เรื่องทั่วไป > เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม

บวชแล้วยังถูกข่มขืน

(1/2) > >>

pimpa:
บวชแล้วยังถูกข่มขืน

คราว หนึ่งนางอุบลวรรณาภิกษุณีท่องจาริกไปตามชนบทต่าง ๆ เมื่อกลับมาแล้วจึงไปพักผ่อนอยู่ที่ป่าอันธวันสมัยนั้นพระบรมศาสดายังไม่ได้ ทรงห้ามภิกษุณีพักผ่อนอยู่ในป่า มีคนใจบุญได้สร้างกุฏีเล็ก ๆ ไว้ในป่าอันธวันสำหรับนางภิกษุณี เพื่ออาศัยพักผ่อนได้หลังละ ๑ รูป ทำฝาเฉพาะคราวที่มีพระภิกษุณีมาพัก นางอุบลวรรณา ภิกษุณีได้เข้าไปพักอยู่ในกุฏีเล็ก ๆ นั้น นางอุบลวรรณามีลุงอยู่คนหนึ่ง ซึ่งมีลูกชายชื่อ นันทมาณพ มีความรักใคร่นางอุบลวรรณามากตั้งแต่สมัยที่นางเป็นฆราวาส แม้นางอุบลวรรณาจะออกบวชแล้วก็ยังหลงรักอยู่ ดังนั้น นันทมาณพ จึงต้องหาช่องทางที่จะข่มขืนใจ ทำลายพรหมจรรย์ของนาง

ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง นันทมาณพได้ลักลอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในป่าอันธวัน ตั้งแต่เวลาใกล้รุ่ง เมื่อนางภิกษุณี อุบลวรรณาออกเดินทางจากป่าอันธวันเข้าไปหมู่บ้าน เพื่อรับบิณฑบาต นันทมาณพก็ลอบเข้าไปในกุฏีของนางคลานเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายใต้เตียงรอนางกลับ มา ฝ่ายนางภิกษุณีอุบลวรรณา เดินทางจากวัดในป่าเข้ามาบิณฑบาตในเมือง กลับมาพร้อมอาหารในบาตรต้องอุ้มบาตรเดินทางกลับมาถึงกระท่อมของนาง ตั้งใจว่าจะนอนพักสักครู่เพื่อให้หายเหนื่อย จึงปิดประตูห้องเสีย ค่อย ๆ เอนกายลงบนเตียงนอนหาความสงบสุขตามอัตภาพซึ่งกะปลกกะเปลี้ยจากการเดินฝ่าแดด มา พอทิ้งร่างลงบนพื้นเตียงก็หลับตาลง ทันใดนั้นเอง นันทมาณพซึ่งซ่อนตัวอยู่ใต้เตียงก็กระโจนขึ้นคร่อมร่างนาง แม้จะถูกนางผลักใสให้ออกไปตามกำลังแรงของท่านด้วยความรับเกียจพร้อมกับกล่าว ว่า " อย่าฉิบหายเสียเลย เจ้าคนพาล ๆ "ก็ไม่มีผลอะไรที่จะให้มันหยุดการกระทำ เมื่อทำกรรมที่มันมุ่งหมายไว้ได้สำเร็จก็เกิดมิจฉาจิตคิดอีกว่า จักต้องมาในวันหน้าต่อไปอีก โดยไม่ได้เฉลียวใจถึงผลบาปอันร้ายแรงที่สุดซึ่งมันต้องได้รับอย่างหนักใน เวลานั้นไม่

จากนั้น นันทมาณพ หลบออกจากกุฏิน้อยนั้นมาแต่แค่สุดสายตา ของพระอุบลวรรณาภิกษุณีหน่อยหนึ่งเท่านั้น พื้นธรณีที่หนาแน่น พลันสะเทือนหวั่นไหว ไม่สามารถรองรับมนุษย์อุบาทว์ที่ทำร้ายพระอัครสาวิกา ของพระบรมศาสดา ซึ่งจัดเป็นกรรมหนักที่สุดได้ ค่อย ๆ ฉีกแยกออกเป็นช่องเหมืองปล่องเหว เปลวเพลิงอเวจี ส่งเสียสนั่น พอสิ้นเสียงอันกึกก้อง บัดนั้นเองร่างของนันทมาณพผู้บาปหนา พลันจมหายไปใต้พื้นธรณี นันทมาณพหมดแรงดิ้นตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด จนกระทั่งตาเหลือกโปนเหงื่อกาฬกลัวตายไหลเหมือนน้ำหยาด กว่าจะสำนึกตัวว่าได้ทำบาปมหันต์ก็สายเกินไป ต้องรับผลกรรมลามกของมันอย่างทุกข์ทรมานที่สุด ฝ่ายพระอุบลวรรณายืนตะลึง เมื่อเห็นนันทมาณพ ถูกพระธรณีสูบ ล่วงหล่นสู่ยมโลกท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชน จนกระทั่งเหตุการณ์กลับคืนสู่ปกติ ท่านจึงเล่าเรื่องที่ได้ประสบแจ้งให้พระภิกษุณีทั้งหลายทราบทั่วกัน

ธุลีธวัช (chai173):
อิตถีเถรี อัญชลีพ่าย

       ฉงนฉงาย          พิมพานี่ไฉน          ยื่นหยิบให้อ่าน
ฤาค้างคาเคือง          ขุ่นเขื่องอนาจาร          อิตถีข้าวสาร          เยื่องเช่นนี้ท้อ

       ยื้อเยื้องพรหมจรรย์          เถรีอุบลวรรณ          งามแต่กรรมก่อ
ชั่วช้าทรามสวาท          ให้อนาถทัณฑ์รอ          หยามหยาบเหยียดหนอ          อิตถีใครเล่ากราบ

                                                                                                             ธรรมธวัช.!

mongkol:
แม้เป็นพระอรหันต์ ก็ไม่ได้รับการ ละเว้น นะครับ

  ที่สำคัญ นางตั้งครรภ์ด้วย

 :smiley_confused1: st12

somjazzk:
อ่านเเล้วได้ข้อคิดที่ดีมากเลยนะครับ

PRAMOTE(aaaa):
ประวัติสาวกที่เป็น  .....ภิกษุณี

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป