๐ ขอนใหญ่น้อย ลอยตาม กระแสน้ำ
ด้วยแรงกรรม ที่กระทำ แต่หนหลัง
มีสัมมาทิฏฐิ เป็นพลัง
ประคองขอน ให้ยัง ไหลลอยไป
๐ แม้พลัง มีน้อย แพ้กระแส
ขอนชะแง้ ติดฝั่งนี้ จะทำไฉน
บ้างหลุดจาก ฝั่งนี้ รี่ฝั่งใน
สู่ฝั่งใหม่ ฝั่งโน้น มิพ้นดิน
๐ บ้างหลุดจาก ฝั่งนี้โน้น โดนกระแส
ดังผู้แพ้ หมดพลัง ความหวังสิ้น
ต้องเปื่อยเน่า จมอยู่ใต้ ธารไหลริน
กลายเป็นดิน เกินจะฝืน กล้ำกลืนใจ
๐ บ้างประคอง ลอยล่องมา เจอเกาะแก่ง
ที่เป็นแหล่ง ขวางกลาง ทางน้ำไหล
ต้องเกยตื้น ขึ้นบก รันทดใจ
มิสามารถ ไหลไป ตามน้ำพลัน
๐ บ้างลอยไป หลุดเกยตื้น ฝืนขอนไว้
แต่โชคร้าย เจอผู้ใคร่ ได้ขอนนั่น
หมู่มนุษย์ ยกขึ้นบก ไปโดยพลัน
เกินจะกั้น เกินกำลัง ของจิตตน
๐ บ้างเจอสิ่ง ที่เป็น อมนุษย์
ก็ยื้อยุด มิให้ลอย พลอยสับสน
หลุดมาได้ เจอสิ่งเสียว เกลียวน้ำวน
พาขอนหล่น ดิ่งลง สู่ก้นธาร
๐ บางขอนไหล ผ่านมาได้ เกือบจะหลุด
สู่สมุทร แต่กลับจม ถมประสาน
เพราะขอนเจ้า เน่าภายใน ให้เสียการ
พระภูบาล เปรียบไว้ ให้ตรึกตรอง
๐ ภัยเจ็ดอย่าง กลางกระแส มิแลเห็น
ประหนึ่งเป็น ตัวขวาง ทางให้หมอง
ศึกษาไว้ ประคองกาย สู่ครรลอง
เพื่อทิ้งหนอง ล่องสู่มหา สมุทรไกล
ที่มา
http://www.dhammajak.net/forums/