สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2017, 06:21:20 pm



หัวข้อ: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2017, 06:21:20 pm
ภารา หเว ปัญจักขันธา
ภารา หาโร จ ปุคคโล
ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ
บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป

ที่วุ่นวายกันอยู่ทุกวันนี้ ก็คือ ขันธ์ ๕ มี รูปขันธ์ ( เรียกว่า กายขันธ์ เป็นที่รวมของ มหาภูตรูป สี่ มีอาการวัตตะ ๓๒ มี ผม ขน เล็บ เป็นต้น
ส่วนนี้ มี พยาธิ ทุกข์ และ มรณะ เป็นไปตามกฏพระไตรลักษณ์ ไม่สามารถมีใครพ้นได้ ขันธ์นี้ถือว่า หนักมากเพราะว่า ไม่มีใครข้ามได้ พยาธิ ทุกข์ และ มรณะ นั้นเป็นสิ่งที่หนัก เมื่อเกิดย่อมมีวิบากที่หนักไปตามบุญนำกรรมแต่งแต่ละท่าน

เวทนาขันธ์ คือ ความรู้สึกทุกข์ ความรู้สึกสุข ความรู้สึกเป็นกลาง ๆ ตัวความรู้สึกนี่แหละ ที่เป็นเครื่องบงการขับเคลื่อนที่สำคัญ ทั้ง ตัณหา และ การปล่อยวาง

สัญญาขันธ์ คือ ความจำได้ ต่อสุข ต่อทุกข์ ต่อความเป็นกลาง ๆ เมื่อจำได้ ว่าอะไรทุกข์ ก็ละ เมื่อจำได้ อะไว่าสุข ก็วิ่งหา เมือเป็นกลางๆอยู่ ก็คอยจดจำ สุขมากยิ่งขึ้น ตัณหาก็มากขึ้น

สังขารขันธ์ คือ ความปรุงแต่ง ส่งเสริมต่อยอดให้สัญญา และ สนองสัญญา โดยมีปัจจัยมาจาก เวทนา ดังนั้น ในวงจรปฏิจจสมุปบาท ถ้าดับสัญญาดับ ก็ดับภพ ชาต ทุกข์ อวิชชาได้ เพราะ วิชชา ดับ สังขาร ดังนั้นในทางภาวนา จึงมีการกระทำตรงส่วนนี้มากที่สุด

ในหลักกรรมฐาน แล้ว เวทนา สัญญา สังขาร นั้น เรียกว่า จิตขันธ์

ส่วนวิญญาณขันธ์ เรียกว่า ดวงจิต ไม่ใช่ตัวจิต แต่หมายถึง ตัวรับวิบาก ในวิญญาณ ฐิติ ประการ ตัววิญญาณขันธ์ ไม่ใช่ที่ตัวเราต้องเข้าไปจัดการ ถ้าผู้ภาวนาแยก ขันธ์ ๕ ได้ ก็จะทราบว่า ตัว รูปขันธ์ และ วิญญาณขันธ์ ไม่สามารถจัดการได้ เพราะเปลี่ยนไปตามวิมุตติ ที่มีปัญหาที่ต้องเข้าไปจัดการ คือ จิตขันธ์ นั่นเอง ถ้าจิตขันธ์ เกิดปัญญา รูปขันธ์ ก็ดับ วิญญาณขันธ์ ก็ดับ ดังนั้น ต้นทางจริง ๆ ของ วัฏฏะสงสาร คือ สังขาร ขันธ์

วิญญาณชันธ์ คือ การรับรู้เรื่องราวราวต่าง ๆ จาก ขันธ์ ทั้ง 4 มาประมวลเป็นภพ ด้วยกาลทั้ง 3 คือ อดีต อนาคต และปัจจุบัน ถ้ารับรู้อดีตมากก็ทุกข์ มาก ถ้ารับรู้อนาคตมาก ก็ทุกข์มาก ถ้ารับรู้ในปัจจุบัน ก็จะได้ความตื่น ความรู้ และ ความเบิกบาน หรือ ที่เรียกว่า กายพุทธะ จิตพุทธะ ดังนั้น วิญญาณขันธ์ จึงเป็นเสมือนดวงจิตจริง ๆ ที่เดินทางในสังสารวัฏ เปลี่ยนรูปร่างเป็นไปตามบุญกรรมนำแต่งที่ตนได้กระทำไว้ นั่นเอง


(http://p4.isanook.com/tr/0/rp/r/w600/ya0xa0m1w0/aHR0cDovL3A0LmlzYW5vb2suY29tL3RyLzAvdWQvMjc5LzEzOTU5MDUvMjkuanBn.jpg)


หัวข้อ: Re: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2017, 12:55:47 pm
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2017, 03:41:02 am
 st11 st12 st12


หัวข้อ: Re: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2017, 01:17:45 pm
 st12 st12 st11 st11


หัวข้อ: Re: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2017, 02:30:44 pm
ขออนุโมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: ขันธ์ทั้งห้า เป็นของหนักเน้อ บุคคลเป็นผู้แบกของหนักพาไป
เริ่มหัวข้อโดย: sinsae ที่ กุมภาพันธ์ 18, 2017, 11:18:48 pm
 st11 st12 st12

 มีสาระมากครับ ข้อความของพระอาจารย์ ที่ออกมาให้อ่านนี้ ถ้าไม่นับห้องลับที่ผมยังอ่านไม่ได้ ถือได้ว่า เป็นข้อความที่มีประโยชน์ แก่การภาวนาทางจิตมากเลยครับ

 st11