระบายความเดือดออกไป อาตมาเอง เห็นพ่อ แม่ หลายคนตีลูก ตียังกับจะให้ตาย
พอได้สติ กับมาก็เสียใจ เพราะบางรายตีลูกจนแขนหัก หัวแตก ก็มีที่เห็น นี่เป็นเพราะ ความรัก ที่มีอยู่นั้น
ไม่ใช่ เมตตากรรมฐาน แต่เป็นความรักแบบ พ่อ และ แม่ หรือ ครู มีต่อ ศิษย์
ดังนั้น ให้ถูกต้อง เพื่อลดความ พยาบาท ความโกรธลง
คุณครูเองต้องฝึก เมตตากรรมฐาน ให้มากขึ้นแต่การที่มีสติไม่ระเบิดอารมณ์ออกไปนั้น ก็เพราะอำนาจ
กรรมฐานที่ฝึกอยู่ได้ พัฒนาให้มีสติ อยู่แล้ว ดังนั้นเชื่อมั่นว่า คุณครูก็คงฝึกกรรมฐานส่วนนี้ได้ไม่ยาก
ที่อาตมาเห็นหรือประสพมา ในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ว่า พ่อ แม่ จะ พัฒนาความปรารถนาดี เป็นความโกรธ หรอก
นะ อาตมายังเห็นบุตร บางครั้งที่อยู่กับพ่อ แม่ ที่เป็น มิจฉาทิฏฐิ แล้วก็สงสารเหมือนกัน
มีกรณีที่พบอยู่ ยกมาครอบครัวหนึ่ง มี พ่อ ติดการพนัน ติดเหล้า และเจ้าชู้ ส่วนแม่ ก็ติดการพนัน และ
กินเหล้า ประพฤติผิดประเวณีด้วย แต่ลูกก็ดีหันหน้ามาพึ่งพระ มาบวชเป็นสามเณรศึกษา หลักธรรม เพราะอายุ
ได้ 15 ปีก็ลาสิกขา เพื่อหวังจะไปช่วย พ่อ และ แม่ เขาก็พากเีพียรที่จะช่วยด้วยความอดทน แต่ พ่อ แม่
ของเด็กคนนี้ ก็ไม่เปลี่ยนแปลง มีการตบตีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันทุกวัน จนกระทั่งความอดทนในความ
ปรารถนาดีนั้น ได้พังทะลาย กลายเป็นโทสะ ซึ่งทำให้เด็กคนนี้ทำร้าย บุพการี ด้วยการผลักพ่อกระเด็นไปทาง
และแม่ก็ถูกตีด้วยจานกระเบื้องหัวแตก เย็บไปหลายเข็ม เด็กคนนี้เดินร้องไห้มาหาอาตมาพร้อมกับสารภาพผิด
และกับไปขอขมาแม่ และกลับมาบวชเป็นสามเณร เพราะการฝึกจิตยังไม่พอ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคน
ท้งสองได้ หลังจากการกลับมาบวชของสามเณรนั้น ก็ทำให้ชาวบ้าน ไม่ต้อนรับ พ่อ แม่ ของสามเณร ชาวบ้าน
คนดี และ คนไม่ดี ก็พลอยรังเกียจ ไม่คบค้าด้วย ทำให้ทั้งสองเดือดร้อนเรื่อง เงิน ทอง ปากท้อง ก็มารบกวน
ขอให้ สามเณร ลาสิกขาอีกรอบ สามเณร ก็ไม่ต้องการลาสิกขา แต่ ทั้งสองก็รับปาก ว่าจะเลิกเหล้า การพนัน
จะเลิกทำสิ่งไม่ดี สามเณรรูปนั้นนอนใคร่ครวญกับสิ่งที่ พ่อ แม่ ให้สัญญาไว้ อีกสามวันก็ ลาสิกขา ออกไป
เขาออกไปครั้งนี้ก็ตั้งใจทำงาน ๆ ที่ทำก็เหน็ดเหนื่อย งานช่างเฟอร์นิเจอร์ค่าแรงวันละ 80 บาทกับปากท้อง
3 ปากท้อง กับค่าเช่าบ้าน และค่าครองชีพ แต่ในที่สุด เด็กคนนี้ก็ชนะใจ พ่อ แม่ ได้ แต่ทุกวันนี้แม้จะผ่านมา
หลายสิบปีเวลาเด็กคนนี้ พูดถึงพ่อ แม่ ก็ยังไม่ลืมกรรม ส่วนที่ทำออกไปในวันนั้น เขามักถามอาตมาว่าจะมี
กรรมหนักมากไหม คำตอบจากอาตมาก็ตอบให้ฟังทุกครั้งว่า กรรมมีแน่นอน จะหนัก จะเบา ก็ให้เตรียมใจรับ
อาตมาว่ามาซะยาวมาก แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่า
ถ้าเราทำกรรมอะไร ลงไปด้วยอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเอง ผู้อื่น ให้เดือดร้อนแล้ว นี่ชื่อว่าผิดศีล
ด้วยนะ แม้จะผ่านไปกี่ วัน กี่เดือน กี่ปี ก็มีกรรม ตามติด เราไปเสมอ เราจะหนีได้ขนาดไหนสักวันกรรมนั้นก็
ต้องตามทันสักวัน
Aeva Debug: 0.0006 seconds.