ธัมมคารวาทิคาถา
เย จะ อะตีตา สัมพุทธา เย จะ พุทธา อะนาคะตา, โย เจตะระหิ สัมพุทโธ พะหุนนัง โสกะนาสะโน,
พระพุทธเจ้าบรรดาที่ล่วงไปแล้วด้วย, ที่ยังไม่มาตรัสรู้ด้วย, และพระพุทธเจ้าผู้ขจัดโศกของมหาชนในกาลบัดนี้ด้วย,
สัพเพ สัทธัมมะคะรุโน วิหะริงสุ วิหาติจะ,
อะถาปิ วิหะริสสันติ เอสา พุทธานะธัมมะตา,
พระพุทธเจ้าทั้งปวงนั้น, ทุกพระองค์เคารพพระธรรม, ได้เป็นมาแล้วด้วย, กำลังเป็นอยู่ด้วย, และจักเป็นด้วย, เพราะธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย, เป็นเช่นนั้นเอง,
ตัสฺมา หิ อัตตะกาเมนะ มะหัตตะมะภิกังขะตา,
สัทธัมโม คะรุกาตัพโพ สะรัง พุทธานะสาสะนัง,
เพราะฉะนั้น, บุคคลผู้รักตน, หวังอยู่เฉพาะคุณเบื้องสูง,
เมื่อระลึกได้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่, จงทำความเคารพพระธรรม,
นะหิ ธัมโม อะธัมโม จะ อุโภ สะมะวิปากิโน,
ธรรมและอธรรม จะมีผลเหมือนกันทั้งสองอย่างหามิได้,
อะธัมโม นิระยัง เนติ ธัมโม ปาเปติ สุคะติง,
อธรรมย่อมนำไปนรก, ธรรมย่อมนำให้ถึงสุคติ,
ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง,
ธรรมแหละย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเป็นนิจ,
ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ,
ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว, ย่อมนำสุขมาให้ตน,
เอสานิสังโส ธัมเม สุจิณเณ.
นี่เป็นอานิสงส์ในธรรมที่ตนประพฤติดีแล้ว.
นะ ทุคคะติง คัจฉะติ ธัมมะจารี
ผู้ประพฤติธรรมอยู่เป็นนิจ, ย่อมไม่ไปสู้ทุคติเลย.
ที่ถามว่า : "ทางสายกลาง หมายความว่า ทำให้สมดุลย์ ในดี และ ชั่ว ใช่หรือไม่ครับ
คือ เราต้องรับไว้ทั้งดี และ ชั่ว ใช่หรือไม่ ครับ ถึงจะเรียกว่า ทางสายกลางครับ"
ดี คือ กุศลกรรม คือ ธรรม
ชั่ว คือ อกุศลกรรม คือ อธรรม
ธรรมย่อมนำให้ถึงสุคติ , อธรรมย่อมนำไปนรก
ถ้าคุณกระทำทั้งสองอย่าง คุณก็ได้ทั้งสองอย่าง
เพราะฉะนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า
อะกะตัง ทุกกะฏัง เสยโย, ปัจฉา ตัปปะติ ทุกกะฏัง,
กะตัญจะ สุกะตัง เสยโย, ยัง กัตวา นานุตัปปะติ
ความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า เพราะว่า ความชั่วย่อมแผดเผาในภายหลัง,
บุคคลควรทำแต่ความดี เพราะทำแล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง.
แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ไม่ได้สนับสนุนให้เราทำ ทั้งดีและชั่วไปพร้อมๆกัน
แต่ให้ทำแต่ความดี