ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “บวรเวท”ยืนยันไม่หยุดรื้อสิ่งก่อสร้างวัดกัลยาฯ  (อ่าน 1153 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


“บวรเวท”ยืนยันไม่หยุดรื้อสิ่งก่อสร้างวัดกัลยาฯ

กรมศิลปากรพร้อมเจรจาทุกฝ่ายกรณีวัดกัลยาฯ แต่ไม่หยุดรื้อถอน ชี้ทำตามกฎหมายและยึดจุดยืนดูแลโบราณสถานของชาติ เตรียมทำหนังสือชี้แจงนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอน

วันนี้(13ส.ค.) ที่กรมศิลปากร นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินการกับวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารว่า เนื่องจากมีกระแสข่าวในโซเชียลว่า การที่กรมศิลปากรเข้าไปรื้อถอนโบราณสถานในวัดกัลยาฯเป็นการกระทำที่ทำลายจิตใจชาวพุทธ ดังนั้นกรมศิลปากรจึงอยากสร้างความเข้าใจว่า ที่ทำทุกอย่างเป็นการทำตามหน้าที่ไม่ได้ทำด้วยความมันมือ และที่ผ่านมาได้ประสานงานกับทางวัดมาโดยตลอด แต่กลับถูกปฏิเสธ แม้กระทั่งคณะกรรมการบูรณะโบราณสถานวัดกัลยาฯ ซึ่งมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เป็นประธาน

ได้มีมติให้ทางวัดระงับการรื้อถอนโบราณสถาน รวมถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดพิชัยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่กรมประสานงานให้ช่วยเจรจาเรื่องนี้ก็ยังถูกปฏิเสธเช่นกัน

จนท้ายที่สุดในปี2558 ได้มีคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่รับคำอุทธรณ์ของทางวัดที่กรมศิลปากรฟ้องร้องดำเนินคดีกรณีวัดละเมิดพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 กรมจึงเข้าไปดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร


 :25: :25: :25: :25:

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กรมศิลปากรได้ทำการรื้อถอนศาลารายที่สร้างทับศาลาเสวิกุลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะรื้อศาลารายที่สร้างทับศาลาทรงปั้นหยาให้เสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะปรับปรุงพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิม แต่ยังไม่สามารถสร้างศาลารายกลับใหม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างดำเนินคดี ที่ต้องหาผู้รับผิดชอบ และให้คดีสิ้นสุดก่อน และต่อไปกรมจะดำเนินการรื้ออาคารเจ้าพระยานิกรบดินทร์ที่สร้างทับเมรุซึ่งอยู่ในเขตโบราณสถาน และอาคารหลังอื่นๆที่ถูกสร้างทับโดยไม่รับอนุญาตจากกรมศิลปากร โดยได้ตั้งงบประมาณปี 2559 จำนวน 1 ล้านบาท สำหรับดำเนินการรื้อถอนแล้ว

 :41: :41: :41: :41:

"เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางวัดได้ทำหนังสือขอบิณฑบาตรให้กรมระงับการรื้อถอน พร้อมขอเจรจา และยังได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย ดังนั้นกรมจะทำหนังสือชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีทราบลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนกรณีที่ทางวัดจะขอเจรจา รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)ได้ประสานมายังนิติกรขอเป็นคนกลางเจรจาด้วยนั้น กรมยินดี ไม่ได้ปิดประตู และไม่ปฏิเสธใด ๆ แต่คงต้องแยกให้ชัดเจนว่า จะเจราจาเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องคดีหรือการดำเนินการตามกฎหมายก็พร้อม แต่หากเป็นเรื่องขอชะลอการรื้อถอน ตอบได้เลยว่าไม่คุย

อย่างไรก็ตามกรมไม่อยากดำเนินคดีใด ๆ กับทางวัดเลย แต่ตอนนี้ถือว่าเดินมาสุดทางแล้ว ที่สำคัญกรมยึดจุดยืนที่ชัดเจน เรื่องการได้รับมอบหมายจากรัฐให้ดูแลโบราณสถานของชาติ เพราะถ้ากรมไม่ทำใครจะทำ และหากมีการชะลอกรมอาจถูกชาวบ้านฟ้องร้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้


 :91: :91: :91: :91:

นายบวรเวท กล่าวอีกว่า หลังจากตนเกษียณอายุในเดือนตุลาคม อธิบดีคนต่อไปก็ต้องดำเนินการเช่นต่อไป เพราะที่ทำอยู่ถือเป็นบรรทัดฐาน เป็นหน้าที่ และเป็นตัวอย่างสำหรับใช้ดูแลโบราณสถานในวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ตนได้แจ้งไปยังสำนักศิลปากรทั่วประเทศว่า หากพบปัญหากรณีเดียวกับวัดกัลยาฯก็ให้แจ้งมาทันที เพื่อจะดำเนินการแบบเดียวกันไม่มียกเว้น

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/341462
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

sakol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เรื่องกฏหมาย โบราณ สถาน ก็ว่ากันไป

   แต่เรื่องบาปกรรม ทำลายเสนาสนะของวัด อันทำให้เกิดประโยชน์ นั้น โทษเท่ากับเป็น เปตร

   ก็ต้องดูว่า เสนาสนะนั้น ถูกสร้างด้วยเงินอะไร วัตถุประสงค์อะไร ตอนที่สร้างมีเจ้าภาพ มาแสดงความจำนงค์ไว้อย่างไร ของที่ถูกรื้อไปนั้น ใช้ประโยชน์ได้มากน้อยขนาดไหน ถ้าเป็นโบราณวัตถุ มีคุณค่าทางจิตใจขนาดไหน

   ดังนั้น คุณบวรเวท มีความเสี่ยง ที่จะเป็น เปตร เฝ้าวัดหลังจากสิ้นอายุขัย
   อย่าลืมว่า เพชฌฆาต ถึงแม้ประหารชีวิต ( ฆ่าคน ) ตามกฏหมาย แต่ เพชฌฆาต ก็ได้หนีกรรมเวร นั้นไป ได้ ไม่บาปมาก ก็บาปน้อย เหมือนเพชฌฆาต เคราแดง ครั้งพุทธกาล

   :96: :25: :96: :25:
บันทึกการเข้า