ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความเห็นเรื่อง พระพุทธรูป และ รูปหล่อ ครูอาจารย์  (อ่าน 1764 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0


รูปหล่อ ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ หรือ ครูอาจารย์ที่เรานับถือ จะมีมุมอยู่สองมุม สำหรับผู้ภาวนา
คือ
1. มุมของปัญญาวิมุตติ ก็จะมองเห็นว่า เป็นเพียงแค่รูปเคารพ เครื่องระลึกถึงคุณงามความดี ของผู้ที่ได้รับการยกย่อง ตามความเคารพ สิ่งที่ไม่มีเพิ่มต่อไปก็คือ วัตถุที่ปั้นหล่อนั้นก็เป็นเพียงแค่ทองเหลือง ปูน วัสดุ ที่เป็นธาตุมาปรุงแต่งให้เป็นรูปร่าง เท่านั้นสรณะแก่นสาร ไม่ได้อย่ที่รูปปั้นหรือหล่อ

คนเหล่านี้กราบไหว้ ทองเหลือง อิฐ หิน ปูน ทราย ท่อนไม้ ท่อนฟืน ทุกวัน เพราะจิตมองไว้แค่นั้น จึงไม่เคยเข้าถึงนิมิตร ที่เรียกว่า นามกาย เลย เพราะมีแต่ปัญญามองไว้แค่นั้น ไม่มีทางถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ของรูปหล่อนั้นได้เลย เพราะมองนับถือเหมือนเครื่องประดับประดุจแจกัน เชิงเทียนเท่ากัน

2.มุมของเจโตวิมุตติ ไม่ใช่ วัตถุทองเหลือง อิฐ หิน ปูน ทราย แต่ ทุกครั้งที่กราบไหว้ ก็คือ ครูอาจารย์ที่ตนเคารพ และมองเห็นครูอาจารย์ประหนึ่งว่าอยู่ตรงหน้า เขาย่อมถึงนิมิตร ที่เป็นที่พึ่ง เพราะความศรัทธา ( ความเชื่อ ) นั้นความศักดิ์สิทธิ์ ย่อมอยู่ตรงนี้ อานุภาพ แห่งจิตตานุภาพ ย่อมมีไปตามความเคารพเลื่อมใส นิมิต ที่เรียกว่า นามกาย ย่อมปรากฏชัดเป็นที่พึ่ง ดั่ง อาภาธาตุ
สำหรับคนทั่วไป ที่ไม่ใช่ผู้ภาวนา ก็เพียงกราบไหว้เคารพ ดั่งเทพเจ้า ก็เป็นการดีไปอย่าง ดีกว่าคิดว่า เป็นอิฐหินปูนทราย เพราะยังมีความยำเกรงอยู่บ้าง

สาเหตุที่หลายท่านไม่พบครูอาจารย์ในนิมิต ก็เพราะเหตุที่หนึ่ง




ความคิดแบบเซ็นได้ปลูกฝังลงบนทิฏฐิ ฉันว่า รูปเคารพรูปเหมือนต่าง ๆ นั้นเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ที่บรรดาคนทั้งหลายสมมุติ ไม่ใช่ภาวะที่แท้จริง ดังนั้นสมัยก่อนใครให้ วัตถุมงคลมา ก็แจกไปทันที ใครชวนไปไหว้เจดีย์ ไหว้รอยพระพุทธบาท ก็เฉย ๆ หรือไปสังเวชนิียสถาน ต่าง ๆ ฉันก็เฉย ๆ ไม่เคยคิดว่า อยากไป หรือต้องการจะไปเพราะคิดว่า ถ้าใจฉันเคารพอยู่ตรงไหน ก็ถือว่าเคารพ และเป็นการเคารพที่ไม่คลอนแคลนเพราะสามารถไม่ยึดติดในรูปแบบ ต่าง ๆ บางครั้งเห็นคนเหยียบพระเศียรพระพุทธรูปสมัยก่อนเฉย ๆ เลยเพราะว่าเรามองเห็นว่าเขาเหยียบเพียงก้อนปูนไม่ใช่เหยียบพระพุทธเจ้า ความเป็นปัญญาวิมุตติ ของฉันเป็นอย่างนั้นบางครั้งไปอยู่บางทีก็ไปเอาแท่งหินมาก้อนหนึ่งวางลงบนโต๊ะหมู่แล้วก็สอนบอกคนทั้งหลายว่า นี่คือพระพุทธรูป นะ เพราะฉันสมมุติว่าเป็น เราไหว้พระพุทธรูป ก็คือพระพุทธเจ้าที่อยู่ในใจของเรา นับถือเลื่อมใสในใจ นั้นถือว่าเลิสแล้ว ฉันเชื่อครูของฉันอย่างนี้แล้วครุฉันก็สอนฉันมาอย่างนี้ จนไม่เคยเอะใจว่าครูที่สอนฉันอย่างนี้ ทำไมถึงพยายามไปสังเวชนียสถานกัน พยายามตามหารอยพระพุทธบาทกัน พยายามที่จะเก็บสะสมวัตถุเหล่านี้เป็นพิพิธภัณฑ์ ฉันโดนครูอาจารย์พวกนี้หลอกสอนฉันอีกอย่างไปทำอีกอย่าง น่าอนาถใจตอนนั้นจึงไม่สามารถมองเห็น นามกาย ของพระพุทธะได้เลย

จนมาสมัยที่ฉันต้องหมดโอกาสในชีวิต เมื่อถึงคราต้องตอบคำถามพระยายม กับตอบไม่ได้ว่าเคยสร้างบุญอะไร นอกจากสอนธรรมะ มีคำถามหนึ่งท่านถามเราว่า ที่แกไปสอนนั้นคนรู้ัจักธรรมะกี่คน ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เพราะไม่เคยวัด จะเอาเสียงหัวเราะในการฟังก็ไม่ได้ จะเอาจำนวนคนที่ฟังก็ไม่ได้ จะเอาคนที่ฟังซ้ำสอง ซ้ำสามมาวัดก็ไม่ได้ ดังนั้นเวลาตอบเรื่องการแสดงธรรมทาน สู้ตอบว่าเคยสนับสนุน ด้วยสื่อนั้นสื่อนี้ ด้วยปัจจุัย อย่างนี้ยังตอบง่ายกว่า มากเลย

เชื่อสิฉันก้าวมาถูกเพราะมีสัมมาทิฏฐิก่อน จึงทำให้การภาวนาไปสู่ เจโตวิมุตติ นั้นยากกว่า เป็นปัญญาวิมุตติ

ที่ภาคเหนือ มีคุณยายท่านหนึ่งป่วยด้วยโรคเรือ้น ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย คุณยายหลบหน้าผู้คนสังคมอยู่ในบ้านตามลำพัง เพราะอยู่กับญาติไม่ได้เป็นโรคติดต่อได้ ญาติส่งข้าวปลาอาหารให้ คุณยายท่านนีอยู่ในบ้าน กับพระพุทธรูป ที่มีราคาไม่กี่บาท แต่คุณยายบอกว่าเป็นที่พึ่งแก่ยายทุกครั้งที่ร้องไห้เสียใจ ก็ได้พระพุทธรูปองค์นี้เป็นเพือน ทั้งหมด 68 ปี กว่าสังคมจะรู้เรือ่งของคุณยายท่านนี้ ทางข่าว

คุณยายท่านนี้ใน 68 ปีที่ผ่านมา หน้าตาของคุณยายมีรูโบ๋ จมูกดั้งหาย เท้าด้วนสองข้าง มือไม่มีนิ้ว เพราะโรคเรือ้นกัดกิน จากเด็กสาวมัธยมสวยๆ เรียนเก่ง กลายเป็นคนพิการ
เรื่องนี้เป็นข่าวผ่านมา 12 ปีนี้แล้ว

คลิปนี้ ถูกลบไปเนื่องจากหมดอายุ คงเหลือที่นี่แต่เสียงไม่มีพอดูภาพยายคนนี้ก็แล้วกัน
http://www.clipmass.com/movie/1944997192161109

บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ความเห็นเรื่อง พระพุทธรูป และ รูปหล่อ ครูอาจารย์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2016, 10:59:10 am »
0
ความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน ส่งผลไม่เหมือนกัน
1. ความเชื่อของคนที่เชื่อเรือ่งศักดิ์สิทธิ์ ปาฏิหาริย์ แต่พอวันหนึ่งนั้น กับไม่เชื่อเรือ่งพวกนี้ เชื่อแต่เรือ่ง ทุกข์สภาวะ ธรรมสภาวะ ความเชื่อแบบนี้ เป็นความเชื่อที่ไปสู่ปัญญาวิมุตติอย่างเดียว

2. ความเชื่อแบบธรรมสภาวะ เท่านั้นมีมาก่อนไม่เคยเชื่อเรื่อง อิทธิปาฏิหาริย์ เมือ่ถึงความเชื่อที่เปลี่ยนเป็นอิทธิปาฏิหาริย์เข้า ก็เป็นความเชื่อมุ่งไปสู่ เจโตวิมุตติอย่างเดียว

3.ถ้าความเชื่อแบบทั้งสองสลับกันไปมา ในครั้งที่ 3 เป็นต้นไป ความเชื่อแบบนั้น เป็นมิจฉาทิฎฐิ ไม่มีทางไปสู่วิมุตติได้อีกต่อไป เพราะเขาได้พ้นจาก หลักธรรม
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ความเห็นเรื่อง พระพุทธรูป และ รูปหล่อ ครูอาจารย์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2016, 08:47:33 pm »
0
  ผมเชื่อเรื่อง..ปาฏิหาร ผมขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์

  ยามเกิด ภัย เช่นความกลัว ก็จะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์

  ..วันหนึ่ง..เกิด..พระแขวนคอหาย

ยามขอก็จักล้วงพวงพระมา..จับ..โอมๆๆ

พระเกิดหายแว็บเลย  จิตตกวูบ

เสียวสันหลังวาบ

ความหวัง ที่ฝากพระ ย้อนหลังไปดู

ก็ให้ผ่านภัย

ก็ต้องยกมือเปล่าท่วมหัว ขอให้เจอพระ

ถ้าจักอยู่ด้วยกันก็ขอให้เจอ

ถ้าจักไม่อยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องเจอ

......


รู้ใหม ผมเจอพระที่ไหน

ในคลองบ่อน้ำ

งมเจอ

มุดลงไปความดูก้นบ่อ



....

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงนะ


พระองค์นี้...หลวงพ่อเกิดวัดสะพาน

พระองค์นี้ดัง เพราะ สมบัติ เมทะนี

ดาวค้างฟ้า

บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา