|
หัวข้อ: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: pussadee ที่ กันยายน 29, 2011, 09:32:43 am มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง
เช่นเพื่อน ๆ คุยเรื่องแฟชั่น หนัง เที่ยว เดี๋ยวเราก็ดึงหัวข้อที่คุยกับมาที่ธรรมะ สุดท้ายเพื่อน ๆ ก็เดินหนีกันหมดจึงมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การที่เราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้ จัดเป็นความฟุ้งซ่าน ใช่หรือไม่คะ :93: :19: หัวข้อ: Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 29, 2011, 01:12:55 pm (http://www.our-teacher.com/our-teacher/article/4%20admonishment/picture/248.jpg) ในมงคลสูตร กล่าวไว้ว่า การฟังธรรมตามกาล และสนทนาธรรมตามกาล เป็นมงคลสูงสุด มงคลที่ 26 การฟังธรรมตามกาล การฟังธรรม ตามกาล ผ่านมาถึง ควรคำนึง นิ่งนั่ง ฟังขยัน ย่อมจะเกิด ปัญญา สารพัน ตั้งใจมั่น ฟังดี นี่สมควร มงคลที่ 30 การสนทนาธรรมตามกาล ยามหดหู่ ฟุ้งซ่าน กาลสงสัย เป็นสมัย ไต่ถาม ตามเหตุผล เพื่อบรรเทา คลี่คลาย หายกังวล ควรจะสน- ทนาธรรม ตามที่ควร ที่มา http://www.fungdham.com/mongkhol38/mongkhol38.html (http://www.fungdham.com/mongkhol38/mongkhol38.html) อ้างอิง พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต “มงคลสูตร” เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๔๑ - ๗๒. หน้าที่ ๓ - ๔. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=41&Z=72&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=25&A=41&Z=72&pagebreak=0) ขอบคุณภาพจาก www.our-teacher.com (http://www.our-teacher.com) หัวข้อ: Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 29, 2011, 01:37:39 pm มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง ขอนำคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาแสดงดังนี้ การปฏิบัติทุกอย่างเหมือนกัน อยากมันถึงทำ แต่ตัวอยากตัวนี้เป็นฉันทะ หลวงพ่อเรียกว่าธรรมฉันทะ คือ ความพอใจในธรรม ไม่ใช่ตัวตัณหา ตัวตัณหาเป็นการอยากได้ใคร่มีในลักษณะที่เรียกว่า ถ้าไม่ได้มาผิดศีลผิดธรรมก็ยังเอา ตัวอยาก มีอยู่ในทุกธรรมะ แต่ว่าตัวอยากนี้เป็นตัว "ธรรมฉันทะ" คือ พอใจในการปฏิบัติ ที่มา http://www.oneclickmarket.com/shopcore/topic_detail.php?shop_id=13&id=15 (http://www.oneclickmarket.com/shopcore/topic_detail.php?shop_id=13&id=15) (http://chaoprayanews.com/blog/mister/files/2011/05/wai.jpg) ขอบคุณภาพจาก http://chaoprayanews.com (http://chaoprayanews.com) การพูดที่ประกอบด้วยสติ ผมเห็นว่า ไม่ใช่ความฟุ้งซ่าน ความฟุ้งซ่านเป็นนิวรณ์ข้อหนึ่ง เรียกว่า อุทธัจจกุกกุจจะ แต่ถ้าเป็นสังโยชน์จะเหลือเพียง อุทธัจจะ อรหันตผลเท่านั้นที่ละได้ ดังนั้น เวลาจะพูดอะไร ต้องใช้สติและสมาธิกำกับ หรือง่ายๆก็คือ ให้ดูจิตตนเอง อันไหนเป็นกุศล อันไหนไม่เป็น ผู้ปฏิบัติธรรมจะทราบได้เอง การไม่เบียดเบียนกายใจผู้อืนเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ขอเป็นกำลังให้ทุกท่านที่มี "ธรรมฉันทะ" :25: :49: หัวข้อ: Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: Mahajaroon ที่ ตุลาคม 01, 2011, 07:13:35 pm มาตั้งหัวข้อ ไม่ใช่มาว่า ใคร ๆ ผู้ใด นะคะ แต่บางครั้งก็สงสัยว่า ทำไมเวลาเราคุยกับเพื่อน ต้องดึงหัวข้อกับมาเรื่องธรรมะทุกครั้ง การคุยธรรมะต้องคุยให้ถูกที่ถูกคน ธรรมะเปรียบเสมือนยาขม สำหรับคนที่ยังดื้อยา แต่ธรรมเป็นโอชารสเลิศ เป็นอาหารใจอย่างดีสำหรับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม มนุษย์เราปัญญาเกิดขึ้นได้เพราะการฝึกฝนอดทน ปัญญาเกิดได้ ๔ ช่องทางคือ สุ / จิ / ปุ / ลิ สุ ฟังด้วยความตั้งใจไม่วอกแวก จิ คิดจนแตกจากฟังฝังใจอยู่ ปุ ถามความข้องใจใคร่ครวญดู ลิ เขียนจดใว้ควรคู่รู้ค่าปัญญาคม :welcome: หัวข้อ: Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: konsrilom ที่ ตุลาคม 02, 2011, 07:36:36 pm การคุยสนทนาธรรม บางครั้ง ก็บ้าน้ำลาย
การภาวนา บางครั้ง ให้เก็บวาจา เพราะเหตุนี้คะ :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: การชอบสนทนา ธรรม จัดเป็นความฟุ้งซ่าน หรือ ไม่คะ เริ่มหัวข้อโดย: indy ที่ ตุลาคม 03, 2011, 04:55:43 am การคุยต้องเลือกคน ถ้าเราลองพูดไปแล้วเขาไม่สนใจให้หยุดคุยเรื่องะรรมะ อย่าไปว่าเขานะเพราะเราเองอาจจะเคยเป้นเหมือนเขามาก่อน เมตตาต่อกันให้มากๆ
อีกอย่างถ้าเราไม่เลือกผู้ที่จะสนทนาด้วย แล้วบังเอิญเขามาว่าเราลับหลัง ก็เท่ากับว่า ไปส่งเสริมให้คนทำชั่ว ไปสร้างกรรมให้เขาเปล่าๆ ส่วนเรื่องฟุ้ง มันก็มีเป็นธรรมดา |