ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - nongmai
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จระเข้โผล่เกลื่อน ไล่งับดะ ซ้ำเติมถูกน้ำท่วม เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 06:57:02 am
จระเข้โผล่เกลื่อน ไล่งับดะ ซ้ำเติมถูกน้ำท่วม
ตั้งทีมไล่จับตาย ตะลึงตัว 2 เมตร
ฟาร์มหมูสุดซวย น้ำกลืน 200 ชีวิต

วิบากกรรมน้ำท่วม จระเข้โผล่ยุบยับ ทั้งที่จังหวัดสิงห์บุรี และอ่างทอง ชาวบ้านต่างหวาดผวา เร่งไล่ล่าหลายครั้งแต่ยังคว้าน้ำเหลว เพราะระดับน้ำที่สูง ขณะที่พนังกันน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่พรหมบุรี จ.สิงห์บุรีพัง น้ำทะลักท่วมหมูที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มจมน้ำตายและถูกน้ำพัดพาไปจำนวนมาก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดยังไม่พ้นวิกฤต กรมชลฯ ระบุปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เริ่มลดลง

ที่มา
http://www.ryt9.com/s/bmnd/709773
2  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผวากลุ่มมิจฉาชีพ อาละวาดโจรกรรมทรัพย์ประชาชนที่เดือดร้อนที่ถูกน้ำท่วม เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 06:52:47 am
ผวากลุ่มมิจฉาชีพ อาละวาดโจรกรรมทรัพย์ประชาชนที่เดือดร้อนที่ถูกน้ำท่วมต้องออกจากบ้านไปค้าง แรมที่อื่นเป็นการซ้ำเติม ผบก.โคราช สั่งตำรวจตรวจทั้งทางน้ำ ทางบก เดินเท้าตรวจตา…

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานปล่อยแถวนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานทั้งชายและหญิง และชมรมเรือวิคเอ็นฮอปปี้ (เรือเร็ว) จำนวน 150 คน ที่เดินทางมานำเรือและอุปกรณ์มาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยมี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผกก.ฝอ.ภ.นครราชสีมา และ พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองฯ ร่วมพิธี

พล.ต.ต. ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่ออกตระเวนขโมยทรัพย์ประชาชนที่ ถูกน้ำท่วม และได้ออกจากบ้านไปอาศัยที่อื่นนอนนั้นว่า ขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ยังไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเข้าไปลักทรัพย์บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมตามที่ เป็นข่าว เนื่องจากปริมาณน้ำที่ท่วมบ้านเรือนประชาชนยังมีปริมาณน้ำที่สูงอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกตรวจตราอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการออกตรวจทางน้ำโดยการนำเรือท้องแบนออกตรวจตามบ้านเรือน ประชาชนในยามค่ำคืน อีกทั้ง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเท้าหรือให้ประจำจุดแต่ละจุด เพื่อเป็นการป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจจะก่อเหตุได้ทุกเมื่อ แต่หากประชาชนที่จำเป็นต้องทิ้งบ้านเพื่อออกมาอาศัยพักที่อื่นและไม่มั่นใจ ในความปลอดภัยของบ้านตนเอง สามารถแจ้งกับศูนย์ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ว่า บ้านเลขที่เท่าไร หรือหมู่บ้านไหน ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยดูแลความ ปลอดภัยบ้านให้เมื่อไม่มีใครอยู่ในบ้าน

พล.ต.ต.ฉัตรกนก กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดต่อเข้ามาตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้จัดกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัยอยู่เช่นกัน โดยตนได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากอำเภอข้างเคียงที่ไม่ถูกน้ำท่วม จำนวน 9 อำเภอ เข้ามาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา , สภ.เฉลิมพระเกียรติ และ ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม อย่างไรก็ตามประชาชนทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพย์สิน เพราะตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา มีการออกตรวจอย่างเคร่งครัดทั้งกลางวันกลางคืน แต่หากกลุ่มมิจฉาชีพที่คิดจะเข้าไปลักทรัพย์สินเพื่อซ้ำเติมประชาชนที่เดือด ร้อนจากน้ำท่วมอยู่นั้น ตนอยากเตือนว่าจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอย่างเฉียบขาดและจะไม่ได้ ทรัพย์สินไปแต่จะได้อย่างอื่นไปแทน สำหรับประชาชนที่ไม่ได้ออกจากบ้านไปพักอาศัยอยู่ที่อื่น ตำรวจขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับบ้านข้างเคียง หากพบสิ่งผิดสังเกตสามารถโทรศัพท์เข้ามาแจ้งได้ที่ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา  http://www.thairath.co.th/content/region/120699
3  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ผู้ลี้ภัยพม่า1.2หมื่นคนทะลักเข้าแม่สอด เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 06:38:01 am
http://img703.imageshack.us/img703/6407/121h.jpg[/img]








ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บ
http://www.internetfreedom.us/thread-571.html

คมชัดลึก :นภอ.ท่า สองยาง เผยชายแดนไทย-พม่าด้านอ.ท่าสองยาง ยังปกติไม่มีเหตุรุนแรง ระบุฝ่ายความมั่นคงทหาร-ตชด.ยังตรึงกำลังเข้มก่อนการเลือกตั้ง ห้าม ปชช.ข้ามฝั่งไป รพ.แม่สอด ยันเหตุทหารพม่าปะทะกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.แม่สอดไม่มีผู้เสียชีวิต ระบุมีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ผู้ว่าฯตากสั่งทุกฝ่ายติดตามสถานการณ์พร้อมรับมือสู้รบ

ผู้ลี้ชาวพม่าทะลักเข้าแดนไทยคาดนับหมื่น
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ลี้ชาวพม่าจาก จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กว่า 5-6,000 คน ได้ลี้ภัยเข้ามายังเขตไทย โดยเดินทางข้ามแม่น้ำเมย โดยเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ. แม่สอด ได้นำมาไว้ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ( ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ) อส. และตำรวจ ในการดูแลผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ลี้ภัยทยอยมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่สถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. ของพันเอกนะเคามวย ผู้บัญชาการฝ่ายดีเคบีเอ. ยังมีความมีความตรึงเครียดเหมือนเดิม โดยฝ่ายทหารพม่ายังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด

 นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวว่า หากสถานการณ์ยึดเยื้อ จะมีผู้ลี้ภัยถึง 10,000 คนแน่นอน ส่วนสาเหตุที่ชาวพม่าเข้ามา เนื่องมาจากการสู้รบในฝั่งพม่า และมีข่าวว่า จะมีการสู้รบกับอีก ซึ่งถ้ามีการสู้รบอีกก็จะยืดเยื้อแน่นอน และทราบว่า มีการเจรจากันอยู่ อยากภาวนาให้สามารถเจรจากันได้ เพื่อที่กลุ่มผู้ลี้ภัยจะได้กลับไป

 สำหรับเหตุการณ์ที่มีกระสุนอาร์พีจี. ล้ำเข้ามาตกในเขตไทยในระหว่างการสู้รบนั้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมด 10 คน เป็นชาวพม่า 5 คน ชาวไทย 5 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในฝั่งพม่า ซึ่งส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดเมียวดี ส่วนบรรยากาศในจังหวัดเมียวดี ชาวบ้าน ร้านค้า ต่างปิดร้านเก็บตัวอยู่ในบ้าน

ผู้ลี้ภัยพม่า1.2หมื่นคนทะลักเข้าแม่สอด

 นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า ในเวลา 17.10 น. ซึ่งมีรายงานว่ามีกระสุนปืน ค. ตกที่บริเวณตลาดริมเมยจำนวน 2 นัด ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกระสุนปืนเล็กยาวที่พลัดมายังฝั่งไทยบ้างเป็นประปราย เท่านั้นและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

 ส่วนพื้นที่พักพิงชั่วคราวในกองร้อย ตชด.ที่ 346 ล่าสุดมีผู้ลี้ภัยราว 12,000 แล้ว แต่ยังสามารถรองรับได้อีกประมาณ 3,000 คน แต่หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ทางอำเภอก็มีสถานที่รองรับเพิ่มเติมที่ได้จัดเตรียมไว้แล้ว

รพ.แม่สอดยันเหตุพม่าปะทะกะเหรี่ยงแม่สอดไม่มีคนตาย

 นางปัทมา พงษ์ศรี เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดจำนวน 8 รายหลังจากเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.ในพื้นที่จ.เมียวดี ตรงข้ามตลาดริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเป็นชาวไทย 3 ราย ที่เหลืออีก 5 รายเป็นชาวพม่า ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีแผลถลอกตามร่างกาย ซึ่งเดินทางกลับบ้านได้แล้ว 4 ราย

 ส่วนอีก 4 รายที่เหลือรอดูอาการ เบื้องต้นพบว่ามีอาการนิ้วมือกระดูกแตก แผลข้อมูลด้านขวา กระดูกแขนขวาแตก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากโรงพยาบาลพะวอว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 รายเป็นคนไทย รายแรกเป็นหญิงอายุ 20 ปี เป็นแผลที่น่องด้านซ้าย รับยาและรักษาอาการต่อที่บ้าน อีกรายเป็นชายอายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้ง 2 ข้าง นอนรักษาอาการที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

 "สถานการณ์ภาพรวมตอนนี้แพทย์และพยาบาลถือว่าอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง และได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อย่างเต็มที่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขึ้น" นางปัทมา กล่าว

ผู้ว่าฯตากสั่งทุกฝ่ายติดตามสถานการณ์พร้อมรับมือสู้รบ

 นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารพม่าและ ชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงดีเคบีเอ. ในพื้นที่จ.เมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จนมีกระสุนปืนค. 60 ล้ำตกเข้ามายังเขตไทยหลายนัด เชื่อว่าเป็นเจตนาตั้งใจยิงระเบิดมาตกในฝั่งไทยเพื่อสร้างกระแสสังคมและเปิด สงครามข่าวสารต่อสาธารณะไม่ใช่ลูกหลงจากเหตุปะทะตามปกติ ล่าสุดมีประชาชนชาวพม่าอพยพหนีภัยการสู้รบจากจ.เมียวดีข้ามมาฝั่งไทยแล้วจำนวนมาก หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อคาดอาจสูงถึง 1 หมื่นคน

 เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตชด.และตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้านี้ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น  ได้เข้ามาดูแลผู้อพยพทั้งเรื่องที่อยู่ อาหาร ตามหลักมนุษยธรรมแล้ว  สำหรับจังหวัดได้กำชับให้ทุกฝ่ายติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความ พร้อมรับมือไว้ เพราะเกรงว่าภายในคืนนี้อาจมีการปะทะกันจนถึงขั้นแตกหัก และอาจเกิดเหตุจราจลขึ้นจนส่งผลกระทบมายังชายแดนไทย ซึ่งขณะนี้บรรยากาศที่ตลาดริมเมยเป็นไปอย่างเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เริ่มอพยพออกมาแล้ว

พม่าเสริมกำลังคุมเข้มชายแดนตอนใต้ด้านเกาะสอง-ระนอง

 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงประเทศพม่า ประจำจังหวัดเกาะสอง เปิดเผยว่า จากการที่เกิดการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยทางตอนบนของประเทศ ทำให้ขณะนี้ทางรัฐบาลทหารพม่าได้มีการเสริมกำลังเพื่อรักษาความเรียบร้อยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในส่วนของพื้นที่ภาคใต้หรือเขตตะนาวศรี ทางรัฐบาลทหารพม่าได้ มีการเสริมกำลังทหารจากกองพลที่ 22 กว่า 100 คน จาก จ.สโต รัฐมอญ เข้ามาดูแลความเรียบร้อยในเขตพื้นที่ จ.เกาะสอง และดูแลแนวพรมแดนไทย-พม่า ด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง

 นอกจากนี้ทางรัฐบาลทหารพม่าได้ มีการเสริมเรือรบเพิ่มอีก 2 ลำ จากฐานทัพเรือภาคตะนาวศรี เข้ามาประจำการที่ จ.เกาะสอง เพื่อดูแลรักษาความสงบบริเวณด่านพรมแดน โดยเฉพาะทางทะเล นอกจากนี้ทางทหารพม่าได้มีการเสริมเสบียงทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง อาหารกระป๋อง และผงชูรสจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

 นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวถึงบรรยากาศการค้าขายตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง ว่า บรรยากาศทั่วไปยังเป็นปกติ ยังมีการเดินทางข้ามฟากเข้ามาติดต่อ และค้าขายระหว่างกันตามปกติ แต่พบว่ามีรายงานความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจของทหารพม่าบริเวณจังหวัดเกาะสอง ที่เริ่มมีความเข้มงวดมากขึ้น

ที่มา

http://www.komchadluek.net/detail/20101108/78804/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99.html
4  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 06:36:17 am
ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

อ่านดู...น่ากลัวแฮะ

 

ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.oknation.net/blog/bai/2008/10/13/entry-1
 


มนุษย์ และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ "ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่

ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้

ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้น

ไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ

1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่

เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ


2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่

นรกแล้ว


3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะ

กรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู

จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก

เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4

ประเภท

- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะ

เบิกกว้าง จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)

- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น จะ

ไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย

- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ

และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ บาป

หนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ

- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล พูดนินทา พูดวิจารณ์ พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำ

หยาบคาย คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับ

รสชาติที่โสโครกและสกปรก


เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?

ดวง วิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติก็จะมี

ท่านมัจจุราชทำหน้าที่มานำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์ที่ ชะตาถึงฆาต พาไป

ยังยมโลก เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว ในขณะที่มีชีวิตอยู่

วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่ แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36

แห่ง แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน แต่ละด่านมีเครื่อง

ทรมานนับไม่ถ้วน วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี โดยเฉพาะคนที่

ทำกรรมชั่วมหันต์ หรือเรียกว่า "อนันตริยกรรม" มีอยู่ 5 อย่าง คือ 1.ฆ่าพ่อ 2.

ฆ่าแม่ 3. ฆ่าพระอรหันต์ 4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก 5. ทำร้ายพระพทุธเจ้าห้อ

เลือด

หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน ปกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย 7

วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วันเพื่อรอ

พิจารณาคดี ในระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากลูกหลานทางโลกที่กำลัง

ง่วนอยู่กับงานศพ

เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วัน ชีวิตหลังความตาย ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออก

จากร่าง ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้นในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียง

ลำพัง เท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่สามารถเอาติดตัวจากโลกมนุษย์ได้ เว้นเสียแต่บาป

กับบุญเท่านั้น

เจ็ดวันรอบแรก

วิญญาณ ผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง

เมื่อวิญญาณบาปไปถึง ก็เกิดหวาดกลัวไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น ก็

กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาปจนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวนด้วยความ

เจ็บปวดทุกขเวทนา

ส่วน วิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงดงหมาป่า ก็จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์

คุ้มครอง พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร จึงผ่านไปได้โดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบที่ สอง

เมื่อ วิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณ

บาป ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และยังมีพวกเจ้ากรรมนายเวรพากันมาทวงหนี้เวลา

นั้น

ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึงด่านประตูผี จะได้รับการต้อนรับและ

สามารถผ่านด่านนี้ไปโดยปลอดภัย

เจ็ดวันรอบที่ สาม

เมื่อ วิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้ และถูก

บังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม ยามมีชีวิตทำชั่วอะไร ภาพก็จะ

ปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ ถึง

วิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิด ตอนนี้แต่ก็สายเสียแล้ว

ส่วน วิญญาณผู้ประกอบกรรมดี เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่พาไป

ท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้องที่ ทำบาป กำลัง

รอคอยการพิจารณาตัดสินความผิด

เจ็ดวันรอบที่ สี่

เมื่อ มาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยาก

ลำบากมาก กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์หลงงม

งายเผาส่งไปให้ ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วแม้ผู้ตาย

จะได้รับก็ไร้ประโยชน์

เจ็ดวันรอบที่ ห้า

วิญญาณ ผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์

ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว ไม่

อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์

เจ็ดวันรอบที่ หก

เมื่อ วิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญที่

ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต หลังจากหักลบกันแล้ว ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้

ไปเกิดยังสุคติภูมิ ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ รับทุกข์อย่างน่า

เวทนา

เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด

เมื่อ วิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า ผู้

ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่ ถ้าได้ถือศีลกิเจ ละเว้นจากการฆ่า

สัตว์ก็จักลหุโทษ ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขของปากท้องก็จะเพิ่มโทษ

เป็นเท่าตัว.

ที่ กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น เร่งสะสมความดีกันให้

มากๆ นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น แต่สักวันท่านก็

ต้องเห็น กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ...

 อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ส่งต่อเมล์นี้นะ
5  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เยาวชน อ่านหนังสือธรรมะ เป็นธรรมทาน เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2010, 12:37:14 am
เยาวชนอ่านหนังสือธรรมะ เป็นธรรมทาน
ทุกวันเสาร์ - อาิทิตย์ เวลา 13.00-14.30 น.
ในห้องธรรมะเพื่อชีวิต camfrog vdo ชื่อห้อง
( Oo_Dhamma_for_liveS_oO )
ที่ออนไลน์สื่อธรรมตลอด 24 ชั่วโมง
ขอเชิญกัลยาณมิตรร่วมให้กำลังใจเด็กๆ ได้นะคะ
ติดตามรายละเอียดที่ www.ThaiDFL.com
 

มารู้จัก เยาวชนอ่านหนังสือธรรมะเป็นธรรมทานกันค่ะ



ธรรมสวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ององุ่น อยู่มัธยมปีที่ 3 ค่ะ
ตลอดระยะเวลาที่ได้ร่วมสร้างกุศล
ด้วยการอ่านหนังสือธรรมะ
ทำให้ซึมซาบสติ สมาธิได้มากค่ะ
การเรียนดีขึ้นเพราะมีสมาธิ
และที่สำคัญเป็นกิจกรรมที่ทำให้มีความ สุขค่ะ
คติประจำใจ
"เด็กมีธรรมะในหัวใจ คือผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า"


หนูชื่อน้องชมพู่ค่ะ อยู่มัธยมปีที่ 3 ค่ะ
หนูมีความสุขและภาคภูมิ
ที่ได้อ่านหนังสือธรรมะ
และอ่านผ่านไปนับเป็นร้อยเล่มอย่างมี ความสุข
ในการเผยแผ่ธรรมะมากค่ะ หนูอยากทำกิจกรรมนี้ตลอดไปค่ะ
คติประจำใจ
"..อย่าท้อเมื่อจะสุ้.."



หนูชื่อน้องฟองแฟงค่ะ อยุ่มัธยม ชั้นที่ 1 ค่ะ
หนูอยากให้เยาวชนทุกๆคนในประเทศไทย
สนใจกับการอ่านหนังสือให้มากขึ้น
และหยิบหนังสือธรรมะขึ้นมาอ่าน คงทำให้เยาวชนทุกคน
มีความสุขที่ได้ทำความดี
ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและเรื่องไร้ สาระค่ะ
คติประจำใจ
" วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน "


ผมชื่่อ น้องแบงค์ครับ อยู่ ม.1 ครับ
ผมดีใจที่มีกิจกรรมนี้
ถ้าวันไหนไม่ได้ทำกิจกรรม
กับการอ่านหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน
ทำให้คิดถึงครับ
มีความสุขกับการเลือกหนังสือแต่ละเล่ม
และค่อยๆอ่านไปจนจบ
คติประจำใจ
" ไม่สำเร็จไม่ถอย "



หนูชื่อนกยุง และน้องอาร์ม น้องชายของหนูเองค่ะ
หนูอยู่ ม.2 สำหรับน้องอาร์มอยู่ ป.2 ค่ะ
เราก็จะมาอ่านหนังสือธรรมะด้วย
คุณแม่ของหนูให้การสนับสนุนมากค่ะ
น้องอาร์มเลยได้ซ้อมอ่านหนังสือบ่อยๆ ด้วย
อ่านเก่งขึ้นเยอะเลยค่ะ
หนูดีใจที่ได้ทำความดี
คติประจำใจ
"อนาคตไม่สำคัญ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด "

6  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กรรมฐาน ที่ท่านคิดว่ามีผู้ปฏิบัติมากที่สุด ในประเทศไทย เมื่อ: มิถุนายน 25, 2010, 02:23:18 am
ลองทำแบบสำรวจ ความคิดเห็นดูครับ

ว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ความนิยมกรรมฐาน ในประเทศไทย ในหมู่ผู้ภาวนา
7  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / รวมเว็บธรรมะ ( link dhama ) เมื่อ: มิถุนายน 17, 2010, 08:06:03 am
http://www.thaiwebhunter.com/

ไปทุกเว็บ ตามหมวดอักษร

http://www.dhammajak.net/directory/

เว็บรวมอีกเช่นกัน

http://www.stats.in.th/?cmd=ranking&cat=art

ในเว็บสถิติ ก็ดูได้เช่นกัน
8  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / เมื่อวานผมได้ฟัง RDN ตอนทุ่มหนึ่ง ครับ เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 08:31:38 pm
รู้สึกว่าจะเป็นเรื่องการบรรยายอารมณ์พระกรรมฐาน

แต่เห็นมีพิธีการด้วยครับ

มี การขอศึล รับศีล

กล่าวคำขอขมา

และกล่าวคำอธิษฐาน

แล้วปฏิบัติตามเสียง

ผมฟังแล้ว ทำไมต้องมีขั้นตอน เยอะแยะ และ ต้องมีการอธิษฐานกรรมฐานครับ

เพราัะว่า การภาวนากรรมฐาน ผมว่าถ้าเราต้องการทำหรือ ภาวนาก็ควรจะได้ทำการภาวนาเลย
ทำไม ต้อง มาตั้งท่าทาง หรือ ทำในสิ่งที่เรียกว่า พิธีการ หรือ พิธีรีตรอง กันครับ

เพราะผมมีความรู้สึก ว่าจำไม่ได้ กับขั้นตอนนั้นเลย ดูเหมือนเป็นการยากมาก ๆ ที่ต้องกำหนดตาม

 ??? ???
9  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กฏแห่งกรรม เป็นจริงหรือป่าวครับ เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2010, 08:23:45 pm
กฏแห่งกรรม สำหรับผม ถือว่า มีกฏว่า ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่ว

แต่ผมเห็นคนทำดี กับตกต่ำ กว่าคนทำดี เพราะเหตุไร

ส่วนคนทำชั่ว เห็นก็อยู่ดีมีปกติ อายุยืน อีกต่างหาก

หรือว่าผม เข้าใจกฏแห่งกรรม ผิด ครับ
10  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ิวิชชาจะระณะสัมปันโน อยากทราบความหมายนี้ เมื่อ: มีนาคม 11, 2010, 08:33:45 am
 :13: วิชชาจะระณะสัมปันโน ผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจะระณะ ผมอยากทราบความหมายนี้ครับว่าจะเกี่ยวกับ
กับสมาธิ หรือ ป่าวครับ
11  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มืดมาแล้ว อยากสว่างไป เมื่อ: มีนาคม 02, 2010, 12:40:06 pm
ผมเป็นคนหนึ่งที่พยายาม นึกถึงหลักธรรม แม้จะทำงานอยู่เป็นประจำ แต่ก็มักชอบหามุมสงบนั่งดูพิจารณาดู ชีวิต
ผมรู้สึกว่า ชีวิตไม่ค่อยมีความหมายอะไรเลย เพราะเมื่อผมนึกถึงการทำงาน การเป็นอยู่ และระลึกถึงความตายที่จะ
ปรากฏกับผมอีกในไม่ช้า

ผมก็เลยคิดได้ว่า แท้ที่จริง ผมไม่ได้เกิดมาเพราะเรื่องชื่อเสียง เกรียติยศ หรือความนับถือ อะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถติดตามเราไปได้เมื่อตายไป หากแต่ชีวิตผมจะมีความหมาย ก็อยู่ที่ความต้องการไม่อยากกลัีบมา
เกิดอยู่บนความวุ่นวาย อย่างนี้

อะไรที่จะทำให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ก็มีแต่ สมถะ และ วิปัสสนา ซึ่งผมก็รู้เพียงเท่านี้

ผมจึงเดินทางหากัลยาณมิตร ที่จะสามารถถ่ายทอด ช่วยเหลือผมในด้าน สมถะ และ วิปัสสนา ครับ


ผมรู้สึกว่าชีวิต มันเหมือน มืด มาแล้ว ตอนนี้ ผมรู้ตัวแล้วว่ากำลัีงอยู่ในความมืิด

ผมกำลัีงหาแสงสว่าง ซึ่งแสงสว่าง ที่ผมรับได้ตอนนี้ ก็เป็นเสียงแห่งพระธรรมที่ พระพุทธเจ้าถ่ายทอดไว้ให้ครับ


หน้า: [1]