พิมพ์

[raponsan]

‘นักเผยแผ่พื้นที่เฉพาะ’ พระดีที่สังคมไม่รู้จัก

ในเมืองพุทธอย่างประเทศไทยยังมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่อีกมาก โดยเฉพาะ “พระภิกษุที่ปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะ”

กระแสการปฏิรูปพระพุทธศาสนากำลังมาแรง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์นิยมนำภาพพระภิกษุ สามเณร ประพฤติไม่เหมาะสมมาเผยแพร่ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานาแบบรู้และไม่รู้พระธรรมวินัยบ้าง จนบางครั้งกลายเป็นการจับผิดพระ ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันยกใหญ่ ส่งผลให้พระสงฆ์และพระพุทธศาสนามัวหมอง แต่เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้น ก็เชื่อว่าชาวพุทธทุกคนอยากช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาจากพระนอกรีต

ในเมืองพุทธอย่างประเทศไทยยังมีพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่อีกมาก โดยเฉพาะ “พระภิกษุที่ปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะ” ตามแนวชายแดน ชุมชนชาวเขา พื้นที่ที่มีปัญหายาเสพติด ความรุนแรงอันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งถือว่ามีความยากลำบากกว่าการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาประเภทอื่น ๆ ซึ่ง มหาเถรสมาคม (มส.) และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ก็ได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนมาโดยตลอด โดยทุกวันนี้มีพระภิกษุที่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะมากถึง 300 รูป ใน 22 จังหวัด ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งอย่าง มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ก็คอยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญอีกทางหนึ่ง

พระภิกษุที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติของความเป็นพระที่เข้มข้น คือ
    1.เป็นพระภิกษุที่มีศีลาจารวัตร ยึดมั่นในพระธรรมวินัย
    2.มีสุขภาพแข็งแรง
    3.มีวุฒิการศึกษานักธรรมชั้นโทขึ้นไป
    4.มีพรรษาพ้น 5 ขึ้นไป หากพรรษาไม่ถึง
    5 ต้องมีวุฒิการศึกษานักธรรมชั้นเอก หรือเปรียญธรรม(ป.ธ.) 3 ประโยคขึ้นไป
    6.มีอุดมการณ์ยึดมั่นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นพระภิกษุที่สังกัดวัดในพื้นที่ หรือปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับการเสนอรายชื่อ
    ทั้งนี้หากคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ตามข้อ 3 และ ข้อ 4 ให้เจ้าคณะปกครองสงฆ์ ระดับตำบลขึ้นไปให้การรับรองเป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้นผ่านขั้นตอนการคัดเลือกตามลำดับ และเสนอชื่อให้มหาเถรสมาคมเพื่อทราบ

ไม่เพียงแค่คุณสมบัติที่คณะสงฆ์ได้กำหนดไว้เท่านั้น พระภิกษุเหล่านี้ยังต้องมีใจที่เด็ดเดี่ยว วิริยะอุตสาหะอดทนอดกลั้นต่อปัญหาอุปสรรคนานาประการ รวมทั้งการเสี่ยงภัยต่างๆ อีกมากมาย ต้องไม่ย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรคหรือภัยอันตราย รวมทั้งมุ่งมั่นทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะให้เป็นที่ประจักษ์ ให้หลักพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

พระปลัดวัชรินทร์ วชิรเมธี วัดสันเชียงใหม่ อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย พระภิกษุที่ปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะจังหวัดเชียงราย เล่าให้ฟังว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2544 ในพื้นที่ชาวเขา และมีปัญหายาเสพติด รวมถึงผู้มีอิทธิพลค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้มีพระสงฆ์ที่ทำหน้าที่ก็ถูกทำร้าย แต่ก็ไม่หวั่นไหวตั้งใจทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนราชการ ในการใช้หลักธรรมกล่อมเกลาจิตใจชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งต้องขอบอกว่า คนเหล่านี้เขาขาดโอกาสจริง ๆ ไม่ได้สุขสบายเหมือนคนในเมือง ต้องดิ้นรนใครเอาอะไรมาให้เขาทำเลี้ยงปากท้องเขาก็ทำหมด โดยไม่เลือกว่า สิ่งนั้นผิดกฎหมายหรือมีผลกระทบต่อเขาหรือไม่ ซึ่งพระเองก็ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้ด้วยความจริงใจ ทำให้เขาเชื่อใจว่าเรามาดี ซึ่งต้องอาศัยเวลา และตั้งใจ กว่าจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เห็นความสำคัญของการนำหลักธรรมมาใช้ดำเนินชีวิต โดยเฉพาะศีล 5 ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเขามีหลักธรรมยึดเหนี่ยวแล้ว ปัญหายาเสพติด รวมถึงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ก็ลดลง ซึ่งต้องเน้นย้ำว่า พระทำเพียงลำพังไม่ได้ หากหน่วยราชการในพื้นที่ให้การสนับสนุนด้วยทุกอย่างก็จะเกิดผล

’ยอมรับว่าบางครั้งเหนื่อย แต่ไม่เคยท้อ เพราะเห็นความลำบากของชาวบ้านตามแนวตะเข็บชายแดน เขาทุกข์กว่าเรามาก เพียงแค่เรามาทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ด้วยกำลังของพระสงฆ์ตัวน้อยๆในการร่วมพัฒนาชุมชนของเขาด้วยความเมตตา เพียงแค่เราได้เห็นชีวิตชาวบ้านหลาย ๆ คนดีขึ้น ไม่ต้องตกอยู่ในวังวนของยาเสพติด และประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงครอบครัวได้ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ซึ่งไม่คิดว่า เด็กเลี้ยงควายที่มาบวชในพระพุทธศาสนา จะทำประโยชน์ให้แก่คนอื่นและชาติบ้านเมืองได้ขนาดนี้ ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจ และไม่อยากให้พุทธศาสนิกชนเมื่อเห็นพระบางรูปทำไม่ดี ก็เหมารวมว่า พระไม่ดีทั้งหมด อยากให้มองอีกมุมว่า พระที่อุทิศตนในการสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติยังมีอยู่อีกมาก“ พระปลัดวัชรินทร์ กล่าว

ขณะที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมส. ได้เน้นย้ำพระภิกษุที่ปฏิบัติงานเผยแผ่ในพื้นที่เฉพาะ เขตปกครองคณะสงฆ์หนเหนือ หนกลาง และหนตะวันออก ในการประชุมที่วัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก ว่า พระนักเผยแผ่ฯ รวมถึงพระสังฆาธิการทุกระดับ ต้องรู้หน้าที่ของตนเอง ไม่หลีกเลี่ยงหน้าที่ หากทำเกินหน้าที่ หรือก้าวก่ายหน้าที่ ก็จะเกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่นได้

นอกจากนี้ พระที่ดีต้องมีคุณสมบัติ 4 ประการ คือ
    1.ขยันในหน้าที่
    2.ไม่ประมาท
    3.ฉลาดรู้เท่าทัน และ
    4.จัดการงานดี
ซึ่งการขยันผิดหน้าที่ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากให้ตระหนักในเรื่องนี้

นายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ. กล่าวว่า พระภิกษุที่ปฏิบัติงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่เฉพาะ 300 รูป ทั้งชุมชนชาวเขาที่มีปัญหายาเสพติด ความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ถือเป็นพระนักเผยแผ่ต้นแบบที่ต้องอาศัยความอดทนในการทำหน้าที่อบรมบ่มเพาะสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในพื้นที่เฉพาะ เช่น ส่งเสริมการศึกษา หลักธรรมศีล 5 ส่งเสริมสัมมาชีพ เป็นต้น ซึ่งในส่วนของพศ.ได้ตระหนักถึงแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาดังกล่าวที่จะต้องมีประสิทธิภาพ โดยจะส่งเสริมให้พระกลุ่มนี้รู้เท่าทันสถานการณ์เผยแผ่พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่ได้ตรงเป้าหมายรวมทั้งผลักดันให้มีพระนักเผยแผ่ในพื้นที่เฉพาะเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของพระสงฆ์ไทยที่สร้างประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง ถึงแม้อาจจะใช้ลบภาพพระไม่ดีให้ออกจากสายตาพุทธศาสนิกชนไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้สังคมไทยได้เห็นว่า บ้านเมืองนี้ยังไม่สิ้นพระดีสืบต่อพระพุทธศาสนา .

มนตรี ประทุม

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/331443

[nirvanar55]

 
 นี่แหละแบบอย่างพระสงฆ์ ในสายตาชาวพุทธในปัจจุบัน ไม่ใช่พระที่เป็นพระอริยะ นะครับ แต่ต้องเป็นพระนักเผยแพร่ ช่วยรัฐ แก้ปัญหา ยาเสพติด ปัญหาชายแดนครับ


 

[Admax]

 

[waterman]

ปัจจุบัน ดูเหมือนโลกต้องการพระสงฆ์ และ พระพุทธศาสนา เพียงเท่านี้จริง ๆ นะ คำสอนเรื่อง นิพพาน ไม่มีใครสนใจแล้ว คงต้องการแค่ ระดับ ศีลธรรม เพราะ สมัยนี้ ถ้าหากศีลธรรม โลกก็ไม่สงบสุข ส่วนพระอรหันต์ นั้นยุคนี้ ไม่มีใครเชื่อ ผมเคยสนทนากับ ระดับ สมเด็จเลย บอกว่า ยุคปัจจุบันนี้ไม่มีพระอรหันต์ แค่ หาพระมีศีล ดี ๆ สักรูป ได้ก็นับว่า เก่ง มากแล้ว พระทุกวันนี้เป็นเพียงพระบัณฑิต และมีเป้าหมายเพื่อสังคม สงบร่มเย็นเป็นหลัก นั่นเอง