ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนคติเตือนใจ อย่าได้หลง โดย หลวงปูู่เปรม เปมงฺกโร  (อ่าน 2089 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0


ร่างกาย เหมือนเพื่อนตาย อยู่ใกล้ชิด
พินิจอีก ก็เหมือน เรือนอาศัย
จิตไม่มี รูปร่าง อย่างใดๆ
สิงอยู่ใน กายยนต์ ปนชีวี

ยังไม่ตาย กายนี้ ว่ามีจิต
สิ้นชีวิต จิตหาย กายเป็นผี
เหมือนเรือนร่าง ห่างหน คนไม่มี
ยอมเป็นที่ โรยรุด ทรุดโทรมไป

เวลาเป็น เห็นแต่กาย ใจไม่เห็น
ไมเหมือนเช่น เรือนกาย ใช่อาศัย
เรือนกายเห็น เจ้าของ ครองอยู่ใน
แต่เรือนใจ เหมือนเจ้าของ ครองไม่มี

แลด้วยตา ไม่เห็น เห็นด้วยใจ มาอาศัย อยู่ในกาย แลวหน่ายหนี
พูดว่าตาย ก็หมาย เอากายนี้
สิ้นชีวี เน่าไป ใจไม่ตาย

จิตไม่มี ร่างกาย ว่าตายไป
เอาอะไร มาชี้ เป็นที่หมาย
กายเกิด กายตาย หมายเห็นง่าย
เพราะกายเป็น รูปัง สังขารา

เป็นธาตุเกื้อ เนื้อหนัง ไม่ยั่งยืน
ใครจะฝืน ก็ไม่ สมปรารถนา
เกิดแล้วแก่ เจ็บตาย วายชีวา
ธรรมดา อย่างนี้ มีทุกคน

มันแปรแปลก แตกสลาย ไม่ใช่ตัว
ไปพันพัว ยึดไว้ ไม่ได้ผล
เป็นอนันต์ ไมใชอัต ตาตัวตน
เฝ้าดิ้นรน เดือดร้อน ทําไมกัน

เกิดตาย สําหรับกาย ซึ่งเรียกร้อง
ว่าเป็นของ ไม่แน่ ย่อมแปรผัน
อุปาทาน หัวดื้อ ยึดถือมั่น
เบญจขันธ์ คือเรา เอาเป็นตน

จึงหลงกล ว่าตน แก่เจ็บตาย
งมงาย ฝ่ายตัณหา พาเสือกสน
เป็นวิสัย ใจชั้น สามัญชน
ยอมมืดมน ทึบทับ อับปัญญา

อันตัวเรา คือจิต บริสุทธิ์
เป็นวิมุตติ หลุดพราก จากตัณหา
ไม่ยึดถือ ขันธ์ ๕ เป็นอัตตา
สิ้นชรา ตายเกิด กําเนิดวาย

จิตพ้นโลก พ้นโอฆ สงสาร
เรียกนิพพาน หรือวิมุตติ ที่สุดหมาย
หมดทุกข์ หมดภัย ไกลอันตราย
สุขสบาย เป็นนิจ นิรันดรเอยฯ

โดย หลวงปูู่เปรม เปมงฺกโร
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้

บุญเอก

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 516
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เท่าที่ได้สังเกตมาโดยมาก ผู้ศึกษาพระพุทธศาสนา
ถ้าจะว่าถึงธรรมชั้นต่ำเพียงเป็นจรรยา ความประพฤติได้ประโยชน์ในโลกนี้
และทางสุคติภพแล้ว คงเข้าใจกันง่ายไม่สู้จะขัดข้อง
การประพฤติก็ติดจะคล่อง ทั้งไม่แก่งแย่งกันในทางความเห็นด้วย

แต่เมื่อถึงธรรมคำสอนชั้นสูง
เป็นเรื่องจิตใจที่จัดว่าเป็นปรมัตถ์หรือนิพพานแล้ว
ทำท่วงทีจะอึดอัดขัดข้องไม่คล่องใจ
ประหนึ่งว่าจะเกินวิสัยเป็นส่วนมาก ยากที่จะจับเงื่อนเงา
เหมือนเราแหงนดูพื้นฟ้าในอากาศอันโว่งว่างไม่มีที่หมายฉะนั้น

เพราะทางนี้มีธรรมและถ้อยคำที่ใช้ลึกละเอียดสุขุม
เป็นประโยชน์ที่สุดของความมุ่งหมายแห่งมนุษย์
ดุจบันไดขั้นที่สุดแห่งทางขึ้นฉะนั้น สมชื่อว่าทางปรมัตถ์แท้จริง

ผู้อ่อนบารมี อ่อนศึกษา อ่อนคิด ย่อมติดขัด
และเพราะได้คัดลอกถ่ายเทกันมาหลายทอดเป็นเวลานานสองพันปีเศษแล้ว
ต้องมีวิจิกิจฉาเข้าแอบแนบ เกรงว่าจะคลาดเคลื่อน
เพราะปรากฏว่าได้แต่งเพิ่มเติมเสริมต่อเข้าอีกมากมายในภายหลังอีกด้วย
ผู้ศึกษาปฏิบัติในทางนี้
โดยมากจึงเกิดแก่งแย่งกันในทางความเห็น เป็นพวกเป็นหมู่
ในที่ประชุมใดๆ เมื่อพูดกันขึ้นถึงเรื่องนี้ เป็นต้องขัดกันร่ำไป

เพราะฉะนั้นจึงมีความประสงค์ที่จะเขียนออกความเห็นในเรื่องนี้กับเขาบ้าง
อย่าให้ไร้ประโยชน์ในการศึกษาเสียเลย
คงได้ประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย เขียนไปตามความคิดเห็น
แต่ก็ต้องชักพุทธภาษิตเข้ามาประกอบให้เป็นหลักฐาน

อันธรรมดาว่าความเข้าใจหรือความเห็นนั้น
ผู้เห็นก็ต้องเชื่อใจว่าตนเห็นถูก ที่รู้อยู่แน่ๆว่าตนเห็นผิดแล้ว
และพูดออกมาเพื่อทำความฉิบหายให้แก่คนอื่นนั้น ย่อมมีไม่ได้
เว้นไว้แต่คนทุจริตที่คิดไม่ชอบ
ตั้งใจหาประโยชน์อะไรของเขาอีกส่วนหนึ่งเท่านั้น

เพราะฉะนั้นต้องขออภัยในข้อที่ไม่ถูกใจกับท่านผู้อ่านด้วย เทอญ.

เปมงฺกโร ภิกฺขุ
พ.ศ. ๒๔๗๔-๒๕๑๒

http://luangpu.exteen.com/20090829/entry
บันทึกการเข้า
ทำงานอาสา หวังช่วยคนตกยาก แม้จะลำบาก แต่ก็จะทำโดยความไม่หนักใจ
อาสากตัญญู พัทยา ยินดีรับใช้