ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะสาระวันนี้ "ตัดอาหารของนิวรณ์ กันแล้ว กรรมฐานก็จักก้าวหน้าตามที่ควรจะเป็น"  (อ่าน 6774 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
พระสุตตันตปิฎก  สังยุตตนิกาย  มหาวารวรรค  [๒.  โพชฌังคสังยุต]
  ๖.  โพชฌังคสากัจฉวรรค  ๑.  อาหารสูตร


พระไตรปิฏกเล่มที่ 19 หน้า 162 - 163

อาหารของนิวรณ์
            อะไรเล่าเป็นอาหารที่ทำกามฉันทะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำกามฉันทะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            คือ    สุภนิมิตมีอยู่    การทำมนสิการโดยไม่แยบคายในสุภนิมิตนั้นให้มาก    นี้เป็นอาหารที่ทำกามฉันทะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำกามฉันทะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            อะไรเล่าเป็นอาหารที่ทำพยาบาทที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำพยาบาทที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            คือ    ปฏิฆนิมิตมีอยู่    การทำมนสิการโดยไม่แยบคายในปฏิฆนิมิตนั้นให้มากนี้เป็นอาหารที่ทำพยาบาทที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำพยาบาทที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            อะไรเล่าเป็นอาหารที่ทำถีนมิทธะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำถีนมิทธะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            คือ    ความไม่ยินดี    ความเกียจคร้าน    ความเมื่อยขบของร่างกาย    ความเมาอาหาร    และความที่จิตหดหู่มีอยู่    การทำมนสิการโดยไม่แยบคายในธรรมเหล่านั้นให้มาก    นี้เป็นอาหารที่ทำถีนมิทธะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำถีนมิทธะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้นอะไรเล่าเป็นอาหารที่ทำอุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น

            คือ    ความไม่สงบจิตมีอยู่    การทำมนสิการโดยไม่แยบคายในความไม่สงบจิตนั้นให้มาก    นี้เป็นอาหารที่ทำอุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น
 
           อะไรเล่าเป็นอาหารที่ทำวิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น    หรือทำวิจิกิจฉาที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น
            คือ    ธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งวิจิกิจฉามีอยู่    การทำมนสิการโดยไม่แยบคายในธรรมเหล่านั้นให้มาก    นี้เป็นอาหารที่ทำวิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้นหรือทำวิจิกิจฉาที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น




        ขึ้นชื่อว่า ชาวโลก ย่อมอาศัยภักษาหาร ประคับประคองรักษาชีวิต
        ในขณะเดียวกัน ภักษาหาร ที่ทำให้กิลสขั้นต่ำ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับนักภาวนา ก็คือ นิวรณ์ ก็มีอาหารเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงให้เจริญเติบโต ถ้านักภาวนาทั้งหลายรู้แล้ว ก็ควรตัดภักษาหารของนิวรณ์เสีย ก็จะทำให้กรรมฐาน มีความก้าวหน้า มากยิ่งขึ้น




บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อะไรเป็นเครื่องปิดบังความจริง ...... ก็ตอบได้ว่า นิวรณ์ เป็นธรรมสกัดกั้น การเห็นตามความเป็นจริง
การเห็นตามความเป็นจริง ไม่ใช่สังขาร การนึกคิด แต่การเห็นตามความเป็นจริง ขอแยกเป้นสัดส่วนให้ท่านทั้งเข้าใจกับคำว่า ยถาภูตญาณทัศศนะ การเห็นตามความเป็นจริง

   การเห็นตามความเป็นจริง แยกเป็น สามส่วน
   การเห็นตามความเป็นจริง มีในหลักพระพุทธศาสนา ดังนั้นผู้ฝึกกรรมฐาน ในสายที่ไม่ใช่พุทธ พวกโยคี เป็นต้นจึงไม่ได้ภาวนาเพื่อการเห็นตามความเป็นจริง

  1.การเห็น จัดเป็น ปริยัติ
  2.ตาม  จัดเป็น ปฏิบัติ
  3.ความเป็นจริง  จัดเป็น ปฏิเวธ

     1.การเห็น บางท่านคิดว่า เห็น ด้วยใจ สัมผัสด้วยใจ การเห็นแบบนี้เป็นของคนทั่วไป การเห็น ด้วยสมาธินั้นต้องเห็น อายตนะทั้งหมด ตั้งแต่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เห็นต้องทุกอายตนะ ตอนที่เห็นต้องเห็นอย่างนี้ เกิดอายตนะไหนก่อน ก็แล้วแต่การเห็น แต่การเห็น ต้องเห็นทุกอายตนะ

     เห็นอย่างไร
     เห็น ดังนี้ เมื่อ ตา กระทบกับ รูป  ก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                        ( ไม่ต้องอธิบาย เพราะญาณจะทำให้เห็นเอง )
                     หู กระทบกับ เสียง ก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                     จมูก กระทบกับ กลิ่น ก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                     ลิ้น กระทบกับ รส ก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                    กาย กระทบกับ ผัสสะก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                     ใจ กระทบกับ โผฏฐัพพะก็เห็นว่าไม่เที่ยง
                   เมื่อเห็นว่าไม่เที่ยงแล้ว ก็จะเห็นว่า เป็นทุกข์ คงสภาพอยู่อย่างนั้นไม่ได้
                 
     2.ตาม อริยมรรคปรากฏ
         เมื่อการเห็นเกิดขึ้น การติดตาม คือ สมาธิ และเป็นการพิจารณาธรรม การตามก็คือการภาวนา

     3.เห็นตามจริง อริยผลปรากฏ
         เห็นตามความเป็นจริง ที่ทำให้ รูปนาม สละละต่อกิเลส ได้จริง......
             

     เจริญธรรมเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ

      ;)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2012, 01:36:17 pm โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ ขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากครับเป็นประโยชน์อย่างมาก
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากให้ ช่วยขยาย เรื่องการตัดอาหาร ของนิวรณ์ ในแนวทางปฏิบัติให้กับผมด้วยครับ คืออ่านเนื้อหาพระสูตร แล้วยังไม่ค่อยจะเข้าใจครับ

 :c017: :25:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
สำหรับผู้ที่ต้องการหาคำตอบในเรื่องที่ตนสงสัย  สามารถค้นหา ได้ด้วยตนเอง ทำได้โดย การสมัครเป็นสมาชิก ล๊อกอินเข้ามา แล้วทำการค้นหา  เลือกที่ค้นหา เช่น อยากทราบว่า นิวรณ์ คืออะไร ก็พิมพ์คำว่านิวรณ์ลงไป ก็จะพบเจอ คำว่านิวรณ์ ในกระทู้ต่างๆ ที่มีพระอาจารย์หรือเพือนสมาชิกเขียนตอบแก้เอาไว้แล้ว จักเป็นการง่ายในการหาคำตอบ และไม่เป็นการเสียเวลาในการรอคอยผู้ที่จะมาตอบให้ เพราะอาจจะไม่สามารถมาตอบคำถามให้ได้ในทันที

สำหรับ คำว่านิวรณ์ ที่หามาให้ได้นะครับก็มีดังนี้นะครับตามคลิกดูกันได้เลย

สอบถามเรื่อง นิวรณ์ ขอให้พระอาจารย์ อธิบายคำว่า นิวรณ์ ด้วยคะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1916.0

เพราะปฏิับัติ ผิดจากขั้นตอนจึงถูกนิวรณ์ ครอบงำ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7064.0

เท่านี้ก่อนนะจ๊ะ
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

pamai

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 139
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สำหรับผู้ที่ต้องการหาคำตอบในเรื่องที่ตนสงสัย  สามารถค้นหา ได้ด้วยตนเอง

ด้วยส่วนตัว ก็อ่านประจำอยู่ คะ แต่ คิดว่า ถ้ารอท่านผู้รู้ช่วยกันตอบ อาจจะได้รับ ธรรมใหม่ ๆ นะคะ เพราะว่าการภาวนามีมากขึ้น ก้าวหน้าขึ้น ดิฉันได้อ่านคำตอบที่พระอาจารย์ตอบในช่วงแรก ๆ กับในช่วงปัจจุบัน นี้ พูดตามตรงเลยนะคะ การตอบในปัจจุบัน นั้นเป็นการตอบอย่างที่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆคะ ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่า การตอบในปัจจุบันน่าจะมีอะไรดี ๆ มากกว่าเมื่อก่อนคะ แต่ถ้าซ้ำก็อ่านลิงก์เก่า ไปก่อนก็ดี คะ
 
ขอบคุณ ท่าน Mr.งังจัง ที่แนะนำ มาด้วยนะคะ สาธุ

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
อันที่จริงแล้วบรรดาศิษย์กรรมฐานผู้ที่ได้ยกถาดถวายพระอาจารย์ผู้เป็นกัลยาณมิตรแล้วย่อมเป็นที่รู้กันว่า ถูกสอนมาว่า เมื่อปฏิบัติกันแล้ว ห้ามไม่ให้ไปคุยไปบอกกัน ยิ่งในเวลาแจ้งกรรมฐาน(สอบถามข้อที่ติดข้อที่สงสัย) พระอาจารย์ มัดจะไล่ศิษย์คนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องให้ออกไป ไม่ให้มาฟัง ในเวลาที่ศิษย์คนนึงเข้าแจ้งกรรมฐานกับพระอาจารย์  แรกๆพวกเราก็จะถูกเอ็ดกันอยู่บอยๆ(ช่วงหลังๆหลายปีมานี้ก็จะใช้วิธีตัดเสียงเอา ไม่ได้หลุกหนีไปไหน แต่ก็ไม่ได้ฟัง)  และในหนึ่งถ้าไปพูดไปบอกกันแล้ว ทำให้ผู้ที่ได้ฟัง จักนำไปตอบ นำไปบอก   การที่จะเป็นผู้บอกกรรมฐานได้นั้น ต้องได้รับอนุญาติ จากครูบาอาจารย์เสียก่อนจึงจักทำการบอกสอนกรรมฐาน ในส่วนที่ได้รับอนุญาติไว้ให้บอกให้สอนแก่ผู้อื่นได้ และเป็นการเคารพในคำสั่งคำสอนของครูบาอาจารย์ ซึ้งไม่เป็นผลดีอะไรเลยกับผู้ปฏิบัติทั่วไป  ที่ไปได้ยินได้รู้ได้ฟ้งมา  ซึ้งก็จักกลายเป็นเรื่องใหญ่ถ้าผู้ที่บอกกรรมฐาน  ยังไม่ได้สำเร็จในส่วนนั้นๆจริง จะไม่เป็นการบอกกรรมฐานที่ผิดหรือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เพื่อนบอกเรามาผิดหรือถูก ตกลงกำลังจะพาเราไปไหน ทั้งผู้ที่บอกผิดและผู้ที่ปฏิบัติตามแบบผิดๆ เพราะฉนั้นถ้าเอากันตามจริง  ผู้ปฏิบัติควร จะแจ้งหรือสอบถาม(สำหรับในส่วนของกรรมฐาน)กับพระอาจารย์เองโดยตรง  แต่ ณ ปัจจุบันในเว็ปนี้ ก็จะมีทีมงานที่พระอาจารย์ได้อนุญาติไว้ในระดับนึง ให้มาช่วยตอบ ส่วนตัว คิดว่าน่าจะเป็นการปรับทัศนะคติ ให้กลายมาเป็นสัมมาทิฐถิ

ในส่วนของผู้ที่ปฏิบัติได้มากขึ้น  ก้าวหน้ามากขึ้น ยิ่งต้องปรึกษาส่วนตัวกับพระอาจารย์เอง เช่นในกระทู้นี้ "ทำไมแจ้งอารมณ์กรรมฐาน ทางเว็บไม่ได้ครับ" (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=497.0)

หรืออย่าง "เกีี่ยวกับเวลาการนั่งกรรมฐาน นาน ๆ" (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1466.0)

และ เช่น "อานาปานสติ ถ้าฝึกโดยตรง ควรเิริ่มอย่างไรครับ"  (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1296.0 )
อันนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่าคุณ THAWATCHAI173 ไม่ได้ตอบ คุณครูนภา คุณtcarisa และคุณประสิทธิ์ แต่คุณเป็นเพื่อน เพื่อรอพระอาจารย์มาตอบแทน

ในส่วนของการตอบคำถามทั่วไป ได้ถูกอนุให้ทีมงานตอบกันได้ เช่น ถามมาว่า นิวรณ์ คืออะไร อันนี้มีอยู่ในหลักสูตรนักธรรมอยู่แล้ว

แต่ถ้าถามมาว่านั่งปฏิบัติมาหกชั่วโมง  แล้วเกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้น ก็เป็นเรื่องของกรรมเฉพาะแต่ละบุคคล  ในบรรดาศิษย์ด้วยกัน ไม่สามารถที่จะตอบให้กันได้ คงจักมีแต่พระอารย์ที่จะมาตอบให้ได้

แต่ในส่วนของผู้ที่เริ่มปฏิบัติใหม่ ที่ยังนั่งไม่เป็น(ใช้ถ้านั่งไม่ถูก) กำหนดจิตยังไม่เป็น(ยังใช้จิตไม่ถูก) ยังไม่มีพื้นฐาน ก็ให้ช่วยๆกันบอกได้ 

เรื่อง นิวรณ์ เป็นก้าวแรก จักต้องใช้ไปตลอดการปฏิบัติ  ถ้าปฏิบัติได้สูงๆขึ้นไปๆ ก็ยังคงต้องใช้อยู่ เพราะฉนั้น ถ้าจะปฏิบัติให้ได้ตามลำดับสูงๆขึ้นไปก็ต้องเอาชนะให้ได้ ตามลำดับ ถ้าแพ้ถูกนิวรณ์เข้าครบงำ ไม่พยายามเอาชนะนิวรณ์ให้ได้แล้ว การปฏิบัติก็ไม่ไปไหน

ที่จริงแล้ว ได้สังเกตุเห็น ที่ผ่านมา พระอาจารย์ได้ตอบคำถามพวกเราได้ครบแ้ล้ว  จะเห็นก็มีแต่เราที่ไม่เข้าใจในเวลานั้นๆ  แต่พอกลับมาปฏิบัติ ให้ดีขึ้น ให้เก่งขึ้น(ในวันนี้) ก็กลับไปคิด กับคำตอบที่พระอาจารย์ได้เคยบอกเราไว้ ก็เพิ่งมาเข้าใจ  เมื่อเราปฏิบัติได้เพิ่มมากขึ้น  เห็นที่จักไม่ได้เป็นเพราะพระอาจารย์ แต่เป็นเพราะเรายังปฏบัติได้น้อย ยังดื้นอยู่ไม่ยอมทำตามคำสอน  ก็เคยเป็นอยู่ ในประโยคเดียวกัน ในช่วงแรกๆ เข้าใจเท่านี้ พอนานๆ ไป ก็เข้าใจในประโยคเดียวมาขึ้น  และหลังจากนั้นก็เข้าใจมากขึ้นมากขึ้นไปอีก  ทั่งๆที่ ก็เป็นประโยคเดียวกันนั้นแหละ  เหมือนกับในสมัยพุทธกาล หลายคนเมื่อได้ฟังธรรมแล้วเกิดเข้าใจได้ดี เพราะมีกำลังของจิตถึง ก็ได้บรรลุ  แล้วกับเราละก็ ได้ยินได้ฟังมาแล้วตั้งไม่รู้กี่ครั้ง เราก็ยังไม่เข้าใจ(ถ้าเข้าถึงเข้าใจจริงก็บรรลุธรรมไปแล้ว)

เราทุกคนก็เคยทำไม่ดี      เราทุกคนก็เคยพูดคำหยาบ
เราทุกคนก็เคยทำความผิด  เราทุกคนก็เคยทำในแบบที่เขาทำ
ไม่มีใครดีครบร้อยเปอร์เซ็น แม้นพระอรหัง
แต่อยู่ที่กิเลสของใครมากกว่ากัน   พระอรหัง ท่านดับแล้วซึ้งกิเลส
เราศิษย์ ทุกคนก็ปฏิบัติเพื่อให้กิเลสดับ 

ขอให้เจริญในธรรมนะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 14, 2012, 09:19:24 pm โดย Mr. งังจัง »
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม

colo

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 44
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับท่าน Mr.งังจัง วันนี้ได้อ่านคำตอบที่มีสาระ มากเลย ครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สำหรับผู้ที่ต้องการหาคำตอบในเรื่องที่ตนสงสัย  สามารถค้นหา ได้ด้วยตนเอง

ด้วยส่วนตัว ก็อ่านประจำอยู่ คะ แต่ คิดว่า ถ้ารอท่านผู้รู้ช่วยกันตอบ อาจจะได้รับ ธรรมใหม่ ๆ นะคะ เพราะว่าการภาวนามีมากขึ้น ก้าวหน้าขึ้น ดิฉันได้อ่านคำตอบที่พระอาจารย์ตอบในช่วงแรก ๆ กับในช่วงปัจจุบัน นี้ พูดตามตรงเลยนะคะ การตอบในปัจจุบัน นั้นเป็นการตอบอย่างที่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆคะ ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่า การตอบในปัจจุบันน่าจะมีอะไรดี ๆ มากกว่าเมื่อก่อนคะ แต่ถ้าซ้ำก็อ่านลิงก์เก่า ไปก่อนก็ดี คะ
 
ขอบคุณ ท่าน Mr.งังจัง ที่แนะนำ มาด้วยนะคะ สาธุ

  :25: :25: :25:

    เห็นด้วยครับ ส่วนหนึ่ง ปัจจุบันผมก็จะตามอ่านสิ่งที่พระอาจารย์โพสต์ในปัจจุบันครับ เพราะว่ามีสำนวนเปลี่ยนจากเดิมไปเยอะมากเลยครับ ผมเคยนั่งนึกดักอยู่ว่าพระอาจารย์โพสต์อย่างนี้ ต้องอธิบายอย่างนี้แน่ ๆ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วรู้สึกว่าเดาไม่ผิดเลยครับ แต่มาปีนี้ รู้สึกว่าเดาว่าพระอาจารย์จะบรรยายอย่างไร ไม่ถูกครับ...

   ผมคิดว่า คุณธรรม ที่ได้ใหม่... นั้นน่าจะเป็นปัจจุบัน ขณะนี้จะตอบได้ดีที่สุดนะครับ
 
   สาธุ สาธุ สาธุ

   
บันทึกการเข้า

magicmo

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 122
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
ขายส่งชุดชั้นในราคาไม่แพงเครื่องกรองน้ำ ดื่มสะอาดสนามกีฬา ฟุตบอลหญ้าเทียม เช่าราคาถูก