ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เช็กลิสต์ “ข้อควรทำ-ข้อห้าม” วันตรุษจีน ทำแบบไหนดวงถึงจะรุ่ง.?  (อ่าน 269 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

(ภาพถ่ายโดย 熊大 旅遊趣: https://www.pexels.com/th-th/photo/6854919/)


เช็กลิสต์ “ข้อควรทำ-ข้อห้าม” วันตรุษจีน ทำแบบไหนดวงถึงจะรุ่ง.?

“ตรุษจีน” เป็นเทศกาลสำคัญของคนจีน ทั้งที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่และที่กระจายตัวไปตั้งรกรากอยู่ทั่วโลก ซึ่งใน “วันตรุษจีน” (ปี 2567 ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์) ชาวจีนก็มีความเชื่อเรื่อง “ข้อควรทำ” และ “ข้อห้าม” มาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง.?

@@@@@@@

3 ข้อควรทำ วันตรุษจีน

สมชาย แซ่จิว กูรูประวัติศาสตร์จีน เจ้าของผลงาน “พลิกสุสานอ่านจิ๋นซี” (สำนักพิมพ์มติชน) เล่าไว้ในงานทอล์ก “BAOBOOK: เมาท์เรื่องมู ปีมังกรทอง” จัดโดยสำนักพิมพ์มติชน ร่วมกับ ซีเจ มอร์ ว่า

วันตรุษจีน สิ่งที่ชาวจีนนิยมทำ และถือว่า “ควรทำ” ก็คือ การประดับ “ชุนเหลียน” (ภาษาแต้จิ๋วเรียกว่า ตุ้ยเลี้ยง) เป็นกลอนคู่ มีถ้อยคำมงคลรับฤดูใบไม้ผลิ สมัยโบราณจะสลักลงบน “เถาฝู” คือป้ายที่ทำจากไม้ต้นท้อ เชื่อว่าเป็นการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ต่อมาสมัยราชวงศ์ซ่ง จึงเปลี่ยนมาเป็นชุนเหลียนกระดาษแดง หาซื้อกันได้ที่เยาวราช และหากต้องการให้ขลังขึ้น จะเอาชุนเหลียนไปปลุกเสกที่ศาลเจ้าก็ได้ตามสะดวก

ต่อมา คือการไหว้ “ไฉเสิน” หรือที่รู้จักกันว่า “ไฉ่ซิงเอี๊ย” เทพแห่งทรัพย์สินเงินทอง ฤกษ์งามยามดีในการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยในปี 2567 คือ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 23.00-01.00 น. ในการไหว้ให้หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

ของที่ใช้ไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย สมชายบอกว่าได้หมด แต่ส่วนใหญ่นิยมไหว้ของเจ 5 อย่าง เช่น วุ้นเส้น ขนมอี๋ ธูป 5 ดอก เทียน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบ้าน ไม่มีข้อบังคับเคร่งครัดแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ในการไหว้เทพเจ้าจีนแต่ละองค์ สมชายแนะว่า อย่าบน แต่ให้ใช้ “การขอ” แทน หากเทพเจ้าอำนวยพรแล้วก็ค่อยกลับไปขอบคุณเทพเจ้า

นอกจากนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีนอีกอย่างก็คือ กินอาหารมงคล 7 อย่าง ได้แก่ ปลา หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง, เกี๊ยว หมายถึงความมั่งคั่งมั่งมี, ปอเปี๊ยะหรือชุนเปี๊ยะ หมายถึงความมั่งคั่งมั่งมีเช่นกัน, ส้ม ผลไม้มงคลทุกเทศกาล, บัวลอย หมายถึงครอบครัวมีความสุข, เหนียนเกาหรือขนมเข่ง มีความหมายถึงการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และอาหารมงคลอย่างที่ 7 คือ เส้นหมี่หรือบะหมี่ ที่มีนัยถึงการมีอายุยืน

@@@@@@@

7 ข้อห้าม ควรหลีกเลี่ยง

ส่วน “ข้อห้าม” ที่ชาวจีนถือกันว่าไม่ควรทำในวันตรุษจีน สมชายเล่าว่ามี 7 ข้อด้วยกัน

1. ต้อง “ไม่กริ้ว” ไม่โกรธใครในวันตรุษจีน ไม่เช่นนั้นอาจมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่นตลอดปี
2. ไม่ใช้มีด กรรไกร เข็ม เพราะถือว่าตัดโชคลาภ
3. ไม่สระผม เพราะถือว่าชะล้างโชคดีออกไป
4. อย่างีบกลางวัน เพราะจะขี้เกียจตลอดปี
5. ไม่กินโจ๊กหรือข้าวต้มมื้อเช้า เพราะคนจีนที่ฐานะยากจนสมัยก่อนกินอาหารเหล่านี้ เชื่อว่าหากกินโจ๊กหรือข้าวต้มในมื้อเช้า ชีวิตจะยากจนตลอดปี
6. อย่าให้ใครหยิบอะไรจากกระเป๋าสตางค์ของเรา
7. ไม่ให้แต๊ะเอียใครเป็นจำนวนเงินเลขคี่

เหล่านี้เป็นความเชื่อ “วันตรุษจีน” ที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม :-

    • วันจ่าย วันไหว้ วันถือ ในเทศกาล “ตรุษจีน” เป็นวันไหน ทำอะไร
    • “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ประโยคสุดฮิตในเทศกาลตรุษจีน แท้จริงแล้วใช้อย่างไร?
    • “ไฉ่ซิงเอี๊ย” จากไม่อยู่ในสารบบ สู่เทพเจ้าที่คนเซ่นไหว้มากสุดในเทศกาลตรุษจีน





ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2567
URL : https://www.silpa-mag.com/culture/article_126959
อ้างอิง : สมชาย แซ่จิว ในงานทอล์ก “BAOBOOK: เมาท์เรื่องมู ปีมังกรทอง” จัดโดยสำนักพิมพ์มติชน ร่วมกับ ซีเจ มอร์ ที่บาว คาเฟ่ สีลมซอย 7 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ