ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธแท้ - พุทธเทียม  (อ่าน 96 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
พุทธแท้ - พุทธเทียม
« เมื่อ: มีนาคม 18, 2024, 07:01:53 am »
0
.



พุทธแท้ - พุทธเทียม : ธรรมะยู-เทิร์น โดยอิทธิโชโต

ธุ วา มญฺญตี พาโล ยาว ปาปํ น ปจฺจติ ยทา จ ปจฺจตี ปาปํ อถ ทุกฺขํ นิคจฺฉติ ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล คนเขลายังเข้าใจว่ามีรสหวาน แต่บาปให้ผลเมื่อใด คนเขลาย่อมประสบทุกข์เมื่อนั้น (พุทธพจน์)

เมื่อมีปัญหา คนส่วนใหญ่คิดว่าร้อนก็ไปหลบในที่เย็น เท่านี้ ยังไม่พอ ยังไม่ใช่ธรรมะที่แท้จริง!

ธรรมะจะเกิดขึ้นจริงๆ ต้องเอาใจใส่ รักษากาย วาจา ใจ จะคิดจะพูดจะทำอะไรให้มีสติอยู่เสมอ อยู่เฉยๆ นั่งดูเฉยๆ ธรรมะคงจะเกิดขึ้นได้ยาก เหมือนเราจะปลูกผัก นั่งดูเมล็ดผักกาดมันจะเกิดไหม เราก็ต้องเอาเมล็ดไปเพาะ ไปปลูก ไปรดน้ำมันจึงเกิดพุทธเจ้าสอนไว้อย่างนั้น

อย่างที่มีปัญหาเกี่ยวกับศาสนาพุทธอยู่ทุกวันนี้ จริงๆ แล้วพระพุทธศาสนาไม่มีปัญหา แต่ที่มีปัญหาคือคนที่บอกว่าตัวเองเป็นพุทธแต่ไม่ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าสอนต่างหาก ปัญหาไม่ใช่มาจากศาสนาอื่นด้วย เราต้องกลับมาถามตัวเองว่า ในจำนวน ๑๐๐ คน มีกี่คนที่เป็นพุทธแท้ๆ จะได้สัก ๑๐ คนไหม ถ้าพุทธแท้ ๑๐ คนใน ๑๐๐ คน อยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหา อยู่กับสิงสาราสัตว์ก็ไม่มีปัญหา อยู่กับคนก็ไม่มีปัญหา เพราะรู้หมด จะไปมีปัญหาอะไร แต่ที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ เพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ ถ้ารู้แล้ว เข้าใจแล้วก็ไม่มีปัญหา

แต่คนไม่เข้าใจ ปากก็ว่าพุทธ แต่วิธีการไม่ใช่ ก็เหมือนสมัยพุทธกาล บวชกับพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังทะเลาะกันให้เห็น ถือพวก ถือตัวตน ถือเจ้าของจนลืมว่าอะไรควรไม่ควร สมัยนี้ไม่มีพระพุทธเจ้าให้เห็น แต่ยังมีพระธรรมก็ยังไม่ปฏิบัติ สมัยก่อนมีพระพุทธเจ้าก็ยังไม่ฟังกัน

@@@@@@@

ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ เพราะคนไม่ใส่ใจ ถ้าใส่ใจเรื่องศาสนา ก็จะไม่มีปัญหา พระวิ่งหาลาภ ยศ สรรเสริญ มีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น ลาภไปหามาทำไม ยศ ไปหามาทำไม สรรเสริญ ไปหามาทำไม

สุดท้าย เราไม่ต้องไปแก้คนอื่น ต่างคนต่างดูของตัวเจ้าของ ต่างคนต่างชำระความไม่ดีในจิตในใจของตัวเองก็จะไม่มีปัญหาอย่างที่เป็นอยู่ แต่นี่มันไม่ใช่ ต่างคนต่างเสริม ลาภ สักการะให้แก่กัน ก็เรื่องกิเลสทั้งนั้น เหมือนเรื่องหรูหรา มันเป็นเรื่องของกิเลสพระ พระจะไปหาอะไร ก็ต้องไปหาศีลหาธรรมสิ ธรรมวินัยมีก็หามาสิ โลกวัชชะ ก็มีอยู่ ทำอะไรให้โลกติเตียน คือมันไม่งาม ก็ยับยั้งเสีย

พระเราไม่ต้องไปมีหรอกรถ เอามาทำไม เอามาแสดงธรรม หรือแสดงกิเลส พระขอข้าวเขากินวันละมื้อ จะมีอะไรนักหนา อะไรที่มันเกินงาม เกินพอดีก็ต้องถามตัวเอง เหมือนโทรศัพท์นี้ บางทีเห็นพระใช้ดีกว่าฆราวาสอีก ทั้งๆ ที่ขอข้าวเขากิน เอามาอวดกิเลสเจ้าของ ขายความอยากให้เขาเห็น เป็นเรื่องขายขี้หน้าทั้งนั้น

ถ้ารู้ว่าตัวเจ้าของเป็นพระต้องสำนึกว่าเราเป็นผู้ขอ ถ้าเป็นผู้ขอเลยเถิดเช่น โยม อาตมาต้องการโทรศัพท์เครื่องใหม่ ต้องการรถคันใหม่ มันวิเศษตรงไหน มันประเสริฐตรงไหน ที่พระพุทธเจ้าให้หาอรรถหาธรรม ทำไมไม่หา ไม่ทำ

ทางดับทุกข์ก็เปิดกว้างสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับศาสนาด้วยซ้ำ ทำให้ได้ ทำให้ถึงพร้อมก็จะดีเอง ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน นับถือศาสนาไหนก็ตาม ถ้าได้ปฏิบัติก็จะพบธรรมแท้ เป็นพระแท้ด้วยตัวเอง

 




THANK TO :-
image by : https://www.pinterest.com/
website : https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/223681
07 มี.ค. 2559 | 00:00 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ