ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาตั้งข้อสังเกต "เทวรูปแกะสลักจากอุกกาบาต" อาจเป็นของปลอม
เกาหลีใต้ : ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาเผย เทวรูปโบราณที่เชื่อว่าเป็น “ท้าวเวสสุวรรณ” และคาดว่าแกะสลักจากหินอุกกาบาตเมื่อ 1,000 ปีที่แล้วนั้น อาจเป็นเพียงของปลอมที่ทำขึ้นในศตวรรษที่ 20
อาชิม เบเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาแห่งมหาวิทยาลัยดองกุก ในประเทศเกาหลีใต้ ได้เสนอรายงานโต้แย้งว่า เทวรูปดังกล่าวมีคุณลักษณะที่ไม่ใช่ทิเบต ซึ่งเชื่อได้ว่า ทำปลอมขึ้นในยุโรประหว่างปี 1910-1970
โดยสังเกตจากเทวรูปสวมรองเท้าสไตล์ยุโรปที่สูงแค่ข้อเท้า
แทนที่จะเป็นรองเท้าบู๊ต สวมกางเกงขายาว แทนการห่มจีวร และแขนเสื้อทรงกระบอก
ซึ่งต่างกับเครื่องแต่งกายโบราณของชาวทิเบตหรือมองโกเลีย
รวมทั้งเทวรูปมีเคราเต็มใบหน้า ซึ่งจะไม่พบในรูปปั้นเทพเจ้าของทิเบตและมองโกเลีย
รวมทั้งการใส่ต่างหูข้างเดียวและสวมผ้าคลุมไหล่ ซึ่งเห็นได้ทั่วไปในรูปปั้นเทพเจ้าของโรมันมากกว่าของทิเบต
อีกเรื่องที่เบเยอร์ตั้งข้อสังเกตคือ เทวรูปได้ถูกนำเข้ามาในเยอรมนีโดยคณะเดินทางของพรรคนาซีที่เดินทางไปยังทิเบตในปลายยุค 1930 นั้น เขาได้รับข้อมูลจากอิสรัน เองเกิลฮาร์ด ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันที่ศึกษาการเดินทางดังกล่าวว่า ไม่น่าเป็นเรื่องจริง เขาจึงสงสัยว่า เทวรูปถูกทำขึ้นเพื่อตลาดค้าวัตถุโบราณ หรือไม่ก็เพื่อตลาดของสะสมนาซี โดยสร้างเรื่องราวของการได้มา เพื่อเพิ่มมูลค่าของเทวรูปนั่นเอง
อนึ่ง รายงานดั้งเดิมของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยสตุ๊ตการ์ท ซึ่งนำโดย ดร.เอลมาร์ บุชเนอร์ ระบุว่า
เทวรูปองค์นี้ถูกค้นพบและนำกลับมาที่เยอรมันโดยเอิร์นส์ ชาเฟอร์ นักสัตววิทยา
ซึ่งเดินทางไปยังทิเบตด้วยการสนับสนุนของพรรคนาซีในปี 1938 เพื่อค้นหาแหล่งกำเนิดของเชื้อชาติอารยัน
ต่อมาเทวรูปได้ตกเป็นของสะสมส่วนตัว ซึ่งทีมวิจัยได้ประเมินอายุของเทวรูปไว้ราว 1,000 ปี ขอบคุณภาพข่าวจาก Discovery News
http://www.manager.co.th/dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9550000148905