ไม่ใช่ปัญญา
เมื่อสองสามปีที่แล้วปรากฏเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับพระไทยในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ
พระมีข้อวัตรปฏิบัติที่จะต้องรักษาพรหมจรรย์อย่างเคร่งครัด
ในฝ่ายเถรวาท เพื่อให้พระอยู่เหนือข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับการประพฤติพรหมจรรย์
พระจะมีการสัมผัสทางกายกับผู้หญิงไม่ได้เลยไม่ว่าในกรณีใด
เช่นเดียวกับแม่ชี ซึ่งจะสัมผัสทางกายกับผู้ชายไม่ได้เช่นกัน
ในเรื่องอื้อฉาวที่ถูกตีพิมพ์พระบางรูปไม่ปฏิบัติตามพระวินัย ทำตัวเหลวไหล
และนักข่าวก็รู้ดีว่า ความเรียบร้อยของพระดีๆ น่าเบื่อเมื่อเทียบกับเรื่องอื้อฉาวของพระเหลวไหล
ในช่วงที่เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น อาตมาคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่อาตมาจะสารภาพเรื่องของอาตมา
ดังนั้นเย็นวันศุกร์หนึ่ง ที่วัดของเราในเมืองเพิร์ธ ต่อหน้าผู้ฟังราวๆ สามร้อยคน
หลายๆ คนเป็นโยมอุปัฏฐากมานาน อาตมารวบรวมความกล้าที่จะสารภาพความจริง
อาตมาเริ่มว่า “อาตมามีเรื่องจะสารภาพ มันไม่ง่ายนักหรอกเมื่อหลายปีมาแล้ว.....” อาตมารีรอสักพัก
แล้วอาตมาจึงพูดต่อ “เมื่อหลายปีมาแล้ว อาตมาใช้เวลาช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ...”
แล้วอาตมาก็หยุดชะงักอีกครั้ง
ในที่สุดอาตมาก็สารภาพออกมาว่า
“อาตมาใช้เวลาช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ... ในอ้อมแขนที่อุ่นด้วยไอรักของภรรยาชายอื่น”
“เราโอบกอดกัน เราลูบไล้กัน เราจูบกัน” อาตมากล่าวจบพร้อมอาการคอตก และตาก้มต่ำมองพรมเบื้องล่าง
อาตมาสามารถได้ยินเสียงตระหนกตกใจจากญาติโยมบางคนยกมือปิดปากที่อ้าค้างด้วยความช็อค
อาตมาได้ยินเสียงกระซิบว่า “โอ๊ย... ย .. ! ท่านอาจารย์พรหมก็เอากับเค้าด้วยเรอะ”
อาตมามองเห็นภาพบรรดาโยมที่อุปัฏฐากวัดมานานพากันเดินออกจากประตูไปโดยที่จะไม่หวนกลับมาอีก
แม้แต่ฆราวาสก็ไม่สมควรทำกับภรรยาของชายอื่น
มันเป็นการผิดลูกผิดเมียเขา อาตมาตั้งศีรษะขึ้นตรง มองไปยังผู้ฟังอย่างมั่นใจและยิ้ม
“ผู้หญิงคนนั้น” อาตมารีบอธิบายก่อนที่ใครสักคนจะเดินออกจากประตูไป
“ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของอาตมาเอง และเมื่อครั้งที่อาตมายังเป็นเบบี๋น่ะนะ”
บรรดาผู้ฟังของอาตมาระเบิดหัวเราะออกมาอย่างโล่งใจ
“นี่เรื่องจริงนะ” อาตมาพูดดังๆ ใส่ไมโครโฟนสู้กับเสียงหัวเราะนั้น
“เธอเป็นเมียของชายอื่น พ่อของอาตมาเอง เรากอด เราลูบไล้ เราจูบกัน
มันเป็นช่วงเวลาที่อาตมามีความสุขที่สุดในชีวิตช่วงหนึ่งทีเดียวเชียวล่ะ”
เมื่อบรรดาผู้ฟังปาดน้ำตาทิ้งและหยุดหัวเราะ อาตมาได้ชี้ประเด็นว่า
พวกเขาเกือบทุกคนได้ตัดสินอาตมาอย่างผิดพลาดไปแล้ว
แม้ว่าพวกเขาจะได้ฟังเรื่องราวจากปากของอาตมาเอง
และความหมายของข้อความเหล่านั้นชัดเจนมาก
แต่พวกเขายังสามารถโดดไปสู่บทสรุปที่ผิดพลาดได้
โชคดีโดยแท้ ที่ครั้งนี้เป็นแค่เรื่องที่อาตมาตั้งใจล้อเล่น
อาตมาจึงสามารถชี้ให้เห็นถึงความคิดเห็นที่ผิดของพวกเขาได้
อาตมาถามขึ้นว่า “กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราไม่ได้โชคดีเช่นนี้
และได้ด่วนสรุปจากหลักฐานที่ดูเหมือนว่าแน่นอนนัก
เพื่อจะได้พบว่ามันผิด ผิดอย่างมหันต์และให้ผลร้ายเสียด้วย?”
การตัดสินเปรี้ยงลงไปว่า “สิ่งนี้ถูก สิ่งอื่นผิดหมด” ไม่ใช่ปัญญา