หัวข้อ: ออกบวช "ตอนภรรยาตั้งครรภ์" ภรรยาตามไปที่วัด เอาลูกไปให้เลื้ยง.!! เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 03, 2015, 12:53:35 pm (http://pe1.isanook.com/ns/0/ud/366/1832690/untitled-3_copy.jpg) ออกบวช "ตอนภรรยาตั้งครรภ์" ภรรยาตามไปที่วัด เอาลูกไปให้เลื้ยง.!! (ข้อธรรมจากสังคามชิสูตร) [๔๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสังคามชิถึงพระนครสาวัตถีโดยลำดับ เพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาค ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิได้ฟังข่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าสังคามชิถึงพระนครสาวัตถีแล้ว นางได้อุ้มทารกไปยังพระวิหารเชตวัน ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสังคามชินั่งพักกลางวันที่โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง ครั้งนั้น ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิ เข้าไปหาท่านพระสังคามชิถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระสังคามชิว่า ข้าแต่สมณะ ก็ท่านจงเลี้ยงดูดิฉันผู้มีบุตรน้อยเถิด เมื่อภริยาเก่ากล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระสังคามชิก็นิ่งเสีย แม้ครั้งที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓ ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิก็ได้กล่าวกะท่านพระสังคามชิว่า ข้าแต่สมณะ ก็ท่านจงเลี้ยงดูดิฉันผู้มีบุตรน้อยเถิดท่านพระสังคามชิก็ได้นิ่งเสีย :96: :96: :96: :96: :96: ลำดับนั้นแล ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิอุ้มทารกนั้นไปวางไว้ข้างหน้าท่านพระสังคามชิ กล่าวว่า ข้าแต่สมณะ นี้บุตรของท่านท่านจงเลี้ยงดูบุตรนั้นเถิด ดังนี้แล้วหลีกไป ลำดับนั้นแล ท่านพระสังคามชิไม่ได้แลดูทั้งไม่ได้พูดกะทารกนั้นเลย ลำดับนั้น ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิไปคอยดูอยู่ในที่ไม่ไกล ได้เห็นท่านพระสังคามชิผู้ไม่แลดูทั้งไม่ได้พูดกะทารกครั้นแล้วจึงได้คิดว่า สมณะนี้แลไม่มีความต้องการแม้ด้วยบุตร นางกลับจากที่นั้นแล้วอุ้มทารกหลีกไป พระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นการกระทำอันแปลกแม้เห็นปานนี้ แห่งภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิ ด้วยทิพจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ฯ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า "เรากล่าวผู้ไม่ยินดีภริยาเก่าผู้มาอยู่ ผู้ไม่เศร้าโศกถึงภริยาเก่าผู้หลีกไปอยู่ ผู้ชนะสงคราม พ้นแล้วจากธรรมเป็นเครื่องข้องว่าเป็นพราหมณ์" จบสูตรที่ ๘ อ้างอิง :- พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต สังคามชิสูตร เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๑๕๖๔ - ๑๕๙๐. หน้าที่ ๖๘. http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=1564&Z=1590&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=1564&Z=1590&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=45 (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=45) ขอบคุณภาพจาก :- http://news.sanook.com/1832690/ (http://news.sanook.com/1832690/) หัวข้อ: Re: ออกบวช "ตอนภรรยาตั้งครรภ์" ภรรยาตามไปที่วัด เอาลูกไปให้เลื้ยง.!! เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 03, 2015, 01:23:22 pm (http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/0_2015/July/post7.jpg) พระสังคามชิ สังคามชิกุลบุตร เป็นบุตรของเศรษฐีมีสมบัติมากท่านหนึ่งในเมืองสาวัตถี เวลาเจริญวัย มารดาบิดาให้มีเหย้าเรือนโดยสมควร มอบทรัพย์สมบัติให้ ให้อยู่ครองเรือน. วันหนึ่ง เขาเห็นอุบาสกชาวกรุงสาวัตถีกำลังถวายทาน สมาทานศีลตอนเช้า นุ่งห่มผ้าขาว ถือของหอมและดอกไม้เป็นต้น ตรงไปยังพระเชตวันเพื่อฟังธรรมตอนเย็น จึงถามว่า ท่านทั้งหลายไปไหนกัน เมื่อเขาตอบว่า ไปสำนักพระศาสดาในพระเชตวันเพื่อฟังธรรม จึงกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้น แม้ฉันก็จะไป จึงได้ไปกับพวกเหล่านั้น. สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเหนือบวรพุทธอาสน์ที่เขาบรรจงจัดไว้ ณ มณฑปสำหรับฟังพระสัทธรรม แสดงธรรมอยู่ในท่ามกลางบริษัท ๔ เหมือนไกรสรราชสีห์บันลือสีหนาทในถ้ำทอง. ครั้งนั้นแล อุบาสกเหล่านั้นถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่งอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง. ฝ่ายสังคามชิกุลบุตรนั่งฟังธรรมอยู่ท้ายบริษัทนั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส อนุปุพพิกถาประกาศสัจจะ ๔ ในเวลาจบสัจจะ สัตว์หลายพันได้ตรัสรู้ธรรม. :25: :25: :25: :25: ฝ่ายสังคามชิกุลบุตรก็บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อบริษัทออกไปแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้วทูลขอบรรพชาว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์บรรพชาเถิด. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ก็มารดาบิดาอนุญาตให้เธอบรรพชาแล้วหรือ. เขากราบทูลว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สังคามชิ พระตถาคตเจ้าทั้งหลายไม่ยอมบวชบุตรที่มารดาบิดาไม่อนุญาต. เขากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นั้นจักกระทำโดยที่มารดาบิดาอนุญาตให้ข้าพระองค์บวช ดังนี้ แล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วเข้าไปหามารดาบิดากล่าวว่า คุณแม่คุณพ่อ โปรดอนุญาตให้กระผมบวชเถิด. ลำดับนั้น เขาปฏิญญาว่า บวชแล้วจักแสดงตน ครั้นมารดาบิดาอนุญาต แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ทูลขอบรรพชา. และเขาก็ได้บรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า. ก็แล ท่านอุปสมบทได้ไม่นาน เพียรพยายามเพื่อมรรคสูงๆ อยู่จำพรรษาในอรัญญวาสแห่งหนึ่ง ได้อภิญญา ๖ ออกพรรษาแล้วไปยังกรุงสาวัตถีเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า และปลดเปลื้องที่รับคำมารดาบิดาไว้. ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสังคามชิถึงกรุงสาวัตถีแล้ว. ก็ท่านสังคามชินั้นเที่ยวบิณฑบาตในธูรคาม กลับจากบิณฑบาต ภายหลังภัต เข้าไปยังพระเชตวันเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ก็ได้ทำปฏิสันถารแล้ว พยากรณ์อรหัตผล ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าอีก แล้วทำประทักษิณ ออกไปนั่งพักผ่อนกลางวันที่โคนไม้แห่งหนึ่ง. (http://hilight.kapook.com/img_cms2/user/natthida/0_2015/July/post0.jpg) ลำดับนั้น มารดาบิดาและญาติมิตรของท่านทราบว่าท่านมา ร่าเริงยินดีว่า ข่าวว่า ท่านพระสังคามชิมาในที่นี้ จึงรีบด่วนไปยังวิหารค้นหาอยู่ เห็นท่านนั่งในที่นั้นเข้าไปหาทำปฏิสันถารแล้วอ้อนวอนว่า พระราชาอย่าได้ริบสมบัติของผู้ไม่มีบุตร ทายาทพึงได้รับ พอแล้วละด้วยการบรรพชา มาสึกเถิดพ่อ. พระเถระฟังดังนั้นแล้ว คิดว่า คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าเราไม่ต้องการด้วยกามทั้งหลาย ปรารถนาจะให้ติดอยู่ในกามเท่านั้น เหมือนคนหาบคูถต้องการก้อนคูถฉะนั้น ใครๆ ไม่อาจจะให้คนเหล่านี้เข้าใจธรรมกถาได้ จึงนั่งทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน. คนเหล่านั้นอ้อนวอนโดยประการต่างๆ เห็นท่านไม่เชื่อคำของตน จึงเข้าไปเรือนสั่งภรรยาของท่านพร้อมด้วยบุตรและบริวาร พลางกล่าวว่า พวกเราถึงจะอ้อนวอนต่างๆ ก็เอาใจท่านไม่ได้ จึงพากันมา ไปเถิดแม่ จงอ้อนวอนภัสดาของเจ้าให้ยินยอมโดยเห็นแก่บุตร. ได้ยินว่า เมื่อนางตั้งครรภ์ ท่านผู้นี้บวช. นางรับคำแล้วจึงได้พาเด็กพร้อมด้วยบริวารมากไปยังพระเชตวัน (http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/366/1833614/deff.jpg) นางกล่าวว่า ท่านทิ้งฉันกำลังตั้งครรภ์ทีเดียวบวช บัดนี้ ฉันนั้นมีลูกคนเล็กจะรุ่นหนุ่ม การที่ท่านทิ้งดิฉันผู้เป็นเช่นนั้นแล้ว ทำสมณธรรมไม่สมควร เพราะฉะนั้น สมณะ ท่านจงเลี้ยงดิฉันผู้มีบุตร เป็นเพื่อนสองด้วยอาหารและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น. ฝ่ายท่านพระสังคามชิ สำรวมอินทรีย์ไม่มองดูทั้งไม่เจรจากับนาง. เมื่อนางกล่าวอย่างนั้น ท่านพระสังคามชิก็ได้นิ่งเสีย. นางกล่าวเช่นนั้นถึง ๓ ครั้ง เห็นท่านนิ่งอย่างเดียว จึงสำคัญว่า ขึ้นชื่อว่าพวกผู้ชายไม่อาลัยในพวกภรรยา แต่ยังมีความอาลัยในบุตร ความสิเนหาในบุตรตั้งจดเยื่อกระดูกของบิดา ฉะนั้น เธอยังอยู่ในอำนาจของฉัน แม้เพราะรักบุตร จึงวางบุตรบนตักของพระเถระแล้วหลีกไปส่วนข้างหนึ่ง กล่าวว่า ท่านสมณะ นี้บุตรของท่าน ท่านจงเลี้ยงเขาเถิด แล้วไปเสียหน่อยหนึ่ง. ได้ยินว่า นางไม่อาจยืนตรงหน้าท่านด้วยเดชสมณะ. แม้เด็ก พระเถระก็ไม่มองดูทั้งไม่พูดด้วย. ทีนั้น นางแม้เป็นสตรียืนอยู่ในที่ไม่ไกล เหลียวหน้ามองดูรู้อาการพระเถระ ย้อนกลับมาอุ้มเด็กด้วยหวังว่า สมณะนี้ไม่ต้องการบุตร แล้วก็หลีกไป (ยกมาแสดงบางส่วน) อ้างอิง :- อรรถกถา ขุททกนิกาย อุทาน โพธิวรรคที่ ๑ สังคามชิสูตร http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=45 (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=45) อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎกได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=1564&Z=1590 (http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=25&A=1564&Z=1590) ขอบคุณภาพจาก :- http://news.sanook.com/1833614/ (http://news.sanook.com/1833614/) http://hilight.kapook.com/view/123528 (http://hilight.kapook.com/view/123528) |