• เจดีย์สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกของโลก รัฐมัธยะประเทศ (Madhya Pradesh) มรดกโลก....................................
• บันทึกการเดินทาง เที่ยวเจดีย์สาญจีสถูป
• สถูปสาญจี มหาเจดีย์องค์แรกของโลกและมรดกโลกที่ประเทศอินเดีย
• แค่ชื่อมรดกโลกและมหาเจดีย์องค์แรกของโลกมันทำให้ผมเองต้องไปชมเป็นขวัญกำลังใจให้กับตัวเองสักครั้ง
@@@@@@
• ก่อนเดินทาง
• สำหรับทริปนี้ผมได้รับความช่วยเหลือพิเศษและสปอนเซ่อร์ฟรีจากบริษัทจาตัก ทราเวล ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ที่ประเทศอินเดีย เชิญชวนไปสำรวจ สาญจีสถูป ถ้ำอชันตา ถ้ำเอลโลราและเมืองปูเน่
• จากกรุงเทพฯ ผมบินมาลงเมืองเดลี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย จากนั้นก็มานั่งรถไฟสายราชธานีแอนด์สตาร์บรี เป็นขบวนรถไฟสุดหรูของอินเดียมาที่เมืองโบปาล (สำหรับรถไฟสายราชธานีแอนด์สตาร์บรี เป็นรถไฟระดับเฟิร์ทคราสทั้งขบวนครับ นั่งสบาย เบาะปรับเอนนอน แอร์เย็นฉ่ำและเป็นรถไฟที่วิ่งตรงเวลาครับ)
• เมืองโบปาล ผมใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองโบปาล จากนั้นก็เดินทางต่อไปหมู่บ้านสาญจีซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสาญจีสถูป (อยู่ห่างจากเมืองโบปาลประมาณ 68 กิโลเมตร)
สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกของโลก หมู่บ้านสาญจี (Sanchi)
• เจดีย์สาญจีสถูป พระมหาเจดีย์องค์แรกในพระพุทธศาสนา (มรดกโลก)
• สถานที่ตั้ง สถูปสาญจี อยู่ห่างจากเมืองโบปาล ประมาณ 68 กิโลเมตร ในรัฐมัธยะประเทศ ตอนกลางของประเทศอินเดีย
• เจดีย์สาญจี หรือสาญจีสถูป สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 270 – 311) ทรงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมริยะ ปกครองแคว้นมคธในขณะนั้น หลังจากที่พระองค์หันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว พระองค์ก็ทรงกลายเป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก์ ผู้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา และเป็นผู้สร้างสถูปแห่งนี้ บนเนินเขา ที่สูงประมาณ 91 เมตร ในเขตหมู่บ้านสาญจี (Sanchi) อำเภอไรเซ่น (Raisen) รัฐมัธยะประเทศ (Madhya Pradesh) ประเทศอินเดีย
• พระสถูปแห่งนี้สร้างขึ้น ณ บริเวณที่เรียกว่า อวันตี อันเป็นสถานที่ที่ประสูติของพระนางเวทิสา ซึ่งเป็นพระมเหสีองค์แรกของพระองค์ เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเดินทางท่องเที่ยวมายังเมืองอุเจนีและได้พบรักพระมเหสีพระองค์นี้เข้า จึงได้ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางและเนื่องจากพระเจ้าอโศกทรงโปรดปรานหุบเขาที่ Vidisa มาก จึงมีพระดำริให้สร้างสถูปแห่งนี้ขึ้น
• สถูปสาญจี ได้สำรวจพบเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ.1818 (พ.ศ.2361) โดย พล.ท.เทเลอร์ นักโบราณคดีชาวอังกฤษและต่อมาได้พบสถูปองค์ที่ 1, 2, 3 รวมทั้งที่พำนักของพระสงฆ์เป็นจำนวนมาก แต่สถูปได้ถูกทำลายไปมากโดยพวกนักล่าสมบัติ ซึ่งต่อมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 1912 - 1919 (พ.ศ.2455 - 2462)
• สถูปสาญจี มีความสูง 52.5 ฟุต บนยอดสถูปตกแต่งด้วยฉัตร มีประตูทางเข้าสถูป 4 ทิศ แต่ละประตูมีภาพแกะสลักพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าและการใช้ชีวิตของคนในยุคสมัยนั้น ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยังหลงเหลือตั้งแต่ครั้งแรกสร้าง นอกจากนั้นยังพบเสาศิลาจารึก ตั้งอยู่ข้างซุ้มประตูด้านทิศใต้ มีสภาพสมบูรณ์ บนยอดเสามีสิงโต 4 ตัวอยู่บนปลายเสา อันเป็นสัญลักษณ์ของเสาที่สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช
@@@@@@
• พระประสงค์ในการสร้างมหาสถูปสาญจีของพระเจ้าอโศกมหาราชมี
1. เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
2. เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอัครสาวก พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ รวมทั้งพระธาตุของพระสมณทูตอีก 10 รูป ที่ทรงส่งไปประกาศพระศาสนาภายหลังการสังคายนาครั้งที่ 3
3. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระโอรสมหินทระเถระและพระธิดาพระสังฆมิตตาเถรี
4. เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระมเหสีนามว่า พระนางเวทิสา ผู้มีถิ่นกำเนิดที่เมืองนี้
@@@@@@
• การเดินทางเที่ยวชมสถูปสาญจี
• วิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟขบวนด่วนพิเศษราชธานีแอนด์สตาร์บรี วิ่งมาจากเมืองเดลี เป็นขบวนรถไฟสุดหรูของอินเดียมาที่เมืองโบปาล โดยผ่านเมืองอัครา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ระหว่างทางนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้สวยงาม
• ค่าเข้าชม ชาวต่างชาติคนละ 250 รูปีชมคลิปได้ที่ :
https://youtu.be/niqdbOOPAWoขอบคุณภาพและข้อมูลจาก :
http://www.oceansmile.com/India/Sanchi.htm