สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: tcarisa ที่ ตุลาคม 06, 2010, 10:04:19 am



หัวข้อ: การประหารกิเลส ในการภาวนา เป็นอย่างไรคะ ที่ว่าสิ้นสุด
เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ ตุลาคม 06, 2010, 10:04:19 am
เมื่อเราภาวนา กรรมฐาน ไปแล้ว มีวิธีตรวจสอบ

การประหารกิเลส ตามสังโยชน์ อย่างไรคะ

เราจะสามารถทราบได้ ว่า กิเลสของเราได้ถูกประหารแล้ว
 :25:


หัวข้อ: Re: การประหารกิเลส ในการภาวนา เป็นอย่างไรคะ ที่ว่าสิ้นสุด
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ตุลาคม 07, 2010, 08:08:31 am
การประหารกิเลสได้ในภาษา กรรมฐาน นั้นเรียกว่า วิมุตติ คือ พ้น ให้ผลคือ หมดสังโยชน์ ตามลำดับชั้น

ซึ่งมีคำหลายคำที่ใช้ วิมุตติ บ้าง ปหาน บ้าง เป็นต้น

ในภาษากรรมฐาน นั้นมักจะใช้อยู่ 2 ความหมาย

 ถ้าใช้คำว่า ประหารกิเลส โดยตรงก็ใช้คำว่า ปหาน

 ปหาน ในบท 2 มีดังนี้

   1.สมุจเฉทปหานะ การละด้วยการตัดขาด จัดเป็นโลกุตตรมรรค

   2.ปฏิปัสสัทธิปหานะ การละด้วยการสงบระงับ จัดเป็นโลกุตตรผล


ปหาน ในบท 3 มีดังนี้

  1.เนกขัมมปหานะ เป็นเครื่องสลัดออกจากกาม

  2.อรูปฌาน  เป็นเครื่องสลัดออออรูปฌาน

  3.นิโรธ เป็นเครื่องสลัดออกจากสังขตธรรมที่เกิดขึ้นแล้วอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาศัยกันและกันเกิดขึ้น

ปหาน ในบท 4 ดังนี้

  1.เมื่อรู้แจ้งทุกขสัจ ด้วยการกำหนดรู้ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ )ได้

  2.เมือรู้แจ้งสมุทัยสัจจะด้วยการละ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้

  3.เมื่อรู้แจ้งนิโรธสัจด้วยการทำให้แจ้ง ชืื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้

  4.เมื่อรูแจ้งมัคคสัจด้วยการเจริญ ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ ) ได้


ปหาน ในบท 5 มีดังนี้

  1.วิกขัมภนปหานะ  การละด้วยการข่มไว้

  2.ตทังคปหานะ การละด้วยองค์นั้น เพียงแค่นั้น

  3.สมุจเฉทปหานะ การละด้วยการตัดขาด

  4.ปฏิปัสสัทธิปหานะ การละด้วยการสงบระงับ

  5.นิสสรณปหานะ การละด้วยการสลัดออก

 
   การละนิวรณ์ ด้วยการข่มไว้ ย่อมมีแก่บุคคลผู้เจริญปฐมฌาน

   การละทิฏฐิสังโยชน์ด้วยองค์นั้น ๆ ย่อมมีแก่บุคคละผู้เจริญสมาธิซึ่งเป็นส่วนแห่งการชำแรกกิเลส

   สมุจเฉทปหานะ เป็นโลกุตตรมรรค

   ปฏิปัสสัทธิหานะ เป็นโลกุตตรผล
   
   นิสสรณปหานะเป็นนิโรธ คือ พระนิพพาน


    อะไร เป็นสิ่งที่ ควรละ

    จักขุควรละ รูปควรละ จักขุวิญญาณควรละ จักขุสัมผัสควรละ สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุข

เวทนาที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัยควรละ เป็นต้น

    พระโยคาวจรเมื่อเห็นรูป  ชื่อว่าย่อมละ ( กิเลสที่ควรละ )ได้ เมื่อเห็นเวทนา ( ขันธ์ 5) ชื่อว่าย่อมละ

 เมื่อเห็นจักขุ  ชื่อว่าย่อมละ เมื่อเห็น ชราและมรณะ ย่่อมละ เมื่อเห็นธรรมที่หยั่งลงสู่อมตะคือนิพพาน

 เพราะมีสภาวะเป็นที่สุด ชื่อว่าย่อมละ ธรรมใด ๆ ที่ละได้แล้ว ธรรมนั้น ๆ เป็นอันละได้แล้ว เป็นต้น


   เจริญพรแต่เพียงเท่านี้

   ;)
     




หัวข้อ: Re: การประหารกิเลส ในการภาวนา เป็นอย่างไรคะ ที่ว่าสิ้นสุด
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ ตุลาคม 16, 2010, 07:24:15 am
เป็นขั้นตอนที่ควรทราบ จริง ๆ ครับ
 :25:


หัวข้อ: Re: การประหารกิเลส ในการภาวนา เป็นอย่างไรคะ ที่ว่าสิ้นสุด
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ ธันวาคม 16, 2011, 08:22:31 am
ต้องการให้ผู้ภาวนา ทุกท่าน ทบทวนเรื่องการผลของการภาวนา
จะผ่านพ้นปีอีกปีแล้ว กิเลสลดน้อยหรือไม่

ทบทวนผลการภาวนา
ตรวจสอบการละสังโยชน์

เจริญธรรม

  ;)