[ผู้นำอินเดียกล่าวปราศัย เนื่องในวันวิสาขบูชา • อินเดีย : เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2012 บรรดาผู้นำของประเทศอินเดีย นำโดย นางประติภา ปาติล ประธานาธิบดี นายโมฮัมหมัด ฮามิด อันซารี รองประธานาธิบดี และนายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรี ได้มีสารถึงประชาชน เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม 2012 สารจากประธานาธิบดี ระบุว่า “คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอหิงสา ความชอบธรรม และความรักอันเป็นสากล มีความเกี่ยวเนื่องกันตลอดไป และในโอกาสนี้ ขอให้พวกเราอุทิศตน เดินตามคำสอนของพระพุทธองค์อีกครั้ง เพื่อสร้างสังคมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและก่อให้เกิดความสามัคคีขึ้นในชาติ” ขณะที่รองประธานาธิบดีได้กล่าวทักทายประชาชนและแสดงความหวังว่า คำสอนของพระพุทธองค์ในเรื่องความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การไม่ใช้ความรุนแรง และความเสมอภาคนั้น มวลมนุษยชาติ ควรนำมาใช้เป็นเครื่องชี้ทางปฏิบัติ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ ส่วนนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ธรรมะของพระพุทธองค์ ในเรื่องความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการไม่ใช้ความรุนแรง คือ คำสอนที่เป็นอมตะ และเหมาะสมกับโลกปัจจุบัน” (จาก Calcutta News) ชาวพุทธมาเลย์แปรอักษรเป็นภาพใบโพธิ์ ร่วมฉลองวิสาขบูชา • มาเลเซีย : คลื่นมนุษย์ผู้มีจิตศรัทธา 9,600 คน ร่วมกันแปรอักษรเป็นภาพใบโพธิ์ขนาดใหญ่ 6 ภาพ ที่สื่อความหมายถึงคุณธรรมความดีงาม 6 ประการที่บุคคลควรมี คือ ศีลธรรม ความอดกลั้น ความกระตือรือร้น ความเพียร สมาธิ และปัญญา ในพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นภายในสนามกีฬาโรงเรียนมัธยมฮันเชียง ในปีนัง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 โดยสมาคมพุทธฉือจี้แห่งมาเลเซีย เพื่อเฉลิมฉลอง 3 วาระสำคัญพร้อมกัน คือ วันวิสาขบูชา วันแม่ และวันฉือจี้สากล ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธากว่า 10,000 คน พร้อมทั้งข้าราชการระดับสูงของปีนังและบรรดาพระสงฆ์ได้เข้าร่วมในพิธีนี้ (จาก thestar.com) นักศึกษาชาวพุทธในอินโดนีเซีย รณรงค์อนุรักษ์มกาสถูปบุโรพุทโธ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา • อินโดนีเซีย : เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2012 นักศึกษาชาวพุทธกลุ่มหนึ่งจาก Hikmahbudhi ซึ่งเป็นองค์กรนักศึกษาชาวพุทธแห่งประเทศอินโดนีเซีย ได้ออกรณรงค์ให้มีการอนุรักษ์มหาสถูปบุโรพุทโธ อันเป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองมาเกลัง ทางตอนกลางของเกาะชวา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา บรรดานักศึกษาได้พากันแจกใบปลิวหลายพันใบ เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำวิปัสสนาในวันวิสาขบูชา ช่วยกันอนุรักษ์มหาสถูปบุโรพุทโธ พร้อมกับนำไปแจกจ่ายแก่บุคคลทั่วไปที่มาร่วมงานวันวิสาขบูชา ที่จัดขึ้นรอบบริเวณวัดเมนดัต ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 3 กม. (จาก Bernama Media) วัดโชเจ เกาหลีใต้ จัดค่ายสามเณรน้อย เพื่อเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 เด็กชายชาวเกาหลีใต้ 9 คน ได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรน้อยในโครงการ “Little Buddha Camp” หรือ “ค่ายสามเณรน้อย” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ค่ายสามเณรน้อยเป็นโครงการของวัดโชเจ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาเป็นประจำทุกปี โดยสามเณรน้อยทั้ง 9 รูปจะจำวัดที่วัดโชเจเป็นเวลา 20 วัน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตในเพศบรรพชิต รวมทั้งการได้ไปทัศนศึกษานอกสถานที่ อาทิ การไปเยี่ยมชม สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ในเมืองยงอิน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโซล แม้หนูน้อยทั้ง 9 คนจะผ่านการบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว แต่ยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเด็กทั่วๆไป ที่ชอบเล่นสนุก ซุกซน อยากรู้อยากเห็น บางครั้งก็แสดงท่าทางหยอกล้อเพื่อนสามเณรอย่างสนุกสนาน พุทธศาสนิกชนทั่วโลกร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองวิสาขบูชาโลก 1. อินโดนีเซีย : พุทธศาสนิกชนในอินโดนีเซียร่วมกันสวดมนต์เจริญภาวนาและปล่อยประทีปโคมไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ซึ่งจัดขึ้นที่มหาสถูปบุโรพุทโธ ใกล้เมืองมาเกลัง 2. เกาหลีใต้ : เทศกาลโคมบัวซึ่งถูกจัดขึ้นทุกปี รวมทั้งกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดขึ้นบนถนนด้านหน้าวัดโชเจ ในกรุงโซล เนื่องในสัปดาห์วันวิสาขบูชา 3-3.1. ศรีลังกา : ประชาชนชาวศรีลังกาเดินชมประทีปโคมไฟที่ประดับประดาอย่างสวยงามในงานเฉลิมฉลองเทศกาลวันวิสาขบูชาที่วัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) ประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นอารามตั้งอยู่กลางน้ำ 4. ไต้หวัน : บรรดาพุทธศาสนิกชนร่วมกันสวดมนต์ในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ หอจดหมายเหตุเจียงไคเชก กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน 5. กัมพูชา : บรรดาพุทธศาสนิกชนชาวกัมพูชาร่วมเดินในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา จัดขึ้นที่เทือกเขาอุดง จังหวัดกันดาล 6. ฮ่องกง : ฮ่องกงจัดพิธีต้อนรับพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร ซึ่งประเทศจีนมอบให้มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ฮ่องกง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา ในระหว่างเทศกาลวิสาขบูชา 7. มาเลเซีย : บรรดาพุทธศาสนิกชนพากันแห่ผ้าพระบฎไป ตามท้องถนนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา 8. เวียดนาม : เหล่าพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปปางประสูติ ในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ วัดดวคตวง ชานกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 9. ออสเตรเลีย : งานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาที่จัดขึ้น ณ บริเวณเซาท์แบงค์ พาร์คแลนด์ส เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย 10. สิงคโปร์ : พระสงฆ์นำสวดมนต์ระหว่างเดินเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 138 มิถุนายน 2555 โดย เภตรา)]

ผู้นำอินเดียกล่าวปราศัย เนื่องในวันวิสาขบูชา
       
       • อินเดีย : เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2012 บรรดาผู้นำของประเทศอินเดีย นำโดย นางประติภา ปาติล ประธานาธิบดี นายโมฮัมหมัด ฮามิด อันซารี รองประธานาธิบดี และนายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรี ได้มีสารถึงประชาชน เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม 2012
       
       สารจากประธานาธิบดี ระบุว่า “คำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอหิงสา ความชอบธรรม และความรักอันเป็นสากล มีความเกี่ยวเนื่องกันตลอดไป และในโอกาสนี้ ขอให้พวกเราอุทิศตน เดินตามคำสอนของพระพุทธองค์อีกครั้ง เพื่อสร้างสังคมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและก่อให้เกิดความสามัคคีขึ้นในชาติ”
       
       ขณะที่รองประธานาธิบดีได้กล่าวทักทายประชาชนและแสดงความหวังว่า คำสอนของพระพุทธองค์ในเรื่องความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การไม่ใช้ความรุนแรง และความเสมอภาคนั้น มวลมนุษยชาติ ควรนำมาใช้เป็นเครื่องชี้ทางปฏิบัติ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นอิสระทางจิตวิญญาณ
       
       ส่วนนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ธรรมะของพระพุทธองค์ ในเรื่องความรัก ความเห็นอกเห็นใจ และการไม่ใช้ความรุนแรง คือ คำสอนที่เป็นอมตะ และเหมาะสมกับโลกปัจจุบัน”
       
       (จาก Calcutta News)
       
       ชาวพุทธมาเลย์แปรอักษรเป็นภาพใบโพธิ์ ร่วมฉลองวิสาขบูชา
       
       • มาเลเซีย : คลื่นมนุษย์ผู้มีจิตศรัทธา 9,600 คน ร่วมกันแปรอักษรเป็นภาพใบโพธิ์ขนาดใหญ่ 6 ภาพ ที่สื่อความหมายถึงคุณธรรมความดีงาม 6 ประการที่บุคคลควรมี คือ ศีลธรรม ความอดกลั้น ความกระตือรือร้น ความเพียร สมาธิ และปัญญา ในพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป
       
       โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นภายในสนามกีฬาโรงเรียนมัธยมฮันเชียง ในปีนัง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 โดยสมาคมพุทธฉือจี้แห่งมาเลเซีย เพื่อเฉลิมฉลอง 3 วาระสำคัญพร้อมกัน คือ วันวิสาขบูชา วันแม่ และวันฉือจี้สากล
       
       ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธากว่า 10,000 คน พร้อมทั้งข้าราชการระดับสูงของปีนังและบรรดาพระสงฆ์ได้เข้าร่วมในพิธีนี้
       
       (จาก thestar.com)
       
       นักศึกษาชาวพุทธในอินโดนีเซีย รณรงค์อนุรักษ์มกาสถูปบุโรพุทโธ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา
       
       • อินโดนีเซีย : เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2012 นักศึกษาชาวพุทธกลุ่มหนึ่งจาก Hikmahbudhi ซึ่งเป็นองค์กรนักศึกษาชาวพุทธแห่งประเทศอินโดนีเซีย ได้ออกรณรงค์ให้มีการอนุรักษ์มหาสถูปบุโรพุทโธ อันเป็นแหล่งมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองมาเกลัง ทางตอนกลางของเกาะชวา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา
       
       บรรดานักศึกษาได้พากันแจกใบปลิวหลายพันใบ เชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำวิปัสสนาในวันวิสาขบูชา ช่วยกันอนุรักษ์มหาสถูปบุโรพุทโธ พร้อมกับนำไปแจกจ่ายแก่บุคคลทั่วไปที่มาร่วมงานวันวิสาขบูชา ที่จัดขึ้นรอบบริเวณวัดเมนดัต ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 3 กม.
       
       (จาก Bernama Media)
       
       วัดโชเจ เกาหลีใต้ จัดค่ายสามเณรน้อย เพื่อเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา
       
       เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2012 เด็กชายชาวเกาหลีใต้ 9 คน ได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรน้อยในโครงการ “Little Buddha Camp” หรือ “ค่ายสามเณรน้อย” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา
       
       ค่ายสามเณรน้อยเป็นโครงการของวัดโชเจ ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาเป็นประจำทุกปี โดยสามเณรน้อยทั้ง 9 รูปจะจำวัดที่วัดโชเจเป็นเวลา 20 วัน เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตในเพศบรรพชิต รวมทั้งการได้ไปทัศนศึกษานอกสถานที่ อาทิ การไปเยี่ยมชม สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ในเมืองยงอิน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโซล
       
       แม้หนูน้อยทั้ง 9 คนจะผ่านการบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว แต่ยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเด็กทั่วๆไป ที่ชอบเล่นสนุก ซุกซน อยากรู้อยากเห็น บางครั้งก็แสดงท่าทางหยอกล้อเพื่อนสามเณรอย่างสนุกสนาน
       
       พุทธศาสนิกชนทั่วโลกร่วมกันจัดงานเฉลิมฉลองวิสาขบูชาโลก
       
       1. อินโดนีเซีย : พุทธศาสนิกชนในอินโดนีเซียร่วมกันสวดมนต์เจริญภาวนาและปล่อยประทีปโคมไฟขึ้นสู่ท้องฟ้า เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ซึ่งจัดขึ้นที่มหาสถูปบุโรพุทโธ ใกล้เมืองมาเกลัง
       
       2. เกาหลีใต้ : เทศกาลโคมบัวซึ่งถูกจัดขึ้นทุกปี รวมทั้งกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่จัดขึ้นบนถนนด้านหน้าวัดโชเจ ในกรุงโซล เนื่องในสัปดาห์วันวิสาขบูชา
       
       3-3.1. ศรีลังกา : ประชาชนชาวศรีลังกาเดินชมประทีปโคมไฟที่ประดับประดาอย่างสวยงามในงานเฉลิมฉลองเทศกาลวันวิสาขบูชาที่วัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) ประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นอารามตั้งอยู่กลางน้ำ
       
       4. ไต้หวัน : บรรดาพุทธศาสนิกชนร่วมกันสวดมนต์ในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ หอจดหมายเหตุเจียงไคเชก กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
       
       5. กัมพูชา : บรรดาพุทธศาสนิกชนชาวกัมพูชาร่วมเดินในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา จัดขึ้นที่เทือกเขาอุดง จังหวัดกันดาล
       
       6. ฮ่องกง : ฮ่องกงจัดพิธีต้อนรับพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียร ซึ่งประเทศจีนมอบให้มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ฮ่องกง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา ในระหว่างเทศกาลวิสาขบูชา
       
       7. มาเลเซีย : บรรดาพุทธศาสนิกชนพากันแห่ผ้าพระบฎไป ตามท้องถนนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม เนื่องในวันวิสาขบูชา
       
       8. เวียดนาม : เหล่าพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำพระพุทธรูปปางประสูติ ในพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ วัดดวคตวง ชานกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
       
       9. ออสเตรเลีย : งานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาที่จัดขึ้น ณ บริเวณเซาท์แบงค์ พาร์คแลนด์ส เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย
       
       10. สิงคโปร์ : พระสงฆ์นำสวดมนต์ระหว่างเดินเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา
       
       (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 138 มิถุนายน 2555 โดย เภตรา)

ผมเคยคิดว่า แม่ผมไปทำบุญ โดยใช้เงินผม ๆ เป็นผู้อนุญาต แล้วแต่ แม่ จะนำไปทำอะไร ผมก็คิดมาเสมอว่าผมก็ต้องได้บุญ ด้วย แต่เท่าที่อ่าน มานี้ การกล่าวอนุโมทนา อย่างเดียวก็ไม่ได้บุญด้วยใช่หรือไม่ครับ เพราะเรามัวแต่ชื่นชมคนอื่น ๆ ว่าเขาได้ทำบุญ แต่ตัวเรานั้นได้แต่ นั่งมองคนอื่น สร้างบุญ

  หรือผมยังไม่เข้าใจ

  กระทู้เจตนาให้เข้าใจ สองเรื่อง ใช่หรือไม่ครับ

 คือ 1.ให้เชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ ที่เ็ป็น ภพภูมิ ด้วยมิใช่เชื่อแต่ นรก สวรรค์ ที่มีแต่สภาวะใจ
 
      2.การทำบุญ ต้องเกิดจากเราเป็นผู้กระทำใช่หรือไม่ครับ

   

อนุโมทนา ด้วยครับ
     

จดหมายมีมากอย่างนี้ ลำบากนะครับ

 

ได้อ่านแล้ว ถึงความพยายามของทุกท่านที่ได้แสดงออกถึงความเคารพต่อ สมเด็จหลวงปู่ ได้ความรู้มาก พระนามสมณศักดิ์ของหลวงปู่ยาว จริง ๆ นะครับ

 

อนุโมทนา สาธุ กับ ทีมที่ไปร่วมฉลองพุทธชยันตีด้วยครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนา กับทุกท่านที่ตั้งใจสร้างกุศล โรงทานครับ

 

อนุโมทนา กับข่าวสารครับ ก็ได้ส่งเมลแจ้ง กันไปแล้วนะครับ
แต่ส่วนใหญ่ก็จะติดกิจกรรม ตามหน่วยงานตนเองในวันนั้นนะครับ
   เพราะมีการฉลองพุทธชยันตี ทั่วประเทศครับ

   

 

อนุโมทนา ครับ ก็เป็นข่าวการกุศล นะครับ จะมีหรือไม่มี ก็ไปกราบนมัสการทำบุญกันได้อยู่แล้วตามปกติ เพราะวันที่ 4 มิ.ย.55 เป็นวันวิสาขบูชา ร่วมฉลองพุทธชยันตี ได้บุญทั้งนั้นครับ

 ขอบคุณ จขกท และ ผู้อัพเดท ข่าวสารทุกท่านครับ

 

[ปีติเจตสิกปีติเจตสิกในคัมภีร์พระอภิธรรม มีการกล่าวถึงปีติ ในลักษณะที่เป็นเจตสิก(คือ ธรรมชาติที่อาศัยจิตเกิด) เรียกว่า ปีติเจตสิก มีลักษณะดังนี้ คือมีความแช่มชื่นใจในอารมณ์ เป็นลักษณะมีการทำให้อิ่มกายอิ่มใจ หรือทำให้ซาบซ่านทั่วร่างกาย เป็นกิจมีความฟูใจ เป็นผลมีนามขันธ์๓ ที่เหลือ (เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์) เป็นเหตุใกล้ธรรมชาติของปีตินี้ เมื่อเกิดขึ้นกับใคร ย่อมทำให้ผู้นั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจ มีหน้าตาและกายวาจา ชื่นบานแจ่มใสเป็นพิเศษ บางทีก็ทำให้รู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ซึ่งเกิดจากปีติแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายนี่เอง และทำให้จิตใจของผู้นั้นแช่มชื่น เข้มแข็ง ไม่รู้สึกเหนื่อยหน่ายต่ออารมณ์อาการปรากฏของปีตินี้ คือ ทำให้จิตใจฟูอื่มเอิบขึ้นมาปีติจะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมต้องอาศัยนามขันธ์๓ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นเหตุใกล้ให้เกิดเวทนาขันธ์ที่เป็นเหตุใกล้ให้เกิดปีตินั้น ย่อมอาศัยสุขเวทนา เป็นต้น เป็นเหตุให้ปีติเกิดด้วยเหตุนี้เอง บางทีเราเข้าใจว่า ปีติและสุขเป็นอันเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ แต่ความจริงนั้นปีติกับสุขต่างกัน คือ ปีติเป็นสังขารขันธ์ สุขเป็นเวทนาขันธ์ และเมื่อมีปีติจะต้องมีสุขเสมอแน่นอน แต่ว่าเมื่อมีสุข อาจจะไม่มีปีติด้วยก็ได้ข้อความจาก วิกิพีเดีย]

ปีติเจตสิก

ปีติเจตสิกในคัมภีร์พระอภิธรรม มีการกล่าวถึงปีติ ในลักษณะที่เป็นเจตสิก(คือ ธรรมชาติ
ที่อาศัยจิตเกิด) เรียกว่า ปีติเจตสิก มีลักษณะดังนี้ คือ

มีความแช่มชื่นใจในอารมณ์ เป็นลักษณะ
มีการทำให้อิ่มกายอิ่มใจ หรือทำให้ซาบซ่านทั่วร่างกาย เป็นกิจ
มีความฟูใจ เป็นผล
มีนามขันธ์๓ ที่เหลือ (เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์) เป็นเหตุใกล้
ธรรมชาติของปีตินี้ เมื่อเกิดขึ้นกับใคร ย่อมทำให้ผู้นั้นรู้สึกปลาบปลื้มใจ มีหน้าตาและ
กายวาจา ชื่นบานแจ่มใสเป็นพิเศษ บางทีก็ทำให้รู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ซึ่งเกิดจาก
ปีติแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายนี่เอง และทำให้จิตใจของผู้นั้นแช่มชื่น เข้มแข็ง ไม่รู้สึกเหนื่อย
หน่ายต่ออารมณ์

อาการปรากฏของปีตินี้ คือ ทำให้จิตใจฟูอื่มเอิบขึ้นมา

ปีติจะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมต้องอาศัยนามขันธ์๓ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณ
ขันธ์ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด

เวทนาขันธ์ที่เป็นเหตุใกล้ให้เกิดปีตินั้น ย่อมอาศัยสุขเวทนา เป็นต้น เป็นเหตุให้ปีติเกิด
ด้วยเหตุนี้เอง บางทีเราเข้าใจว่า ปีติและสุขเป็นอันเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ แต่ความ
จริงนั้นปีติกับสุขต่างกัน คือ ปีติเป็นสังขารขันธ์ สุขเป็นเวทนาขันธ์ และเมื่อมีปีติจะต้องมี
สุขเสมอแน่นอน แต่ว่าเมื่อมีสุข อาจจะไม่มีปีติด้วยก็ได้

ข้อความจาก วิกิพีเดีย

อนุโมทนา สาธุ ครับ ร่วมรำลึกถึงพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้าครับ

ได้ชื่นชมบารมี ในหลวงพระองค์ท่านได้เป็นห่วงพสกนิกร
ขอจงทรงพระเจริญ

 

อนุโมทนา ด้วยครับ สาธุ สาธุ แด่พระสงฆ์ผู้ทรงศีล พุทธบุตร ผู้สืบทอดอายุพระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน ทุกรูปทุกองค์ครับ หากผมได้มีโอกาสจะไปกราบไหว้สักการะทุกรูป ทุกท่านครับ

 

ที่คุณเดินทางไกล กำลังจะบอกก็คือ ถ้าศึกษาเรื่องนามรูปแสดงว่า กำลังเป็น วิปัสสนา ใช่หรือไม่ครับ
 
   ว่าแต่ผมมีข้อสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ห้องวิปัสสนา ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ต้องเป็นไปตามนั้นหรือครับ

ห้องวิปัสสนา ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ
๑.พระวิสุทธิ ๗ ประการ
๒.อนิจจลักษณะ ๓
๓.อนุวิปัสสนา ๓
๔.วิปัสสนาญาณ ๑๐
๕.วิโมกข์มุข ๓
๖.อนุวิปัสสนาวิโมกข์มุข ๓
๗.โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ
๘.สัญโญชน์ ๑๐
๙.ออกบัวบาน พรหมวิหาร
๑๐.การประหานกิเลส

   หรือเริ่มฝึกที่ห้องตนเองชอบครับ

 เพราะผมเข้าใจว่า ห้องวิสุทธิ 7 ประการ ก็น่าจะจบแล้ว เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้า น่าจะเป็นธรรมต่อเนื่อง นะครับ 

เป็นเรื่อง รู้รอบตัวเลยนะครับ ผมชอบแต่ พุทโธ ซะด้วย

   พระสมณโคดม พระศากยบุตร พระอังคีรส  พระชินสีห์ พระชินวร พระบรมศาสนา พระจอมไตร  สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระตถาคต พระธรรมนาถ พระพุทโธ ฯลฯ


 สาธุ สาธุ สาธุ นาน ๆ ท่าน Mr.งังจัง จะมาเป็นสปอนเซอร์ นะครับ

 

 

ใครทำได้ ปฏิบัติตามที่แนะนำได้ ช่วยมาบอกข่าว ยืนยันกันด้วยนะครับ หรือ จะมาบอกวิธีการที่ได้ผล ก็ดีนะครับ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ มากครับ  เทเลพาที ผมเองก็ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ยิ่งเห็นหนังละครเรื่อง จักร ๆ วงศ์ ๆ ของคนไทย สามารถทำได้มีอยู่ ผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องเหลวไหลนะครับ เรื่องนี้

 

อนุโมทนา ครับ ผมได้อ่านข้อความที่พระอาจารย์แสดงความเห็นแล้ว หักล้างความคิดของผมเลยนะครับ
เดิมที ผมคิดว่าการนั่งกรรรมฐาน โดยกำหนดแต่เวลา และไม่เป็นสมาธิ ไม่มีประโยชน์

 อ่านแล้ว ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่เลยครับ เหมือนการภาวนาของผมยังไม่พอเลยครับ

 สาธุ สาธุ ไม่ผิดหวังที่ได้ติดตามเนื้อหาที่พระอาจารย์ตอบครับ

 

อดทนไว้ สู้ไว้นะครับ อย่าท้อถอย
หาเป้าหมายชีวิต

 คนเราไม่ได้อยู่ที่รวย ครับ หรือมีเงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งนอกกาย สำคัญที่ความสุขของใจคือการได้สร้างกุศลครับ คนดีมีน้อย คนไม่ดีมีมาก

  ตั้งมั่นในคุณงามความดี
 
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถือเอาพระพุทธเจ้าเป้นที่พึ่ง
   
    พุทโธ พุทโธ พุทโธ

    ส่วดคาถาพญาไก่เถื่อนบ้างนะครับ

     

[พระอริยเถราจารย์ สอนเรื่องการกำหนดรู้จิต(พรรษาที่ ๑๑ สถิตวัดท่าหอย ยุคอยุธยา)]

พระอริยเถราจารย์ สอนเรื่องการกำหนดรู้จิต
(พรรษาที่ ๑๑ สถิตวัดท่าหอย ยุคอยุธยา)

    พรรษาที่ ๑๑ พระอริยเถราจารย์ มาสอนพระอาจารย์สุก ในสมาธินิมิต เรื่องการเจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฎฐาน คือการกำหนดสติรู้ จิต กับอารมณ์ เช่น

     จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ จิตปราศจากราคะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ
     จิตมีโทสะ ก็รู้ว่าจิตมีโทสะ จิตปราศจากโทสะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ
     จิตมีโมหะ ก็รู้ว่าจิตมีโมหะ จิตปราศจากโมหะก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ
     จิตเป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ จิตไม่เป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ

      พระอริยเถราจารย์กล่าวสอนว่า เมื่อท่านฉลาดในจิต และเจตสิกของตัวเอง ท่านก็จะสามารถรู้จิต และเจตสิก ของผู้อื่นได้แต่พระอาจารย์สุก พระองค์ท่าน ทรงบรรลุอันตราปรินิพพายี อย่างหยาบ ทรงได้อภิญญาหก มีเจโตปริยญาณ สามารถกำหนดรู้ใจผู้อื่นใด้มาแล้ว เป็นอย่างตรี เมื่อมาพิจารณา จิตตานุปัสสนา โดเฉพาะ พระองค์ท่าน ก็มีเจโตปริยญาณ ละเอียดยิ่งขึ้นไปอีก เป็นชั้นโท และชั้นเอก ตามลำดับพระอริยเถราจารย์ สอนต่อไปว่า ให้ใช้เจโตปริยญาณ กำหนดดูใจผู้อื่น จะได้พร่ำสอนธรรมได้ อย่างถูกต้องตาม สถานการณ์ ถูกตามอัธยาศัย ของผู้รับคำสอน และสามารถวินิจฉัย ข้อธรรมที่จะอบรมสั่งสอนได้ถูกต้อง ทำให้จิตผู้รับคำสอน มีศรัทธาเชื่อฟังเลื่อมใสในคำสอน และใช้ธรรมได้ ถูกโอกาส ถูกกาละ ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังคำสอน อยากจะบรรลุมรรคผลด้วย


     ต่อมา พระอาจารย์สุก พระองค์ท่านก็ ทรงใช้เจโตปริยญาณ กำหนดใจบุคคลอื่นใช้อบรมธรรมได้อย่างถูกกับกาลเทศะ เมื่อพระองค์ท่านมีความชำนาญมากขึ้น เจโตปริยญาณ ไม่ทรงกำหนด ก็เป็นไปได้เองกาลต่อมาพระองค์ท่าน ก็ทรงยังความเลื่อมใสให้แก่บุคคลทั่วไป ด้วยเจโตปริยญาณนี้

      มีกุลบุตรได้เข้ามาบรรพชา-อุปสมบท ปฏิบัติธรรม บรรลุมรรคผล ในสำนักของพระองค์ท่านมากมาย

ที่มาจากหนังสือ พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม
http://www.somdechsuk.org

[การแบ่งพระอัฏฐิธาตุ และพระอังคารของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน]

การแบ่งพระอัฏฐิธาตุ และพระอังคาร
ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน

     หลังจาก งานพระราชทานเพลิงพระศพ เก็บพระอัฏฐิธาตุ และพระอังคารธาตุ ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) แล้ว ทางราชการ แบ่งอัฏฐิธาตุของสมเด็จพระสังฆราชออกเป็นสองส่วน อัฏฐิธาตุส่วนที่ ๑ ทางราชสำนักเก็บไว้ และแบ่งเป็นสามส่วน คือ
         สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ๑
         กรมหมื่นเจษฏาบดินทร์ ๑
         เก็บไว้ที่หอพระเจ้า ๑
     พระอัฏฐิธาตุ ส่วนที่ ๒ ทางราชการ หรือทางราชสำนัก ให้แก่ทางวัดราชสิทธาราม มีพระสงฆ์พระอารามต่างๆมาขอแบ่งอีกดังนี้ วัดราชสิทธาราม ๑
         ถวายพระอธิการขาม วัดท่าหอย ๑
         พระสังฆราช (ด่อน) วัดสระเกศ ๑
         พระพนรัต (ทองดี) วัดระฆัง ๑
         พระพุทธโฆษาจารย์ (ขุน) วัดโมลี ๑
        พระพุทธาจารย์ (เป้า) วัดธรรมาวาส กรุงเก่า ๑
        วัดมหาธาตุ ได้สองส่วน คือ
                   พระอัฏฐิธาตุ ๑ พระอังคารธาตุ ๑
        พระอัฏฐิธาตุ ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) ในส่วนของวัดราชสิทธาราม ต่อมาถึงปีพระพุทธศักราช ๒๓๗๔ ในรัชกาลที่ ๓ ทรงสถาปนาพระสถูปเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง มีพระเจดีย์สี่ทิศเป็นบริวาร บรรจุพระอัฏฐิธาตุ ของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน)ไว้หน้าพระอุโบสถ ด้านทิศใต ้


ขอบคุณที่มา จากหนังสือ พระประวัติสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร มหาเถรเจ้า (สุกไก่เถื่อน)
 เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม ( วัดพลับ )

อุึปติสสะปริพาชกหรือพระสารีบุตรนั่นเอง ได้พบกับพระอัสสชิเถระ ท่านมีกิริยาน่าเลื่อมใส จึงสอบถามได้ฟังธรรมว่า "ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้าตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติ ตรัสอย่างนี้." ได้บรรลุเป็นโสดาบันแล้วก็ไปบอกแก่โกลิตะหรือ พระโมคคัลลานะนั่นเอง ทำให้ท่านบรรลุเป็นโสดาบันด้วย.

    ทั้งสองจึงพากันไปชวนสัญชัยปริพาชกผู้เป็นอาจารย์. สัญชัยห่วงลาภสักการะจึงไม่ไป แต่ได้ถามว่า "ในโลกนี้คนโง่หรือคนฉลาดมากกว่ากัน.." พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะตอบว่า "คนโง่มีมากกว่า " สัญชัยปริพาชกจึงกล่าว
"ถ้าอย่างนั้น คนฉลาด ๆ จักไปสู่สำนักของพระสมณโคดม ส่วนคนโง่ ๆ จักมาสู่สำนักของเรา"
ดังนี้แล้วก็ไม่ไป.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ หน้าที่ ๑๒๘

[7 ลักษณะของการพูดเท็จปด=โกหกจังๆทนสาบาน=ทำผิดไม่ยอมรับทำเล่ห์กระเท่ห์=อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงให้หลงเชื่อมารยา=แสร้งทำให้หลงเชื่อทำเลศ=ให้ผู้อื่นตีความคลาดเคลื่อนเอาเองเสริมความ=พูดเรื่องมีมูลน้อยให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นอำความ=ปกปิดเรื่องมากให้เป็นเรื่องเล็ก]

7 ลักษณะของการพูดเท็จ
ปด=โกหกจังๆ
ทนสาบาน=ทำผิดไม่ยอมรับ
ทำเล่ห์กระเท่ห์=อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงให้หลงเชื่อ
มารยา=แสร้งทำให้หลงเชื่อ
ทำเลศ=ให้ผู้อื่นตีความคลาดเคลื่อนเอาเอง
เสริมความ=พูดเรื่องมีมูลน้อยให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้น
อำความ=ปกปิดเรื่องมากให้เป็นเรื่องเล็ก

ถ้าไม่มาเตือน ผมเองก็ลืมไปแล้วครับ เพราะเห็นมีประกาศออกมาหลายงาน เลยจำไม่ได้ว่างานไหนบ้าง ขอบคุณมากครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ร่วมกันอนุโมทนา และร่วมกันทำบุญ ด้วยครับ จะได้มีห้องน้ำใช้ด้วยครับ
 

ผมคิดว่า ผู้มีความชำนาญ เข้า ฌาน ออก ฌาน น่าจะมีสภาวะจิต ที่สามารถกระทำการเคลื่อนไหวได้นะครับ แต่ปัญหาคือ จะเคลื่อนไหวไปทำไมนี่สิครับ เหมือนเรานั่งกรรมฐาน จิตมันสงบ วางจากความปรารถนา จาก รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จึงไม่มีเหตุผล ที่จะเคลื่อนไหว นะครับ

  ก็ลองคิดตามแนวการปฏิบัติ ก็เป็นอย่าง นี้ อย่างไรก็ลองฟังเพื่อน ๆ แสดงความเห็นกันนะครับ

 

อนุโมทนา ครับ ไพเราะมาก ผสมเสียงคลาสิก แบบยุคหลวงปู่เลย

 สาธุ สาธุ สาธุ
 

สาธุ ก็ลุ้นอยู่ว่า คุณ ธรรมธวัช จะแต่งกลอนจบภายในเดือน เม.ย.55 หรือไม่นะครับ

 มีสำนวน ที่ตรงไป ตรงมา ดีครับ

 

[ฝนตกหนัก-ร้อนเดือด“กาฬสินธุ์”วิกฤติหนัก“พิจิตร”ล้มป่วยนับพันกทม.ตับแลบ40องศาพายุฤดูร้อนแผลงฤทธิ์ ฝนกระหน่ำ ลูกเห็บตก หลายพื้นที่เหนืออีสาน เชียงใหม่ถล่ม อ.ดอยหล่อ-แม่วาง หนักสุดในรอบ 20 ปี 800 หลังคาเรือนพังเสียหาย ส่วนกาฬสินธุ์พัดบ้านพังกว่า 2,500 หลังคาเรือน ด้านสกลนครเจอฝนตกหนัก น้ำท่วมถนนเขตเทศบาลฯ หลายจุด ส่วนโคราชเกิดพายุลมแรง ทำหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดไฟดับเกือบทั้งเมือง ขณะที่อีกหลายพื้นที่เจอสภาพอากาศร้อนอบอ้าว พระอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.อุณหภูมิพุ่ง 40 องศาฯ ระอุทั่วเมือง ด้านพิจิตรอากาศร้อน ผู้ป่วยสารพัดโรคแห่เข้าโรงพยาบาล กทม.ระอุอุณหภูมิ 40 องศาฯจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า วันที่ 27 เม.ย.55 เป็นวันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ที่ 90 องศา ในช่วงเวลาเที่ยงวัน หรือเวลา 12.00 น.นายบุญธรรม ตั้งล้ำเลิศ หัวหน้าพยากรณ์อากาศประจำวัน ระบุว่า วันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ปีนี้มีอากาศร้อนทำลายสถิติของวันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ในรอบหลายสิบปี โดยมีการประมาณว่า จะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาฯ ซึ่งรวมทั้งไม่มีตัวแปรอื่นที่จะมาทำให้อุณหภูมิในกรุงเทพฯ ลดลงได้ และจากข้อมูลสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในเดือน เม.ย.ของกรุงเทพฯ ในรอบ 61 ปี ตั้งแต่ปี 2494-2554 พบว่า กรุงเทพฯ มีอุณหภูมิสูงที่สุดตรงกับวันที่ 27 เม.ย. เพียง 2 ครั้งคือ ในปี 2497 และ 2502 สำหรับสภาพอากาศทั้งประเทศ หลายพื้นที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 41 องศาฯ และนอกจากอากาศจะร้อนแล้ว ทุกภาคยกเว้นภาคใต้มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางแห่งผู้ป่วยสารพัดโรคแห่เข้าโรงพยาบาลนายแพทย์ประจวบ มงคลศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร ได้กล่าวถึงสภาวะอากาศที่ร้อนจัดและส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ว่า เดิมที่เคยมีผู้ป่วยนอกมาขอเข้ารับการรักษาวันละ 600-700 คน แต่ขณะนี้พบปริมาณผู้ป่วยที่มาขอรับการรักษามากขึ้นเพิ่มเป็นวันละ 900-1,000 คน โดยโรคที่พบในผู้ป่วยมากขึ้น คือ โรคท้องเสีย อุจจาระร่วง ที่เกิดจากอาหารเป็นพิษ อีกทั้งยังพบผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว เกิดอาการเป็นโรคลมแดด หรือ Heat Stroke รวมถึงอากาศร้อนส่งผลให้มีเหงื่อไคลจนเกิดเป็นโรคผิวหนัง ก็พบมากด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ที่ทำงานอยู่กับออฟฟิศหรือทำงานบริษัทห้างร้านต้องอยู่กับตัวเลขเมื่อเจออากาศร้อนต่างก็มีอาการเป็นโรคเครียดกันมากขึ้น โรงพยาบาลก็ได้ให้คำแนะนำและวิธีดูแลตนเอง ให้ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือ 8-10 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยให้ปรับอุณหภูมิในร่างกายได้อีกวิธีหนึ่ง และหากพบว่ามีอาการปวดศีรษะวิงเวียนหน้ามืดก็ให้รีบไปโรงพยาบาล หรือ รพ.สต. ที่อยู่ใกล้บ้าน และวันที่ 27 เม.ย.55 จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุดทางโรงพยาบาลพิจิตรเองได้ตระหนักถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงได้จัดกิจกรรมคลายความร้อนให้กับผู้ป่วย และผู้มาใช้บริการทางการแพทย์ทั้งผู้ป่วยใน-ผู้ป่วยนอกด้วยการเสริมพัดลมเพดาน พัดลมตั้งโต๊ะ ตลอดจนเพิ่มจุดบริการน้ำดื่มทั่วทั้งโรงพยาบาล อีกทั้งทีมแพทย์และพยาบาลก็มีการเพิ่มการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น อีกทั้งในช่วงขณะที่ผู้ป่วยที่มาใช้บริการในการรอรับการตรวจก็จะมีบริการ Welcome drink ด้วยการเสิร์ฟน้ำเย็น น้ำหวาน น้ำสมุนไพร เพื่อให้ดื่มเป็นการคลายร้อนอีกด้วยสามเณรวัดแพรกษาป่วยหมู่ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีสามเณรที่บวชภาคฤดูร้อนตามโครงการเฉลิมพระเกียรติที่วัดแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เกิดล้มป่วยหลายรูปมีอาการปวดท้อง และบางรายมีไข้ขึ้นสูงมีอาการหน้ามืด หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่พร้อมรถกู้ชีพจำนวน 2 คัน รีบเดินทางตรวจสอบที่วัดดังกล่าว ภายในวัดได้พบสามเณรจำนวน 9 รูป ที่อยู่ในอาการอิดโรยบางรายมีอาการตัวร้อนมีไข้ขึ้นสูง จึงได้รีบลำเลียงส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แพทย์ได้เร่งให้การตรวจรักษา หลังการตรวจรักษาแล้วพบว่ามีสามเณรหลายรูปที่ป่วยเป็นไข้ที่เกิดจากอากาศร้อนอบอ้าว และบางรายป่วยเนื่องจากมีอาการโรคกระเพาะกำเริบ แพทย์ให้การตรวจรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยก่อนให้ยาปฏิชีวนะมาทานก่อนอนุญาตให้กลับไปนอนพักฟื้นที่วัด โดยมีสามเณรหลายรูปเอ่ยปากบ่นว่าอยากที่จะสึกเนื่องจากเกิดอาการเครียดที่ถูกพระพี่เลี้ยงใช้กำลังบังคับให้นอน หากสามเณรรูปใดนอนไม่หลับก็จะถูกลงโทษ โดยการให้ไปนั่งสมาธิในป่าช้า หรือหน้าโลงศพ บางรายถูกหมอนฟาดศีรษะอย่างแรง จนล้มลงกระแทกพื้น และยังมีสามเณรบางรายถูกพระพี่เลี้ยงใช้เท้าเตะอีกด้วย ทำให้สามเณรหลายรูปเกิดอาการเครียด ประกอบกับอากาศร้อนจัดจึงทำให้ล้มป่วยพร้อมกัน แถมยังถูกพระพี่เลี้ยงขู่อีกว่า จะให้หมอตรวจหากไม่ได้ป่วยจริงก็จะถูกลงโทษจากการสอบถาม น.พ.ชูศักดิ์ เรืองจุติโพธิ์พาน รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ กล่าวว่า สามเณรทั้ง 9 รูปที่ถูกนำมารักษาที่โรงพยาบาลนั้น จากการตรวจร่างกายพบว่ามีอาการคล้ายกันคือ มีไข้ อาเจียน หน้ามืด เนื่องจากร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ แต่ก็ยังมีสามเณรบางรายที่ป่วยจากอาการโรคกระเพาะกำเริบ โดยแพทย์ได้ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว และอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัดพายุฤดูร้อนถล่ม อ.ดอยหล่อ-แม่วางเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย.55 นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสราวุธ วรพจน์ นายอำเภอดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น หลังเกิดพายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ในเบื้องต้นพบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายคือ อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วางนายสราวุธ กล่าวว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนถล่มอย่างหนัก จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบ 3 ตำบล คือ ต.สันติสุข สองแคว และยางคราม รวม 800 หลังคาเรือน โดย ต.ยางครามเสียหายมากที่สุด 595 ครับเรือน ส่วนใหญ่เป็นหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพื่อรายงานขอความช่วยเหลือไปยัง ปภ.เชียงใหม่ ซึ่งอาจจะล่าช้าบ้างเพราะมีขั้นตอนในการกรอกเอกสารในการเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องมีผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง อย่างไรก็ตามพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 20 ปีด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับรายงานความเสียหายจาก อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วางแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจของ อ.ดอยหล่อ ในส่วน อ.แม่วางได้รับความเสียหาย 3 ตำบล คือ ต.ทุ่งปี้ จำนวน 12 หมู่บ้าน ต.บ้านกาด 4 หมู่บ้าน ต.ทุ่งรวงทอง 4 หมู่บ้าน ส่วนมากเป็นหลังคาเสียหายและต้นไม้ล้มสกลนครฝนเทท่วมเทศบาลจากอิทธิพลพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวัดสกลนคร พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึง 10.30 น.พื้นที่ในเขตเทศบาลนครสกลนครยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีลมกระโชกรุนแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่กระหน่ำลงมาต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะขับรถเหลือเพียง 100 เมตร ยวดยานที่สัญจรในช่วงเวลาดังกล่าวต้องลดความเร็วลงพร้อมกับเปิดไฟหน้ารถเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ยังเกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครสกลนคร โดยเฉพาะถนน ต.พัฒนา บริเวณซอยราษฎรเจริญ และศาลเจ้าพ่อเสือ โดยพายุฤดูร้อนยังสร้างความเสียหายแก่ป้ายโฆษณา ต้นไม้กิ่งไม้หักโค่นหลายจุดพายุถล่มกาฬสินธุ์บ้านพังกว่า 2,500 หลังเมื่อกลางดึกวันที่ 27 เม.ย.55 เกิดพายุฤดูร้อนและพายุฝนพัดบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์เสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย อ.ห้วยเม็ก และ อ.ยางตลาด จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 2,500 หลังคาเรือน นอกจากนี้แรงลมยังได้พัดเอาต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขว้างถนนในหมู่บ้าน ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก จากการสอบถามชาวบ้านที่ประสบภัย ทราบว่า ก่อนเกิดพายุนั้นตลอดทั้งวันมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด จนช่วงกลางดึกมีฟ้าคะนองจากนั้นลมกระโชกแรง พายุหมุนพัดผ่านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านที่ประสบเหตุต่างวิ่งหลบเข้าไปอยู่ภายในวัด โดยเฉพาะชาวบ้านที่ อ.ฆ้องชัย เกือบทุกหลังคาเรือนได้รับความเสียหาย สังกะสีมุงหลังคาปลิวพัดเสียหายทั้งหลัง โดยเฉพาะในเขตตำบลหลักเมืองทางด้านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ระยะนี้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ มีประสบปัญหาพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายพื้นที่ทั้งที่ ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย บ้านเสียหาย 130 หลังคาเรือน ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ 130 หลังคาเรือน จึงเร่งประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอุบลไฟดับ ต้นไม้หักโค่นเมื่อเวลา 14.30 น. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครอุบลฯ เป็นเหตุให้ต้นไม้ล้มทับรถยนต์พังเสียหาย 4 คัน บริเวณหน้าโรงเรียนสามัคคี ถนนแจ้งสนิท อ.เมือง รถยนต์ผ่านไม่ได้ ฝนตกนานกว่า 2 ชั่วโมง ไฟฟ้าดับทั่วเมือง เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครอุบลต้องระดมกันช่วยตัดกิ่งไม้ที่ล้มทับเส้นทาง รวมถึงป้ายบริษัทห้างร้านที่ถูกแรงลมพัดกระจัดกระจายทั่วบริเวณถล่มโคราชหม้อแปลงระเบิดไฟดับเกือบทั้งเมืองเมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาอย่างรุนแรง ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และป้ายหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ที่ติดไว้ตามสองข้างทาง บริเวณหน้าป่าช้าจีน ถนนราชสีมา-โชคชัย อ.เมือง จ.นคราชสีมา ถูกลมพัดล้มระเนระนาดได้รับความเสียหายจำนวนมากนอกจากนี้ พายุฤดูร้อนยังทำให้หม้อแปลงไฟฟ้า ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาระเบิด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับหลายจุดนานกว่าครึ่งชั่วโมงเช่น บริเวณ ถ.จอมสุรางค์ยาตร์, ถ.สุรนารายณ์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา ต้องเร่งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าซ่อมแซม และทำการจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ตามปกติ วันที่ 28/04/2555 เวลา 3:41 น]

ฝนตกหนัก-ร้อนเดือด“กาฬสินธุ์”วิกฤติหนัก“พิจิตร”ล้มป่วยนับพันกทม.ตับแลบ40องศา

พายุฤดูร้อนแผลงฤทธิ์ ฝนกระหน่ำ ลูกเห็บตก หลายพื้นที่เหนืออีสาน เชียงใหม่ถล่ม อ.ดอยหล่อ-แม่วาง หนักสุดในรอบ 20 ปี 800 หลังคาเรือนพังเสียหาย ส่วนกาฬสินธุ์พัดบ้านพังกว่า 2,500 หลังคาเรือน ด้านสกลนครเจอฝนตกหนัก น้ำท่วมถนนเขตเทศบาลฯ หลายจุด ส่วนโคราชเกิดพายุลมแรง ทำหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดไฟดับเกือบทั้งเมือง ขณะที่อีกหลายพื้นที่เจอสภาพอากาศร้อนอบอ้าว พระอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.อุณหภูมิพุ่ง 40 องศาฯ ระอุทั่วเมือง ด้านพิจิตรอากาศร้อน ผู้ป่วยสารพัดโรคแห่เข้าโรงพยาบาล

 

กทม.ระอุอุณหภูมิ 40 องศาฯ

จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า วันที่ 27 เม.ย.55 เป็นวันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ที่ 90 องศา ในช่วงเวลาเที่ยงวัน หรือเวลา 12.00 น.

นายบุญธรรม ตั้งล้ำเลิศ หัวหน้าพยากรณ์อากาศประจำวัน ระบุว่า วันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ปีนี้มีอากาศร้อนทำลายสถิติของวันที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับกรุงเทพฯ ในรอบหลายสิบปี โดยมีการประมาณว่า จะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาฯ ซึ่งรวมทั้งไม่มีตัวแปรอื่นที่จะมาทำให้อุณหภูมิในกรุงเทพฯ ลดลงได้ และจากข้อมูลสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในเดือน เม.ย.ของกรุงเทพฯ ในรอบ 61 ปี ตั้งแต่ปี 2494-2554 พบว่า กรุงเทพฯ มีอุณหภูมิสูงที่สุดตรงกับวันที่ 27 เม.ย. เพียง 2 ครั้งคือ ในปี 2497 และ 2502 สำหรับสภาพอากาศทั้งประเทศ หลายพื้นที่มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 41 องศาฯ และนอกจากอากาศจะร้อนแล้ว ทุกภาคยกเว้นภาคใต้มีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง

ผู้ป่วยสารพัดโรคแห่เข้าโรงพยาบาล

นายแพทย์ประจวบ มงคลศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพิจิตร ได้กล่าวถึงสภาวะอากาศที่ร้อนจัดและส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ว่า เดิมที่เคยมีผู้ป่วยนอกมาขอเข้ารับการรักษาวันละ 600-700 คน แต่ขณะนี้พบปริมาณผู้ป่วยที่มาขอรับการรักษามากขึ้นเพิ่มเป็นวันละ 900-1,000 คน โดยโรคที่พบในผู้ป่วยมากขึ้น คือ โรคท้องเสีย อุจจาระร่วง ที่เกิดจากอาหารเป็นพิษ อีกทั้งยังพบผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว เกิดอาการเป็นโรคลมแดด หรือ Heat Stroke รวมถึงอากาศร้อนส่งผลให้มีเหงื่อไคลจนเกิดเป็นโรคผิวหนัง ก็พบมากด้วยเช่นกัน ส่วนผู้ที่ทำงานอยู่กับออฟฟิศหรือทำงานบริษัทห้างร้านต้องอยู่กับตัวเลขเมื่อเจออากาศร้อนต่างก็มีอาการเป็นโรคเครียดกันมากขึ้น โรงพยาบาลก็ได้ให้คำแนะนำและวิธีดูแลตนเอง ให้ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือ 8-10 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยให้ปรับอุณหภูมิในร่างกายได้อีกวิธีหนึ่ง และหากพบว่ามีอาการปวดศีรษะวิงเวียนหน้ามืดก็ให้รีบไปโรงพยาบาล หรือ รพ.สต. ที่อยู่ใกล้บ้าน และวันที่ 27 เม.ย.55 จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์โคจรใกล้โลกมากที่สุดทางโรงพยาบาลพิจิตรเองได้ตระหนักถึงสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงได้จัดกิจกรรมคลายความร้อนให้กับผู้ป่วย และผู้มาใช้บริการทางการแพทย์ทั้งผู้ป่วยใน-ผู้ป่วยนอกด้วยการเสริมพัดลมเพดาน พัดลมตั้งโต๊ะ ตลอดจนเพิ่มจุดบริการน้ำดื่มทั่วทั้งโรงพยาบาล อีกทั้งทีมแพทย์และพยาบาลก็มีการเพิ่มการดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น อีกทั้งในช่วงขณะที่ผู้ป่วยที่มาใช้บริการในการรอรับการตรวจก็จะมีบริการ Welcome drink ด้วยการเสิร์ฟน้ำเย็น น้ำหวาน น้ำสมุนไพร เพื่อให้ดื่มเป็นการคลายร้อนอีกด้วย

สามเณรวัดแพรกษาป่วยหมู่

ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีสามเณรที่บวชภาคฤดูร้อนตามโครงการเฉลิมพระเกียรติที่วัดแพรกษา ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เกิดล้มป่วยหลายรูปมีอาการปวดท้อง และบางรายมีไข้ขึ้นสูงมีอาการหน้ามืด หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่พร้อมรถกู้ชีพจำนวน 2 คัน รีบเดินทางตรวจสอบที่วัดดังกล่าว ภายในวัดได้พบสามเณรจำนวน 9 รูป ที่อยู่ในอาการอิดโรยบางรายมีอาการตัวร้อนมีไข้ขึ้นสูง จึงได้รีบลำเลียงส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ แพทย์ได้เร่งให้การตรวจรักษา หลังการตรวจรักษาแล้วพบว่ามีสามเณรหลายรูปที่ป่วยเป็นไข้ที่เกิดจากอากาศร้อนอบอ้าว และบางรายป่วยเนื่องจากมีอาการโรคกระเพาะกำเริบ แพทย์ให้การตรวจรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยก่อนให้ยาปฏิชีวนะมาทานก่อนอนุญาตให้กลับไปนอนพักฟื้นที่วัด โดยมีสามเณรหลายรูปเอ่ยปากบ่นว่าอยากที่จะสึกเนื่องจากเกิดอาการเครียดที่ถูกพระพี่เลี้ยงใช้กำลังบังคับให้นอน หากสามเณรรูปใดนอนไม่หลับก็จะถูกลงโทษ โดยการให้ไปนั่งสมาธิในป่าช้า หรือหน้าโลงศพ บางรายถูกหมอนฟาดศีรษะอย่างแรง จนล้มลงกระแทกพื้น และยังมีสามเณรบางรายถูกพระพี่เลี้ยงใช้เท้าเตะอีกด้วย ทำให้สามเณรหลายรูปเกิดอาการเครียด ประกอบกับอากาศร้อนจัดจึงทำให้ล้มป่วยพร้อมกัน แถมยังถูกพระพี่เลี้ยงขู่อีกว่า จะให้หมอตรวจหากไม่ได้ป่วยจริงก็จะถูกลงโทษ

จากการสอบถาม น.พ.ชูศักดิ์ เรืองจุติโพธิ์พาน รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ กล่าวว่า สามเณรทั้ง 9 รูปที่ถูกนำมารักษาที่โรงพยาบาลนั้น จากการตรวจร่างกายพบว่ามีอาการคล้ายกันคือ มีไข้ อาเจียน หน้ามืด เนื่องจากร่างกายขาดน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ แต่ก็ยังมีสามเณรบางรายที่ป่วยจากอาการโรคกระเพาะกำเริบ โดยแพทย์ได้ให้การรักษาจนอาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว และอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่วัด

พายุฤดูร้อนถล่ม อ.ดอยหล่อ-แม่วาง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย.55 นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสราวุธ วรพจน์ นายอำเภอดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น หลังเกิดพายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจากการสำรวจของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ในเบื้องต้นพบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายคือ อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วาง

นายสราวุธ กล่าวว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนถล่มอย่างหนัก จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบ 3 ตำบล คือ ต.สันติสุข สองแคว และยางคราม รวม 800 หลังคาเรือน โดย ต.ยางครามเสียหายมากที่สุด 595 ครับเรือน ส่วนใหญ่เป็นหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลเพื่อรายงานขอความช่วยเหลือไปยัง ปภ.เชียงใหม่ ซึ่งอาจจะล่าช้าบ้างเพราะมีขั้นตอนในการกรอกเอกสารในการเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องมีผู้ใหญ่บ้านเซ็นรับรอง อย่างไรก็ตามพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 20 ปี

ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับรายงานความเสียหายจาก อ.ดอยหล่อ และ อ.แม่วางแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจของ อ.ดอยหล่อ ในส่วน อ.แม่วางได้รับความเสียหาย 3 ตำบล คือ ต.ทุ่งปี้ จำนวน 12 หมู่บ้าน ต.บ้านกาด 4 หมู่บ้าน ต.ทุ่งรวงทอง 4 หมู่บ้าน ส่วนมากเป็นหลังคาเสียหายและต้นไม้ล้ม

สกลนครฝนเทท่วมเทศบาล

จากอิทธิพลพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวัดสกลนคร พบว่าตั้งแต่ช่วงเช้ามืดจนถึง 10.30 น.พื้นที่ในเขตเทศบาลนครสกลนครยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีลมกระโชกรุนแรง รวมถึงฟ้าผ่าที่กระหน่ำลงมาต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นขณะขับรถเหลือเพียง 100 เมตร ยวดยานที่สัญจรในช่วงเวลาดังกล่าวต้องลดความเร็วลงพร้อมกับเปิดไฟหน้ารถเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ยังเกิดน้ำท่วมฉับพลันบนถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครสกลนคร โดยเฉพาะถนน ต.พัฒนา บริเวณซอยราษฎรเจริญ และศาลเจ้าพ่อเสือ โดยพายุฤดูร้อนยังสร้างความเสียหายแก่ป้ายโฆษณา ต้นไม้กิ่งไม้หักโค่นหลายจุด

พายุถล่มกาฬสินธุ์บ้านพังกว่า 2,500 หลัง

เมื่อกลางดึกวันที่ 27 เม.ย.55 เกิดพายุฤดูร้อนและพายุฝนพัดบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์เสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย อ.ห้วยเม็ก และ อ.ยางตลาด จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 2,500 หลังคาเรือน นอกจากนี้แรงลมยังได้พัดเอาต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขว้างถนนในหมู่บ้าน ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก จากการสอบถามชาวบ้านที่ประสบภัย ทราบว่า ก่อนเกิดพายุนั้นตลอดทั้งวันมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด จนช่วงกลางดึกมีฟ้าคะนองจากนั้นลมกระโชกแรง พายุหมุนพัดผ่านอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านที่ประสบเหตุต่างวิ่งหลบเข้าไปอยู่ภายในวัด โดยเฉพาะชาวบ้านที่ อ.ฆ้องชัย เกือบทุกหลังคาเรือนได้รับความเสียหาย สังกะสีมุงหลังคาปลิวพัดเสียหายทั้งหลัง โดยเฉพาะในเขตตำบลหลักเมือง

ทางด้านนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ระยะนี้ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ มีประสบปัญหาพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายพื้นที่ทั้งที่ ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย บ้านเสียหาย 130 หลังคาเรือน ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ 130 หลังคาเรือน จึงเร่งประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

อุบลไฟดับ ต้นไม้หักโค่น

เมื่อเวลา 14.30 น. เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครอุบลฯ เป็นเหตุให้ต้นไม้ล้มทับรถยนต์พังเสียหาย 4 คัน บริเวณหน้าโรงเรียนสามัคคี ถนนแจ้งสนิท อ.เมือง รถยนต์ผ่านไม่ได้ ฝนตกนานกว่า 2 ชั่วโมง ไฟฟ้าดับทั่วเมือง เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครอุบลต้องระดมกันช่วยตัดกิ่งไม้ที่ล้มทับเส้นทาง รวมถึงป้ายบริษัทห้างร้านที่ถูกแรงลมพัดกระจัดกระจายทั่วบริเวณ

ถล่มโคราชหม้อแปลงระเบิดไฟดับเกือบทั้งเมือง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมาอย่างรุนแรง ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และป้ายหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ที่ติดไว้ตามสองข้างทาง บริเวณหน้าป่าช้าจีน ถนนราชสีมา-โชคชัย อ.เมือง จ.นคราชสีมา ถูกลมพัดล้มระเนระนาดได้รับความเสียหายจำนวนมาก

นอกจากนี้ พายุฤดูร้อนยังทำให้หม้อแปลงไฟฟ้า ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาระเบิด ส่งผลให้ไฟฟ้าดับหลายจุดนานกว่าครึ่งชั่วโมงเช่น บริเวณ ถ.จอมสุรางค์ยาตร์, ถ.สุรนารายณ์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา ต้องเร่งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าซ่อมแซม และทำการจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ตามปกติ

 

วันที่ 28/04/2555 เวลา 3:41 น
ขอบคุณเนื้อหาข่าว จาก

 http://www.banmuang.co.th/2012/04/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/

[อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ยืนยัน เหตุไฟลุกไหม้จากพื้นดิน จ.พิษณุโลก ไม่ใช่ดินภูเขาไฟ หรือ เป็นผลจากแผ่นดินไหว พร้อมเร่งตรวจสอบที่ จ.ลพบุรี ด้าน กรมอุตุฯ เตือนระวังพายุฤดูร้อน ภาคอีสานฝนฟ้าคะนองลมแรงลูกเห็บตกบางแห่ง]

อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ยืนยัน เหตุไฟลุกไหม้จากพื้นดิน จ.พิษณุโลก ไม่ใช่ดินภูเขาไฟ หรือ เป็นผลจากแผ่นดินไหว พร้อมเร่งตรวจสอบที่ จ.ลพบุรี ด้าน กรมอุตุฯ เตือนระวังพายุฤดูร้อน ภาคอีสานฝนฟ้าคะนองลมแรงลูกเห็บตกบางแห่ง 

อ่านต่อที่นี่ครับ
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=374837

[นายวีระ เทียนวรรณ นายกอบต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิก อบต.ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้ง 3 หมู่บ้าน หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร ประกอบด้วย หมู่ 2 , 5 และหมู่ 9ต.เจริญสุขอย่างรุนแรงทำให้ทั้งต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือนราษฎรเสียหาย ซึ่งผลสำรวจพบว่า มีบ้านเรือนราษฎร และยุ้งข้าวถูกพายุพัดได้รับความเสียหายกว่า 30 หลัง โดยในจำนวนนี้มีบ้านที่ถูกพายุพัดพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 3 หลัง ส่งผลทำให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยหลับนอนตามบ้านญาติและบ้านเพื่อนบ้านข้างเคียงชั่วคราวนายวีระ กล่าวว่า อบต.จะส่งเจ้าหน้าที่ ร่วมกับอปพร.เข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายให้สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ก่อน ส่วนค่าความเสียหายจริงยังอยู่ในระหว่างการสำรวจรายงานให้ทางอำเภอ จังหวัด เพื่อขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันทางอบต.จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ระมัดระวังพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นและให้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องดังกล่าวด้วยด้านนายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.จนถึงขณะนี้เพียงในรอบเดือนเดียวได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มแล้ว 7 ครั้ง ใน 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง ลำปลายมาศ ละหานทราย พุทไธสง พลับพลาชัย เฉลิมพระเกียรติ และ อ.นาโพธิ์ มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 560 หลังคาเรือนประเมินค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทจึงเตือนให้ประชาชนได้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อเฝ้าระวังเตรียมความรับมือวาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้อย่างใกล้ชิดด้วย]

พายฤดูร้อนถล่มบุรีรัมย์พัง30หลัง

นายวีระ เทียนวรรณ นายกอบต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิก อบต.ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้ง 3 หมู่บ้าน หลังเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎร ประกอบด้วย หมู่ 2 , 5 และหมู่ 9ต.เจริญสุข

อย่างรุนแรงทำให้ทั้งต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือนราษฎรเสียหาย ซึ่งผลสำรวจพบว่า มีบ้านเรือนราษฎร และยุ้งข้าวถูกพายุพัดได้รับความเสียหายกว่า 30 หลัง โดยในจำนวนนี้มีบ้านที่ถูกพายุพัดพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 3 หลัง ส่งผลทำให้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องอาศัยหลับนอนตามบ้านญาติและบ้านเพื่อนบ้านข้างเคียงชั่วคราว

นายวีระ กล่าวว่า อบต.จะส่งเจ้าหน้าที่ ร่วมกับอปพร.เข้าไปซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่ได้รับความเสียหายให้สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ก่อน ส่วนค่าความเสียหายจริงยังอยู่ในระหว่างการสำรวจรายงานให้ทางอำเภอ จังหวัด เพื่อขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกันทางอบต.จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ระมัดระวังพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นและให้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องดังกล่าวด้วย

ด้านนายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.จนถึงขณะนี้เพียงในรอบเดือนเดียวได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มแล้ว 7 ครั้ง ใน 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง  ลำปลายมาศ ละหานทราย  พุทไธสง พลับพลาชัย เฉลิมพระเกียรติ และ อ.นาโพธิ์ มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 560 หลังคาเรือนประเมินค่าความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทจึงเตือนให้ประชาชนได้ติดตามการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อเฝ้าระวังเตรียมความรับมือวาตภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้อย่างใกล้ชิดด้วย

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
http://www.posttoday.com

นครราชสีมา 27 เม.ย.- ไฟฟ้าดับหลายจุดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา หลังหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดจากพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักบ่ายวันนี้ ด้านอุตุฯ เตือนระวังพายุฤดูร้อนระยะ 1-2 วันนี้

เมื่อเวลา 13.30 น. (27 เม.ย.) เกิดพายุฤดูร้อนกระหน่ำหนักในพื้นที่อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และป้ายหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาที่ติดไว้ตามสองข้างทาง บริเวณหน้าป่าช้าจีน ถนนราชสีมา-โชคชัย  อ.เมือง จ.นคราชสีมา ถูกลมพัดล้มระเนระนาด รวมถึงตู้ยามจราจร นอกจากนี้ ยังทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาระเบิดส่งผลให้ไฟฟ้าดับหลายจุดนานเกือบครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเร่งซ่อมแซม เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชน

ด้านสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครราชสีมารายงานสภาพอากาศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือวันนี้ (27 เม.ย.) ว่า มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากมีฝนฟ้าคะนองไม่ควรออกจากบ้าน หรือยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ รวมทั้งใกล้ป้ายโฆษณา เพื่อป้องกันการอันตราย โดยขอให้ระวังผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายนนี้.-สำนักข่าวไทย

ขอบคุณภาพจากและข่าวจาก
http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=374791
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/358395.html

[กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน " ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 27 เมษายน 2555 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2555 ไว้ด้วย สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในระยะนี้ ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 ออกประกาศ เวลา 05.30 น.]

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.thairath.co.th


กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน " ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 27 เมษายน 2555
       
        บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2555 ไว้ด้วย
       
        สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในระยะนี้
       
        ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 ออกประกาศ เวลา 05.30 น.

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000052266

[วันนี้ ( 27 เม.ย.) เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระชากแรงพาดผ่าน ฝนฟ้าคะนอง มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง อำเภอวังสะพุง นอกจากนี้ยังเกิดฟ้าผ่าหลายจุด หลังจากลมฝนตกกระหน่ำอย่างรุนแรงเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคีรีบูชาธรรม จุดท้องที่อำเภอวังสะพุงว่า มีเหตุฟ้าผ่า ที่บ้านท่าทิศเฮือง หมู่ 7 ต.ปากปวน อ.วังสะพุง จ.เลย ทำให้ควายที่หลบฝนฟ้าคะนอง ในคอกริมกอไผ่ ข้างสะพานข้ามแม่น้ำเลยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าชาวบ้านกำลังจะนำควาย ทั้ง 5 ตัว ที่นอนเสียชีวิตจากฟ้าผ่า ขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อนำไปขายให้กับพ่อค้าเขียงเนื้อรายใหญ่ ที่อำเภอภูกระดึง สอบถามนายออ จันทะวงษ์ อายุ 60 ปี เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็น นายฮ้อย มากว่า 35 ปี แล้ว ควายชุดนี้กู้เงินจาก ธกส.วังสะพุง มาจำนวน 100,000 บาท ได้ควายมา 8 ตัว โดยทุกวันจะต้อนออกจากคอกในบ้านมาตั้งแต่ 3 โมงเช้า มาไว้ในคอกข้างกอไผ่ ก่อนเกิดเหตุเกิดมาพายุ ฝนฟ้าคะนอง จึงไม่กล้าปล่อย จนเกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ทำให้ควายมี่อยู่ในคอก ล้มลงตายคาที่ 5 ตัว เป็นควายใหญ่ตัวเมีย 4 ตัว ควายเล็กตัวผู้ 1 ตัว ตนเห็นควายตายต่อหน้า รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีพ่อค้า มาตกลงซื้อ 180,000 บาทแล้ว ทั้งนี้มาตายตั้ง 5 ตัว คิดเป็นเงินก็ราว 110,000 บาท ไม่รู้ว่าจะหาเงินไปใช้ ธกส.ได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้ทาง อบต.ปากปวน ทราบ และเจ้าหน้าที่ บรรเทาสาธารณะภัย อบต.ปากปวน ได้มาดูแล และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป]

พายุฤดูร้อนถล่มฟ้าผ่าควายตาย5ตัว



วันนี้ ( 27 เม.ย.)  เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระชากแรงพาดผ่าน ฝนฟ้าคะนอง มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง อำเภอวังสะพุง นอกจากนี้ยังเกิดฟ้าผ่าหลายจุด หลังจากลมฝนตกกระหน่ำอย่างรุนแรงเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างคีรีบูชาธรรม จุดท้องที่อำเภอวังสะพุงว่า มีเหตุฟ้าผ่า ที่บ้านท่าทิศเฮือง หมู่ 7 ต.ปากปวน อ.วังสะพุง จ.เลย ทำให้ควายที่หลบฝนฟ้าคะนอง ในคอกริมกอไผ่ ข้างสะพานข้ามแม่น้ำเลย

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าชาวบ้านกำลังจะนำควาย ทั้ง 5 ตัว  ที่นอนเสียชีวิตจากฟ้าผ่า ขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อนำไปขายให้กับพ่อค้าเขียงเนื้อรายใหญ่ ที่อำเภอภูกระดึง สอบถามนายออ จันทะวงษ์ อายุ 60 ปี เล่าว่า ตนมีอาชีพเป็น นายฮ้อย มากว่า 35 ปี แล้ว ควายชุดนี้กู้เงินจาก ธกส.วังสะพุง มาจำนวน 100,000 บาท ได้ควายมา 8 ตัว โดยทุกวันจะต้อนออกจากคอกในบ้านมาตั้งแต่ 3 โมงเช้า มาไว้ในคอกข้างกอไผ่

ก่อนเกิดเหตุเกิดมาพายุ ฝนฟ้าคะนอง จึงไม่กล้าปล่อย จนเกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรง ทำให้ควายมี่อยู่ในคอก ล้มลงตายคาที่ 5 ตัว เป็นควายใหญ่ตัวเมีย 4 ตัว ควายเล็กตัวผู้ 1 ตัว ตนเห็นควายตายต่อหน้า รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีพ่อค้า มาตกลงซื้อ 180,000 บาทแล้ว ทั้งนี้มาตายตั้ง 5 ตัว คิดเป็นเงินก็ราว 110,000 บาท ไม่รู้ว่าจะหาเงินไปใช้ ธกส.ได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้ทาง อบต.ปากปวน ทราบ และเจ้าหน้าที่ บรรเทาสาธารณะภัย อบต.ปากปวน ได้มาดูแล และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/104120

ผมว่า ปฏิบัติ ตามลำดับกรรมฐาน จะไม่เสียเวลาครับ

 ถ้าข้ามไป วิปัสสนา ตอนนี้ กำลังจิตอาจจะยังไม่พอ วิปัสสนา นะครับ

   

ผมว่า ถ้าในการภาวนา แล้ว ศีล ไม่มาก ไม่น้อย ต่างกันครับ
เวลาในการภาวนา มีอริยะศีล คือ กุศลกรรมบถ 10 ประการ นี้ ที่ทำให้ผู้ปฏิบัิติเสมอกัน ส่วน ศีล ที่เป็น ข้อบัญญัติ 5 8  10 227 300 ประมาณนี้ บางครั้งเป็นข้อบัญญัติ
 
   เอาง่าย ๆ ศีลพระข้อหนึ่ง ห้ามเคี้ยวข้าวเสียงดัง คือผมไม่ทราบว่า ถ้าเคี้ยวข้าวเสียงดัง จะตกนรกขุมไหน ครับดังนั้น ทางฝ่ายพระเอง เพียงปรับอาบัติ ว่าเสียมารยาท เรียกว่า ทุกกฏ ถุลลัจจัย อย่างนี้เป็นต้น

   ที่นี้ถ้ามองกลับกัน เราเคี้ยวข้าวเสียงไม่ดัง ก็เท่ากับเรามีศีลข้อนี้เช่นกันใช่หรือไม่ครับ

   ดังนั้นถ้าวัดด้วยบทบัญญัติแล้ว ศีล ที่มากข้อ ก็ใช่ว่า จะได้เปรียบผู้ปฏิบัติ กลับจะทำให้ผู้ปฏิบัติเอง เกิดปลิโพธ กังวลกับการละเมิดข้อบัญญัติ

   ดังนั้นการวัดศีล จึง ศีลอริยะ คือกุศลกรรมบถ 10 ผมว่าเป็นกลาง ที่สุด ดังนั้น โยม กับ พระ จะเสมอกันด้วยอริยะศีล ครับ


     

ขอบคุณภาพ จาก http://www.myfirstbrain.com

ภาษิตไทย ครับ ซึ่งผมมักจะจำผิดเสมอ ว่า ไม้ล้มอย่าข้าม ซึ่งไม่ตรงกับสำนวนเดิมเลยนะครับ


 

ผมว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา ใหญ่ๆ จริง ๆ ครับ เวลาผมเข้าไปสนทนาในวัด ส่วนมากพอไปคุยกับหลวงพี่ หลวงพ่อ ส่วนมากก็พูดถึงค่าใช้จ่าย ที่ไม่พอใช้ กับ กิจนิมนต์ ที่ไม่ค่อยมี ๆ ก็เป็นอยู่กับพวกบางรูป บางองค์

  เฮ้อ ......

 

อนุโมทนา สาธุ ครับ วันนี้ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกกระจ่างแจ้ง หลายอย่าง
อันที่จริง ผมเองก็ยังไม่เชื่อเรื่อง ภพ 50 เปอร์เซ็น คือ เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง ครับ

  เพราะแถวบ้านผม คนส่วนใหญ่ จะออกเป็นงมงาย เชื่อเรื่อง ผี อะไรกันมาก แต่ผมเห็นว่าชาวบ้านเชื่อเรื่องผี แต่แทนที่จะปฏิบัติธรรมกันดี เรื่องของพระ และ วัด พระธรรม ชาวบ้านกับไม่ได้สนใจที่จะศึกษาหรือฟัง หรือภาวนากันเลยครับ

   

พระลูกวัดอัดเจ้าอาวาสสลบ-แค้นมีงานกลับนิมนต์พระวัดอื่น

เจ้าอาวาสถ่มน้ำลายใส่ พระลูกวัดฉุนตื้บสลบ

ภาพประกอบ http://www.thairath.co.th

 เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พตอ.บุญเลิศ เสือจำศิลป์ ผกก.สภ.ตาคลี ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายที่วัดหนองสีซอ หมู่ 4 ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงรีบไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยตาคลี

 

 ภายในวัด พบพระนอนสลบอยู่บนกุฎิ 1 รูป จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลตาคลี ทราบต่อมาว่าพระที่ถูกทำร้ายจนสลบเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองสีซอ ชื่อพระสมหมาย เขมโก (ชุมลาภเอี่ยม) อายุ 56 ปี (13 พรรษา) บ้านเดิมอยู่ภาคอีสาน และเรียนจบปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิต เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองสีซอได้ประมาณ 6 เดือน

 

 จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าที่วัดหนองสีซอมีการตั้งศพสวดพระอภิธรรมผู้เสียชีวิตอยู่ 1 ราย และมีการนิมนต์พระสวดพระอภิธรรมจำนวน 4 รูป ที่วัดหนองสีซอมีพระจำพรรษาอยู่ 5 รูป เจ้าอาวาสรับกิจนิมนต์จากเจ้าภาพแล้ว ตัวเจ้าอาวาสเองกับพระบุญเสริม อหิงสโก อายุ 75 ปี ร่วมสวดพระอภิธรรม ส่วนพระอีก 2 รูปไม่นิมนต์พระในวัด กลับไปนิมนต์พระมาจากวัดดงพลับ ทำให้พระลูกวัดที่เหลืออยู่ไม่พอใจ และเคยเกิดเหตุแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง

 

 โดยคราวนี้ เจ้าอาวาสซึ่งอยู่บนกุฎิที่ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ได้ถ่มน้ำลายรดหัวพระสมชาย ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่เดินผ่านมาพอดี พระสมชายจึงเกิดความโกรธ ประกอบกับการไม่ได้รับกิจนิมนต์ จึงขึ้นไปบนกุฎิเจ้าอาวาสแล้วชกต่อยจนสลบคาที่ จากนั้นพระสมชายก็หลบหนีออกจากวัดไป

 

 ด้านพระลูกวัดรายอื่นให้การว่า ตั้งแต่พระสมหมายมาอยู่ที่วัดนี้ ก็มีเรื่องมีปัญหาเกิดความขัดแย้ง และไม่ค่อยเข้าใจกันกับพระลูกวัดเป็นประจำ ส่วนพระสมชาย ทางเจ้าหน้าที่จะออกหมายเรียกตัวมาสอบปากคำ หากไม่มาก็จะออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีต่อไปในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNek5URTRPREkxT1E9PQ==&subcatid=

( จากรูป ขอแก้ไข สถานีแบริ่ง จากที่เขียนว่า "สุขุมวิท 105" เป็น "สุขุมวิท 107" ครับ )

3) ส่วนต่อขยายสายบางนา-ตราด ( บางนา-วัดศรีวารีน้อย ( กม.16 ) )

ช่วงที่ 1 ( บางนา-รามฯ 2)
สถานีอุดมสุข ( สถานีเชื่อมต่อส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท )
สถานีศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ไบเทค บางนา
สถานีหมู่บ้านถาวรนิเวศน์ ( กม.2 )
สถานีเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ( กม.3 )
สถานีวัดศรีเอี่ยม ( กม.4 ) ( สถานีเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง )
สถานีปลัดเปรียง ( กม.6 )
สถานีบางแก้ว ( มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ) ( กม.8 )

ช่วงที่ 2 ( รามฯ 2-วัดศรีวารีน้อย ( กม.16 ) )

สถานีวัดสลุด ( กม.9 )
สถานีบางพลี ( กม.12 )
สถานีธนา ซิตี้ ( กม.14 ) ( สถานีเชื่อมต่อไปสนามบินสุวรรณภูมิ )
สถานีบางโฉลง ( กม.15 )
สถานีวัดศรีวารีน้อย ( กม.16 ) ( มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ )