ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พลังจิตใต้สำนึกกับการใช้ชีวิต  (อ่าน 4011 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

miracle

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 26
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
พลังจิตใต้สำนึกกับการใช้ชีวิต
« เมื่อ: พฤษภาคม 26, 2012, 01:03:25 pm »
0
พลังจิตใต้สำนึกกับการใช้ชีวิต



ในแต่ละวันเราต้องใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ยามหลับ สมองก็ยังประมวลผลของความคิดที่เกิดขึ้นมาอยู่ทั้งคืน

ถ้า สมองเราไม่รู้จักกำจัดขยะส่วนเกินออก ก็ไม่ต่างอะไรกับห้องที่มีเอกสารรกรุงรังเต็มไปหมด  และในแต่ละวันก็ยังมีเอกสารใหม่ ๆ ส่งเข้ามาอีกมากมาย สมองจะเก็บรวบรวม เอกสารที่คิดว่าสำคัญไว้อย่างเป็นระบบ หมวดหมู่ จนมากพอมันก็จะบีบอัดข้อมูลแปลงเป็นไฟล์แห่งความรู้สึก  แล้วส่งต่อไปเก็บที่ฐานข้อมูลส่วนลึกที่เรียกว่า จิตใต้สำนึก

ดัง นั้น ถ้าในแต่ละวันเราคิดไม่ดี คิดลบอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลที่สมองรวบรวมแล้วส่งไปที่จิตใต้สำนึก ก็จะเป็นความรู้สึกลบ  พลังแห่งความรู้สึกนั้นจะเข้มข้นกว่าความคิดมาก เพราะเป็นข้อมูลที่ถูกบีบอัดมาจากความคิดนับพันนับหมื่นความคิด

ใน แต่ละวันเราจึงต้องพยายามระวังคำพูดหรือความคิดที่มีความหมายทางลบแฝงอยู่  เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกทางลบขึ้นเล็ก ๆ ทุกครั้งที่พูด คิด หรือทำ  และในที่สุดมันจะหล่อหลอมกันเป็นพลังแห่งความคิดรู้สึกลบ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลรุนแรงกว่าที่คาด

ความคิดไม่สามารถเอาชนะความ รู้สึกได้ การตัดสินใจของคนเราเกือบร้อยละเก้าสิบมาจากความรู้สึก ไม่ใช่ความคิด  พลังความรู้สึกสูงกว่าพลังความคิดมาก เพราะมันออกมาจากส่วนของจิตใต้สำนึก

ลองมาใช้พลังจิตใต้สำนึกกับชีวิตประจำวันกันดีกว่า

1. ความคิด ส่งผลต่อเซลล์ทุกเซลล์ในทุกระบบของร่างกาย  และสามารถส่งผลไปถึงเซลล์ของคนอื่น ๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ในระบบประสาท  ดังนั้น จงพยายามคิดบวกอยู่เสมอ

2. ในแต่ละวัน คุณจะรับอิทธิพลจากแรงดึงดูดของความคิดคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา  พยายามกำหนดสติ คัดเลือกเฉพาะความคิดในทางบวกให้เข้ามามีอิทธิพลต่อคุณ

3. จงบอกตัวเองอยู่เสมอว่า คุณสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้  ชีวิตเป็นไปตามพลังความรู้สึก แม้ว่าจะมีความรู้สึกบางอย่างที่เป็นกรรมเก่าฝังอยู่ในภวังคจิตก็ตาม คุณก็สามารถใช้ความคิดซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันไปเปลี่ยนแปลงได้  ความรู้สึกเกิดจากความคิดจำนวนมากที่มาหลอมรวมกัน ดังนั้นในแต่ละวันพยายามคิดดีอยู่เสมอ ย้ำซ้ำ ๆ ลงไปจนเกิดเป็นความรู้สึกใหม่ที่ดี ไปลบล้างความรู้สึกลบที่ผุดขึ้นมาจากภวังคจิต

4. การให้ คือ การเพิ่ม ไม่ว่าสิ่งที่ให้จะเป็นลบหรือบวก  ถ้าให้ลบกับคนอื่น ลบในตัวคุณก็จะเพิ่มขึ้น  ยกตัวอย่างเช่น คุณให้วิทยาทาน ให้ความรู้เป็นทาน ขณะที่คุณให้ จิตวิญญาณคุณก็จะเข้ามารับสิ่งนั้นด้วย  ยิ่งให้ยิ่งเก่ง ยิ่งสอนยิ่งรู้ ยิ่งเรียนยิ่งฉลาด ยิ่งบริจาคยิ่งรวย

5. หากรู้สึกโกรธใครสักคน จงหมั่นคิดถึงเขาแต่ในทางดี ในที่สุดความรู้สึกโกรธจะหายไปเอง  ความรู้สึกเป็นเรื่องของจิต แต่ความคิดเป็นเรื่องของสมอง  คุณห้ามความรู้สึกไม่ได้ แต่ห้ามความคิดได้  ความคิดกับความรู้สึกแยกส่วนกัน ถ้ารู้สึกลบแล้วคิดบวก เหมือนน้ำที่ราดบนกองไฟ  แต่ถ้ารู้สึกลบแล้วยังคิดลบ จะเหมือนการราดน้ำมันลงบนกองไฟ

6. จงพยายามฝึกมองส่วนบวกที่ซ่อนอยู่ในลบ ฝึกจนเกิดความสามารถพิเศษ เพราะคนที่จะเป็นอัจฉริยะได้ต้องมีความสามารถพิเศษนี้  สิ่งลบ ๆ ที่เกิดในชีวิตประจำมีมากมาย พยายามใช้ปัญญาเข้าไปวิเคราะห์  ในวิกฤติย่อมมีโอกาส  คนคิดบวกจะเห็นบวกที่ซ่อนอยู่ในลบ แต่คนคิดลบจะเห็นแต่ส่วนลบแม้สิ่งนั้นจะเป็นบวก

7. จงจำไว้ว่า  ทุก ๆ คนมีแก้วสารพัดนึกอยู่ในตัว  เพียงแต่บางคนเท่านั้นที่สามารถนำมันขึ้นมาใช้ได้ เพราะต้องมีเคล็ดลับบางอย่าง ซึ่งเคล็ดลับนั้นก็คือ ขอ เชื่อ รับ ของกระบวนการในเดอะซีเคร็ตนั่นเอง

8. ถ้าคิดลบต่อเหตุการณ์ใด จะดึงดูดให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง  คุณจึงเห็นคนล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงวิธีคิด

หวังว่าจะไม่งงนะจ๊ะ...ค่อย ๆ อ่านและทำความเข้าใจนะ  ^^
บันทึกการเข้า