สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: rainmain ที่ เมษายน 22, 2012, 11:09:17 pm



หัวข้อ: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ เมษายน 22, 2012, 11:09:17 pm
เรียนถามว่า พระ กับ โยม  ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
คือสงสัยว่า บางท่านกล่าวว่าไปบวชพระ แล้วจะได้ภาวนาเป็นพระอริยะบุคคลโดยไว
บางท่านก็กล่าวว่า เป็นฆราวาส ก็ำภาวนาเป็นพระอริยะบุคคล กันได้ ผมเองก็ยังสงสัยเช่นกันครับ
ระหว่างเป็น พระ กับ เป็น ฆราวาส ใครมีโอกาสได้เป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ

  :25:


หัวข้อ: Re: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ เมษายน 23, 2012, 08:57:24 am
เรียนถามว่า พระ กับ โยม  ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
คือสงสัยว่า บางท่านกล่าวว่าไปบวชพระ แล้วจะได้ภาวนาเป็นพระอริยะบุคคลโดยไว
บางท่านก็กล่าวว่า เป็นฆราวาส ก็ำภาวนาเป็นพระอริยะบุคคล กันได้ ผมเองก็ยังสงสัยเช่นกันครับ
ระหว่างเป็น พระ กับ เป็น ฆราวาส ใครมีโอกาสได้เป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ


พระ กับ โยม มีโอกาสรับธรรม เป็น พระอริยะสาวก ได้ต่างกัน

พระ จะได้เปรียบกว่า เรื่อง การประกอบอาชีิวะ และ การตัดปลิโพธ ( พระแท้ ๆ ) ดังนั้นพระมีโอกาสมากกว่า ในการเป็น พระอริยะบุคคล ในขณะที่ โยม ( ฆราวาส ) ต้อประกอบสัมมาอาชีิวะ ตามอาชีพของตนซึ่งอาจจะไม่มีเวลาในการภาวนา จริง ๆ

แต่ปัจจุบัน โอกาส เท่าที่มองเห็นนั้น มีพอกัน เพราะว่า พระถ้าบวชเข้ามาไม่ปฏิบัติ ก็เท่านัึ้นเอง ไม่ไปไหนหรอก สู้โยมที่หาเวลามาปฏิบัติภาวนา ไม่ได้ เท่าที่มองเห็นกับการเดินทางไปตามวัดต่าง ๆ เห็นแต่โยม มาเดินจงกรม นั่งกรรมฐาน สวดมนต์ภาวนากันในวัด ส่วนพระนอนดูทีวี กัน ถ้าเป็นอย่างนี้ โอกาสที่โยม จะสำเร็จมีมากกว่า แน่นอน เพราะโยมไม่ตั้งอยู่บนความประมาท เป็นผู้ไม่ประมาท
 
ดังนั้น คำตอบก็คือ ถ้าผู้ใดตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ก็มีโอกาสสำเร็จธรรม ใครตั้งอยู่บนความประมาท ก็ไม่มีโอกาสสำเร็จธรรม

  ดังนั้น ถ้าพระประมาท ไม่ภาวนา ก็ไม่มีโอกาส
         ถ้าพระไม่ประมาท ภาวนา ก็มีโอกาส
         ถ้าโยมประมาท ไม่ภาวนา ก็ไม่มีโอกาส
         ถ้าโยมไม่ประมาท ภาวนา ก็มีโอกาส

  เจริญพร / เจริญธรรม


  ;)

(http://www.madchima.net/images/410_card_22.jpg)


หัวข้อ: Re: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ เมษายน 23, 2012, 12:33:37 pm
สาธุ ขอรับ

 :25: :c017:


หัวข้อ: Re: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เ็พ็ญนภา ที่ เมษายน 24, 2012, 10:06:53 am
  คือการภาวนา นั้น ความสมบูรณ์ อยู่ที่ ศีล สมาธิ ปัญญา ใช่หรือไม่คะ

  ในเมื่อ พระ มีศีล 227 ข้อ โยม มีศีล 5 - 8 อย่างนี้ จะเอา พระ กับ โยม ไปเทียบกันได้อย่างไร คะ

  คือ ศีล พระมากกว่า พูดถึงความได้เปรียบ ก็ไม่รู้กี่ เท่า ถ้าเทียบกับ ศีล 5 =44 เท่า

  ก็ยังไม่เข้าใจ ว่า โยม จะได้เปรียบพระ ได้อย่างไร ในการเข้าถึง อริยมรรค อริยผล

  :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สมภพ ที่ เมษายน 25, 2012, 07:39:39 am
ผมว่า ถ้าในการภาวนา แล้ว ศีล ไม่มาก ไม่น้อย ต่างกันครับ
เวลาในการภาวนา มีอริยะศีล คือ กุศลกรรมบถ 10 ประการ นี้ ที่ทำให้ผู้ปฏิบัิติเสมอกัน ส่วน ศีล ที่เป็น ข้อบัญญัติ 5 8  10 227 300 ประมาณนี้ บางครั้งเป็นข้อบัญญัติ
 
   เอาง่าย ๆ ศีลพระข้อหนึ่ง ห้ามเคี้ยวข้าวเสียงดัง คือผมไม่ทราบว่า ถ้าเคี้ยวข้าวเสียงดัง จะตกนรกขุมไหน ครับดังนั้น ทางฝ่ายพระเอง เพียงปรับอาบัติ ว่าเสียมารยาท เรียกว่า ทุกกฏ ถุลลัจจัย อย่างนี้เป็นต้น

   ที่นี้ถ้ามองกลับกัน เราเคี้ยวข้าวเสียงไม่ดัง ก็เท่ากับเรามีศีลข้อนี้เช่นกันใช่หรือไม่ครับ

   ดังนั้นถ้าวัดด้วยบทบัญญัติแล้ว ศีล ที่มากข้อ ก็ใช่ว่า จะได้เปรียบผู้ปฏิบัติ กลับจะทำให้ผู้ปฏิบัติเอง เกิดปลิโพธ กังวลกับการละเมิดข้อบัญญัติ

   ดังนั้นการวัดศีล จึง ศีลอริยะ คือกุศลกรรมบถ 10 ผมว่าเป็นกลาง ที่สุด ดังนั้น โยม กับ พระ จะเสมอกันด้วยอริยะศีล ครับ


     :49:


หัวข้อ: Re: เรียนถามว่า พระ กับ โยม ใครจะสามารถรับธรรมเป็น พระอริยะบุคคลได้ก่อนกันครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ กรกฎาคม 20, 2012, 02:08:33 pm

  ดังนั้น ถ้าพระประมาท ไม่ภาวนา ก็ไม่มีโอกาส
         ถ้าพระไม่ประมาท ภาวนา ก็มีโอกาส
         ถ้าโยมประมาท ไม่ภาวนา ก็ไม่มีโอกาส
         ถ้าโยมไม่ประมาท ภาวนา ก็มีโอกาส


 สรุปได้ดี ครับ ถูกใจผู้อ่าน ครับ

  :c017: :25: