ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ธาตุกำเริบ เป็นเรื่องปกติ ( เพราะการกำเริบ เป็นนิยาม แห่ง ความเจ็บ และ ชรา )  (อ่าน 2748 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


 เมื่อวานนี้ 18 มิ.ย. 58  ตั้งแต่ 09.00 - 02.00 น. เป็นไข้ เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางด้านร่างกาย ปวดร้าวแขนขา ทำให้ไม่มีแรงสรุป คือ นั่งหลับ ยาวนาน (อันนี้หลับ นะ ไม่ใช่ ทำสมาธิ) หลับอย่างเดียว แต่ เป็นนั่งหลับนะ ตื่นเป็นพัก ๆ แต่ก็นั่งหลับต่อ กว่าจะได้เรี่ยวแรงกลับมาก็ผ่าน ไป ตี 4 ถึงได้ลุกไปสรงน้ำ สวดมนต์ได้ ร่างกายมันไม่อยู่ในอาณัติ ของเรา ถ้ามันเป็นของเรา มันต้องฟังเราบ้าง นี่มันนึกจะไม่ทำงาน มันก็ไม่ยอม เราอยากทำงาน แต่ ร่างกายมันไม่ยอม สุดท้าย ก็ต้องนั่งรอมันทำงาน
กายนี้ ก็อย่างนี้แหละ เบื้องบนตั้งแต่ ผมลงไป เบื้องล่าง ต้้แต่ปลายเท้าขึ้นมา มีความเสื่อม เป็นไปธรรมดา
ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด





ตั้งแต่ 23.00 16 มิย. 58 - 16.00 น.17 มิ.ย. 58
นั่งหลับมายาวนาน นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ เนสัชิกธุดงค์ รอบนี้ยาวนาน จนไม่ต้องฉันอาหาร อะไรเลย นี่เป็นครั้งแรก นะ นี่ ดื่มน้ำไปสองแก้ว คงต้องหาน้ำปานะ รองท้องซะหน่อย
ก็แชร์ประสบการณ์ การนั่งหลับ ให้ทราบ
พูดถึงการนั่งหลับ มันพิเศษ คือ ทุกคนก็เคยนั่งหลับ แต่การนั่งหลับโดยที่ประคองสติ ด้วยภาวนาไปด้วย ไม่ทราบว่าทำกันสักกี่คน คือที่จริงบอกว่า หลับ มันก็แค่ เคลืม ๆ เพราะตาลืมบ้าง หลับบ้าง อาศัยแสงสว่างเป็นอารมณ์ รอบนี้ภาวนาแบบต่อเนื่อง มากกว่า 24 ชม. เกินมา 6 ชม. ....
น้ำผึ้ง + น้ำชา + น้ำร้อน ค่อย ๆ จิบไปก่อน แต่ น้ำชาใส่ให้น้อยนิด เพราะว่า ท้องว่าง ไม่ควรใส่มาก เดี๋ยว กรดไหลย้อน ลำบากกายอีก นมไม่ควรจะดื่มทันที ต้องดื่มน้ำรองท้องก่อนสัก สองสามแก้ว ประมาณสัก 20 นาทีค่อยฉันนม ไม่ควรเป็นนมเย็น ควรเป็นนมร้อน โอวัลตินร้อน ไม่ควรดื่ม น้ำขิง เพราะจะทำให้ปวดท้อง เรื่องเหล่านี้ มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ที่จริงเป็นเรื่องสำคัญ เวลาเรานั่ง นอน กรรมฐาน ที่ยาวนาน แล้ว อาหารมื้อแรก ควรจะต้องทาน ฉัน ให้ถูกวิธี ไม่งั้น โรคกระเพาะ อาการปวดท้องเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นได้ ทันที แม้แต่ท้องร่วง จากการฉันนม เวลาท้องว่าง อันนี้ก็สำคัญ
เพราะผ่านประสบการณ์ แบบไม่มีครูมาแล้ว ส่วนพวกนี้
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ควรฉัน น้ำข้าวผสมเกลือ + น้ำตาลนิด ก็จะดี ถ้าเป็นเวลาตั้งแต่ 06.00 - 12.00 น. ดื่มก่อนสักแก้ว ก็พอ เพื่อให้ร่างกาย ที่หยุดการเคลื่อนไหว เป็นระยะเวลานาน ได้ ตื่นตัวและรอรับสารอาหาร ต่อไป
เจริญพร / เจริญธรรม
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
การต่อสู้ ของ กายธรรม กับ สิ่งแปลกปลอม
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2015, 10:21:35 am »
0
ปกติ แล้ว กายธรรม เป็น กายวิสุทธิ นั้น สิ่งแปลกปลอม เมื่อเข้ามา ก็จะต้องถูก แอนติ ที่นี้ ก็ขึ้นอยู่กับความแรง จะควบคุมได้หรือไม่ ก็อยู่ที่ ความแข็งแรง ของกายธรรม นั้น ๆ หาก กายธรรม มีความสามารถสูง สิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่ กายธรรม ก็จะหายไป หรือ ค่อย ๆ หายไป แต่ระหว่างที่กายธรรม ไม่แข็งแรง นั้น จึงเป็นเหตุ ให้กายธรรม ต้อง สร้างภูมิคุ้มกัน ขึ้นมาเพื่อรักษา ตัวเอง ให้พ้นจากสิ่งแปลกปลอม เรียกว่า ภูมิคุ้มกัน


     ภูมิคุ้มกัน นั้น ก็เกิดจากการภาวนา และการฝึกฝน โดยเฉพาะ เรื่อง ตบะเตชะ หรือ แม้กระทั่ง การเข้า อนุโลม ปฏิโลม ในวิชากรรมฐาน นั่นเอง เป็นเหตุให้กายคือ รูปขันธ์ เกิดการพัฒนา ให้เป็น กายธรรม

     เนื่องด้วย รูปขันธ์ ประกอบ ด้วย ธาตุ 5 จึงไม่สามารถทำ รูปขันธ์ นี้ให้ วิสุทธิ์ ได้ ดั่ง กายขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ดังนั้น ผู้ฝึกฝนกรรมฐาน จึงมีภูมิคุ้มกัน รูปขันธ์ ตามระดับ การฝึกฝนของตนเอง

    เนื่องด้วยกรรมฐาน ไม่ได้มุ่งเจาะจงการเข้าไปเยี่ยวยา แต่ มุ่งเจาะจงไปที่ การพ้น ขันธ์ ทั้ง 3 นั่นเอง ภูมิคุ้มกัน จึงเป็นสิ่งที่ถูกพัฒนาขึ้น ตากอำนาจจิตที่ภาวนา ตามภูมิธรรม ดังนั้น ความสามารถ ด้วยภูมิคุ้มกัน จึงแตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่ได้ภาวนา กรรมฐาน และ ฝึกฝน พระกรรมฐาน จนมีความสำเร็จ



  "เมื่อวานนี้ ภูมิคุ้มกันของฉัน ก็ทำงาน การทำงานก็เจียนตาย เริ่มจาก
    ธาตุไฟ ที่เผาพลาญ ร่างกายร้อน ทั้งตัว อาการเหมือนเป็นไข้
    จากนั้น ธาตุลม วิ่งพล่านขึ้นลงทำให้เกิดอาการหนาวเหน็บ เหมือนลมพัด ทำให้เกิดลมร้อน ในภายใน
    จากนั้น ธาตุดิน คือ รูปขันธ์ตรง ๆ ก็เกิดย่อย สิ่งแปลกปลอม ในขณะที่ย่อยรู้สึกทรมานทางกายเป็นอย่างมาก แต่ ก็สามารถย่อยสิ่งแปลกปลอมลงได้ประมาณ 2 นิ้ว และมีขนาดเล็กลง
    จากนั้นธาตุนำ้ ก็ทำการห่อหุ้ม สิ่งแปลกปลอม นั้นไว้ อีกครั้งหนึ่ง คงรักษาภูมิคุ้มกันไว้อย่างเดิม น่าจะมีประมาณ สอง ระลอก ถ้าคิดไว้ไม่ผิด เป็นประสบการณ์ ครั้่งแรก
    จากนั้นตัวธาตุ ค่อย คลายสลายกายเป็นอากาศ พูดถึงตัวธาตุ มาเป็นรูปนิมิต ไม่ใช้เกิดตามอวัยยวะใด อวัยวะหนึ่ง แต่มาเป็นดวงนิมิต เฉพาะธาตุ เลย นี่นับว่ามีความแปลก จึงยันทึกไว้ ในที่นี้ ไว้ก่อน

    ที่สำคัญคือ ไม่สามารถอยู่ในผลของสมาบัติ ได้ตลอดเวลา ต้องมีช่วงหนึ่ง ที่ต้องคลายสภาพ สู่ รูปขันธ์ ปกติ นั่นก็คือ ต้องนอน ตัองพักผ่อน ( นับว่า ช่วงนี้มีความเสี่ยง มากอยู่ แต่ ต้องเว้นวรรค ไว้เพื่อการประคอง รูปขันธ์ ไว้ นั่นเอง )"

    ข้อความบางส่วนจาก บันทึกการภาวนา และการเดินทาง ของธัมมะวังโส


   
   
     
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 19, 2015, 10:39:56 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

nongyao

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 380
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุค่ะพระอาจารย์  หายไว ๆ นะคะ
บันทึกการเข้า
กราบนอบน้อมพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีต อนาคต แลปัจจุบัน ด้วยเศียรเกล้า
                 พุทธัง  ธัมมัง  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
                       
                         ข้าพเจ้าจักขอทำเหตุที่ดี

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
   ขอบารมีครู. ปกปักรักษา ครูอาจารย์
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

fasai

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 540
  • ทางสายกลาง
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
เรียน เพื่อน ๆ ชาว สหธรรม มัชฌิมา แบบลำดับ

อ่านแล้ว ไม่ใคร่ จะเข้าใจ คะ ช่วยขยายความให้รับ ทราบ ได้บ้างหรือไม่ คะ

 thk56

 
บันทึกการเข้า
ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นไปตามกรรม
ใครสร้างกรรมอย่างไร ก็รับผลกรรมอย่างนั้น