ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอให้ท่านทั้งหลายจงตักตวงข้อความ ธรรมสาระที่มีประโยชน์ไปประกอบในชีวิตของตนเอง  (อ่าน 1404 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตอนนี้กำลังวังชาไม่เหมือนเมื่อก่อน เป็นไปตามอายุขัย เมื่อก่อนเดินวันละ 30 กม ก็ ธรรมดา เป็นพระต้องเดินส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้ร่างกายเริ่มชราภาพ และ ความเจ็บเข้ารบกวน รุมเร้า อาศัยว่า กายชรา แต่ จิตแกร่งขึ้น ใช้อำนาจสมาธิ เข้าข่มความเจ็บไข้ได้ป่วยไว้ และทำภาระกิจที่เฉพาะ ก่อน ฉันเองไม่ได้มีความวิเศษ วิโส อะไร แตกต่างจากชาวบ้าน อาหารฉันเต็มที่ มือ้หนึ่ง หนึ่งวัน ก็มีแค่นี้ ถือว่าดีสุดยอดแล้ว ถ้าวันไหนไม่มีใครทำบุญ ก็ข้าวสวย โรยน้ำร้อน ถั่วลิสงทอด ซอสสักนิด พริกไทยโรย ก็ใช้ได้แล้ว ดังนั้นอย่าได้คิดว่า คนจะวิเศษ เพราะอยู่ดีกินดี กินอิ่มหนำสำราญ แล้วจะวิเศษ แต่ ความวิเศษ นั้น คือ ต้องมีสติ ไม่เป็นทุกข์ ไม่พอกพูนตัณหา ไม่บ่มราคะ ไม่มีโทสะ และไม่หลงย่ำทางอยู่ โลกธรรม ทั้ง 8
อันลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เป็นโลก อันความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทุกข์ นินทา เป็นธรรม ผู้ใดมองเห็นตามความเป็นจริง ย่อมไม่ติดในโลกธรรม เหมือนหยดน้ำ ที่กลิ้งอยู่บนใบบัว ไม่เกาะ ใบบัวฉันนั้น บัณฑิต ผู้ฉลาดย่อมตั้งมั่นในสติ และ ธรรม และดำเนินสมังคี ทั้ง 8 กระทำความจริงในทุกข์ ให้ปรากฏ กระทำสาเหตุแห่งทุกข์ ให้ชัดเจน ย่อมตั้งปณิธาน ตรงเฉพาะ กับ ความสงบระงับจากทุกข์ และดำเนินชำระความเกี่ยวข้อง แห่งทุกข์ให้สว่าง ให้ขาด
ผู้ใดเห็นอยู่อย่างนี้แม้ไม่เอาดีทางกรรมฐาน เพื่อไปสู่ความระงับทุกข์ ก็ขอให้ระลึกถึงลมหายใจเข้า และ ออก เข้า และ ออก มองให้เห็นความเป็นจริง ของลมหายใจเข้า และ ออก อันเป็นบาทแรก ของ สติปัฏฐานเถิด อย่าได้ท้อหรือถอย ว่าธรรมนี้ลึกซึ้ง เกินขอบเขตของสัตว์โลก ที่หนาด้วยกิเลส จะรู้ได้
เพราะว่า สักวันหนึ่ง ตัวฉันที่กล่าวธรรมนี้ ก็ต้องจากท่านทั้งหลายไป ในอีกไม่นาน มีเพียงแต่หลักธรรม ที่จะเป็นเสียงแห่งธรรมเท่านั้นทีจะอยู่เป็นเพื่อนท่านทั้งหลายไปจนถึงสิ้นชีวิต
ดังนั้นทุกวันฉันจึงไม่เคยคิดว่า ฉันมีความสำคัญอะไรเลย ต่อโลกนี้หรือต่อพวกท่านทั้งหลาย เพราะว่าโลกนี้ไม่มีฉันก็ได้ สักวันก็ไม่มีฉัน และฉันก็ไม่ได้ปรารถนาให้ใครมาจดจำฉัน ไว้ในฐานะในฐานะหนึ่งตั้งแต่ต้น วันนี้แค่ทำงานปิดทองหลังพระ เท่านั้น
ขอให้ท่านทั้งหลายจงตักตวงข้อความ และ ธรรมสาระที่มีประโยชน์ไปประกอบในชีวิตของตนเองเถิด อย่าได้มองบุคคลหรือให้ความสำคัญกันใด ๆ เลย จงมองให้ลึก และ ลึกเข้าไปข้างใน ในความต้องการของใจตน เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเอง ตกไปในอบายภูมิ 4 เป็นเบื้องต้นเถิด เพราะการมีชีวิตอยู่ อบายภูมิ 4 นั้น ไม่เป็นที่สบาย เหมือนภูมิมนุษย์ ที่ยังมีโอกาสได้ศึกษา เรียนรู้แก่น แห่งแสงสว่าง
เจริญธรรม / เจริญพร
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ข้อความตอนนี้เป็นขั้น พื้นฐาน แต่ละสาย เท่านั้นไม่ได้สูงส่งอะไร เลย ตอนนี้
ดังนั้นถ้าท่านไม่ภาวนาตามมา ข้อความมันจะสูงขึ้นและหนักขึ้น จนกระทั่งท่านจะอ่านกันไม่เข้าใจ ในช่วงต่อไป เพราะกรรมฐานสายนี้ ไม่ได้เน้นการอ่าน แต่เน้นการภาวนา
ยาก หรือ ง่าย อยู่ที่บารมีที่ท่านสั่งสม ภาวนามยปัญญา มาแล้วด้วยนั่นเอง
แต่หากมีความรู้สึกว่า ยาก ไปก็ให้เลือกกับไปอ่านพื้นฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เสียก่อน และก็ให้เลือกไปสาย ปัญญาวิมุตติ ที่ไม่ต้องมาลำบาก เรื่อง นั่งกรรมฐาน ยืน เดินจงกรม ให้วุ่นวายใจ
เจริญพร
( ความหมายภาพ จะเดินกลับแล้วหรือ แค่เห็นต้นไม้ล้มขวางทาง หรือ ด้านหน้ามีป่าต้องลุย )


บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ