เสริมสร้างสุขภาพเชิงพุทธ ถอดรหัสมนุษย์มีอายุยืน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาที่สุดคือการมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว
เพื่ออยู่กับคนที่เรารัก ข่าวดีและเป็นความมหัศจรรย์สำหรับคนไทยทุกคน ทุกสถานะ คุณไม่ต้องใช้เงินก็สามารถมีสุขภาพดีได้ จากผลงานวิจัยที่ชนะเลิศคว้า ๒ รางวัล วิทยานิพนธ์ดีเด่นประจำปี ๒๕๕๓ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและรางวัลการประกวดวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษาเครือข่าย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) สาขาการพัฒนาสังคม ของ วิไลวรรณ อาจาริยานนท์
ช่วยไขรหัสลับถึงสาเหตุที่บางคนมีสุขภาพดี บางคนขี้โรค บางคนอายุสั้น บางคนอายุยืน เป็นการค้นหาคำตอบจากองค์ความรู้การส่งเสริมคุณภาพเชิงพุทธจากหลักพุทธธรรมคำสอน (Document Research) และจากการศึกษาผู้มีอายุยืนว่าเขามีวิธีการดูแลสุขภาพอย่างไรจึงมีอายุยืนด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-dept Interview)
ประกอบกับการสังเกตแบบมีส่วนร่วมกัน (Participant Observation) โดยผู้วิจัยนำทั้งสองวิธีมาเปรียบเทียบกันว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ เพื่อนำเสนอเป็นแนวทางในการนำองค์ความรู้การเสริมสร้างสุขภาพมาใช้ในสังคมไทย ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพอย่างง่าย มุ่งหมายเพื่อเตือนสติให้คนไทยเสริมสร้างสุขภาพของตนเอง เพื่อประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตที่ดีและยังเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนของประเทศไทย
ผลการศึกษาพบว่า องค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพเชิงพุทธ กับองค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพของผู้มีอายุยืน มีความสอดคล้องและเป็นไปในทำนองเดียวกันในด้านมีเหตุที่ทำให้คนอายุยืนหรืออายุสั้น
เนื่องมาจากอดีตกรรมและปัจจุบันกรรม เว้นจากปาณาติบาต เป็นผู้ทำความสบายแก่ตน บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย เที่ยวไปในกาลอันสมควร ประพฤติเพียงดังพรหม ฯลฯ
ส่วนหลักธรรมที่เป็นเหตุแห่งความมีอายุยืน คือ อิทธิบาท ๔ สำหรับเหตุที่ทำให้คนตายก่อนอายุขัย และยังไม่สิ้นกรรม คือ อกุศลกรรม การปฏิบัติตนไม่สม่ำเสมอ ไม่ถูกอนามัย และความพยายามของตนเองหรือคนอื่น ได้แก่ การฆ่าตัวตายและอุบัติเหตุ
เหตุเหล่านี้พระพุทธศาสนาอธิบายรวมว่า คือ โรค จำแนกเป็นโรคทางกายและโรคทางใจ
สาเหตุของโรคทางกายมี ๕ อย่าง คือ
(๑) ความไม่สมดุลของธาตุ ๔ ในร่างกาย
(๒) การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
(๓) การบริหารกายไม่สม่ำเสมอ
(๔) วิบากกรรม
(๕) สาเหตุอื่น
สาเหตุของ โรคทางใจ คือ กิเลสและตัณหา
การแก้ปัญหาสุขภาพและความเจ็บป่วย พุทธวิธีใช้หลักอริยสัจ ๔ กล่าวคือ โรคเกิดจากสาเหตุใด แก้ที่สาเหตุนั้น โรคทางกายรักษาโดยใช้เภสัชสมุนไพร อาหาร การผ่าตัด ความร้อน การออกกำลังกาย การไม่ใช้ความเพียรเกินกำลัง การพักผ่อนอิริยาบถ การนอน การเจริญสมาธิ การอยู่กับธรรมชาติเหมาะสม การให้รับประทานของบางอย่าง การสวดพระปริตรและคำพูดด้วยเมตตา ธรรมโอสถ
ส่วนการรักษาโรคทางใจใช้ศีล สมาธิ ปัญญา อนึ่ง คุณธรรมของผู้พยาบาลไข้และคนไข้เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาสุขภาพทุกกรณี อีกด้านหนึ่งคือ การดูแลสุขภาพจิต
วิธีการเสริมสร้างสุขภาพจิตมี ๓ วิธี คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ในมรรคมีองค์ ๘ พบความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างองค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพทางพุทธศาสนา กับองค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพของผู้มีอายุยืน ได้แก่ ผู้มีอายุยืนมองโรคทางใจเป็นเรื่องของภาวะความเครียด การแก้ปัญหาสุขภาพและความเจ็บป่วยโดยใช้ความร้อน และการรักษาโรคอมนุษย์เข้าสิง การให้กินของบางอย่าง การสวดพระปริตร คำพูดด้วยเมตตา ไม่ปรากฏในผู้มีอายุยืนเป็นการรักษาที่มีในสมัยพุทธกาลเท่านั้น
แนวทางในการนำองค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพมาใช้ในสังคมไทยปัจจุบัน มีเป้าหมายการนำองค์ความรู้มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพใน ๓ ประการ คือ พัฒนา ปลูกฝัง รักษา
องค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพมาใช้ในสังคมไทย ด้วยแนวทางใน ๖ ระดับ ดังนี้
๑. ครอบครัว
๒. สังคม
๓. กระทรวงสาธารณสุข
๔. รัฐบาล
๕. องค์กรศาสนา
๖. บุคคล
นอกจากนี้ผลการวิจัยยังมี ข้อเสนอแนะ ควรเผยแพร่ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพที่ผู้วิจัยประยุกต์เป็น ๑๐ อ. คือ
(๑) อาหาร
(๒) อากาศ
(๓) อาภรณ์
(๔) ออกกำลังกาย
(๕) อุจจาระ
(๖) อนามัย
(๗) เอนนอน
(๘) อัปปมาทะ
(๙) อารมณ์
(๑๐) อิทธิบาท ๔
ในรูปศิลปะเพลง เพื่อเข้าถึงจิตใจคนได้ง่ายและรวดเร็ว ผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ละคร กิจกรรมออกกำลังกายเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ปลูกฝังความรู้สู่จิตใจคนทุกเพศทุกวัยอย่างง่าย ๆ จะทำให้รักษาองค์ความรู้ในการเสริมสร้างสุขภาพไว้ได้อย่างยั่งยืนในสังคมไทย
ตัวอย่างเพลง ๑๐ อ. (ปัจจุบันได้ใช้เป็นสื่อในการเรียนการสอนสถานศึกษา และเผยแพร่ทางสถานีวิทยุบางแห่ง )เนื้อเพลง “๑๐ อ.
ใครหนอบอกทีอายุยืนดีวิธีอย่างไร ๑๐ อ. ขอเฉลยไขว่าทำอย่างไรให้อายุยืน
อ.๑ นั้นคือ อาหาร ๕ หมู่ เลือกทาน ก่อนจะเคี้ยวกลืนอย่าหนัก มื้อเย็นกลางคืนเดี๋ยวจะพุงยื่น โรค อ้วนตามมา
อ.๒ อากาศดี ๆ ธรรมชาติมี ป่าเขาทุ่งนาอาภรณ์ นั้นคือ เสื้อผ้าร้อนหนาว จัดหา นั่นแหละ
อ.๓ อ.๔ ออกกำลังกายจะได้ร่างกายแข็งแรงนะเธอขับถ่ายสม่ำเสมอทุกวันนะเธอ นี่แหละ
อ.๕ อ.๖ คือ อนามัยสะอาดร่างกาย สะอาดห้องนอน
อ.๗ นั้นคือ เอนนอน เวลาพักผ่อน หลับนอนเพียงพอ
อ.๘ อัปปมาทะ ต้องจำไว้นะประมาท อาจตาย
อ.๙ อารมณ์ แจ่มใสทุกข์ร้อนห่างไกล อย่ารับเข้าตัว
อ.๑๐ อิทธิบาท ๔ คำพุทธสอนดี ต้องจำไว้นะคำสอน ก็คือ ฉันทะ อีกวิริยะ จิตตะ วิมังสา
มุ่งมั่น และมีความหวัง มุ่งสร้างพลัง ชีวิตชีวา อายุยืนยาวถ้วนหน้า ๆ คงเป็นเพราะว่า เรามี ๑๐ อ.”
ความมหัศจรรย์ของการส่งเสริมสุขภาพเชิงพุทธสามารถสร้างสุขภาพดีแบบยั่งยืนได้ ด้วยการนำธรรมะกับเสียงเพลงมาประกอบในการเต้นออกกำลังกายต่าง ๆ ช่วยปลูกฝังองค์ความรู้ด้านสุขภาพทั้งส่งเสริมธรรมะไปกับเสียงเพลง ตอกย้ำในเรื่องของจิตใจและวิธีการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง.ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/education/2931