ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำความรู้จักตำนาน “พระสุก-พระเสริม-พระใส” พระสามพี่น้องแห่งล้านช้าง  (อ่าน 108 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ทำความรู้จักตำนาน “พระสุก-พระเสริม-พระใส” พระสามพี่น้องแห่งล้านช้าง

ชวนทำความรู้จัก! ตำนานพระสามพี่น้อง “พระสุก-พระเสริม-พระใส” พระประจำพระธิดา 3 พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างในอดีต ก่อนจมแม่น้ำโขง

จากกรณีการค้นพบพระพุทธรูปเก่าแก่ริมแม่น้ำโขงบริเวณเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จนทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียลาวพากันตั้งข้อสังเกตว่า พระโบราณที่พบริมน้ำโขง อาจเป็น “พระสุก” ที่จมแม่น้ำโขงสมัยอาณาจักรล้านช้าง

แม้การตั้งข้อสังเกตดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานราชการของ สปป.ลาว ว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็ทำให้เรื่องราวของพระสุกกลับมาอยู่ในความสนใจของคนในสังคัมอีกครั้ง วันนี้ “พีพีทีวี” จะพาไปทำความรู้จักกับตำนานของ “พระสุก-พระเสริม-พระใส”



พระเสริม วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร

โดยตำนานพระสามพี่น้อง “พระสุก-พระเสริม-พระใส” มีตำนานเล่าว่า พระธิดา 3 พระองค์ของ เป็นธิดาของพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์อาณาจักรล้านช้าง ได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น 3 องค์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และถวายนามพระพุทธรูปตามพระนามของพระธิดาแต่ละพระองค์ โดย “พระเสริม” เป็นพระประจำพระธิดาองค์ใหญ่ “พระสุก” ประจำพระธิดาองค์กลาง และ “พระใส”ประจำพระธิดาองค์เล็ก

ซึ่งแต่เดิมพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ ถูกประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ และถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญของอาณาจักรล้านช้าง กระทั่งต่อมาเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์ขึ้นที่เมืองเวียงจันทน์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ ได้เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ

เมื่อเมืองเวียงจันทน์สงบแล้ว จึงได้อัญเชิญ “พระสุก-พระเสริม-พระใส” ข้ามแม่น้ำโขงมาที่จังหวัดหนองคาย โดยมีการต่อแพข้ามแม่น้ำโขง สำหรับพระแต่ละองค์ แต่ระหว่างแพของพระสุกกำลังข้ามแม่น้ำโขง ได้บังเกิดฝนฟ้าคะนอง พระสุกได้แหกแพจมลงในน้ำ หายไป ทำให้บริเวณดังกล่าวได้ชื่อ “เวินสุก” หรือ “เวินพระสุก” ตั้งแต่นั้นมา (เวินสุก บ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย)

หลังจากพระสุกจมแม่น้ำโขงการอัญเชิญพระสามพี่น้องครั้งนี้จึงเหลือแต่ “พระเสริม” และ “พระใส” ที่สามารถอัญเชิญมาถึงหนองคาย สำหรับ “พระใส” นั้นได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ส่วน “พระเสริม” ได้ อัญเชิญไปไว้ยังวัดหอก่อง หรือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ และมีการสร้างองค์จำลอง “พระสุก” ไว้ที่วัดศรีคุณเมือง ณ ปัจจุบัน



พระใส วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญ “พระเสริม” ลงไปยังกรุงเทพฯ แต่ด้วยเกิดเหตุปาฏิหาริย์ จึงสามารถอัญเชิญลงมาได้แค่ “พระเสริม” เท่านั้น ส่วน “พระใส” ยังคงประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

โดยปัจจุบัน "พระใส" ยังคงประดิษฐานอยู่ที่ วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ดังเดิม ขณะที่ "พระเสริม" ประดิษฐานอยู่ที่ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร ส่วน "พระสุก" ที่จมหายไปไม่ปรากฏขึ้นมาอีกเลย เหลือไว้เพียงตำนานที่ถูกเล่าขานถึงของคนสองฝั่งแม่น้ำโขงเรื่อยมา

อย่างไรก็ตามแม้ยังไม่มีหลักฐานหรือการพิสูจน์จากทางการ ที่รับรองการตั้งข้อสังเกตที่ว่าพระพุทธรูปโบราณที่มีการค้นพบบริเวณเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เป็น “พระสุก” จริงหรือไม่ อีกทั้งมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องเวินพระสุกที่อยู่ห่างไกลกับสถานที่ค้นพระพุทธรูปโบราณดังกล่าว แต่การค้นพบพระโบราณดังกล่าว ก็ทำให้ตำนานของ “พระสุก-พระเสริม-พระใส” พระสามพี่น้อง ถูกพูดถึงอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้






Thank to : https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/219660 
โดย PPTV Online | เผยแพร่ 18 มี.ค. 2567 ,15:46น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ