ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย  (อ่าน 7839 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
    พระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญโญ วัดสัมพันธวงษ์ ให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ถึงกรณีพระพรหมเมธี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ออกมากล่าวว่า พระจักษุธาตุที่้อ้างว่าเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้านั้นเป็นของปลอมและน่าจะ เป็นเพียงเพชรรัสเซีย ว่า เรื่องจักษุธาตุ ปกติอาตมาบูชาเป็นพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในผอบ แต่ต่อมาก็เห็นแสงเปล่งประกายและมีดวงตาขึ้นมา เรื่องนี้มีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่บอกว่าเกิดขึ้นได้จากพุทธานุภาพของพระ พุทธเจ้า
    ส่วนที่บอกว่า ไม่มีในตำรานั้น พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าวว่า ก็เหมือนพระนิพพาน สมัยพุทธกาลก็ไม่มีในตำราแต่พระพุทธเจ้าท่านสรรหาเอง อันนี้เป็นสันฐานเหมือนเพชรแต่เปลี่ยนสีได้ บางครั้งปรากฎเป็นรูปดวงตาขึ้นมา ยืนยันว่าพิสูจน์ได้100% เพราะถ้าเป็นเพชรอะไรก็ตามจะไม่มีการเปลี่ยนสี
    "อาตมามาจำพรรษาเมื่อปี 2544 พระพรหมเมธีให้มาช่วยวัด เมื่อมีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาก็ไปเรียนท่าน ท่านก็ไม่เชื่อ ทีแรกก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อมีคนมาศรัทธาเยอะ ก็มีการจะให้พิสูน์จะอะไรต่างๆ ต่อต้านมาตลอด" พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าว
    พระครูพันธกิจประจักษ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ขอบริจาคเรี่ยไรเงินญาติโยมมาสร้างเจดีย์ที่ จ.อุดรฯ ว่า ก็เชิญชวนทุกคนมาบริจาค และได้ขอให้พระพรหมเมธีมาเป็นประธานฝ่ายส่งฆ์ร่วม ตอนนั้นท่านก็ไม่มีปัญหาอะไร ที่ผ่านมาก็ได้ 11 ล้าน และจะมีการวางศิลาฤกษ์ 19 มี.ค.นี้ มีคณะกรรมการทุกอย่าง
    "ถ้ามาพิสูน์แล้ว สรุปได้ว่าพระธาตุนี้ไม่จริง เป็นเพชรหรือเป็นอะไร ถ้าใครไม่ศรัทธา ก็ยินดีที่จะคืนเงินให้ เพราะเงินเรายังไม่ได้ใช้จ่ายอะไร" พระครูพันธกิจประจักษ์ กล่าว
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 08:11:11 am »
0
ผช.วัดสัมพันธวงศ์ รอผลตรวจ จักษุธาตุ หากปลอม ต้องขับพระที่อ้างออกจากวัด ระบุ มีการเชิญชวนรับบริจาคผ่านเว็บไซต์

จากกรณีทางวัดสัมพันธวงศาราม สั่งให้มีการตรวจสอบ จักษุธาตุ ของพระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปัญโญ พระอาคันตุกะของวัด ที่ตั้งให้ประชาชนสักการบูชา อยู่ที่ตึกมงคลวิทยา เนื่องจากเกรงว่า เป็นของปลอม หลอกลวงประชาชนนั้น

วันนี้(9มี.ค.)พระวินัยเมธี(ปราโมทย์ นาควังโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ในวันที่ 10 มี.ค. จะมีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบจักษุธาตุซึ่งขณะนี้ ยังคงมีการตั้งให้ประชาชนสักการบูชาอยู่ ทางวัดยังไม่ได้มีการระงับแต่อย่างใด เพราะต้องรอผลการตรวจสอบก่อน ส่วนกรณีที่มีการอ้างนามของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และวัดสัมพันธวงศ์ ไปทำโครงการสร้างพระมหาเจดีย์บรรจุพระจักษุธาตุ ในงบประมาณหลายร้อยล้านบาทนั้น เป็นการแอบอ้างโดยไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ดังนั้น หากมีการตรวจสอบแล้วว่า จักษุธาตุเป็นของปลอม ก็คงจะต้องมีการขับออกจากวัด เพราะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน รวมทั้งมีการอวดอุตริ อ้างว่า ได้ถามจากพระพุทธเจ้าด้วย นอกจากนี้จากการตรวจสอบข้อมูลด้านอื่นๆ พบว่า ยังมีการจัดทำเว็บไซต์ www.phrachuksuthath.com พระจักษุธาตุดอทคอม เพื่อดำเนินการรับบริจาค เพื่อจัดสร้างพระมหาเจดีย์บรรจุพระจักษุธาตุอีกด้วย

ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาเป็นระยะแล้ว และได้เห็นขอมูลการขอรับบริจาคโดยอ้าง พระจักษุธาตุ เห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล จึงได้แจ้งไปทางวัดให้ช่วยดูเรื่องดังกล่าว ในเบื้องต้น การตรวจสอบ พศ.เห็นว่า มีการดำเนินการตรวจสอบใน 2 วิธี 1. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2. ตามตำราเกี่ยวกับพระธาตุ ทั้งนี้หากผลตรวจสอบออกมาเช่นไรก็ขึ้นอยู่ทางวัดว่าจะดำเนินการเช่นไร โดยคาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์พระจักษุธาตุ ที่ www.phrachuksuthath.com  พบว่าในเว็บไซต์ดังกล่าว มีการขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนรวมบริจาคสร้างพระมหาเจดีย์ ณ วัดป่าศรีคุณาราม ตำบลบ้านจีต อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี  โดยมีพระครูวิสุทธิธรรมสุนทร (บุญเกิด ยุตฺตะธัมโม) พร้อมด้วยพระครูอุดมชัยคณารักษ์, พระครูโสภณสมณกิจ และพระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ เป็นประธานดำเนินการ โดยมีต้นแบบของพระมหาเจดีย์ กำหนดการการวางศิลาฤกษ์ ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษาด้วย
นอกจากนี้ยังมีการเขียนเชิญชวนเกี่ยวกับพระจักษุธาตุไว้ว่าพระบรม สารีริกธาตุส่วนที่เป็นพระเนตร หรือเรียกว่า”พระจักษุธาตุ” ที่อุบัติขึ้นมาให้ได้กราบนมัสการและชื่นชมพระมหาบารมี แห่งองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อันมีสัณฐานดุจเพชรเจียรนัย ด้วยแสงแห่งพระฉับพันธรังสีเกิดประกายแวววาวงดงามกว่าเพชรทั้งหลายที่มีอยู่ ในโลกมนุษย์ แม้ได้เพียงกราบนมัสการเพียงสักครั้งในชีวิตก็นับว่าเป็นมหาบุญมหากุศลอัน ยิ่งใหญ่ ไม่เสียดายที่ได้เกิดมาแล้วในชาตินี้ อย่างไรก็ตาม ในเว็บไซต์ยังได้มีการทำโพลสำรวจข้อมูลว่า เคยได้มากราบพระจักษุธาตุที่วัดสัมพันธวงศ์หรือไม่ พร้อมระบุวันวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 19 มีนาคม นี้  ที่วัดป่าศรีคุณาราม จ.อุดรธานี.
credit:www.dailynews.co.th
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 08:12:08 am »
0
ขอ เชิญสาธุชนทุกท่านร่วมสร้างมหามงคลอันยิ่งใหญ่ ด้วยการสมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์มงคลพระบรมสารีริกธาตุ (ส่วนพระจักษุธาตุ) ณ วัดป่าศรีคุณาราม ตำบลบ้านจีต อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี
เพื่อที่จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุ มาประดิษฐานยังวัดป่าศรีคุณารามเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อไป
โดย มีพระครูวิสุทธิธรรมสุนทร (บุญเกิด ยุตฺตะธัมโม) พร้อมด้วยพระครูอุดมชัยคณารักษ์, พระครูโสภณสมณกิจ และพระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ ซึ่งเป็นประธานในการดำเนินการก่อสร้างอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
ประวัติพระบรมสารีริกธาตุ (ส่วนพระจักษุธาตุ) นั้นมีความเป็นมาอย่างไร...
สำหรับ พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุนั้น ดั้งเดิมพระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเมล็ดข้าวสารหัก มาบูชาเพียงอย่างเดียว และผอบเดียวเท่านั้น โดยที่พระอาจารย์ประจักษ์ ท่านก็ได้บูชาไว้ประมาณปีกว่าๆ เห็นจะได้ ซึ่งท่านก็ได้เพ่งพิศพิจารณาเฝ้าดูพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในผอบนั้น อยู่ทุกวันๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกระทั่ง...!! ในวันศุกร์ที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๒ หลังจากที่พระอาจารย์ประจักษ์ได้ลุกจากจำวัดในตอนใกล้สว่าง ท่านก็ได้ตรวจตรา และเฝ้ามองไปยังที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุอย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้กลับไม่เป็นเหมือนอย่างเคย พระบรมสารีริกธาตุที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ณ แท่นบูชานั้น ได้มีแสงเจิดจ้าระยิบระยับเกิดขึ้น แล้วยังส่องสว่างอย่างแปลกประหลาด กำลังเปล่งประกายออกมาจากผอบ ทำให้ท่านรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากว่า... ลำแสงที่เห็นนั้นเป็นแสงอะไร
จากนั้นท่านก็เดินเข้าไปส่องดูในผอบด้วย ความฉงนอย่างที่สุด ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?? ปรากฎว่ามีพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานเพชรใสวาบวับ ที่มีน้ำงามบริสุทธิ์ราวกับถูกเจียรไนมาเป็นอย่างดี เสด็จมาอยู่ใจกลางของผอบที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเมล็ดข้าวสารหักได้อย่างอัศจรรย์ ทั้งๆ ที่ผอบนั้นได้ถูกปิดผนึกไว้เป็นอย่างดีถึง ๒ ชั้น และไม่มีผู้ใดแตะต้องเลยนับตั้งแต่ท่านได้บูชามา
นับว่าเหตุการณ์นี้ได้ สร้างความประหลาดใจแก่พระอาจารย์ประจักษ์เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับท่านมาก่อน จากนั้นท่านจึงกราบ และจุดธูปเทียนสักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุด้วยความปิติสุขเป็นอย่างมาก และเมื่อท่านได้ทำพิธีเสร็จสิ้นแล้วท่านก็ได้อธิษฐานจิตถามต่อองค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ?พระบรมสารีริกธาตุที่ได้เสด็จมาประทับ ณ ผอบใบนี้นั้น เป็นพระสรีระส่วนใดของพระพุทธองค์ ขอพระพุทธองค์ทรงตอบมาในนิมิต หรือความฝันอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยเถิด?
จากนั้นพระอาจารย์ประจักษ์จึง ได้นั่งภาวนาต่อไป และสิ่งที่ปรากฎให้ได้รับรู้ในจิตก็ได้บ่งบอกว่า ?พระบรมสารีริกธาตุที่ได้เสด็จมาประทับนั้น เป็นส่วนของพระจักษุ หรือนัยน์ตานั่นเอง ซึ่งเป็นพระจักษุทั้งซ้าย และขวา รวมพุทธานุภาพเป็นหนึ่งเดียว? เมื่อพระอาจารย์ประจักษ์ได้รับรู้ดังนั้น ความปลื้มปิติก็ได้บังเกิดขึ้นกับท่านอย่างไม่มีอะไรเทียมได้
ด้วยความ ปลื้มปิติที่เปี่ยมล้น ท่านจึงอดไม่ได้ที่จะบอกกล่าว ถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งพระภิกษุที่นับถือกัน ให้ได้รับรู้ถึงพระพุทธานุภาพของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุ ที่ได้เสด็จมาปรากฎให้เห็น ซึ่งหลายต่อหลายคนก็เชื่ออย่างสนิทใจกับเหตุการณ์นี้
โดยที่พระอาจารย์ ประจักษ์ท่านก็ยินดีที่จะให้ลูกศิษย์ลูกหา รวมทั้งประชาชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้เข้ามาสักการะองค์ท่านถึงที่ประดิษฐานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสามารถเก็บภาพความมหัศจรรย์ขององค์ท่าน เพื่อนำไปบูชาต่อไปได้อีก
แต่ แล้วบางคนกลับสงสัยว่า พระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมานั้นจะเป็นพระจักษุ หรือนัยน์ตาไปได้อย่างไร และเมื่อมีคนสงสัยกันมากๆ เข้า พระอาจารย์ประจักษ์ท่านก็เกรงว่าจะกลายเป็นการปรามาส และเกิดเป็นบาปกรรมขึ้นได้ ทว่าท่านก็มิอาจที่จะห้ามความคิด และความลังเลสงสัยของเหล่ามนุษย์ทั้งหลายได้
กระทั่งวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๒ ก็ได้มีลูกศิษย์ลูกหาที่นับถือท่าน ได้เข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุอย่างเช่นปกติ ซึ่งก็ได้ถ่ายภาพพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุเอาไว้ และด้วยปาฎิหาริย์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้แสดงให้ประจักษ์แก่สายตาลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งสาธุชนโดยทั่วไป เพื่อที่หลายๆ คนจะได้หมดไปซึ่งความคลางแคลงสงสัยกันเสียที
ปรากฎว่าภาพ ที่ถ่ายได้นั้นมองเห็นเป็น ?ดวงตา? หรือ ?พระจักษุ? อย่างชัดเจน และอัศจรรย์เกินกว่าที่จะบรรยายได้หมด นี่คือพระพุทธานุภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ปรากฎขึ้นเป็นพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุอย่างไม่ต้องสงสัยอีกต่อ ไป
ซึ่งปัจจุบันองค์จริงของพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุนั้น ได้ประดิษฐานอยู่ ณ กุฏิ พระอาจารย์ประจักษ์ ภูริปัญโญ ตึกมงคลวิทยา ชั้น ๓ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
สำหรับความอัศจรรย์ของ พระบรมสารีริกธาตุ (ส่วนพระจักษุธาตุ) นั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากที่องค์ท่านเสด็จมาปรากฎได้ไม่นาน พระบรมสารีริกธาตุส่วนต่างๆ อาทิ ส่วนแกนพระสมอง, ส่วนพระโลหิต, ส่วนพระเกศา, ส่วนพระอุรังคธาตุ, ส่วนพระอุณหิสะ รวมทั้งพระธาตุของพระอรหันต์ และสาวกองค์อื่นๆ ก็ได้เสด็จหลั่งไหลตามกันมาอย่างไม่ขาดสาย
จาก ๑ ผอบก็ทวีเพิ่มขึ้นอย่างนับไม่ถ้วน ราวกับว่าท่านเสด็จมาอย่างไม่มีวันหมด แม้ว่าพระอาจารย์ประจักษ์จะแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหาที่มาขออาราธนาไปบูชา เอง หรือว่าจะนำไปประดิษฐานตามวัดต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วก็ตาม แต่พระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งพระอรหันต์ธาตุกลับเสด็จมาเพิ่มเรื่อยๆ นับวันก็มีแต่จะมากขึ้น ทำให้สถานที่ประดิษฐานในทุกวันนี้ มองดูคับแคบลงไปถนัดตา
ทางวัดป่าศรีคุณารามจึงมีแนวคิดที่จะดำเนินการ ก่อสร้าง พระมหาเจดีย์มงคลพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อที่จะอัญเชิญองค์พระจักษุธาตุ และพระอรหันต์ธาตุไปประดิษฐานยังสถานที่ที่เหมาะสม ควรค่าแก่การสักการะบูชา เพื่อจะได้เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป ให้ชนรุ่นหลังได้กราบสักการะบูชา จะได้เป็นการเพิ่มกองบุญกองกุศลเพื่อสวรรค์ พรหม และพระนิพพานตลอดไป เพื่อที่บวรพระพุทธศาสนาจะได้ดำรงถึง ๕,๐๐๐ ปี
ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพุทธ ศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันสร้างมหากุศลในครั้งนี้ ทางผู้จัดทำจึงขออนุโมทนาบุญกุศลในการสร้างมหากุศลในครั้งนี้ด้วย และขอให้ทุกท่านมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลนานเทอญ

ร่วม สมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์มงคลพระบรมสารีริกธาตุได้ที่ ชื่อบัญชี พระมหาเจดีย์มงคลพระบรมสารีริกธาตุ (ส่วนพระจักษุธาตุ) เลขที่บัญชี ๓๖๙-๔๒๓๙๑๙-๙ ธนาคารกรุงเทพ สาขากุมภวาปี   


http://www.buaplinor.com/webboard/index.php?topic=653.0
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 08:16:01 am »
0
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ

chutina

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 99
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 10, 2011, 04:16:37 pm »
0
อ้างนัยน์ตาพระพุทธเจ้าให้ประชาชนร่วมทำบุญสมเด็จฯวัดสัมพันธวงศ์ตั้งกก.ตรวจพิสูจน์แล้วอาจจะเป็นเพชรรัสเซีย

วัด สัมพันธวงศ์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุที่มี ลักษณะคล้ายเพชรเจียระไนหลังจากพระจากวัดอื่นมาอาศัยจำพรรษาในวัด   นำมาให้ประชาชนสักการบูชา หวั่นเป็นการต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน หลังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เห็นความไม่ชอบมาพากล ในการจัดหาเงินสร้างพระมหาเจดีย์บรรจุพระจักษุธาตุ มีวงเงินมโหฬารหลายร้อยล้านบาท ขณะที่พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม   ระบุจักษุธาตุไม่มีในตำราพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งเมื่อเอาไปให้เจ้าของร้านเพชรดู ถูกระบุเป็นเพียงเพชรรัสเซีย

การ ตรวจสอบพระบรมสารีริกธาตุที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นของปลอมครั้งนี้ เปิดเผยโดยพระวินัยเมธี (ปราโมทย์ นาควํโส) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุหรือนัยน์ตา ประดิษฐานอยู่ที่ตึกมงคลวิทยา ชั้น 3 วัดสัมพันธวงศ์ ตั้งอยู่ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. และอยู่ในความดูแลของพระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญฺโญ สังกัดวัดป่าศรีคุณาราม  พระอาคันตุกะของวัด  โดยมีพระพรหม–เมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) กรรมการมหาเถรฯ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นประธาน พระราชสุมนต์มุนี เจ้าคณะเขตพระนคร วัดบวรนิเวศฯ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อธิบดีกรมการศาสนา ผกก.สน.พลับพลาไชย2 นายทองดี หรรษคุณารมย์ ประธานมูลนิธิพระบรมธาตุ เป็นต้น เป็นกรรมการตรวจสอบ

ทั้ง นี้ คำสั่งลงนามโดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุ ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม หลังจากที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สอบถามมาที่วัดถึงความเป็นมาของพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุ  เนื่องจากในตำราพระบรมสารีริกธาตุไม่เคยมีการระบุถึงส่วนของจักษุธาตุ นอกจากนี้ ยังมีการระบุในเอกสารประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้ประชาชนบริจาคเงินร่วมสมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์มงคลพระบรม สารีริกธาตุ (ส่วนพระจักษุธาตุ) โดยใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ว่ามีความถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ และทำไมต้องใช้งบประมาณจำนวนมากขนาดนั้น

พระ วินัยเมธีกล่าวต่อว่า สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนจักษุธาตุที่จะมีการตรวจสอบนั้น มีลักษณะคล้ายเพชร เป็นเหลี่ยมสวยงาม ขนาดประมาณ 8-9 มิลลิเมตร ไม่ปรากฏที่มา แต่พระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญฺโญ อ้างว่าเสด็จมาเอง  หลังจากที่ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ  สัณฐานเมล็ดข้าวหักมาบูชาก่อนจะแปรเป็นพระจักษุธาตุ และอ้างว่าได้อธิษฐานจิตถามต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ที่ทรง ตอบมาในนิมิตว่า เป็นจักษุธาตุหรือนัยน์ตา ก่อนเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่พระสงฆ์ ในวัดและพุทธศาสนิกชนต่างก็ไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นจักษุธาตุจริง และเป็นการหลอกลวงประชาชน อย่างไรก็ตาม เคยนำภาพถ่ายพระจักษุธาตุไปให้เจ้าของร้านเพชรแห่งหนึ่งดู เจ้าของร้านเพชรระบุว่า วัตถุดังกล่าวเป็นเพชรรัสเซีย  นอกจากนี้ ได้สอบถามไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจักษุธาตุ หลายคนคิดว่าไม่น่าจะใช่จักษุธาตุ ตามที่มีการกล่าวอ้าง ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ ต้องมีการพิสูจน์ว่าเป็นจักษุธาตุของจริงหรือไม่จริง ซึ่งถ้าเป็นของจริง วัดจะได้อนุโมทนายกย่อง แต่ถ้าไม่จริง ก็ขอให้หยุดหลอกลวงประชาชน

เลขานุการ สมเด็จฯกล่าวอีกว่า ที่สำคัญพระครูพันธกิจประจักษ์ ซึ่งไม่ใช่พระในวัด ยังได้แอบอ้างนำชื่อสมเด็จพระมหาวีรวงศ์และวัดสัมพันธวงศ์ รวมทั้งพระ ตลอดจนบุคคลสำคัญจำนวนไม่น้อย ไปแอบอ้างเพื่อหาเงินจัดสร้างพระมหาเจดีย์มงคลเพื่อบรรจุจักษุธาตุ ที่วัดป่าศรีคุณาราม ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ทั้งที่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ซึ่งสูงอายุและมีพรรษามาก และวัดไม่ทราบเรื่อง  ทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าใจว่าสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ และวัดไปดำเนินการ  ดังนั้น จึงต้องออกมาปกป้องและรักษาชื่อเสียงของวัด โดยในวันที่ 10 มี.ค.นี้  เวลา 16.00น. จะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ด้าน พระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า พระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุจะเป็นของจริงหรือของไม่จริงไม่รู้ แต่เปิดในตำราพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯแล้ว ไม่พบว่ามีการระบุถึงจักษุธาตุหรือนัยน์ตาพระพุทธเจ้า ที่สำคัญเรื่องพระบรมสารีริกธาตุไม่ควรมีการแอบอ้างวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ไปถึงพระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญฺโญ ผู้รับผิดชอบดูแลจักษุธาตุแต่ไม่สามารถติดต่อได้

http://www.thairath.co.th/content/region/154481
บันทึกการเข้า

เจมส์บอนด์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 186
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 11:40:01 am »
0
แนะวัดไปแจ้งความยึดจักษุธาตุมาพิสูจน์

เลขาธิการ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา เล็งจัดการขั้นเด็ดขาด จับสึกพระครูเจ้าของจักษุธาตุ หลังได้รับร้องเรียนอีก ยังทำใบปลิวเชิญชวนคนบริจาคเงินสร้างเจดีย์บรรจุจักษุธาตุ อ้างเหตุอวดอุตริมนุสธรรม เข้าข่ายหลอกลวงต้องอาบัติปาราชิก พร้อมส่งเรื่องถึงวัดต้นสังกัดให้ตรวจสอบพฤติกรรม หวั่นกลับไปแอบอ้างหากินซ้ำ และให้สำนักพุทธฯ คุมเข้มตามวัดและพวกอวดอ้างมีพระบรมสารีริกธาตุ ด้านตำรวจแนะให้วัดแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำจักษุธาตุมาตรวจพิสูจน์ความคืบ หน้ากรณีคณะสงฆ์วัดสัมพันธวงศ์ กทม. มีมติขับพระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญฺโญ สังกัดวัดป่าศรีคุณาราม จ.อุดรธานี ที่มาอาศัยจำพรรษาในวัดสัมพันธวงศ์ แล้วอ้างเป็นเจ้าของวัตถุที่เชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนจักษุธาตุ ทำให้พุทธศาสนิกชนหลงเชื่อและร่วมบริจาคทรัพย์ แต่เมื่อทางวัดสัมพันธวงศ์ขอตรวจพิสูจน์ว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุจริงหรือ ไม่ กลับไม่ยอมให้มีการตรวจ

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มี.ค. พระเทพวิสุทธิกวี วัดราชาธิวาส ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานขอข้อมูลเรื่องจักษุธาตุจากพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์และกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อจะตรวจสอบ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าพระครูพันธกิจประจักษ์ มีการทำใบปลิวโฆษณาขอเชิญร่วมบริจาคสมทบสร้างพระมหาเจดีย์มงคลพระบรม สารีริกธาตุเพื่อบรรจุจักษุธาตุ โดยมีข้อความที่เข้าข่ายอวดอุตริมนุษยธรรม เพราะมีการระบุว่าสามารถสนทนาสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้ ถามว่า พระครูพันธกิจประจักษ์วิเศษมาจากไหน พระพุทธเจ้านิพพานไปกว่า 2,500 ปี มาแล้ว พระอุปัชฌาย์ไม่เคยสั่งสอนหรือว่าพุทธบัญญติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม หรือคุณวิเศษที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ ฌาน สมาบัติ มรรคผล เพราะถือเป็นการหลอกลวงย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ และต้องสึกจากความเป็นพระทันที

เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธสาสนาฯ กล่าวต่อว่า จะทำหนังสือถึงคณะสงฆ์ธรรมยุต เพื่อให้ตรวจสอบในสิ่งที่พระครูพันธกิจประจักษ์อวดอ้างว่าเข้าข่ายอวดอุตริฯ หรือไม่ และจะทำหนังสือไปถึงเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ฝ่ายธรรมยุต เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระครูพันธกิจประจักษ์ที่จะย้ายไปจำพรรษาที่วัด ป่าศรีคุณาราม ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี อีกทางหนึ่ง เพื่อที่จะไม่ให้มีการใช้จักษุธาตุ ซึ่งไม่มีในตำราพระไตรปิฎกไปโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงประชาชนอีก นอกจากนี้จะประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้ช่วยตรวจสอบและดูแลการ อวดอ้างพระบรมสารีริกธาตุตามวัดหรือสถานที่ต่างๆด้วย

ขณะบรรยากาศ ที่ ตึกมงคลวิทยา   ชั้น   3   กุฏิจำพรรษาของพระครูพันธกิจประจักษ์และที่ประดิษฐานจักษุธาตุ ค่อนข้างเงียบเหงากว่าทุกวัน รวมทั้งบรรดาลูกศิษย์ที่เคยไปมาหาสู่ก็น้อยลงมาก โดยพระครูพันธ
กิจ ประจักษ์เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในกุฏิ ทั้งนี้ พระวินัยเมธี ผู้ช่วยและเลขานุการวัดสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า ได้มีประชาชนทั้งเดินทางมาหาและโทรศัพท์มาขอบคุณที่ทำความจริงให้ปรากฏว่า จักษุธาตุไม่ใช่ของจริง เพราะพระครูพันธกิจประจักษ์ไม่ยอมให้มีการพิสูจน์ เท่ากับเป็นการหนีความจริง ขณะที่ประชาชนหลายรายระบุที่ผ่านมาได้บริจาคเงินทำบุญไปกับจักษุธาตุนับแสน บาท คงเลิกทำบุญต่อไป

ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมาย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 ได้แนะนำให้วัดไปแจ้งความดำเนินคดีกับพระครูพันธกิจประจักษ์ เพื่อที่ตำรวจจะได้ไปยึดจักษุธาตุมาเป็นของกลางและจะได้มีการพิสูจน์ให้รู้ เลยว่าเป็นพระธาตุหรือเป็นเพชรรัสเซีย รวมทั้งดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ต้องรอพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ก่อน

http://www.thairath.co.th/today/view/155541

จากคุณ    : ทุ่งดอกจาน

เป็นประเด็นร้อนอยุ่เหมือนกันครับ นำมาให้อ่านนะครับ
 :s_hi:

บันทึกการเข้า
ps2 psx nds n64 rom nes play1 play2 gamepc xbox wii castlevania finalfantasy nds ps1 sega
ผมชอบเล่นเกมส์ แต่ ก็แบ่งเวลานั่ง กรรมฐาน ครับ คนรุ่นใหม่ไม่กลัวกรรมฐาน

เจมส์บอนด์

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 186
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: พระครูยัน"จักษุธาตุ"ของจริงไม่ใช่เพชรรัสเซีย
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 13, 2011, 11:45:09 am »
0
ที่จริงผมว่า พวกที่มีการทำ พระธาตุ ปลอม ๆ ขึ้นมาน่าจะได้จัดการไปเลยนะครับ ที่วางขายอยู่ตามฟุตบาท หลังวัดมาหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กลับไม่โดนจัดการ อ้าวจัดการพระเสียแล้ว

แหมช่วงนี้ คนกำลัง ฮิตเรื่อง พระธาตุ อัฏฐิธาตุ กันอยู่ จนกลายเป็น คอลเลคชั่น มากมาย เลยนะครับ

 ที่วัดยานนานาวา ก็มี มากมาย ไม่มีใครไปท้าพิสูจน์ ด้วยหรือครับ

 ส่งสารหลวงพี่จัง ท่านต้องการสร้าง มหาเจดีย์ ก็เลยแป่ว

  :97:
บันทึกการเข้า
ps2 psx nds n64 rom nes play1 play2 gamepc xbox wii castlevania finalfantasy nds ps1 sega
ผมชอบเล่นเกมส์ แต่ ก็แบ่งเวลานั่ง กรรมฐาน ครับ คนรุ่นใหม่ไม่กลัวกรรมฐาน