ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่ชอบ "ไข่แล้วทิ้ง" ผิดกฏหมาย คร้า.....  (อ่าน 27071 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงผลความคืบหน้าการรับฟังความคิดเห็นนักวิชาการ กลุ่มเด็กเยาวชน หน่วยราชการ ภาคเอกชนและฝ่ายการเมืองกรณีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดผู้ชายที่ทำผู้หญิง ท้องแล้วทอดทิ้ง ในทางแพ่งและอาญา ตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม ว่า ผลจากการรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ ร้อยละ 90 เห็นด้วยที่จะให้ผู้ชายร่วมรับผิดชอบกรณีทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยแยกเป็นความเห็นดังนี้
1.ผู้ชายและผู้หญิงต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่ต้องดูบริบทความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว 2.ควรมุ่งเน้นมาตรการป้องกัน ด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องเพศศึกษาบทบาทความสัมพันธ์ของหญิงชาย 3. ควรเอาโทษผู้ชายทั้งทางแพ่งและอาญา  เช่น การจ่ายค่าเลี้ยงดู และพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และต้องกำหนดโทษแก่ผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบให้มีโทษเท่ากับผู้หญิงที่ถูกจับ กรณีลักลอบทำแท้ง และควรมีกระบวนการพิสูจน์บุตรให้ชัดเจนก่อนนำไปสู่ ความรับผิดชอบทางกฎหมาย 4.ควรมีมาตรการที่แตกต่างกันระหว่างพ่อวัยเยาว์กับพ่อปกติ  โดยพ่อวัยเยาว์ใช้มาตรการทางสังคมที่ให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมาร่วมแก้ไขปัญหา ส่วนพ่อที่ไม่ได้เป็นพ่อวัยเยาว์ หากปฏิเสธไม่รับผิดชอบ  และตรวจพิสูจน์แน่ชัดแล้วว่าเป็นบุตร  ควรถูกดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย

5.ควรใช้มาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่แล้วให้มีความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น เช่น กฎหมายรับรองบุตรที่เกิดจากผู้หญิงที่ไม่ได้สมรสกัน และ 6.บริบทอื่นๆที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบลึกซึ้ง เช่น การสร้างฐานความผิดขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งมาตราในประมวลกฎหมายอาญา เป็นฐานความผิดกรณีผู้ใดทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์โดยการสมยอมกัน หากไม่รับผิดชอบต้องได้รับโทษ กรณีผู้ชายไม่ยอมรับจะมีโทษทางอาญา กรณียอมรับเพราะถูกไกล่เกลี่ย เป็นการยอมรับด้วยความจริงใจหรือไม่ เป็นต้น ส่วนการดำเนินงานหลังจากนี้ จะจัดให้มอบนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ฯให้แก่หน่วยงานทั้งส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาคประมาณ 1,000 คน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกล่าวมอบ ในวันที่ 11 ก.พ.นี้

ที่มาข่าว
เอาผิดอาญาผู้ชายไข่แล้วทิ้ง
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

หมวยจ้า

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +40/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1336
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
การเข้าดำเนินการกับสถานรับ “ทำแท้ง” ผิดกฎหมาย ยังคงปรากฏเป็นข่าวเป็นระยะ ล่าสุดก็เมื่อวันที่ 11 ม.ค. แถวย่านบางพลัด ในกรุงเทพฯ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่สะท้อนว่าการเอาจริงกับการ “แก้ปัญหา” นี้เริ่มมีมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปัญหานี้ สำคัญที่สุดคือการแก้ไขโดยความร่วมมือของทุกฝ่ายอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นทาง
   
และ ณ ที่นี้ในวันนี้ ก็มีข้อเสนอแนะมาสะท้อนอีก...
   
ทั้งนี้ กับเรื่องนี้ ศ.นพ.สมบูรณ์ คุณาธิคม ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจผ่านมาทาง “เดลินิวส์” ซึ่งโดยสรุปคือ... ในประเทศไทยปัจจุบัน แต่ละปีมีการตั้งครรภ์ราว 1,040,000 ราย จากสถิติการคลอดเมื่อปี 2552 มีเด็กเกิดใหม่ราว 800,000 คน ดังนั้น จึงมีการแท้งราว 240,000 ราย เมื่อหักการแท้งโดยธรรมชาติที่เกิดขึ้นร้อยละ 12-15 หรือจำนวน 96,000-120,000 ราย จึงเหลือจำนวนที่มีการทำแท้ง 120,000-144,000 ราย ซึ่งในจำนวนที่ทำแท้งนี้ก็มีส่วนหนึ่งที่แพทย์ทำแท้งให้เพราะมีข้อบ่งชี้ และเป็นไปตามกฎหมายอาญามาตรา 305 ได้แก่ การตั้งครรภ์ที่จะมีผลต่อสุขภาพของหญิงที่ตั้งครรภ์ เด็กในครรภ์มีความพิการรุนแรง หรือการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืน โดยทั่วไป  จะอยู่ที่ร้อยละ 1 หรือราว 10,000 รายเศษ
   
จึงมีจำนวนที่ทำแท้งโดยกฎหมายไม่ได้อนุญาตปีละ 110,000-130,000 ราย ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากจนน่าตกใจ และซากศพทารก 2,002 ศพ ที่พบที่วัดไผ่เงินฯ เป็นเพียงร้อยละ 1.5 เท่านั้น!!

ศ.นพ.สมบูรณ์ระบุอีกว่า... หากลองวิเคราะห์ดูว่ากลุ่มที่ทำแท้งผิดกฎหมายเป็นใครกันบ้าง คิดว่าอย่างน้อยน่าจะมี 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ 1. กลุ่มที่มีครอบครัวและคุมกำเนิดอยู่ แต่เกิดตั้งครรภ์ เพราะการคุมกำเนิดมีอัตราความล้มเหลวที่เกิดขึ้นได้ กลุ่มนี้ไม่พร้อมที่จะมีบุตรในขณะนั้น ซึ่งส่วนหนึ่งจะหาทางยุติการตั้งครรภ์ 2. กลุ่มที่รักสนุก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว กลุ่มนี้มักจะรู้วิธีคุมกำเนิด แต่อาจพลาดจากความล้มเหลวของวิธีคุมกำเนิด กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะหาทางทำแท้ง 3. กลุ่มที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ อาจจะจากแฟนที่คบหากัน ผู้ที่อยู่ในที่ทำงานเดียวกัน คนในครอบครัว คนรู้จัก ฯลฯ ซึ่งแน่นอนกลุ่มนี้จะไม่มีการคุมกำเนิด
   
สำหรับกลุ่มที่ 3 ด้วยความอาย ความกลัว กลุ่มนี้มักจะทำแท้งเมื่ออายุครรภ์มากแล้ว ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ตกเลือด ติดเชื้อรุนแรง มดลูกทะลุ เป็นต้น อาจต้องผ่าตัดมดลูกออก หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ เมื่อรักษาหายโดยไม่ต้องผ่าตัด ก็อาจ ปวดท้องน้อยเรื้อรัง เกิดภาวะมีบุตรยาก เป็นต้น
   
ทั้งนี้ ศ.นพ.สมบูรณ์ยังระบุถึงแนวทางแก้ไขปัญหาทำแท้งผิดกฎหมายว่า... มีหลายแนวทาง บางส่วนก็มีการพูดกันมานานแล้ว แต่ปัญหาดูเหมือนจะไม่เคยลดลง ดังนั้น ลองมาพิจารณาดูเพิ่มอีกสัก 2 แนวทาง คือ...
   
1. ปรับปรุงกฎหมายให้มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าให้มีกฎหมายทำแท้งเสรี ทั้งนี้ กฎหมายอาญามาตรา 305 อนุญาตให้ทำแท้งใน 2 กรณีคือ เพื่อสุขภาพของหญิงมีครรภ์ หญิงตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน บังคับใช้เมื่อปี 2500 กว่า 50 ปีมาแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าหลายเรื่องกฎหมายตามความก้าวหน้าทางการแพทย์ไม่ทัน ปัจจุบันความพิการของเด็กสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 3-4 เดือน กรณีเช่นนี้ก็เป็นข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่จะมีการยุติการตั้งครรภ์ให้อยู่ แล้ว แต่ก็ควรออกเป็นกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น หรือกรณีถูกข่มขืน ในกรณีของกลุ่มที่ 3 ดังที่ได้ระบุแต่ต้น คือถูกล่วงละเมิดทางเพศ แม้จะเข้าหลักมาตรา 305 แต่เมื่อไม่ได้แจ้งความแต่แรก พอตั้งครรภ์ก็ไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ตามกฎหมายได้ และยังมีอีกหลายกรณีทางการแพทย์ที่ต้องไปถกอภิปรายหาข้อสรุปกัน เช่น ผ่าตัดทำหมันแล้วตั้งครรภ์ ได้รับรังสีเอกซเรย์ในช่วงการตั้งครรภ์ เป็นต้น
   
2. สายด่วนให้คำปรึกษาหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วกลัวตั้งครรภ์ ปัจจุบันมีศูนย์ให้คำปรึกษาหรือสายด่วนต่าง ๆ แต่มักให้คำปรึกษาหลังจากตั้งครรภ์แล้ว ส่วนใหญ่จะให้คำแนะนำให้ตั้งครรภ์ต่อไป แต่เชื่อได้เลยว่ามีส่วนน้อยที่ตั้งครรภ์ต่อ ส่วนใหญ่ก็ไปหาทางทำแท้ง ซึ่งถ้ามีสายด่วนให้คำปรึกษาเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ น่าจะช่วยลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมและต้องไปทำแท้งให้น้อยลง อาจตั้งสโลแกนให้จำง่าย-ติดปาก เช่น “พลาดท่ากลัวท้อง ต้องโทร.1323” หรือ “ไม่อยากท้อง ต้องโทร.1323 ภายใน 72 ชั่วโมง” เป็นต้น ซึ่งจะสามารถแนะนำให้ไปซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจากร้านขายยา โดยต้องกินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์จึงจะได้ผล ส่วนการ อบรมเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ก็ไม่ยุ่งยาก ให้รู้วิธีซักประวัติประจำเดือนและช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ก็พอ และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้น ก็ควรจะให้ มีศูนย์บริการสาธารณสุขขึ้นมารองรับกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์เกิน 72 ชั่วโมงด้วย
   
“แนวทางทั้งสองที่กล่าวมาข้างต้น น่าจะลดจำนวนการทำแท้งที่ผิดกฎหมายลงไปได้ไม่น้อย หากทำควบคู่ไปกับการให้ความอบอุ่นในครอบครัว การให้ความรู้ในสถานศึกษาอย่างจริงจัง ภาพความสะเทือนใจอย่างที่เห็นในวัดไผ่เงินฯ หรือภาพเด็กแรกเกิดที่ถูกทิ้งในถังขยะ ในป่าละเมาะ ในที่สาธารณะ ก็คงจะค่อย ๆ มีจำนวนลดน้อยลง” ...ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ระบุ
   
ก็เป็นอีกข้อเสนอที่สร้างสรรค์ เพื่อ “แก้ปัญหาทำแท้ง”
   
ณ ที่นี้ก็นำมาสะท้อน เพื่อร่วม “สร้างสรรค์สังคมไทย”.

ที่มาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=23&contentId=115248
บันทึกการเข้า
ถึงเป็นผู้หญิง ตัวเล็ก แต่ก็ยังสู้ได้อยู่ด้วยตัวคนเดียว
พุทโธ พุทโธ พุทโธ ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง

ครูนภา

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +25/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 608
  • ภาวนา ร่วมกับพวกท่าน แล้วสุขใจ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยกับกฏหมายนี้ เพื่อเอาผิดผู้ชาย คิดว่าหลักศีลธรรม คงเข้าไปยับยั้งชั่งใจกันบ้าง

 :13:
บันทึกการเข้า
ศรัทธา ปัญญา ขันติ ความเพียร คุณสมบัติผู้ภาวนา
ขอเป็นกัลยาณมิตร กับทุกท่าน ที่เป็นกัลยาณมิตร

tcarisa

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +9/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 524
  • ก้าวน้อย แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นชอบกับกฏหมายอันนี้เลย ผู้ชายจะได้ไม่เอาเปรียบผู้หญิงต่อไป
 :34:
บันทึกการเข้า
เราเป็นหน่ออ่อน ที่รอการเติบโต
จึงขอสั่งสมบารมีธรรม เพื่อพระนิพพาน

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ก็เห็นด้วยนะครับ ให้ผู้ชายมีส่วนรับผิดชอบกันมากขึ้น ผมว่าต่อไปนี้ แผนกตรวจ DNA จะต้องวุ่นวายแน่
และอาจจะต้องมีผู้ชาย ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ รับกรรมด้วยเพราะอาจจะต้องถูกกล่าวหา ถ้าวันดีคืนดีมีผู้หญิง
คนหนึ่งซัดทอดมาถึงตนเอง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งแน่ละข่าวจะถูกประโคมออกไปก่อนการพิสูจน์ก็เป็นเรื่อง
ที่หลัง งานนี้แผนกตรวจ DNA จะมีงานเข้ามากขึ้น

 :03: :03: :03:
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมว่าก็คุ้มนะ ที่จะช่วยให้การทำแท้ง น้อยลงเพราะหญิงชาย จะรู้จักการคุมกำเนิดมากขึ้น แต่ความคิดเห็นเรื่อง
การผิดศีลธรรมอาจจะไม่น้อยลง เพราะเป็นการแก้ปลายเหตุ ต้นเหตุก็คือ การสอนศีลธรรมแบบคนเอเชียนั้นทุกวัน
นี้น้อยลง เพราะวัยรุ่นเริ่มทำตามประเพณีตะวันตก กันมากขึ้น สื่อตะวันตกทางอินเตอร์เน็ตเข้าถึงกลุ่มเยาวชนไว
มาก หากจะแก้ต้นเหตุ ต้องแก้ที่สถาบัน คุณพ่อ คุณแม่ ครู ช่วยชี้แนะนำ ศีลธรรม ให้มากขึ้น ครับ
 :58:
บันทึกการเข้า

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สนับสนุนกฏหมายนี้ครับ ถ้ามองจากปัญหาการทำแท้งแล้ว ถึงแม้จะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ ก็น่าที่จะต้องสนับสนุนก่อนครับ

วัวหายแล้วล้อมคอก ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งถือได้ว่า กระแสสังคมตอบรับกับเรื่องนี้ และไม่เห็นด้วยกับการทำแท้งกัน

 :bedtime2:
บันทึกการเข้า

Namo

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 206
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ถ้าทุกคนยังนึกถึงภาพประกอบที่บรรดาศพทารก นับพันที่วัดไผ่เงิน นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจาก
สังคมที่ขาดการเยียวยาทางด้านจิตใจ และขาดหลักศีลธรรมลงไปในเนื้อหา ต้องช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมไทย
ไว้ และ ความดีงามทางศีลธรรม

  ถึงเวลาที่คุณผู้ชาย ที่มักมากทางด้านกามคุณ ไม่รู้จักยั้งคิด จะได้มีส่วนรับผิดชอบแต่ปัญหาก็เหมือนคุณประสิทธิ์
กล่าวนั้นแหละว่าอาจจะมีผลกระทบกับผู้ชายที่ดี บ้างแต่ก็คิดว่าโอกาสน่าจะเกิดน้อยรูปของคดีจะสรุปอย่างไรก็ต้อง
ดูตัวบทกฏหมาย ก่อนว่าจะลงโทษอย่างไร

 แต่สรุปก็เห็นด้วย ว่าคงแก้ปัญหาไปได้ในระดับหนึ่ง คะ

  :72:
บันทึกการเข้า

ekkasit

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 14
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยครับ :96:
บันทึกการเข้า

มะเดื่อ

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 181
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากให้กฏหมายนี้ออกมาไว ๆ ครับ พวกเจ้าชู้จะได้น้อยลง

 :91:
บันทึกการเข้า

ลูกคิด

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 117
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถ้าทุกคนช่วยกัน ส่งเสริม ศีลธรรม กฏหมายก็คงไม่ต้องมี

 แต่กฏหมาย มีก็ดีครับ :97:
บันทึกการเข้า

ปอง

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 119
  • จิตที่ฝึกดีแ้ล้ว ย่อมนำสุขมาให้
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
“พลาดท่ากลัวท้อง ต้องโทร.1323” หรือ

 “ไม่อยากท้อง ต้องโทร.1323 ภายใน 72 ชั่วโมง”


อย่างน้อยคนที่มีปัญหาตอนนี้ ก็น่าจะโทร 1323 นะคะ ก่อนที่จะตัดสินใจผิด

ส่วนตัวบทกฏหมาย ค่อยว่ากันอีกทีคะ
 :s_hi:
บันทึกการเข้า

สาวิตรี

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +6/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 148
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
1.ผู้ชายและผู้หญิงต้องรับผิดชอบ ร่วมกัน แต่ต้องดูบริบทความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว

2.ควรมุ่งเน้นมาตรการป้องกัน ด้วยการสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องเพศศึกษาบทบาทความสัมพันธ์ของหญิงชาย

3. ควรเอาโทษผู้ชายทั้งทางแพ่งและอาญา  เช่น การจ่ายค่าเลี้ยงดู และพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และต้องกำหนดโทษแก่ผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบให้มีโทษเท่ากับผู้หญิงที่ถูกจับ กรณีลักลอบทำแท้ง และควรมีกระบวนการพิสูจน์บุตรให้ชัดเจนก่อนนำไปสู่ ความรับผิดชอบทางกฎหมาย

4.ควรมีมาตรการที่แตกต่างกันระหว่างพ่อวัยเยาว์กับพ่อปกติ  โดยพ่อวัยเยาว์ใช้มาตรการทางสังคมที่ให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมาร่วมแก้ไขปัญหา ส่วนพ่อที่ไม่ได้เป็นพ่อวัยเยาว์ หากปฏิเสธไม่รับผิดชอบ  และตรวจพิสูจน์แน่ชัดแล้วว่าเป็นบุตร  ควรถูกดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย

5. ควรใช้มาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่แล้วให้มีความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น เช่น กฎหมายรับรองบุตรที่เกิดจากผู้หญิงที่ไม่ได้สมรสกัน และ

6.บริบทอื่นๆที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบลึกซึ้ง

ที่จริงก็น่าจะมีผลการสำรวจมาแล้ว จึงสามารถสรุปได้ดังนี้ ก็สนับสนุนคะ เพราะไม่อยากเห็นเด็กถูกทำแ้ท้งกันอีกคะ

 ???
บันทึกการเข้า

บุญสม

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 94
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ถึงเวลาชำระความพวกเจ้าชู้ ไม่รับผิดชอบแล้ว อยากให้กฏหมายนี้ออกไว ๆ

 :character0029: :character0029: :character0029:
บันทึกการเข้า

หมิว

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 398
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กับกฏหมายอันนี้ ถึงเวลาที่ผู้ชายทุกคนจะต้องปฏิบัติกับสตรีอย่าง

สุภาพบุรุษแล้ว ไม่ใช่มาหวังแต่...ตลอด ควรจะต้องรับผิดชอบด้วย

 :88:
บันทึกการเข้า
ใจดี น่ารัก และ ไม่ชอบคนที่กวน...ใจ
แสงพระธรรม นำทาง นำสู่ใจ ได้รับแสงสว่าง
แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

พรทิพย์

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 76
  • มีธรรมนำจิต ชีวิตสุขสบาย
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อ้างถึง
กฎหมายอาญามาตรา 305 อนุญาตให้ทำแท้งใน 2 กรณีคือ เพื่อสุขภาพของหญิงมีครรภ์ หญิงตั้งครรภ์จากการถูกข่มขืน บังคับใช้เมื่อปี 2500 กว่า 50 ปีมาแล้ว

น่าจะปรับปรุงรายละเอียดกฏหมายตรงนี้เพิ่มด้วยให้ชัดเจน เพราะว่ามี Case มาแล้วตั้ง 50 ปี น่าจะขยายแล้วศพเด็กที่ทำแท้งทำอย่างไรต่อไป ที่ถูกกฏหมายนี้
ระบุอย่างไร ใครพอรู้จะเล่าให้ฟังกระบวนการได้บ้างคะ

 :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

pongsatorn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 242
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
โธ่ สำหรับชายที่มั่นคงในศีล 5 คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหานะครับ กับเรื่องนี้

แต่ สำหรับชายที่ไม่มั่นคงในศีล คงเหงื่อตกแน่ งานนี้
 :character0029: :hee20hee20hee:
บันทึกการเข้า

patra

  • RDNpromote
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรมรรค
  • *
  • ผลบุญ: +100/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 971
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
บันทึกการเข้า
ข้าพจ้า สนับสนุนการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

patra

  • RDNpromote
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรมรรค
  • *
  • ผลบุญ: +100/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 971
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
บันทึกการเข้า
ข้าพจ้า สนับสนุนการเผยแผ่ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ