ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - เผ่าพงษ์พระกฤษณะ
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / เมือวัดไทย พบกับ กับคนจีน วันตรุษจีน ในมาเลเซีย เมื่อ: มกราคม 28, 2012, 05:00:53 pm
นานๆ มาที ขอนำรูปาภาพในงานตรุษจีน ณ วัดบุญญาราม ตำบลอะห์ อำเภอกูบังปาสู รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย มาให้ได้ชมกันเล็กๆ น้อยๆ คับผม

เป็นอีกประเพณี ที่คนไทยและ จีน ในมาเลเซีย มาทำกิจกรรมร่วมกัน









2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / เวียนเทียนในดินแดนที่ห่างไกล(คนไทยพลัดถิ่น) เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2011, 05:04:40 pm
วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ทางวัดบุญญาราม รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ได้จัดงานเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ซึ่งตลอดเวลาของพิธีมีฝนตกพรำๆ อยู่ตลอด ซึ่งได้นำภาพกิจกรรมตั้งแต่ตอนเช้า ในงานนี้มีการบวชพระและชีพราหมณ์ เพื่อเข้าร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย ตอนกลางวันจึงได้เก็บภาพกิจกรรมของพระและชีพราหมณ์ มาฝากกันด้วย

ขออภัยที่ต้องลงลายน้ำในภาพขนาดนี้เพราะคนที่นี่ แย่กว่าที่เมืองไทยเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญาจ้องแต่จะเอาอย่างเดียวมีบางคนเล่นเอาฮาร์ดดิสก์มาให้เราก๊อปรูปให้เลย ซึ่งเหมือนกับเป็นการดูถูกคุณค่างานที่เราถ่ายเลย ถึงผมจะถ่ายภาพไม่สวย ไม่เด่น แต่ความภาคภูมิใจในการถ่ายภาพ ผมมีเต็มเปี่ยม จึงทำให้ต้องลงลายน้ำซะหนังเลย จะเลือกรูปใหม่ เวลาก็มีน้อยก็เลยเลือกรูปที่ลงลายน้ำเสร็จแล้วมาลง ต้องขอ อภัยท่านผู้ชมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ










3  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ไปเยือน ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2011, 11:12:52 am
เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงาน 2001 International Maha Samghika Dama ณ เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในการเดินทางต้องผ่านสะพานเพื่อข้ามไปยังเกาะปีนัง


อ้างถึง
สะพานปีนัง ( Penang Bridge ) ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา เฉพาะตัวสะพานที่อยู่เหนือพ​้นน้ำยาว 8.5 กม. และหากนับจากฐานทั้งสองฝั่ง​หรือทางลาดจะมีความยาว 13.5 กม. ปัจจุบันสะพานปีนังอยู่ในอั​นดับ 3 ของโลก โดยมีสะพานข้ามอ่าว หังโจว ( Hangzhou )ของประเทศจีนยาวเป็นอันดับ​ 1 มีความยาวสะพานในส่วนที่เหน​ือน้ำ 36 กม. เชื่อมเมือง เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) กับ เมืองท่าเจ้อเจียง (Zhejiang) คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินสิ​้นปี 2550 นี้ ก่อนถึงงานโอลิมปิคในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือ ค.ศ 2008 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ สะพานปีนังใช้เวลาข้ามประมา​ณ 15 นาที ตามความเร็วที่กำหนดราว 70 กม./ชม ในความรู้สึกขณะนั่งรถข้ามส​ะพาน ต้องบอกว่ายิ่งใหญ่ทีเดียว เป็นผลงานในสมัยของรัฐบาล ดร.มหาเธย์ โมหะหมัด เช่นเดียวกับตึกแฝด หรือ ตึกปิโตรนัส ( Petronas) กลางกรุงกัวลาลัมเปอร์


ในการเดินทางข้ามสะพาน ก็ได้บันทึกภาพได้เล็กๆ น้อยๆ เพราะว่ารถทัวร์ที่นำคณะไปไม่ได้จอดให้บันทึกภาำพ ก็เลย ถ่ายมันขณะที่รถวิ่งนั่นแหละ ภาพที่ได้ก็ออกมาประมาณนี้ครับผม








4  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม ต.กระโสม จ.พังงา แจกของบรรเทาทุกข์ ณ ชุมชนใกล้วัดทุ่งเซียด เมื่อ: เมษายน 17, 2011, 01:25:17 pm
ก่อนอื่นขอเกริ่นนำก่อนว่าเมื่อวันที่ 4 เมษายน  2554 พระอาจารย์วีระ ฐานิสฺสโร ประธานสงฆ์ สถานที่ปฏิบัติธรรม (วัดเก่าเจริญธรรม) ต.กระโสม อ. ตะกั่วทุง จ.พังงา จึงได้ร่วมกับ อบจ.พังงา ได้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์มาแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนใกล้วัดทุ่งเซียดโดยประสานงานมายังคณะสงฆ์วัดทุ่งเซียด พร้อมกันนี้ก็ได้สำรวจความเดือดร้อยแล้วสภาพพื้นที่จริงเพื่อจะนำคณะกู้ภัยชุดใหญ่มาแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ในวันที่ 6 เมษายน 2554 เป็นลำดับต่อไป โดยประสานงานให้ทางวัดทุ่งเซียดแจ้งข่าวการแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์เป็นลำดับต่อไป

ในการนี้พระครูสารโสตถิคุณเจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียดได้มอบหมายให้พระอาจาย์เมสันต์ คมฺภีโร และ พระครูปลัดพิสูจน์ศักดิ์  อภิปุณฺโญผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียดเป็นผู้ประสานงานกับทางกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรม และ ดำเนินการเรื่องการแจ้งข่าวสารให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ได้ทราบ

วันที่ 6 เมษายน 2554 เวลาประมาณ 10.00 น. ทางคณะของกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรมก็ได้เดินทางมาถึงหน้าวัดท่าโรงช้าง ทางคณะสงฆ์วัดทุ่งเซียดก็รอรับอยู่ที่วัดท่าโรงช้างเพื่อเดินทางไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้พร้อมกับคณะของวัดเก่าเจิญธรรมซึ่งสิ่งของบรรเท่าทุกข์ที่นำมาในครั้งนี้ก็ประกอบด้วย ข้าวกล่อง น้ำดื่ม เสื้อผ้า และถุงยังชีพ

ซึ่งจะนำเสนอเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นลำดับต่อไป

คณะสงฆ์ วัดทุ่งเซียดรอรับ คณะกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรมที่หน้าวัดท่าโรงช้างเพื่อออกเดินทางไปพร้อมกัน

 

 

 

5  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สภาพวัดทุ่งเซียดหลังน้ำลด 10 เมษายน 2554 เมื่อ: เมษายน 16, 2011, 02:13:34 pm
เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554 เข้าไปวัดทุ่งเซียด สภาพน้ำลดลงไปบ้างแล้ว จึงได้บันทึกภาพหลังน้ำลดมาเล็กๆ น้อยๆ

 

 

 


6  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / หลวงพ่อชื่น วัดในปราบ แจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยนำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อ: เมษายน 15, 2011, 01:22:56 pm
เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554 หลวงพ่อชื่น  อินฺทปญฺโญ วัดเจริญราษฎร์ประชาธรรม (ในปราบ) ช่วยชาวเหลือบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยการแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยนำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ ณ บ้านควนไทร หมุ่ที่ 1 และ 5 ตำบลท่าโรงช้าง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยมาตั้งขบวนที่วัดท่าโรงช้างก่อนโดยมีพระอาจารย์เมสันต์  คมฺภีโร และ พระครูปลัดพิสูจน์ศักดิ์  อภิปุณฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียด เป็นผู้นำคณะของหลวงพ่อชื่นไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้ โดยมีคณะพระภิกษุจากวัดท่าโรงช้างและวัดทุ่งเซียด ไปร่วมกับขบวนแจกของในครั้งนี้

ส่วนพระครูสารโสติถิคุณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียด รอรับคณะของหลวงพ่อชื่น อินฺทปญฺโญ อยู่ที่วัดทุ่งเซียด เพื่อประสานงานกับผู้ประสบภัยให้มารอรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ในครั้งนี้

ซึ่งมีภาพบรรยากาศดังต่อไปนี้


 

 

 
หลวงพ่อชื่น อินฺทปญฺโญ วัดในปราบ

7  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / วัดช่วยชาวบ้าน แจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยนำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อ: เมษายน 11, 2011, 10:09:30 pm
เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554 วัดช่วยชาวบ้าน แจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยนำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ โดยการนำของพระอาจารย์ เมสันต์ คมฺภีโร(อ.โด่ง) และ พระครูปลัดพิสูจน์ศักดิ์  อภิปุณฺโญ(อ.แดน) และคณะสงฆ์ ช่วยกันนำสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ได้จากการบริจาค ไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ครั้งประวัติศาสตร์ โดยเลือกแจกตามบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนและศูนย์อพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต่างๆ

 
ยกสิ่งของบรรเทาทุกข์ ขึ้นรถ

 
คณะสงฆ์ ที่ออกไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุข์

 
แจกให้ถึงบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

 


เดินทางกันต่อไป
8  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [ภาพ] น้ำท่วม สะพานข้ามแม่น้ำตาปีขาด เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 11:12:19 pm
เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554 เป็นวันที่เสร็จสิ้นปริวาสกรรม ประจำปี วัดทุ่งเซียด
แต่การสัญจรเพื่อเข้าตัวเมือง ยังไม่สามารถเดินทางในเส้นทางหลักได้

ระหว่างทางที่ผ่านไปได้เจอกับภาพ สะพานขาด ขาดกันจริงๆ






9  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [น้ำท่วม] วัดทุ่งเซียด ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ น้ำท่วมเดือนเมษายน ภาค2 เมื่อ: เมษายน 10, 2011, 06:53:58 am
ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์

เนื่องจากรูปภาพมาก จึงขอแยกกระทู้ เพื่อความสะดวกในการเปิดดูของ สมาชิกทุกท่าน เพราะความเร็วอินเตอร์เนตไม่เท่ากันถ้าหากโพสภาพมากไปในกระทู้เดียว อาจจะทำให้คนที่ความเร็วเน็ตไม่สูง จะมีปัญหาในการรับชมได้ จึงขอแยกกระทู้ ตามความเหมาะสมครับ


สภาพเสาไฟฟ้า


เสนาสนะ ต่างๆ ในวัดทุ่งเซียด



กุฏิพระครูปลัดพิสูจน์ศักดิ์ อภิปุณฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดทุ่งเซียด
10  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [น้ำท่วม] วัดทุ่งเซียด ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน น้ำท่วมเดือนเมษา เมื่อ: เมษายน 09, 2011, 09:20:07 pm
เป็นภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเดือน 4 (เมษายน) ซึ่งคนเฒ่าคนแก่ได้พูดกันว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุน้ำท่วมที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน

นี่คือที่มั่นสุดท้ายของภิกษุต้องเผชิญชตากรรมน้ำท่วมด้วยกัน อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ประมาณ 10 รูป/คน ด้วยกัน

ก่อนหน้า ถ่ายเมื่อวันที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2554



หลังจาก ถ่ายเมื่อวันที่ 03 เมษายน พ.ศ. 2554

ด้านใน


ด้านนอก
11  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [ภาพ]ปริวาสกรรมประจำปี 2554 ณ วัดทุ่งเซียด [ในที่สุด] น้ำท่วมต้องย้ายวัดในที่สุด เมื่อ: เมษายน 08, 2011, 09:45:58 pm
เมื่อตอนเช้าวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2554 ระดับน้ำได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนเช้ามืดก็คิดว่าระดับน้ำเพิ่มขึ่้นมากแล้วแต่ยิ่งเวลาผ่านไป ระดับน้ำยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำเป็นนาทีกันเลยทีเดียว
ซึ่งในวันนี้มีปัญหาให้ต้องแก้ไขตั้งแต่ตอนตี 4 ของวันเนื่องจากห้องเก็บของที่เป็นคลังเสบียงของวัด น้ำได้แวะเข้าไปเยี่ยม ทำให้ต้องย้ายที่เก็บเป็นการด่วนที่สุด มิฉะนั้น จะไม่คลังเสบียงหลงเหลือไว้ในวันต่อๆ ไป

ซึ่งในวันนี้สถานที่ปักกลดของพระบางรูปโดนน้ำท่วมแทบจะไม่ได้นอนในตอนกลางคืน และการเดินทางสัญจรภายในวัด ณ ตอนนั้นต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะโดยส่วนใหญ่ของวัด

ซึ่งความวุ่นวายในตอนเช้าของวันนี้คือการย้ายที่ปักกลดของพระที่เข้าอยู่ปริวาส และการย้ายสัมภาระของพระที่เป็นพระอาจารย์กรรม โดยบางรูปบางท่านก็ติดเกาะ ต้องใช้เรือในการขนย้ายสัมภาระ เกิดความโกลาหลวุ่ยวายหลังจากฉันภัตตาหารเช้าซึ่ง จะนำเสนอให้ได้ชมกันดังต่อไปนี้

 

 

 

 

12  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [ภาพ]ปริวาสกรรมประจำปี 2554 ณ วัดทุ่งเซียด [ในท่ามกลาง] อยู่ในความมืด เมื่อ: เมษายน 07, 2011, 02:40:49 pm
สำหรับเหตุการณ์ปริวาสกรรมในท่ามกลาง ก็ยังมีฝนฟ้าคะนอง กระหน่ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่มีวี่แวว ว่าจะหยุด

สำหรับเหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ คือต้นยางพาราหักโค่นลงมาทำให้สายไฟฟ้าขาดทำให้พระที่มาอยู่ปริวาสกรรมนั้นต้องทำวัตร สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม ท่ามกลางแสงเทียนตลอด 2 วันเต็มๆ (29-30 มีนาคม พ.ศ. 2554)

 

 

 


13  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / [ภาพ]ปริวาสกรรมประจำปี 2554 ณ วัดทุ่งเซียด [ในเบื้องต้น] มีเรื่องราวให้ตื่นเต้นตลอดเวลา เมื่อ: เมษายน 06, 2011, 06:47:35 pm
งานเข้าอยู่ปริวาสกรรมระหว่างวันที่ ๒๖ มีนาคม ถึง ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ ณ.วัดทุ่งเซียด หมู่ที่ ๑ ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

แต่สถานที่ ที่เตรียมไว้สำหรับจัดงานปริวาสกรรมในครั้งนี้เจอพิษฝนฟ้าคะนอง ทำให้น้ำท่วมสถานที่จัดงานปริวาสในครั้งนี้ทั้งหมดเป็นเหตุให้ต้องย้ายสถานที่จัดมา ปักกลดกันที่ในลานวัด

ซึ่งถึงแม้จะมีการย้ายมาปักกลดกันที่ลานวัด ฝนฟ้าก็ยังคงคะนองไม่ได้หยุดหย่อน ทำให้ทางวัดต้องย้ายสถานที่ทำวัตร สวดมนต์ และ ปฏิบัติธรรม ทำให้พระเจ้าหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ และ ระบบไฟฟ้า ทั้งหมดมาไว้ภายในอาคาร

มาดูสถานที่จัดงานปริวาสกรรมประจำปี 2554 ณ วัดทุ่งเซียด ในเบื้องต้นกันก่อน







กุฏิ อาจารย์กรรม ที่เตรียมไว้ก่อนงาน

14  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / "หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น. เมื่อ: มกราคม 30, 2011, 07:26:30 am
"หลวงตาบัว"ละสังขารแล้วเวลา03.53น.สิริมายุรวม 98 ปี ทีมแพทย์แถลงอีกครั้งเช้านี้


ภาพประกอบจาก : คมชัดลึก

รายงานข่าวจากวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่าเมื่อเวลา 03.53 น. หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) ละสังขาร แล้ว สิริอายุรวม 98 ปี ซึ่งคณะแพทย์เตรียมแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งเช้านี้

สำหรับ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน" แห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี นั้น นาม บัว โลหิตดี ชาติภูมิ ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด อุดรธานี  เกิดเมื่อ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน๙ ปีฉลู ณ บ้านตาด อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี บิดา นายทองดี โลหิตดี    มารดา นางแพงศรี โลหิตดี พี่น้องทั้งหมด ๑๖ คน  สถานภาพ

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน   สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ  วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวงคู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น วันบวช ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี     

พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ โดยมีท่านพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายานามว่า "ญาณสมฺปนฺโน" แปลว่า "ถึงพร้อมแล้วด้วยการหยั่งรู้"   เคารพพระวินัย ด้วยเดิมมีนิสัยจริงจัง จึงบวชเพื่อเอาบุญกุศลจริง ๆ และตั้งใจรักษาสิกขาบทวินัยน้อยใหญ่ ่อย่างเคร่งครัด ในพรรษาแรกท่านได้ตั้งสัจอธิษฐานว่า ในการทำวัตรเช้า-เย็นรวมและการบิณฑบาต จะไม่ให้มีวันใดขาดเลย และท่านก็ทำได้ตามที่ตั้งคำสัตย์ไว้  เรียนปริยัติ เมื่อได้เรียนหนังสือทางธรรม ตั้งแต่นวโกวาท พุทธประวัติ ประวัติพระสาวกอรหันต์ ที่ท่านมาจากสกุลต่างๆตั้งแต่พระราชา เศรษฐี พ่อค้า จนถึงประชาชน

หลังจากฟังพระพุทธโอวาทแล้วต่างก็เข้าบำเพ็ญเพียร ในป่าเขาอย่างจริงจัง เดี๋ยวองค์นั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในป่า เดี๋ยวองค์นี้สำเร็จในเขา ในเงื้อมผาในที่สงบสงัด ท่านก็เกิดความเชื่อเลื่อมใสขึ้นมา อยากจะเป็นพระอรหันต์ พ้นจากทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้อย่างพระสาวกท่านบ้าง สงสัย ช่วงเรียนปริยัติอยู่นี้ มีความลังเลสงสัยในใจว่า หากท่านดำเนินและปฏิบัติตามพระสาวกเหล่านั้นจะบรรลุถึงจุดที่พระสาวกท่านบรรลุหรือไม่ และบัดนี้จะยังมีมรรคผลนิพพานอยู่ เหมือนในครั้งพุทธกาลหรือไม่  ตั้งสัจจะ ด้วยความมุ่งมั่นอยากเป็นพระอรหันต์บ้าง ท่านจึงตั้งสัจจะไว้ว่า จะขอเรียนบาลีให้จบแค่เปรียญ ๓ ประโยคเท่านั้น ส่วนนักธรรมแม้จะไม่จบชั้นก็ไม่เป็นไร จากนั้นจะออกปฏิบัติกรรมฐานโดยถ่ายเดียว จะไม่ยอมศึกษาและสอบประโยคต่อไปเป็นอันขาด  เรียนจบ ท่านสอบได้ทั้งนักธรรมเอก และเปรียญ ๓ ประโยคในปีที่ท่านบวชได้ ๗ พรรษา ณ วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ และสถานที่แห่งนี้เอง เป็นที่แรกที่ท่านได้มีโอกาสพบเห็นท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ต่อมา ได้กลายเป็นพระอาจารย์องค์สำคัญที่สุดในชีวิตของท่าน ออกปฏิบัติ เมื่อเรียนจบมหาเปรียญแล้ว แม้จะมีพระมหาเถระในกรุงเทพฯ สนับสนุนให้ท่านเรียนต่อในชั้นสูง ๆ ขึ้นไปก็ตาม แต่ด้วยท่านเป็นคนรักคำสัตย์ยิ่งกว่าชีวิต ดังนั้นเมื่อมีโอกาส ท่านจึงเข้ากราบลาพระผู้ใหญ่ และออกปฏิบัติกรรมฐานอย่างจริงจัง โดยมุ่งหน้าไปทางป่าเขาแถบจังหวัดนครราชสีมา แล้วเข้าจำพรรษาที่ อำเภอจักราช นับเป็นพรรษาที่ ๘ ของการบวช พากเพียร ท่านเร่งความเพียรตลอดทั้งพรรษา ไม่ทำการงานอื่นใดทั้งนั้น มีแต่ทำสมาธิภาวนา-เดินจงกรมอย่างเดียวทั้งวันทั้งคืน จนจิตได้รับความสงบจากสมาธิธรรม  มุ่งมั่น แม้พระเถระผู้ใหญ่ท่านอุตส่าห์เมตตาตามมาสั่งให้กลับเข้าเรียนบาลีต่อที่กรุงเทพฯอีก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ที่จะพ้นทุกข์ให้ได้ภายในชาตินี้ ท่านจึงหาโอกาสปลีกตัวออกปฏิบัติได้อีกวาระหนึ่ง   จิตเสื่อม

จากนั้นท่านกลับไปบ้านเกิดของท่าน เพื่อทำกลดไว้ใช้ในการออกวิเวกตามป่าเขาจิตที่เคยสงบร่มเย็น จึงกลับเริ่มเสื่อมลง ๆ เพราะเหตุที่ทำกลดคันนี้นี่เอง  เสาะหา..อาจารย์ เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๕ เดินทางไปขออยู่ศึกษากับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เหตุการณ์บังเอิญกุฏิที่พักเพิ่งจะว่างลงพอดี ท่านพระอาจารย์มั่นจึงเมตตารับไว้ และเทศน์สอนตรงกับปัญหาที่เก็บความสงสัยฝังใจมานานให้คลี่คลายไปได้ว่า ดินฟ้าอากาศแร่ธาตุต่างๆ เขาเป็นของเขาเอง เขาไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เขาไม่ได้เป็นกิเลส กิเลสจริง ๆ มรรคผลนิพพานจริง ๆ อยู่ที่ใจ หากกำหนดจิตจ่อด้วยสติที่ใจแล้ว จะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรม ทั้งกิเลสในใจ

ขณะเดียวกันจะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ  ปริยัติ..ไม่เพียงพอ จากนั้นท่านพระอาจารย์มั่นเมตตาแนะต่อว่า ธรรมที่เรียนมาถึงขั้นมหาเปรียญมากน้อยเพียงใด ยังไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้ได้ แต่กลับจะเป็นอุปสรรคต่อการภาวนา เพราะอดจะเป็นกังวล และนำธรรมที่เรียนมานั้น มาเทียบเคียงไม่ได้ในขณะที่ทำใจให้สงบ และยังจะกลายเป็นสัญญาอารมณ์ คาดคะเนไปที่อื่น จนกลายเป็นคนไม่มีหลักได้ ดังนั้น เพื่อให้สะดวกในเวลาทำความสงบหรือจะใช้ปัญญาคิดค้น ให้ยกธรรมที่เรียนมานั้นขึ้นบูชาไว้ก่อน ต่อเมื่อถึงกาลอันสมควร ธรรมที่เรียนมาทั้งหมด จะวิ่งเข้ามา ประสานกันกับด้านปฏิบัติ และกลมกลืนกันได้อย่างสนิท       

การศึกษาและปฏิบัติ ท่านได้ศึกษาธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จนกระทั่งหลวงปู่มั่นมรณภาพเป็นระยะเวลา ๘ ปี และถึงที่สุดแห่งธรรมที่วัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร

ประวัติศาสตร์ช่วยชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นวันเปิดโครงการช่วยชาติ โดยมีเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ เสด็จไปเป็นประธานเปิดที่สวนแสงธรรม  หลวงตาพูดว่า "(เวลานี้) น่าจะเป็นประวัติศาสตร์ก็ได้ในเมืองไทยของเรา ที่ว่าพระเป็นผู้นำนี่ไม่เคยมีนะ เริ่มมีหลวงตาบัวคนเดียวนี้แหละออกประกาศตนทีเดียว โดยไม่มีใครชักชวน ไม่มีโครบอกเล่า ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาชักชวนเอง ดูสภาพของเมืองไทยแล้วพี่น้องชาวไทยทั้งหลายต่างคนต่างมีความทุกข์ร้อนทุกหย่อมหญ้ากันไปโดยลำดับลำดาไม่ว่าสถานที่ใด ก็ทนใจอยู่ไม่ได้ จึงต้องออกความคิด ความเห็นในแง่ต่าง ๆ ที่จะนำชาติไทยของเราให้เป็นไปด้วยความแคล้วคลาด ปลอดภัย หาทางใดก็ไม่เจอ ตามความสามารถความคิดอ่านของตัวเอง หาแล้วหาเล่า หาไม่เจอ สุดท้ายก็เลยต้องเอาหลวงตาบัวเป็นตัวประกัน นำพี่น้องทั้งหลายเพื่อจะบริจาคทรัพย์ที่มีอยู่ของตนเข้าช่วยชาติของเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ นี้แหละเริ่มต้นเหตุเป็นอย่างนี้จึงได้ออกประกาศตน"

แหล่งที่มาของข้อมูล : คมชัดลึก
15  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / บันทึกการเดินทาง เข้าปริวาสกรรม จากสถานีรถไปสุราษฎร์ธานี ถึง ฉะเชิงเทรา ภาค๒ เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 02:17:44 pm
ดูภาพ...กระทู้ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้
    -  ปีใหม่...ไปเข้าปริวาสแวะสักการะหลวงพ่อโสธร..วัดโสธร & หลวงพ่อทวด..วัดห้วยมงคล
    -  สถานที่เก็บอัฐิหลวงพ่อขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
    -  ศาสนสถานแบบจีนในวัดไทย(วัดโสธรวรารามวรวิหาร)
    -  บันทึกการเดินทาง เข้าปริวาสกรรม จากสถานีรถไปสุราษฎร์ธานี ถึง ฉะเชิงเทรา
--------------------------------------------------------------------------------------

ต่อกันที่ การเตรียมงานของอุบาสก อุบาสิกา ญาติโยม ช่วยกันจัดดอกไม้ประดับลานธรรม

16  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / บันทึกการเดินทาง เข้าปริวาสกรรม จากสถานีรถไปสุราษฎร์ธานี ถึง ฉะเชิงเทรา เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 10:28:10 am
ดูภาพ...กระทู้ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้
    -  ปีใหม่...ไปเข้าปริวาสแวะสักการะหลวงพ่อโสธร..วัดโสธร & หลวงพ่อทวด..วัดห้วยมงคล
    -  สถานที่เก็บอัฐิหลวงพ่อขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
    -  ศาสนสถานแบบจีนในวัดไทย(วัดโสธรวรารามวรวิหาร)
    -  บันทึกการเดินทาง เข้าปริวาสกรรม จากสถานีรถไปสุราษฎร์ธานี ถึง ฉะเชิงเทรา ภาค๒

--------------------------------------------------------------------------------------
เป็นบันทึกการเดินทาง จากสถานีรถไปสุราษฎร์ธานี ถึง วัดสาวชโงก อ.บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

เนื่องจากระไฟช้ากว่ากำหนดการ ในตั๋วไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า จึงออกตระเวณบันทึกภาพไปรอบๆ สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี

เริ่มออกเดินทางวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

17  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ศาสนสถานแบบจีนในวัดไทย(วัดโสธรวรารามวรวิหาร) เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 02:41:17 pm
สำหรับผมมองเห็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของอุบาสก อุบาสิกา ชาวแปดริ่ว(ฉะเชิงเทรา) มีการศรัทธาในพุทธศาสนาอยู่ 2 แบบด้วยกันคือแบบไทย(พุทธศาสนาเถรวาท = วัด) และแบบจีน(พุทธศาสนามหายาน = โรงเจ) ซึ่งเท่าที่ได้เห็นมา ในวัดโสธรวรารามวรวิหาร มีโรงเจอยู่ภายในวัด เรียกได้ว่ามาที่เดียว ได้ไหว้ พระทั้ง 2 ส่วน  เพราะคนในพื้นที่โดยส่วนใหญ่จะมีเชื้อสายจีน

จึงได้นำภาพ ของโรงเจภายในวัโสธรวรารามวรวิหาร มาให้ได้ชมกันคับ



18  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / สถานที่เก็บอัฐิหลวงพ่อขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 02:08:47 pm
อ้างถึง
คำว่า  "ปลัดขิก"  แท้จริงก็คือ  รูปศิวลึงค์  นั่นเอง  หรือที่บางคนบอกว่าเป็นรูปของอวัยวะเพศชายก็ไม่ผิด  ปลัดขิกของเกจิคณาจารย์ในเมืองไทยที่ได้รับความนิยมนั้นมีอยู่หลายสำนัก  แต่ที่ขึ้นชื่อมากคือ  หลวงพ่อเหลือ  วัดสาวชะโงก  อ.บางคล้า  จ.ฉะเชิงเทรา  และหลวงพ่ออี๋  วัดสัตหีบ  ชลบุรี

ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2552

เมื่อส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา ผมได้ไปเข้าปริวาสที่วัดสาวชะโงก จึงได้บันทึกภาพสถานที่เก็บอัฐิของหลวงพ่อขิก และ หลวงพ่อเหลือมา จึงนำภาพมาแบ่งปันกันดูครับ

19  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ปีใหม่...ไปเข้าปริวาสแวะสักการะหลวงพ่อโสธร..วัดโสธร & หลวงพ่อทวด..วัดห้วยมงคล เมื่อ: มกราคม 18, 2011, 09:55:23 am
สมาชิกใหม่ ขออนุญาติ แสดงรูป แต่ถ้าผิดกฏของทางเว็บก็ลบกระทู้ทิ้งได้เลยครับ

*************************************************
เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

หลังจากอยู่ปริวาสิกรรม ที่วัดสาวชะโงก เสร็จแล้วก็ได้มีโอกาสแวะไปสักการะ หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

ก็เลยบันทึกภาพติดไม้ติดมือมาฝากกันครับ








หน้า: [1]