หัวข้อ: พระพุทธเจ้า "ฉันมื้อเดียว"..?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 13, 2012, 12:21:15 pm (http://www.madchima.org/forum/gallery/2_14_01_10_8_43_03.jpeg) คุณของการกินแต่น้อย ปัญหา พระภิกษุในพระพุทธศาสนาได้รับอนุญาตให้บริโภคอาหารเพียงวันละ ๑ หรือ ๒ ครั้งเท่านั้น พระผู้มีพระภาคทรงเป็นประโยชน์อย่างไร จึงทรงบัญญัติให้ภิกษุบริโภคอาหารน้อย ? พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว เมื่อเราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว ย่อมรู้สึกคุณคือ ความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลายจงมา จงฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียวเถิด ด้วยว่าเมื่อเธอทั้งหลายฉันอาหาร ในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว จักรู้สึกคุณคือ ความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบามีกำลัง และอยู่สำราญ.....” ________________________________________________________ ภัททาลิสูตร ม. ม. (๑๖๐) ,ตบ. ๑๓ : ๑๖๓ ตท.๑๓ : ๑๔๒ ,ตอ. MLS. II : ๑๐๘ http://www.84000.org/true/041.html (http://www.84000.org/true/041.html) (http://www.foodnetworksolution.com/uploaded/image-7.jpg) การฉันวันละ ๒ ครั้ง ปัญหา มีภิกษุบางรูปฉันอาหารวันละ ๒ ครั้ง พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตไว้ที่ไหน อย่างไร ? พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภัททาลิ ถ้าอย่างนั้น (ถ้าเธอฉันหนเดียวไม่ได้) เธอรับนิมนต์ ณ ที่ใดแล้ว พึงฉัน ณ ที่นั้นส่วนหนึ่ง แล้วนำส่วนหนึ่งมาฉันอีกก็ได้ เมื่อเธอฉันได้แม้อย่างนี้ ก็จักยังชีวิตให้เป็นไปได้” ________________________________________________________ ภัททาลิสูตร ม. ม. (๑๖๑) ,ตบ. ๑๓ : ๑๖๓ ตท.๑๓ : ๑๔๒ ,ตอ. MLS. II : ๑๐๘ http://www.84000.org/true/042.html (http://www.84000.org/true/042.html) ขอบคุณภาพจาก http://www.foodnetworksolution.com/ (http://www.foodnetworksolution.com/) หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า "ฉันมื้อเดียว"..?? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 13, 2012, 12:35:16 pm (http://image.ohozaa.com/i/db7/4p014.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ๕. ภัททาลิสูตร คุณแห่งการฉันอาหารหนเดียว [๑๖๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย. ภิกษุเหล่านั้นรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว เมื่อเราฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว ย่อมรู้สึกคุณ คือความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้เธอทั้งหลายจงมา จงฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียวเถิด ด้วยว่า เมื่อเธอทั้งหลายฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว จักรู้สึกคุณคือความเป็นผู้มีอาพาธน้อย มีโรคเบาบาง กายเบา มีกำลัง และอยู่สำราญ. (http://www.unclejobookshop.com/shop/u/unclejobookshop/img-lib/spd_20110914142311_b.jpg) พระภัททาลิฉันอาหารหนเดียวไม่ได้ [๑๖๑] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระภัททาลิได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่สามารถจะฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียวได้ เพราะเมื่อข้าพระองค์ฉันอาหารในเวลาก่อนภัตครั้งเดียว จะพึงมีความรำคาญ ความเดือดร้อน. ดูกรภัททาลิ ถ้าอย่างนั้น เธอรับนิมนต์ ณ ที่ใดแล้ว พึงฉัน ณ ที่นั้นเสียส่วนหนึ่งแล้ว นำส่วนหนึ่งมาฉันอีกก็ได้ เมื่อเธอฉันได้ แม้อย่างนี้ ก็จักยังชีวิตให้เป็นไปได้. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่สามารถจะฉันแม้ด้วยอาการอย่างนั้นได้ เพราะเมื่อข้าพระองค์ฉันแม้ด้วยอาการอย่างนั้น จะพึงมีความรำคาญ ความเดือดร้อน. ครั้งนั้นแล ท่านพระภัททาลิประกาศความไม่อุตสาหะขึ้นแล้ว ในเมื่อพระผู้มีพระภาคกำลังจะทรงบัญญัติสิกขาบทในเมื่อภิกษุสงฆ์สมาทานอยู่ซึ่งสิกขา. ครั้งนั้นแล ท่านพระภัททาลิไม่ได้ให้ตนประสบพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคตลอดไตรมาสนั้นทั้งหมด เหมือนภิกษุอื่น ผู้ไม่ทำความบริบูรณ์ในสิกขาในพระศาสนาของพระศาสดาฉะนั้น....ฯลฯ..... อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ บรรทัดที่ ๒๙๖๒ - ๓๒๕๒. หน้าที่ ๑๒๙ - ๑๔๐. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2962&Z=3252&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=13&A=2962&Z=3252&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=160 (http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=13&i=160) ขอบคุณภาพจาก http://image.ohozaa.com/,http://www.unclejobookshop.com/ (http://image.ohozaa.com/,http://www.unclejobookshop.com/) หัวข้อ: Re: พระพุทธเจ้า "ฉันมื้อเดียว"..?? เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กรกฎาคม 17, 2012, 05:57:08 pm สาธุ ครับ
|