อยากทราบเรื่องราว ของ ทวีป ทั้ง 4 และ ทวีปไหน น่าสนใจมากที่สุดคะ


 

ดีใจ กับ คณะ ครู นักเรียน คะ หมดเวลาพักผ่อน กลับมาทำงาน มาเรียน กัน มองออกนอกหน้าต่างไปวันนี้เห็นนักเรียน แต่งชุดใหม่ ๆ กัน ยืนรอรถกัน เดินกัน มากหลาย

   ชีิวิต ที่มี ต้องสู้กันต่อไป นะคะ

   

 

   มาตามความเห็นเพื่อน ๆ คะ บางท่านมักจะกล่าวว่า เทคโนโลยี ไม่มีความจำเป็นต่อชาวพุทธ เช่น ไม่ควรตั้งสถานีวิทยุ  ไม่ควรใช้อินเตอร์เน็ต ไม่ควรทำรายการโทรทัศน์ ไม่ควรใช้สื่อใด ๆ เพื่อการเผยแผ่ เพราะชาวพุทธเป็นผูรักษ์ สันโดษ ดังนั้นเทคโนโลยี จึงไม่มีความจำเป็นต่อ ชาวพุทธบริษัท


   ไม่ทราบ พวกเพื่อน ๆ มีความเห็นกับ เรื่องนี้อย่างไรกันคะ

   

 

   เพื่อน ๆ ที่ทำงาน คะ ชอบนินทาเสียงดังคะ ( พูดให้ได้ยิน ) กันเป็นกลุ่มคะ เรื่องการเป็นที่โปรดปราน เจ้านายประมาณนี้ คะ
 
   เราควรทำอย่างไร เมื่อเขากำลัง ด่าเราให้ได้ยิน อย่างเสียหาย ในที่ซึ่งหน้า ซึ่งปกติก็ใช้ธรรมะ เป็นเครื่องอดกลั้นมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แต่การกระทำอย่างนี้ กับรุนแรงขึ้นเพราะเขาเห็นว่าเราไม่โต้ตอบ คะ

   

กระทรวงวัฒนธรรมประกาศจัดงานฉลองวันสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ๒๓๑ ปี และรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ที่ทรงพระราชทานพิธีลงเสาหลักเมืองเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายนโดยจัดงานระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๒ เมษายน ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ณ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่หอประติมากรรมต้นแบบ อาคารกรมศิลปากร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โรงละครวังหน้า สวนสันติชัยปราการ และจัดกิจกรรมเชื่อมโยงตลอดเส้นทาง บริเวณถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ และถนนพระอาทิตย์ ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

- กิจกรรมทางศาสนา โดยการทำบุญตักบาตร การสวดมนต์ และพิธีบวงสรวงที่ศาลหลักเมือง และวัดสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ อาทิ วัดบวรนิเวศน์ วัดมหาธาตุและวัดพระเชตุพนฯ

- การแสดงรัตนศิลป์ ประกอบด้วยการนำชมอาคารหน้าพระลาน หอศิลปพีระศรี โบราณวัตถุชิ้นเอกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และนิทรรศการมหานครอมรรัตนโกสินทร์ พุทธศักราช ๒๓๒๕ ถึงปัจจุบัน

- มหกรรมอาหารไทย โดยนำอาหารไทยหลากหลายชนิดจากสภาวัฒนธรรมเขตกรุงเทพมหานคร มาสาธิตและจำหน่ายอาทิ ขนมไทย ขนมมงคล ขนมดอกจอก ขนม ลูกชุป โรตี-มะตะบะ และกาแฟโบราณ เป็นต้น

- ร้อง ระบำ ละคร โดยจัดการแสดง ละครใน เรื่องอุณรุท ละครนอก เรื่องสุวรรณหงส์ และรำ ระบำสี่ภาคเชิงสร้างสรรค์ ที่โรงละครวังหน้า

- การแสดงสังคีตศาลา โดยนำการแสดงดนตรีร่วมสมัยเจริญกรุง เพลงเรื่อยเปื่อย การแสดงหุ่นรามเกียรติ์ การแสดงโขนเด็ก และการแสดงดนตรียามเย็น เป็นต้น

- ตลาดย้อนยุค โดยสาธิตและจำหน่ายอาหารยอดนิยม ของดีของสภาวัฒนธรรมเขต และ การฉายหนังกลางแปลง ที่สวนสันติชัยปราการ และอื่นๆ อีกมากมาย




พิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย

จะจัดแสดงธงชาติไทยในอดีตตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน จำนวน ๖ แบบ และต้นฉบับพระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม เล่มแรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พิมพ์ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ตรงกับรัตนโกสินทร์ปีที่  ๑๑๐ และธงช้างเผือกผืนที่ใช้รับเสด็จจริงในสมัยรัชกาลที่ ๕ และอื่นๆ เพื่อร่วมจัดงานฉลองครบรอบ ๒๓๑ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักนายกรัฐมนตรี

พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระนคร

จะนำวัตถุชิ้นเอกไปร่วมจัดนิทรรศการงานฉลองครบรอบ ๒๓๑ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนำ เหรียญสตพรรษมาลา เนื้ออะไหล่ทอง ออกในงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๐๐ ปีแรก (พ.ศ. ๒๔๒๕)  ภาพงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๐๐ ปีแรก ซึ่งจัด ณ ท้องสนามหลวง  ถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระหัตถ์รัชกาลที่ ๗ ให้แก่คณะมหรสพที่จัดแสดงในงานเปิดสะพานพุทธ สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๕๐ ปี ภาพถ่ายต้นฉบับงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๕๐ ปี พระราชพิธีเปิดสะพานพุทธ (พ.ศ. ๒๔๗๕)  ตันฉบับภาพพิมพ์หินสี่สีหน้าปกหนังสือพิมพ์อิตาลี ข่าว รัชกาลที่ ๗ ทรงเสด็จพระราชดำเนินข้ามสะพานพุทธโดยกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ในงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๕๐ ปี เข็มกลัดหน้าฟิล์มพระบรมรูปรัชกาลที่ ๑ ในงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๑๕๐ ปี เหรียญเฉลิมพระนครหรือเหรียญฉลองกรุงครบ ๑๕๐ ปี พร้อมแพรแถบ และพิเศษสุด! เหรียญสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ ๒๐๐ ปี ชนิดเหรียญ Proof ต้นแบบเพื่อทดลองผลิตหนึ่งเดียวในประเทศไทย ออกโดยกรมธนารักษ์

โดยทั้งพิพิธภัณฑ์ธงชาติไทยและพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระนครจะจัดแสดงอยู่ภายในศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ติดต่อได้ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ 23 แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โทร.084-651-7023

 

คำบูชาพระรัตนไตร

โยโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ  อิเมหิ สักกาเรหิ  ตัง ภะคะวันตัง อะภิ-ปูชะยามิฯ  (หลายคนเปลี่ยน มิ เป็น มะ)

โยโส   สะวากขาโต  ภะคะวะตา  ธัมโม  อิเมหิ  สักกาเรหิ  ตัง  ธัมมัง    อะภิปูชะยามิ ฯ
โยโส สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อิเมหิ    สักกาเรหิ  ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ ฯ
                                                คำเจริญไตรสรณาคม
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ  ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง  อะภิวาเทมิ (กราบ)
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม              ธัมมัง นะมัสสามิ(กราบ)
     สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ        สังฆัง นะมามิ(กราบ)
-------------------------------
                                                 บททำวัตรพระ(ขึ้นพระกรรมฐาน)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(ว่า  ๓ หน)
                      พุทธัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
อิติปิโส ภะคะวา  อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จะระณะสัมปันโน 
สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ  สัตถา 
เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
               เย จะ พุทธา อะตีตา  จะ,                  เย จะ พุทธา อะนาคะตา,
               ปัจจุปปันนา จะ เย พุทธา,                อะหัง วันทามิ สัพพะทา,
               พุทธานาหัสมิ ทาโสวะ,                   พุทธา เม สามิกิสสะรา,
               พุทธานัญ จะ สิเร ปาทา,                  มัยหัง ติฎฐันตุ สัพพะทาฯ
               นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง,                 พุทโธ เม สะระณัง วะรัง,
               เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ,                   โหตุ เม ชัยมังคะลัง ฯ
               อุตตะมังเคนะ วันเทหัง,                   ปาทปังสุง วะรุตตะมัง,
               พุทเธ โย ขะลิโต โทโส,                   พุทโธ ขะมะตุ ตัง มะมัง ฯ
(กราบแล้วหมอบลงว่า)
               ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระพุทธเจ้า แลคุณพระพุทธเจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน แลข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระพุทธเจ้าอันเป็น อดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลนานทุกเมื่อ แลข้าฯจะขอมอบตัวเป็นข้าแห่งพระพุทธเจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นเจ้า เป็นใหญ่แก่ข้าฯ ขอพระบาทบาทาของพระพุทธเจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลนานทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ข้าฯไหว้ละอองธุลีพระบาท ทั้งพระลายลักษณ์สุริยะฉาย ชัยมงคลทั้งหลาย จงมาบังเกิดมีแก่ข้าด้วยคำสัจนี้เถิด ฯ
               อนึ่ง โทษอันใด ข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระพุทธเจ้า อันเป็น อดีต อนาคต ปัจจุบัน ขอพระพุทธเจ้าจงมาอดโทษ ทั้งปวงนั้น ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด ฯ
(กราบ)
                   ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ ฯ
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก  เอหิปัสสิโก  โอปะนะยิโก   ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ
               เย จะ ธัมมา อะตีตาจะ,                    เย จะ ธัมมา อะนาคะตา,
               ปัจจุปปันนา จะ เย ธัมมา,                 อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ
               ธัมมานาหัสสมิ ทาโสวะ,                 ธัมมา เม สามิกิสสะรา,
               สัพเพ ธัมมาปิ ติฏฐันตุ,                    มะมัง สิเรวะ สัพพะทาฯ
               นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง,                 ธัมโม เม สะระณัง วะรัง,
               เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ,                    โหตุ เม ชัยมังคะลัง ฯ
               อุตตะมังเคนะ วันเทหัง,                   ธัมมัญ จะ ทุวิธัง วะรัง,
               ธัมเม โย ขะลิโต โทโส,                    ธัมโม ขะมะตุ ตัง มะมังฯ
(กราบแล้วหมอบลงว่า)
               ข้าฯจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระปริยัติธรรมเจ้า แลคุณพระนวโลกุตตระธรรมเจ้า และคุณพระธรรมเจ้าในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่ พึ่งแก่ข้า ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งมวล  อันเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันสิ้นกาลนานทุกเมื่อ แลข้าฯจะขอมอบตัวเป็นข้าแห่งพระธรรมเจ้า ขอพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้นจงมาเป็นเจ้า เป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาพระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้น จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าฯสิ้นกาลนานทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ ถ้าเว้นไว้แต่พระธรรมเจ้าทั้งมวลนั้น เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระธรรมจ้าทั้งสองประการ ขอพระธรรมเจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิดฯ
(กราบ)                                   
               สังฆัง ชีวิตตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
               สุปฏิปันโน ภะคะวะโต     สาวะกะสังโฆ, อุชุปฏิปันโน      ภะคะวะโต     สาวะกะสังโฆ, ญายะปฏิปันโน  ภะคะวะโต     สาวะกะสังโฆ, สามีจิปฏิปันโน  ภะคะวะโต      สาวะกะสังโฆ,  ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ
                   เย จะ สังฆา อะตีตา จะ                    เย จะ สังฆา อะนาคะตา
               ปัจจุปปันนา จะ เย สังฆา                  อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ
               สังฆานาหัสสะมิ ทาโสวะ                สังฆา เม สามิกิสสะรา
               เตสัง คุณาปิ ติฏฐันตุ                        มะมัง สิเรวะ สัพพะทา ฯ
               นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง                  สังโฆ เม สะระณัง วะรัง
               เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ,                    โหตุ เม ชัยมังคะลังฯ
               อุตตะมัง เคนะ วันเทหัง,                  สังฆัญ จะ ทุวิโทตตะมัง,
               สังเฆ โย ขะลิโต โทโส                    สังโฆ ขะมะตุ ตัง มะมัง ฯ
(หมอบกราบแล้วว่า)
               ข้าฯขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระอริยะสงฆ์เจ้า แลคุณแห่งพระอริยะสงฆ์เจ้า ในอดีต อนาคต ปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน แลข้าฯจะขอนมัสการกราบไหว้พระอริยะสงฆ์เจ้าอันเป็น อดีต อนาคต ปัจจุบัน สิ้นกาลนานทุกเมื่อ แลข้าฯจะขอมอบตัวเป็นข้าฯแห่งพระอริยะสงฆ์เจ้า ขอพระอริยะสงฆ์เจ้าจงมาเป็นเจ้า เป็นใหญ่แก่ข้าฯ ข้าฯขออาราธนาคุณแห่งพระอริสงฆ์เจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าฯแห่งข้าฯสิ้นกาลนานทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นจะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าฯหามิได้ถ้าเว้นไว้แต่พระอริยะสงฆ์เจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯเที่ยงแท้นักหนา  ชัยมงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดมีแก่ข้าฯด้วยคำสัจนี้เถิด ข้าฯขอกราบไหว้พระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งสองประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าฯได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ ขอพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งสองประการ จงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ ข้าพระพุทธเจ้านั้นเถิดฯ
(กราบ)
คำขอขมา ก่อนอาราธนานั่ง
อุกาสะ วันทามิ ภันเต, สัพพัง อะปะราธัง, ขะมะถะ เม ภันเต, มะยา กะตัง ปุญ  ญัง สามินา อนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง   ทาตัพพัง   สาธุ สาธุ อนุโมทามิ สัพพัง  อะปะราธัง ขะมะถะ เม  ภันเต,
   สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต, อุกาสะ  ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต,  อุกาสะ ขะมามิ ภันเต  (กราบ ๑ ครั้ง)
                                               คำอาราธนาเมื่อนั่งพระกรรมฐาน
ข้าฯขอภาวนาพระพุทธคุณเจ้า เพื่อจะขอเอายังพระลักษณะ (พระรัศมี) 
 พระขุททะกาปีติธรรมเจ้า นี้จงได้ ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นที่พึ่ง แก่ข้าฯนี้เถิดฯ
ขอพระธรรมเจ้าทั้งมวลจงมาเป็นที่พึ่ง แก่ข้าฯนี้เถิดฯขอพระอริยะสงฆ์เจ้า
 ตั้งแรกแต่    พระมหาอัญญาโกญฑัญญะเถรเจ้าโพ้นมา ตราบเท่าถึง
พระสงฆ์สมมุติในกาลบัดนี้ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯนี้เถิดฯ
ขอพระอริยะสงฆ์องค์ต้น อันสอนพระกรรมฐานเจ้าทั้งมวล
จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯนี้เถิดฯ    ขอพระกรรมฐานเจ้าทั้งมวล จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าฯ
นี้เถิดฯ
อุกาสะ อุกาสะ ในที่นี้เล่า ข้าฯจะขอปฏิบัติบูชาตามคำสั่งสอนของ
พระสัพพัญญูโคดมเจ้าเพื่อจะขอเอายัง พระลักษณะ (พระรัศมี)
พระขุททกาปีติธรรมเจ้า นี้จงได้ ขอจงเจ้ากูมาปรากฏบังเกิดอยู่ใน
จักขุทวาร มโนทวาร กายทวาร แห่งข้าฯในขณะเมื่อข้าฯนั่งภาวนาอยู่นี้เถิดฯ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง  สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต
โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสารถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
                               สัมมาอะระหัง     สัมมาอะระหัง     สัมมาอะระหัง
                                        อะระหัง      อะระหัง     อะระหัง
(องค์ภาวนา พุท-โธ .ให้ตั้งจิตคิด นึก รู้ อยู่ใต้นาภี คือสะดือ ๒ นิ้วมือ)
พระปีติธรรม ๕ ประการ
            ๑.พระขุททะกาปีติธรรมเจ้า         
           ๒.พระขะณิกาปีติธรรมเจ้า         
           ๓.พระโอกกันติกาปีติธรรมเจ้า   
           ๔.พระอุพเพงคาปีติธรรมเจ้า     
          ๕.พระผะระณาปีติธรรมเจ้า   

     
 http://www.somdechsuk.org/node/298

[ขอเชิญทุกท่านร่วมฟังการบรรยายธรรมและปฏิบัติธรรมณ ห้องชมรมพุทธ บมจ.ทีโอที อาคาร 5 ชั้น ๓สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ เวลา ๑๒.๐๐ น.วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556หลวงพ่อทอง จนทสิริ... วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการและถวายภัตตาหารเวลา ๐๘.๐๐ น.สอบถามรายละเอียดได้ที่ ๐๘๑-๔๐๗-๗๒๕๖]

ขอเชิญทุกท่านร่วมฟังการบรรยายธรรมและปฏิบัติธรรม
ณ ห้องชมรมพุทธ บมจ.ทีโอที อาคาร 5 ชั้น ๓
สำนักงานใหญ่ แจ้งวัฒนะ เวลา ๑๒.๐๐ น.

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556
หลวงพ่อทอง จนทสิริ
... วัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
และถวายภัตตาหารเวลา ๐๘.๐๐ น.
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ๐๘๑-๔๐๗-๗๒๕๖

ศูนย์พัฒนาคุณธรรม มมร วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่
๑ แชร์ = ๑ ความดี
บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติฯ ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่

ขอเชิญชวนทุกท่านศึกษาภาษาบาลี เพื่อความเข้าใจในพระพุทธศาสนาอย่างแจ่มแจ้ง เพราะภาษาบาลีเปรียบเสมือนกุญแจไขตู้พระไตรปิฎก ให้ผู้ศึกษาได้แตกฉานในอรรถในธรรม เพื่อดำรงพระศาสนาไว้สืบต่อไป... เรียนทุกวันอาทิตย์เวลา ๙.๐๐-๑๒.๐๐ เริ่ม ๑๒ พ.ค. นี้ (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ชื่อหลักสูตร หลักสูตรภาษาบาลีเบื้องต้น มหาบาลีวิชชาลัย 1 ปี
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้พื้นฐานภาษาบาลีเพื่อการศึกษาวิชาการทางพุทธศาสนาต่อไป เช่น ศึกษาอภิธรรม หรือศึกษาบาลีชั้นสูงขึ้นไป และเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติธรรมเฉพาะตน ผู้เรียนจบหลักสูตรนี้ จะรู้คำศัพท์และธาตุกิริยาภาษาบาลี 4,000 คำ

เนื้อหาที่เรียน
1. ศึกษาความเป็นมา ความสำคัญ อิทธิพลของภาษาบาลีต่อพระพุทธศาสนาและภาษาไทย ศึกษาประวัติคัมภีร์และระดับชั้นคัมภีร์ทางพุทธศาสนา ความสำคัญของคัมภีร์ต่าง ๆ
2. เรียนไวยากรณ์บาลีพื้นฐาน (อักขรวิธี นาม อาขยาต กิตก์ สมาส ตัทธิท หลักการแปล หลักสัมพันธ์ ฯลฯ)
3. เรียนแปลภาษาบาลี (โดยแปลแบบยกศัพท์ แปลโดยพยัญชนะ แปลโดยอรรถ) ฝึกหัดแปลคำภาษาบาลีที่พบในชีวิตประจำวน แปลพระธรรมบทและพระสูตรสำคัญ ๆ เช่น มัคควิภังคสูตร อนัตตลักขณสูตร มหาสติปัฏฐานสูตร ฯลฯ
4. เรียนแต่งภาษาไทยเป็นภาษาบาลีแบบง่าย ๆ

แนวการเรียนการสอน
1. บรรยายและฝึกปฏิบัติระหว่างเรียนทุกวัน (มีสัมมนาและบรรยายพิเศษบางหัวข้อ/บางวัน)
2. หนังสือ ตำราเรียน แจกฟรี (ตำราเรียนประมาณ 8 เล่ม)
คณะผู้สอน
1. พระอาจารย์พระเปรียญ ผู้ชำนาญในภาษาบาลีและเทคนิคการสอน
2. อาจารย์ผู้ชำนาญในภาษาบาลีและเทคนิคการสอน

เดือนละครั้ง ทุกวันเพ็ญ ตลอดปี ๒๕๕๖
สวนโมกข์กรุงเทพ และ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ขอเชิญชาวกรุงมาร่วมภาวนากลางดิน ในคืนเพ็ญ
ในงาน เพ็ญภาวนา ปฏิบัติบูชา "ญาณสังวร"
ที่สวนปทุมวนานุรักษ์ (หลังสยามพารากอน)

ครั้งถัดไป วันอังคารที่ ๒๖ มีนาคม
ณ สวนปทุมวนานุรักษ์ หลังสยามพารากอน
เวลา ๑๖.๓๐ - ๒๑.๐๐ น.

[ กำหนดการ ]

๑๖.๓๐ – ๑๗.๓๐ น. ผู้เข้าร่วมงานลงทะเบียน รับของที่ระลึก
๑๗.๓๐ – ๑๘.๓๐ น. ดนตรีมีธรรมกับ ลุลา
๑๘.๓๐ – ๑๙.๓๐ น. เสวนาธรรมร่วมสมัย หัวข้อ “พื้นที่ภาวนากลางกรุง พื้นที่สงบกลางใจ” กับ “นิ้วกลุม” สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์, นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, ปาล์ม ชลณัฐ โกยกุล
๑๙.๓๐ – ๒๐.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น
๒๐.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ธรรมบรรยายแล้วร่วมภาวนากับครูบาอาจารย์ พระอาจารย์สว่าง กัลยาโณ วัดป่าคำเจริญ จังหวัดศรีสะเกษ ศิษย์อาวุโสของพระอาจารย์ชา ผู้ออกฝึกฝนภาวนาถือธุดงค์ทั่วภาคอีสานและเหนือ มีศิลปะในการถ่ายทอดแสดงธรรมได้ชวนฟัง โดยเฉพาะประสบการณ์การภาวนาในป่าเขา

แผนที่ ดูได้จาก http://bit.ly/YLeBvB

พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo

 

หลวงพ่อมรณภาพในอิริยาบถนั่งพับเพียบ


แจ้งข่าวการมรณภาพหลวงพ่อองค์หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน (พระครูวิทิตศาสนกิจ)
เจ้าอาวาสวัดดอยปุย จ.เชียงใหม่

จ้งข่าวการมรณภาพแก่ศิษยานุศิษย์ที่มีความเคารพทุกท่านได้รับทราบ ด้วยองค์หลวงพ่อองค์หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน (พระครูวิทิตศาสนกิจ) เจ้าอาวาสวัดดอยปุย จ.เชียงใหม่ ได้มรณภาพ สิริอายุรวม ๗๔ ปี

กำหนดการเบื้องต้น
จะตั้งสรีระสังขารของท่านบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์ดอยปุย จนครบมรณภาพได้ ๗ วันจึงจะมีกำหนดการต่อไป ขณะนี้ เจ้าคณะตำบลช้างเผือก ท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมล วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร รักษาการเจ้าอาวาสชั่วคราว พรุ่งนี้ จะสรงน้ำสรีระท่านตอน ๑๓.๐๐ น. ถวายน้ำหลวงอาบศพ เวลา ๑๕.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์โดย หลวงพ่อวัดสันติธรรม และสวดพระอภิธรรมต่อ เวลา ๒๐.๐๐ น.

http://www.watpachoenglane.com

ที่จอดรถ ที่ จุดที่หนึ่ง กว้างขวาง
http://www.unseentourthailand.com/webboard/photo/39223922.jpg

บนเรือจะมีมัคคุเทศน์น้อย ที่เป็นนักเรียน มาให้บริการให้ข้อมูล ความเป็นมาและความสำคัญของแต่ละวัด
ซึ่งมัคคุเทศน์น้อยก็จะมีการสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัดไม่ซ้ำกันด้วย

วัดที่ไปไหว้พระ มีดังนี้
วัดที่ 1 และสถานที่จัดงาน วัดใหญ่สว่างอารมณ์
วัดที่ 2 วัดเสาธงทอง
วัดที่ 3 วัดไผ่ล้อม
วัดที่ 4 วัดปรมัยฯ
วัดที่ 5 วัดฉิมพลี
วัดที่ 6 วัดกลางเกร็ด
วัดที่ 7 วัดเชิงเลน
วัดที่ 8 วัดท่าอิฐ
วัดสุดท้าย วัดที่ 9 วัดแสงสิริธรรม






   
   
ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด เกาะเกร็ด ฟรี (ทุกวันเสาร์-อาทิตย์)
« เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 09:54:40 PM »
   





ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด เกาะเกร็ด ฟรี
พร้อมเที่ยวชมตลาดริมน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์
โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี

ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ จนถึง กันยายน 2553 เรือออกตลอดทั้งวันตั้งแต่ เวลา 09.00-14.00 น.
จะมาเวลาใดก็ได้ค่ะ เพราะเรือออกทุกชั่วโมง หรือเมื่อคนเต็มเรือก็ออกได้ทันที

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 081-3985806, 081-4039650



แผนที่เดินทางมาวัดใหญ่สว่างอารมณ์



ที่จอดรถในบริเวณวัดใหญ่สว่างอารมณ์ที่ใหญ่โตกว้างขวาง
และมีลาดจอดรถหลายลานให้เลือกจอดได้ตามสบาย



เส้นทางล่องเรือไหว้พระ 9 วัด



เรือที่ให้บริการล่องเรือไหว้พระ 9 วัดเกาะเกร็ด มีหลายลำแต่ทุกลำจะมีป้ายสีแดงอย่างที่เห็นนี้ทุกลำ

ระหว่างที่เรือแวะจอดไหว้พระแต่ละจุด เราสามารถเลือกกลับด้วยเรือลำไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรือลำเดิม
เพราะจะมีเรือรับ-ส่ง หมุนเวียนมาจอดตลอดทั้งวัน

หมายเหตุ
แต่ต้องเป็นเรือที่มีป้ายสีแดงนี้เท่านั้น เดี๋ยวจะหลงไปขึ้นลำอื่นละก็ยุ่งเลย



บนเรือจะมีมัคคุเทศน์น้อย ที่เป็นนักเรียน มาให้บริการให้ข้อมูล ความเป็นมาและความสำคัญของแต่ละวัด
ซึ่งมัคคุเทศน์น้อยก็จะมีการสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัดไม่ซ้ำกันด้วย

วัดที่ไปไหว้พระ มีดังนี้
วัดที่ 1 และสถานที่จัดงาน วัดใหญ่สว่างอารมณ์
วัดที่ 2 วัดเสาธงทอง
วัดที่ 3 วัดไผ่ล้อม
วัดที่ 4 วัดปรมัยฯ
วัดที่ 5 วัดฉิมพลี
วัดที่ 6 วัดกลางเกร็ด
วัดที่ 7 วัดเชิงเลน
วัดที่ 8 วัดท่าอิฐ
วัดสุดท้าย วัดที่ 9 วัดแสงสิริธรรม



วัดที่ 1 วัดใหญ่สว่างอารมณ์
ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.1963 เดิมชื่อวัดน้อย ต่อมาเปลี่ยนเป็นวัดใหญ่ยิ่ง หลังเสียกรุง ร้างมาจน พ.ศ. 2463 พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส
เสด็จมาประทับ 26 มิ.ย. - 11 ก.ค. 2463 (47 วัน) ทรงสร้างวัดประทานนามว่า วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ขอพรให้จิตใจสว่างไสวปัญญาเลิศ



ที่เห็นอยู่ข้างหน้ามีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ริมน้ำ คือวัดบางจาก
เรือจอดแวะให้เข้าไปไหว้พระ เดินลอดใต้พระอุโบสถเพื่อเป็นสิริมงคล และมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน



รูปปั้นชูชก ที่วัดบางจาก ว่ากันว่าหากเอากระเป๋าสตางค์ของเราไปแนบกับกระเป๋าชูชก จะทำให้มีเงินทองไม่ขาดกระเป๋า ร่ำรวย เฮง เฮง



วัดที่ 2 วัดเสาธงทอง
ตั้งเมื่อ พ.ศ. 2313 เดิมชื่อวัดสวนหมาก พระประธานปางมารวิชัย มีพระเจดีย์ 3 องค์ 3 แบบ ต้นยางอายุ 200 ปี
และบ่อน้ำมนต์หลวงตากลับอันศักดิ์สิทธิ์ ขอพรให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้



สิ่งที่สำคัญ ภายในวัดเสาธงทอง
- ต้นยาง อายุ 200 กว่าปี
- ศาลสองกุมารผมจุก
- ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง
- พระเจดีย์



ภายในบริเวณวัดเสาธงทอง



หลังจากไหว้พระวัดเสาธงทองเสร็จแล้ว ไม่ต้องกลับไปขึ้นเรือ
เนื่องจากวัดที่ 3 (วัดไผ่ล้อม)และวัดที่ 4 (วัดปรมัยยิกาวาส)สามารถเดินไปได้ไม่ไกล และผ่านตลาดขายของที่ระลึกของเกาะเกร็ด
ที่เป็นระยะทางยาวไปจนถึงวัดปรมัยยิกาวาส ประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีของขายไปตลอดทาง ให้เลือกซื้อเลือกชม
ไม่ต้องรีบร้อนไปขึ้นเรือที่ท่าวัดปรมัยยิกาวาส เพราะมีเรือมารอรับส่งตลอดทั้งวัน (ไม่ต้องกลัวตกเรือ) งานนี้ถือว่าได้ช้อปปิ้งไปด้วย
ไหว้พระไปด้วยได้ตลอดทั้งวัน



วัดที่ 3 วัดไผ่ล้อม
ตั้งเมื่อ พ.ศ.2313 แต่สร้างไม่แล้วเสร็จ พ.ศ.2318 พระยาเจ่ง นำชาวมอญมาสร้างต่อจนแล้วเสร็จ มีพระเจดีย์เก่าแก่ 2 องค์หน้าพระอุโบสถ
ด้านหลังมีพระเจดีย์ชเวดากองจำลอง ขอพรให้ลงทุนแล้วได้ผลกำไรเช่นการปลูกต้นไผ่



ภายในพระอุโบสถและรูปปั้นไก่ที่คนนิยมมาถ่ายภาพกันตรงนี้



มุมนั่งพักสุดคลาสสิกภายในวัดไผ่ล้อม



หอระฆังเก่าและบริเวณกุฏิพระในบริเวณวัดไผ่ล้อม



วัดที่ 4 วัดปรมัยยิกาวาส
สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมชื่อวัดปากอ่าว ชาวมอญมาบูรณะ จน พ.ศ.2417 รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างใหม่ทั้งหมด
และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยพระองค์เอง ยังเป็นที่ประดิษฐานพระนนทมุนินท์ พระประจำจังหวัดนนทบุรี
และพระหยกขาวจากพม่า ขอพรให้ลูกหลานกตัญญู เลี้ยงดูเมื่อแก่

ภายในวัดปรมัยยิกาวาส มีพระเจดีย์แบบมอญ ลักษณะเป็นพระเจดีย์ทรงระฆังเตี้ย สัญลักษณ์ของเกาะเกร็ด



ไหว์พระเสร็จเดินไปดูของโบราณที่
พิพิธภัณฑ์ ร.5 หอไทยนิทัศน์ เครื่องปั้นดินเผา
อยู่ในบริเวณวัดปรมัยยิกาวาส
วันธรรมดา จันทร์ - ศุกร์ เปิดเวลา 13.00 - 16.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดเวลา 09.00 - 17.00 น.



บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์



วัดที่ 5 วัดฉิมพลี
สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย อยู่ริมแม่น้ำลัดเกร็ด เป็นที่สักการะของชาวเดินเรือพระอุโบสถตกท้องเรือสำเภา
รัชกาลที่ 2 ทรงบูรณะวัดใหม่ หน้าบันจำหลักพระจันทร์ทรงรถ ขอพรให้ได้กำไรต่อเนื่อง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2010, 09:57:15 PM โดย lifephoto »    บันทึกการเข้า
   
   

lifephoto
Administrator
Hero Member
*

ความมีน้ำใจ +1/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID: 3
กระทู้: 1179

Level 27 : Exp 89%
HP: 71.9%


   
   
Re: ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด เกาะเกร็ด ฟรี (ทุกวันเสาร์-อาทิตย์)
« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2010, 10:05:14 PM »
   



วัดที่ 6 วัดกลางเกร็ด
สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย อยู่ริมแม่น้ำลัดเกร็ด เป็นที่สักการะของชาวเรือขาขึ้น มีหลวงพ่อโต และพระพุทธไสยาทส์
ยาว 22 เมตร เป็นที่ศรัทธาเลื่อมไสของประชาชน ขอพรให้ค้าขายได้กำไรเจริญรุ่งเรือง



วัดที่ 7 วัดเชิงเลน
สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายพร้อมกับ วัดท้ายอ่าว(บ้านเกร็ดตระกานต์) วัดเชิงท่า และวัดหน้าโบสถ์(กรมชลประทาน)
อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดตัดแม่น้ำลัดเกร็ด มีความลึกและน้ำเชี่ยวมาก เป็นที่ปฏิบัติธรรมและโรงเรียนสอนพระเณร
มีถาวรวัตถุที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง ขอพรให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง



วัดที่ 8 วัดท่าอิฐ
พระเจ้ากรุงธนประกาศเป็นที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อนำดินบริเวณนี้ผสมกับแกลบอัดเป็นก้อนเผาทำอิฐ นำลงเรือไปสร้างพระราชวัง
ทั้งกรุงธนบุรีและกรุงเทพฯ และยกเป็นที่ธรณีสงฆ์ สร้างวัดประมาณ พ.ศ.2316 เพื่อให้ชุมชนคนปั้นอิฐเผามีวัดไว้ทำบุญ ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์
ได้ให้ชาวมุสลิมมาอาศัยที่ทรัพย์สิน ต่อมาตลิ่งทลายลง ชุมชนมุสลิมจึงจับจองที่ดินรอบวัดตั้งชุมชนใหม่ ในวัดมีพระพุทธรูปแบบอินเดียปางเดียว
ในเมืองไทยประดิษฐานในศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ขอพรให้วงศ์ตระกูลมั่นคง เข้มแข็ง มั่งคั่ง ยั่งยืน ดังพระบรมมหาราชวัง



ที่วัดแสงสิริธรรมมีตลาดริมน้ำให้คุณแวะชิม แวะช้อป และรอเรือมารับ



เรือจะส่งคุณกลับที่ท่าเรือวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ถ้าพอมีเวลาแวะซื้อของกิน ของฝากกลับบ้านได้ที่ "ตลาดริมน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์"

ที่นี่มีการจำหน่ายสินค้าของเกษตรกร ผู้ผลิตไม้ดอกไม้ประดับ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมผลิตภัณฑ์สินค้าของกลุ่มแม่บ้าน
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโอท็อป ให้เลือกซื้อหากันได้ตามอัธยาศัย


ขอบคุณข้อมูล unseentourthailand

http://fws.cc/lifephoto/index.php?topic=184.0

"ริมถนน อ.หาดใหญ่ นายขำ ศรีเจริญ อายุ 85 ปี ครองชีวิตชายโสดจนชรา ขายที่ดิน 25ไร่ ได้ 1.5 ล้านบาท บริจาคเป็นมูลนิธิการศึกษาสงฆ์หมด ไม่เหลือแม้สักบาทเดียวเพื่อตนเอง"

ขอบคุณภาพข่าวจาก : Thanjan Santiasoke

จากเฟส http://www.facebook.com/social.news.online

[รายนาม พระอนุพุทธะ ทั้ง 80 รูป ใครรู้จักประวัติหมดแล้วบ้าง ยกมือ ถ้ายังเชิญเข้ามาอ่านก่อน1)พระอัญญาโกณทัญญะ 2)พระวัปปะ3)พระภัททิยะ 4)พระมหานามะ5)พระอัสสชิ6)พระนาลกะ 7)พระยสะ 8)พระวิมละ 9)พระสุพาหุ 10)พระปุณณชิ 11)พระควัมปติ 12)พระอุรุเวลกัสสปะ 13)พระนทีกัสสปะ 14)พระคยากัสสปะ 15)พระสารีบุตร 16)พระมหาโมคคัลลานะ 17)พระมหากัสสปะ 18)พระมหากัจจานะ 19)พระมหาโกฏฐิตะ 20)พระมหากัปปินะ 21)พระมหาจุนทะ 22)พระอนุรุทธะ 23)พระกังขาเรวัตตะ 24)พระอานนท์ 25)พระนันทกะ 26)พระภคุ 27)พระนันทะ 28)พระกิมพิละ 29)พระภัททิยะ(กาฬิโคธาบุตร)30)พระราหุล 31)พระสีวลี 32)พระอุบาลี 33)พระทัพพะ(มัลลบุตร) 34)พระอุปเสนะ(วังคันตบุตร)35)พระขทิรวนิยเรวตะ 36)พระปุณณมันตานีบุตร 37)พระปุณณะ(สุนาปรันตกะ)38)พระโสณกุฏิกัณณะ 39)พระโสณโกฬิวิสะ 40)พระราธะ 41)พระสุภูติ 42)พระองคุลิมาล 43)พระวักกลิ 44)พระกาฬุทายี 45)พระมหาอุทายี 46)พระปิลินทวัจฉะ47)พระโสภิตะ 48) พระกุมารกัสสปะ 49)พระรัฐบาล 50)พระวังคีสะ 51)พระสภิยะ 52)พระเสละ 53)พระอุปวาณะ 54)พระเมฆิยะ 55)พระสาคตะ 56)พระนาคิตะ 57)พระลกุนฑกภัททิยะ 58)พระปิณโฑลภารทวาชะ 59)พระมหาปันถก 60)พระจูฬปันถก 61)พระพากุละ 62)พระกุณฑธานะ 63)พระพาหิยะ(ทารุจีริยะ)64)พระยโสชะ 65)พระอชิตะ 66)พระติสสะเมตเตยยะ67)พระปุณณกะ 68)พระเมตตคู 69)พระโธตกะ70)พระอุปสีวะ71)พระนันทะ 72)พระเหมกะ 73)พระโตเทยยะ 74)พระกัปปะ75)พระชตุกัณณี 76)พระภัทราวุธ 77)พระอุทยะ 78)พระโปสาละ 79)พระโมฆะราช 80)พระปิงคิยะ]

รายนาม พระอนุพุทธะ ทั้ง 80 รูป ใครรู้จักประวัติหมดแล้วบ้าง ยกมือ ถ้ายังเชิญเข้ามาอ่านก่อน

1)พระอัญญาโกณทัญญะ
2)พระวัปปะ
3)พระภัททิยะ
4)พระมหานามะ
5)พระอัสสชิ
6)พระนาลกะ
7)พระยสะ
8)พระวิมละ
9)พระสุพาหุ
10)พระปุณณชิ
11)พระควัมปติ
12)พระอุรุเวลกัสสปะ
13)พระนทีกัสสปะ
14)พระคยากัสสปะ
15)พระสารีบุตร
16)พระมหาโมคคัลลานะ
17)พระมหากัสสปะ
18)พระมหากัจจานะ
19)พระมหาโกฏฐิตะ
20)พระมหากัปปินะ
21)พระมหาจุนทะ
22)พระอนุรุทธะ
23)พระกังขาเรวัตตะ
24)พระอานนท์
25)พระนันทกะ
26)พระภคุ
27)พระนันทะ
28)พระกิมพิละ
29)พระภัททิยะ(กาฬิโคธาบุตร)
30)พระราหุล
31)พระสีวลี
32)พระอุบาลี
33)พระทัพพะ(มัลลบุตร)
34)พระอุปเสนะ(วังคันตบุตร)
35)พระขทิรวนิยเรวตะ
36)พระปุณณมันตานีบุตร
37)พระปุณณะ(สุนาปรันตกะ)
38)พระโสณกุฏิกัณณะ
39)พระโสณโกฬิวิสะ
40)พระราธะ
41)พระสุภูติ
42)พระองคุลิมาล
43)พระวักกลิ
44)พระกาฬุทายี
45)พระมหาอุทายี
46)พระปิลินทวัจฉะ
47)พระโสภิตะ
48) พระกุมารกัสสปะ
49)พระรัฐบาล
50)พระวังคีสะ
51)พระสภิยะ
52)พระเสละ
53)พระอุปวาณะ
54)พระเมฆิยะ
55)พระสาคตะ
56)พระนาคิตะ
57)พระลกุนฑกภัททิยะ
58)พระปิณโฑลภารทวาชะ
59)พระมหาปันถก
60)พระจูฬปันถก
61)พระพากุละ
62)พระกุณฑธานะ
63)พระพาหิยะ(ทารุจีริยะ)
64)พระยโสชะ
65)พระอชิตะ
66)พระติสสะเมตเตยยะ
67)พระปุณณกะ
68)พระเมตตคู
69)พระโธตกะ
70)พระอุปสีวะ
71)พระนันทะ
72)พระเหมกะ
73)พระโตเทยยะ
74)พระกัปปะ
75)พระชตุกัณณี
76)พระภัทราวุธ
77)พระอุทยะ
78)พระโปสาละ
79)พระโมฆะราช
80)พระปิงคิยะ


ขอบคุณภาพจาก http://2.bp.blogspot.com

แม้ไม่ใช่เจ้าของทาน แต่ร่วมให้ทานด้วยความเคารพ ก็ได้ผลมากกว่าเจ้าของทานที่ไม่ให้ความเคารพในทาน ดังพระสูตรนี้ที่ปรากฏ เรื่องราวของนรกสวรรค์ ในพระไตรปิฏก




พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค

๑๐. ปายาสิราชัญญสูตร (๒๓)


     [๓๒๙] ลำดับนั้น เจ้าปายาสิ เริ่มให้ทานแก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า
คนเดินทาง วณิพกและยาจกทั้งหลาย แต่ในทานนั้นเธอได้ให้โภชนะเห็นปานนี้
คือปลายข้าว ซึ่งมีน้ำผักดองเป็นกับข้าว และได้ให้ผ้าเนื้อหยาบ มีชายขอดเป็น
ปมๆ และมาณพชื่ออุตตระ เป็นเจ้าหน้าที่ในทานนั้น เขาให้ทานแล้วอุทิศอย่างนี้ว่า
ด้วยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าร่วมกับเจ้าปายาสิในโลกนี้เท่านั้น อย่าได้ร่วมกันในโลก
หน้าเลย เจ้าปายาสิได้ทรงสดับข่าวนั้นแล้ว รับสั่งให้เรียกอุตตรมาณพมาแล้ว
ได้ตรัสว่า พ่ออุตตระ ได้ยินว่า เธอให้ทานแล้วอุทิศอย่างนี้ทุกครั้งว่า ด้วยทานนี้
ขอให้ข้าพเจ้าร่วมกับเจ้าปายาสิในโลกนี้เท่านั้น อย่าได้ร่วมกันในโลกหน้าเลย
ดังนี้หรือ ฯ
             อย่างนั้น พระองค์ ฯ
             พ่ออุตตระ ก็เพราะเหตุไร เธอให้ทานแล้ว จึงอุทิศอย่างนั้นเล่า พ่ออุตตระ
พวกเราต้องการบุญ หวังผลแห่งทานแท้ๆ มิใช่หรือ ฯ
             ในทานของพระองค์ยังให้โภชนะเห็นปานนี้ คือปลายข้าว ซึ่งมีน้ำผักดอง
เป็นกับข้าว พระองค์ไม่ทรงปรารถนาจะถูกต้องแม้ด้วยพระบาท ไฉนจะทรงบริโภค
อนึ่งเล่า ผ้าก็เนื้อหยาบ มีชายขอดเป็นปมๆ พระองค์ไม่ทรงปรารถนาจะถูกต้อง
แม้ด้วยพระบาท ไฉนจะทรงนุ่งห่ม พระองค์เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของพวก
ข้าพระพุทธเจ้า พวกข้าพระพุทธเจ้าจะชักจูงผู้ซึ่งเป็นที่รัก เป็นที่พอใจไปด้วยสิ่ง
ไม่เป็นที่พอใจอย่างไรได้ ฯ
             พ่ออุตตระ ถ้าอย่างนั้น เราบริโภคโภชนะชนิดใด เธอจงเริ่มตั้งไว้ซึ่ง
โภชนะชนิดนั้นเป็นทาน เรานุ่งห่มผ้าชนิดใด เธอจงเริ่มตั้งไว้ซึ่งผ้าชนิดนั้นเป็นทาน
อุตตรมาณพ รับพระดำรัสเจ้าปายาสิแล้ว เริ่มตั้งไว้ซึ่งโภชนะชนิดที่เจ้าปายาสิเสวย
และเริ่มตั้งไว้ซึ่งผ้าชนิดที่เจ้าปายาสิทรงนุ่งห่ม เพราะเหตุที่เจ้าปายาสิมิได้ทรงให้
ทานโดยเคารพ มิได้ทรงให้ทานด้วยพระหัตถ์พระองค์เอง มิได้ทรงให้ทานโดย
ความนอบน้อม ทรงให้ทานอย่างทิ้งให้ ครั้นสิ้นพระชนม์แล้ว เข้าถึงความเป็น
สหายกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราช คือ ได้วิมาน ชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า ส่วน
อุตตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้น ให้ทานโดยเคารพ ให้ทาน
ด้วยมือของตน ให้ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่
ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คือถึงความเป็นสหายกับพวกเทพชั้น
ดาวดึงส์ ฯ
             [๓๓๐] ก็โดยสมัยนั้น ท่านพระควัมปติเถระไปพักกลางวันยังเสรีสก
วิมานอันว่างเปล่าเนืองๆ ลำดับนั้น ปายาสิเทวบุตรเข้าไปหาท่านควัมปติถึงที่อยู่
แล้วอภิวาท ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ท่านควัมปติได้กล่าวถามปายาสิเทว-
*บุตรว่า ท่านผู้มีอายุ ท่านเป็นใคร ฯ
             ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าคือเจ้าปายาสิ ฯ
             ดูกรท่านผู้มีอายุ ท่านเป็นผู้มีความเห็นอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ โลกหน้า
ไม่มี เหล่าสัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นไม่มี ผลวิบากของกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่วไม่มี มิใช่หรือ ฯ
             เป็นความจริง ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความเห็นอย่างนี้ว่า แม้เพราะ
เหตุนี้ โลกหน้าไม่มี เหล่าสัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นไม่มี ผลวิบากของกรรมที่สัตว์ทำดี
ทำชั่วไม่มี แต่ว่า พระผู้เป็นเจ้ากุมารกัสสปได้ไถ่ถอนข้าพเจ้าออกจากทิฐิอันลามก
นั้นแล้ว ฯ
             ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็อุตตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของท่าน ไปเกิด
ที่ไหน ฯ
             ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อุตตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของข้าพเจ้านั้น ให้
ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วยความนอบน้อม มิได้ให้ทาน
อย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่ร่วม
กับพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ส่วนข้าพเจ้ามิได้ให้ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วย
มือของตน มิได้ให้ทานด้วยความนอบน้อม ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตาย
เพราะกายแตก ก็เข้าถึงซึ่งความอยู่ร่วมกับพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมาน
ชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า ท่านควัมปติผู้เจริญ ถ้าอย่างนั้น ท่านไปยังมนุษยโลก
แล้วโปรดบอกอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงให้ทานโดยเคารพ จงให้ทานด้วยมือของ
ตน จงให้ทานโดยความนอบน้อม จงอย่าให้ทานอย่างทิ้งให้ เจ้าปายาสิมิได้ให้
ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วยมือของตน มิได้ให้ทานโดยความนอบน้อม ให้
ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงความอยู่ร่วมกับพวกเทวดา
ชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมานชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า ส่วนอุตตรมาณพ ซึ่งเป็น
เจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้นให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้
ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก
เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่ร่วมกับพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ฯ
             ลำดับนั้น ท่านควัมปติมาสู่มนุษยโลกแล้ว ได้บอกอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย
จงให้ทานโดยเคารพ จงให้ทานด้วยมือของตน จงให้ทานโดยความนอบน้อม จง
อย่าให้ทานอย่างทิ้งให้ เจ้าปายาสิมิได้ให้ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วยมือของ
ตน มิได้ให้ทานโดยความนอบน้อม ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะ
กายแตก เข้าถึงความอยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมาน ชื่อเสรีสกะ
อันว่างเปล่า ส่วนอุตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้น ให้ทาน
โดยความเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้
ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่
ร่วมกับพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ฯ

 เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  บรรทัดที่ ๖๗๖๕ - ๗๕๕๓.  หน้าที่  ๒๗๘ - ๓๐๙.
 http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=6765&Z=7553&pagebreak=0

เรียนสอบถามการขึ้นกรรมฐาน ใหญ่ ที่จัดหลังเข้าพรรษา จะจัดขั้นวันไหนคะ

 

เข้าใช้งานเว็บไม่ได้ตั้งแต่ 20.00 น. - 21.06 น. คะ 14 มิ.ย.55
แจ้งปัญหาให้ทราบคะ เป็นช่วงที่กำลังฟัง สัญญาณวิทยุพอดีเลยคะ

 

 

["สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย" "ธรรมทั้งปวงอันใคร ๆ ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น. ข้อความส่วนนี้ อยู่พระสูตรบทไหน ใครรู้ช่วยจัดเต็ม ให้กบหน่อยคะ เห็นกำลังเป็นที่ถกเถียงกัน ในห้อง อื่น ๆ คะน้าปุ้ม ช่วยหน่อยได้หรือไม่คะ]

"สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย" "ธรรมทั้งปวงอันใคร ๆ ไม่ควรยึดมั่น ถือมั่น.

ข้อความส่วนนี้ อยู่พระสูตรบทไหน ใครรู้ช่วยจัดเต็ม ให้กบหน่อยคะ
เห็นกำลังเป็นที่ถกเถียงกัน ในห้อง อื่น ๆ คะ

น้าปุ้ม ช่วยหน่อยได้หรือไม่คะ
 

น้ำได้ท่วม เอ่อ ไม่มีที่ท่าว่าจะลด อยู่ในขณะนี้ ตลาดรังสิต ท่วมแล้ว

และ ชาว กทม ก็เตรียมตัวรับน้ำ กันได้แล้ว นะจ๊ะ

 เมื่อวานเห็นรถจอดบนทางด่วน ยาวเหยียดน่าจะประมาณ 10 กว่ากิโลได้ รถจอดยาวเลย



ประชาชนกรุงเทพฯ ย่านประชาชื่น สามเสน พงษ์เพชร งามวงศ์วาน นำรถยนต์จอดบนทางด่วนศรีรัตน ทั้งขาเข้าและขาออกจำนวนมาก หลังทราบข่าวน้ำเอ่อล้นคลองประปาเข้าท่วมถนน

นายองอาจ ปัญจมาลา ฝ่ายควบคุมจราจรการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากทยอยนำรถยนต์ขึ้นมาจอดบน ทางด่วนศรีรัตนทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกจำนวนมาก เนื่องจากรับทราบข่าวว่ามีน้ำเอ่อล้นคลองประปาในบริเวณพื้นที่ สามเสน ประชาชื่น พงษ์เพชร งามวงศ์วาน ทั้งนี้ทางการพิเศษแห่งประเทศไทย อนุโลมให้จอดเฉพาะหนึ่งเลนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยจะต้องไม่สร้างปัญหากับการจราจร แต่หากมีประชาชนท่านใดที่จอดขีดขวางก็จะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมรถยกนำไป จอดในสถานที่ปลอดภัย โดยฝากเตือนประชาชนที่นำรถขึ้นมาจอดบนทางด่วน ให้เขียนชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ติดไว้บริเวณหน้ารถ

อย่าง ไรก็ตาม ขณะนี้สภาพปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่มีพื้นที่น้ำท่วมพบว่า มีประชาชนจำนวนมากนำรถขึ้นไปจอดบนสะพานข้ามแยกต่างๆ รวมทั้งทางด่วนหลายเส้นทาง จึงส่งผลทำให้การจราจรติดขัดเป็นจำนวนมาก

http://p.media1.fsanook.com/1/10/flv/77/1543364.flv

 พระเดินบิณฑบาต ช่วยน้ำท่วมกับ หมู


ดูไม่ได้ ก็เชิญที่ลิงก์ นะคะ
http://video.sanook.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97_%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-418939-player.html

ชีวิตต้องสู้ของยายทอง
"สับเศษไม้ขายมัดละบาท" ยาย 85 ป่วยหนักสู้ชีวิตลำพัง (คมชัดลึก)

          เปิดชีวิต "ยายทองโคราช" หญิงชราวัย 85 ปี คนสู้ชีวิต ขายเศษไม้ก่อไฟมัดละบาทหาเลี้ยงชีพ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมชัดเกิดป่วยหนัก ตาเป็นต้อกระจกเริ่มมองไม่เห็น หูตึงไม่ได้ยิน คนใจบุญพาส่งหมอผ่าต้อกระจกให้ อาการดีขึ้นกลับพักฟื้นที่บ้าน ยังต้องฝืนลุกนั่งผ่าไม้มัดไว้เตรียมไปขายที่มุมตึกข้างถนน เผยชีวิตรันทดไม่มีญาติลูกหลานทะเบียนบ้าน บัตรประชาชนหายเกลี้ยง หมดโอกาสรับสิทธิสงเคราะห์ทุกอย่าง ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดไปวันๆ

ขอบคุณภาพและเนื้อหาอ่านต่อที่นี่คะ
http://hilight.kapook.com/view/34785









ขอบคุณภาพและเนื้อหาอ่านต่อที่นี่คะ

คำบางคำก็ผุดขึ้นมา ในระหว่างปฏิบัติธรรม  รู้สึกว่าเป็นคำดี  ๆ
เผื่อเวลาที่รู้จิต ไม่ถึงฐาน บางทีคำเหล่านี้อาจมีส่วนช่วยได้

"ย่นย่ออย่าเยิ่นเย้อ ย่อหย่อนยิ่งหย่อนยาน"
    ระหว่างที่ผมหัดการภาวนาแบบดูจิตใหม่ ๆ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ ภาวนาแบบ
สมถะและพิจารณากายมาตลอด 10 ปี เมื่อมาหัดแบบดูจิตใหม่ ๆ จึงเกิดความ
ฟุ้งซ่านเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเริ่มรู้แบบ "ถูกฝาถูกตัว" แบบที่หลวงพ่อมนตรี
อาภัสสโร สวนพุทธธรม ท่านเรียก  หรือที่เรียกอีกแบบหนึ่งว่า  "รู้ถึงฐาน"
ซึ่งเป็นศัพท์ของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ปราโมชฺโช สวนสันติธรรม
จึงได้เกิดคำนี้ขึ้นมา เหมือนเป็นเครื่องกระตุ้นตัวเราเองว่า ให้ย่นทางและรีบเดิน

"ดูกายเห็นจิต  ดูจิตเห็นธรรม"
    หลังจากที่ได้ภาวนาแบบดู จิตมาได้ สัก 3 ปี บางทีก็ฟุ้งซ่านมาก
บางวันก็น้อย บางวันก็ฟังธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ บางทีฟังมากเกินไป
ก็มีแต่คำสอนของท่านขึ้นมามากมาย จึงทำให้ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่
(ต้องขอขมาแด่หลวงพ่อด้วยที่ผมพูดตามตรง) แต่เมื่อมันเข้าที่แล้ว
จิตรู้ถึงฐานแล้ว  ความโล่งโปร่งเบาก็เข้ามาแทน คำนี้จึงผุดขึ้นมา
เป็นบทสรุปง่าย ๆ ของคำสอนของท่าน

"ดีแล้วพอ พอแล้วดี"
    หลังจากได้ ภาวนาแบบดูจิต ได้ 3 ปี บางทีก็มีจิตใจที่เป็นบุญกุศล จึงได้
ตั้งหน้าตั้งตาทำกุศล จนบางทีถึงกับทิ้งการภาวนาไปเลย คิดว่าเอาสติอยู่
กับงานแทน และบางทีก็เตรียมตัว เผื่อเหตุการณ์ในอนาคตมากไปหน่อย
จึงทำให้กังวล เลยทำให้ดูจิต ไม่ถึงฐาน แต่เมื่อคิดว่า ข้าน้อยขอปล่อยวาง
ทุกอย่างแล้ว (โว๊ย) อะไรจะเกิดก็ช่างหัวมัน ทั้งกุศล และอนาคต
จึงทำให้รู้จิตถึงฐานได้ จึงมีคำนี้ผุดขึ้นมา

"โหด  หื่น  ห่วง"
   หลังจากได้ ภาวนาแบบดูจิต ได้ 3 ปี จึงพอจะเข้าใจธาตุแท้ของตัวเอง
ถ้ามันไม่หื่น ก็โหด ที่มันแรง ๆ ก็มี เท่านั้นเอง สลับกันไปอยู่แค่นั้น
จะมากจะน้อยแค่นั้นเอง และถ้าจิตทำท่าจะสงบเมื่อไหร่
ความห่วงจะเข้ามาครอบงำ  ดังนั้น ต้องรู้ทัน 3 ตัวนี้ จิตถึงจะรู้ถึงฐานได้
ถ้าไม่เท่าทันความห่วงก็เสร็จมันอีก โดยเฉพาะห่วง "แม่"

"ดูที่จิต"
   หลังจากที่ได้เฝ้าเพียร ไปเรียนกับหลวงพ่อมนตรี อาภัสสโร ที่สวนพุทธธรรม
ไป ๆ มา ๆ อยู่ 4 ปี  ท่านจึงได้ถ่ายทอดสุดยอดคาถามา
"ดูที่จิต" ซึ่งสามารถ ตอบได้ทุกคำถาม

ขอเอวัง...ครับ

จากคุณ    : ไก่แดง

น้ำท่วมวัด พระ-ญาติย้ายศพทำพิธีทุลักทุเล

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สระบุรี ยังน่าห่วง ที่ อ.วิหารแดง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร บ้านเรือนราษฎรจมน้ำขยายเป็นวงกว้าง ขณะที่น้ำท่วมบางวัด พระ-ญาติ ต้องช่วยกันย้ายศพทำพิธีอย่างทุลักทุเล …

วันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.วิหารแดง สระบุรี ว่า เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรขยายเป็นวงกว้าง ระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต อย่างที่วัด หนองโพ ต.เจริญธรรม อ.วิหารแดง ได้มีการฌาปนกิจศพ แต่เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูง ทำให้ทางพระและญาติต้องเคลื่อนย้ายศพออกจากวัด ไปทำพิธีที่วัดบ้านลำซึ่งน้ำไม่ท่วมแทน ซึ่งการเคลื่อนย้ายต้องช่วยกันทั้งพระทั้งคนและญาติอย่างทุลักทุเล และเป็นไปด้วยความลำบาก.

ข่าวน้ำท่วมวัด พระ-ญาติย้ายศพทำพิธีทุลักทุเล ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

http://k.konseo.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A8.html#more-5043

ทางมูลนิธิประชาร่วมใจ เมืองนครศรีธรรมราช เชิญชวนร่วมกินเจ 27 ก.ย. - 5 ต.ค.นี้ กินฟรี 11.00 - 17 .00 น. ทุกวัน

ได้รับแจ้งจากมูลนิธิประชาร่วมใจ ว่า ด้วยทางมูลนิธิประชาร่วมใจ ได้กำหนดจัดให้มีเทศกาลกินเจ มูลนิธิประชาร่วมใจร่วมอิ่มบุญ อิ่มใจ ถือศีลกินเจ ขึ้นระหว่างวันที่ 27 ก.ย. - 5 ต.ค.นี้ โดยได้เปิดให้ประชาชนร่วมรับประทานอาหารเจฟรี ตั้งแต่เวลา 11.00 - 17.00 น. ณ สำนักงานชั่วคราวมูลนิธิประชาร่วมใจวัดบูรณาราม ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมรับประทานอาหารเจฟรี ในเทศกาลกินเจมูลนิธิประชาร่วมใจ วันที่ 27 ก.ย. - 5 ต.ค.

Link : http://www.innnews.co.th/มูลนิธิประชาร่วมใจ-เชิญชวนร่วมกินเจฟรี--310174_06.html

ไม่ได้ยินเสียง วิทยุ RDN 3 วันแล้วคะ

ไม่ทราบว่า RDN ยกเลิกรายการแล้วหรือคะ

 

เฮ! กทช.มีมติคงสิทธิ์ ผู้ใช้เปลี่ยนค่ายโทรศัพท์แต่ใช้เบอร์เดิมได้ เริ่ม31ส.ค.นี้



หลัง จากที่มีการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. มีมติให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้บริการคงสิทธิ์หมายเลขโทรศัพท์เดิมไว้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครือข่าย ผู้ให้บริการ โดยให้คิดค่าธรรมเนียม 99 บาท เและกำหนดให้เครือข่ายย้ายระบบให้แล้วเสร็จได้ภายใน 3 วัน เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป

แนวคิดการ เปลี่ยนเครือข่ายไม่เปลี่ยนหมายเลขนี้ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากค่ายโทรศัพท์มือถือต่างๆขอขยายเวลาออกไป จนกระทั่งเวลาใกล้ครบกำหนด จึงประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.โดยจะให้บริการได้อย่างเต็มที่ในเดือน ก.ย.แน่นอน? ซึ่งในช่วงแรกคาดว่าจะมีผู้ขอใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงเร่งให้ทุกบริษัทผู้ให้บริการเครือข่าย ทดสอบระบบโครงข่าย ระบบบิลลิ่ง ระบบลูกค้าสัมพันธ์ รวมทั้งระบบเชื่อมต่อระหว่างค่ายมือถือด้วยกัน โดยจะต้องทำให้ระบบทำงานให้เสถียรที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในอนาคต เชื่อว่าบริการเปลี่ยนเครือข่ายไม่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ผู้ใช้สามารถใช้บริการฟรีไม่ต้องเสียค่าบริการ ซึ่งเป็นไปตามกลไกการแข่งขันของผู้ให้บริการอยู่แล้ว

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

อยากทราบ แก่นกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ คืออะไร ?

 คือ มีเพื่อนถามมาคะ ว่า ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ไปเพื่ออะไร ?

 ฝึกแล้วเอาไปใช้ ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่คะ ?

 จึงอยากให้เพื่อน ๆ ชาวกรรมฐาน ช่วย รวบรวม ระดับพระกรรมฐาน ให้หน่อยคะ ว่า

 ระดับไหน ใช้ชีวิตในประจำวันได้ พอถึง ระดับไหน แล้ว ใช้ไม่ได้ คะ

ช่วงนี้ฝนตก มีน้ำท่วม นะคะ เพื่อน ๆ บางคนส่งข่าวมาแล้ว ว่ากลับไปช่วย ที่บ้านที่กำลังโดนน้ำท่วม

โดยเฉพาะ ชาวแก็งค์ ที่อยู่อยุธยา นะคะ ดังนั้น ช่วงนี้ สมาชิก อาจจะหายไปหลายคนคะ

เพราะส่วนใหญ่ บ้านจะอยู่ อยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง นครสวรรค์ กันคะ

 

ได้ยินมาว่า พระพุทธเจ้า ตรัสห้าม พระสาวก ห้ามแสดงฤทธิ์ แต่ พระพุทธเจ้าแสดงฤทธิ์ เองได้เพราะเหตุไร หรือ ?

 

ชมภาพอื่น ๆ ได้ที่นี่คะ

http://www.liveinbangkok.com/forum/index.php?topic=2188.0

ช่วงสำคัญด้วย คะ ช่วงที่กำลังฟัง กรรมฐาน อยู่คะ

19.30 - 20.10 น.

502 Bad gateway

 

[ตรง ๆ ตามคำถามเลยนะคะ เพราะบรรดา เพื่อน ๆ มักถามดิฉัน กันเสมอ เวลาชวนให้โพสต์ กระทู้ หรือ ตอบ กระทู้ แต่ส่วนใหญ่ จะเลือกอ่านกันมาก กว่าคะ อยากให้ทุกท่านร่วมแสดง ความเห็น เพื่อให้ทุกท่าน ที่ยังลังเล ในการโพสต์ และ ตอบ ช่วยกันโพสต์ และ ตอบด้วยคะ]

ตรง ๆ  ตามคำถามเลยนะคะ เพราะบรรดา เพื่อน ๆ มักถามดิฉัน กันเสมอ เวลาชวนให้โพสต์ กระทู้ หรือ ตอบ กระทู้ แต่ส่วนใหญ่ จะเลือกอ่านกันมาก กว่าคะ

  อยากให้ทุกท่านร่วมแสดง ความเห็น เพื่อให้ทุกท่าน ที่ยังลังเล ในการโพสต์ และ ตอบ ช่วยกันโพสต์ และ ตอบด้วยคะ

 
 ขอบคุณภาพประกอบจาก http://img.kapook.com/image/health/wake400.jpg

http://www.sdsweb.org/sdsweb/

สาวิกาสิกขาลัย เสถียรธรรมสถาน

อุตุฯ เตือนเหนือ-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตกฝนยังตกหนัก ส่วนทะเลอันดามันคลื่นสูง ชาวเรือระมัดระวัง

เมื่อ เวลา 04.00 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศลักษณะอากาศทั่วไปว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในด้านรับ ลมมรสุมของภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับในทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้พยากรณ์อากาศสำหรับ

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มี ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพรสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มี ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม 06:00 วัน.

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

[๙๖]  ๖๐. (๓) สมณะหรือพราหมณ์คนอื่นกล่าวกับสมณะหรือพราหมณ์คนนั้นอย่างนี้ว่า
   
    ‘ท่านผู้เจริญ อัตตาที่ท่านพูดถึงนั้นมีจริง เราไม่ปฏิเสธว่าไม่มี แต่อัตตานี้ไม่ใช่จะบรรลุนิพพานในปัจจุบันอันเป็นบรมธรรมได้เพราะเหตุเพียง เท่านี้ เพราะเหตุไร เพราะปฐมฌานที่มีวิตกมีวิจารนั้นบัณฑิตกล่าวว่า ยังหยาบอยู่
เพราะเหตุที่วิตกวิจารสงบไป

     อัตตานี้จึงบรรลุทุติยฌานมีความผ่องใสในภายในมีภาวะที่จิตเป็นหนึ่งผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิอยู่ จึงชื่อว่าบรรลุนิพพานในปัจจุบันอันเป็นบรมธรรม’ สมณพราหมณ์พวกหนึ่งบัญญัตินิพพานในปัจจุบันว่าเป็นบรมธรรมของสัตว์อย่างนี้


ขยายความ

    ลัทธิที่ถือว่า  สามารถบรรลุนิพพาน  หรือสามารถดับทุกข์ได้โดยง่ายในอัตภาพนี้  เป็นความเข้าใจของพวกที่เห็นความเพลิดเพลินจากกามคุณว่าเป็นนิพพาน  หรือเห็นความสุขจากฌานว่าเป็นนิพพาน  (ที.สี.อ.   ๙๗/๑๑๒)

{ที่มา : พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๙ ข้อ  ๙๖ หน้า :๓๗-๓๘ }

          ขออานิสงส์ธรรมทานแผ่ไปยังสรรพสัตว์ทุกๆชีวิต และ  ขอแรงบุญกุศลในทุกๆกระทู้ที่เป็นธรรมทานนำส่งให้ชาวพุทธศาสนิกชนทั้งที่ เป็นมนุษย์และเทวดาได้ร่วมมือร่วมใจกันปกปักษ์รักษาพระพุทธศาสนาแท้ๆได้ ประดิษฐานต่อไป

"ขอคืนพื้นที่พระพุทธศาสนาที่แท้กลับคืนมา"

จากคุณ : ต่อmcu



ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ เอามาเรียนถาม ชาวกรรมฐาน ดีกว่าคะว่า

เข้าใจกันว่าอย่างไร คะ

 

ขันธปริตร

http://www.youtube.com/watch?v=CtQh8PnjmFs

สาธยายพระไตรปิฎก / Part 1

http://www.youtube.com/watch?v=NP88mmNkaec

สาธยายพระไตรปิฎก / Part 2

http://www.youtube.com/watch?v=HBI3LWy9xMo

สาธยายพระไตรปิฎก / Part 3

http://www.youtube.com/watch?v=PLpNWhcAFEQ

สาธยายพระไตรปิฎก / Part 4

http://www.youtube.com/watch?v=EAWOzy9-Cl0

สาธยายพระไตรปิฎก / Part 5

http://www.youtube.com/watch?v=NvpYF8HSi2E

[www.watpailom.orgวัดไผ่ล้อม ( หลวงพ่อพูล ) นครปฐม]

www.watpailom.org

วัดไผ่ล้อม ( หลวงพ่อพูล ) นครปฐม



http://www.siamlocalnews.com/watpilom/index.php?issueid=1817

รับฟังรายการฟังธรรมไม่ได้ ตั้งแต่ เมื่อวานแล้วคะ

 

เซิร์ฟเวอร์ที่ www.bom5.com ตอบรับช้าเกินไป

ขอคำอธิบายพระสูตรคำสอน เรื่องนี้หน่อยครับ
เพราะอ่านแล้วก็ยิ่งเกิดความกังขา

อาทิเช่น

7. อย่าเชื่อ เพราะคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้

ขอยกตัวอย่าง 

" เอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  จะถูกไฟดูด "

     จะเชื่อ  หรือ ไม่เชื่อ

คิดตรองดูแล้ว
ลวดทำด้วยเหล็ก เป็นตัวนำไฟฟ้า
ปลั้กไฟ มีไฟฟ้าแน่นอน

เอามือจับลวด แหย่เข้าไป  โดนดูดแน่ๆ
ตามทฤษฎีไฟฟ้าชั้นมัธยม

แบบนี้
วิธีคิด  ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์
แต่ดูเหมือน จะค้านๆ กับพระสูตรนะสิครับ

ช่วยไขความกระจ่างด้วยครับ

จากคุณ    : drof


   
ความคิดเห็นที่ 3    [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน

"7. อย่าเชื่อ เพราะคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้".....

....มัน มีต่อท้ายนะครับ...ให้เป็นข้อ 11.ก็แล้วกันเพื่อนำไปอ้างถึงทีหลังคือ....จะต้อง..ทดลองปฎิบัติ..ตามทั้ง 7 และ 8 หากผลที่ได้ถูกต้องตาม 7 และ 8 ค่อยเชื่อครับ(หากอกุศลจิตที่เกิดแล้วดับ...หรือ กุศลจิตที่ยังไม่เกิดแล้วเกิด...ตรงนี้คือเป้าหมาย..ของพุทธครับเลยต้องใช้ ตรงนี้เป็นการตรวจสอบ)

เมื่อเข้าใจตรงนี้มาดูตัวอย่างครับ...

" เอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  จะถูกไฟดูด "....
......จะเชื่อหรือไม่เชื่อ....
กรณีนาย ก ..เชื่อ....ผมตอบว่าผิด
กรณีนาย ข...ไม่เชื่อ...ผมตอบว่าผิด

กรณีนาย ค....เชื่อ...ผมตอบว่าถูก
กรณีนาย ง...ไม่เชื่อ..ผมตอบว่าถูก

จขกท. คิดยังไงครับ....
คิด...คิด...คิด...ผมเดาว่า จขกท. คงคิดว่าผมตอบ กวน..ทีน...

อย่างพึ่งคิดอย่างนั้นนะครับ...
เนื่อง จาก 7 และ 8 ผมได้รับทราบว่าแล้ว..เสร็จแล้วผมได้ไปทำตาม 11..โดยวิจัย(ถ้าเป็นทางธรรม..คือธรรมวิจัย)..ทดลองปฎิบัติ(ถ้าทางธรรม..จะ เป็นมรรค ๘ โดยสติปัฎฐาน ๔)..ทำให้ผมรู้แจ้งเห็นจริง(ปัญญา)จากการปฎิบัติแล้ว..ซึ่งตรงกับ.7 และ 8 แล้ว

จาก....
"กรณีนาย ก ..เชื่อ....ผมตอบว่าผิด.".....เพราะ...ผมได้เคยเอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  แล้วไฟไม่ดูด(ผมเคยปฎิบัติข้อ 11)
"กรณีนาย ข...ไม่เชื่อ...ผมตอบว่าผิด"....เพราะ..ผมได้เคยเอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  แล้วไฟดูด(ผมเคยปฎิบัติข้อ 11)
"กรณีนาย ค....เชื่อ...ผมตอบว่าถูก"....เพราะ..ผมได้เคยเอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  แล้วไฟดูด(ผมเคยปฎิบัติข้อ 11)
"กรณีนาย ง...ไม่เชื่อ..ผมตอบว่าถูก"....เพราะ...ผมได้เคยเอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ  แล้วไฟไม่ดูด(ผมเคยปฎิบัติข้อ 11)

แล้วผมก็สรุปให้.
..นาย ก..นาย ข....นาย ค...นาย ง ฟังว่าเพราะผมได้มีปัญญาเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว(จากการทำ 11)...การที่ไฟจะดูดหรือไม่ดูดขึ้นอยู่กับอีกหลายเหตุปัจจัย..ไม่ใช่ขึ้น อยู่กับเอาลวด ไปแหย่ปลั้กไฟ ...จะมีสิ่งต่างๆที่ประกอบอีกมากเช่น...
....ระบบ ไฟมีระบบเซฟทีคัทหรือไม่มี....ผู้แหย่สวมรองเท้ากันลงดินหรือไม่สวม..ซึ่ง สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นปัญญาที่เกิดจากการทำข้อ 11 ทั้งสิ้นครับ

ซึ่ง หมายถึงปัญญาจากการ.."วิธีคิด  ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์."....ซึ่งผู้ที่ยังไม่รู้แจ้งเห็นจริง....จึงต้อง ..ทดลองปฎิบัติ....วิจัย..เรื่องนั้นๆให้รู้แจ้งเห็นจริงจนหมดก่อนถึงจะ เชื่ออย่างถูกต้องครับ
หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

จากคุณ    : โกวิทย์ (โกวิทย์)

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2554 เวลา 06.00 น. – 08.30 น.
ณ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ (ถ.ประชานิเวศน์ 1 ข้างวัดเสมียนนารี) เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

อานิสงส์ของการตักบาตรพระ

1. เกิดในร่มเงาบวชพระพุทธศาสนาไปทุกภพทุกชาติ
2. ย่อมเจริญด้วยโภคทรัพย์สมบัติเป็นอันมาก
3. ทรัพย์สมบัติคงทนถาวร ไม่วิบัติด้วยภัยใดๆ
4. ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ที่ชอบใจของคนหมูมาก
5. คนดีเป็นอันมาก ย่อมคบหาผู้ให้ทาน
6. ชื่อเสียงอันดีงามของผู้ให้ ย่อมฟุ้งขจรไป
7. ผู้ให้ย่อมแกล้วกล้าอาจหาญ ไม่เก้อเขินในที่ประชุม
8. เมื่อสิ้นอายุขัย ย่อมเกิดในสุคติโลกสวรรค์
9. บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยง่าย

การตักบาตรในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก :

- พระเดชพระคุณพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

- ดร.ศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และร่วมเป็นเจ้าภาพได้ที่ โทร. 087-717-7951, 081-550-8206

ส่งเสริมวัฒนธรรมชาวพุทธให้เข้มแข็ง ช่วยเหลือคณะสงฆ์ 286 วัด ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพุทธบุตรผู้ประสบภัย


04.30 น. คณะพระภิกษุสงฆ์ 15,000 รูป มาถึงบริเวณพิธี

05.30 น. คณะพระภิกษุสงฆ์ ฉันภัตตาหารเช้าบริเวณพิธี

06.00 น. พิธีเปิดงาน

o พิธีกร นำกราบประธานสงฆ์และ คณะสงฆ์ 15,000 รูป
o ประธาน ฝ่ายฆราวาส จุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย และถวายธูปเทียนแพแด่ประธานสงฆ์
o สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย
o ดร.ศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกล่าวปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ
o พิธีกร นำกล่าวอาราธนาศีล
o ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวรายงาน
o ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน
o พิธีมอบโล่แด่ผู้ให้การสนับสนุน งานตักบาตรพระ 15,000 รูป

06.50 น. พิธีตักบาตร

o เจ้าภาพกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน
o เจ้าภาพกล่าวคำถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ช่วยคณะสงฆ์ภาคใต้
o เจ้าภาพกล่าวคำอธิษฐานจิต
o เจ้าภาพ 50 ท่าน ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
o ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา
o ประธานสงฆ์และคณะสงฆ์ 15,000 รูป ให้พร

07.20 น. คณะพระภิกษุสงฆ์-สามเณรแปรแถวบิณฑบาต

o เจ้าภาพกล่าวคำอธิษฐานจิต
o คณะสงฆ์รับบาตร/สาธุชนใส่บาตร

08.00 น. เสร็จพิธีตักบาตร ส่งกลับ คณะพระภิกษุสงฆ์-สามเณร

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=talayboon&month=09-06-2011&group=1&gblog=111