ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เชื่อ..พระประธานหันไปทางตะวันตก ทำให้เกิดอาเพศ ฝนไม่ตก วัดโนนสว่าง จ.เลย  (อ่าน 2590 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28527
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เชื่อ..พระประธานหันไปทางตะวันตก
ทำให้เกิดอาเพศ ฝนฟ้าตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล

    แห่พิสูจน์พระประธานนั่งหันหลัง เป็นพระปางสมาธิลักษณะเหมือนพระพุทธรูปทั่วไป เพียงแต่ตั้งหันหลังให้ทางเข้าอยู่ที่วัด อ.ภูเรือ จ.เลย เจ้าอาวาสเผย สร้างตั้งแต่ปีพ.ศ.2540 ตอนแรกก็หันหน้าออกเหมือนพระประธานทั่วไป แต่หลังจากสร้างเสร็จ ในหมู่บ้านเกิดอาเพศ ฝนฟ้าตกไม่ถูกต้องตามฤดูกาล

    จนมีพระผู้ใหญ่ผ่านมาเห็นและทักว่าองค์พระหันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งไม่ถูกต้อง ชาวบ้านจึงตัดสินใจหันองค์พระไปทางทิศตะวันออก จึงกลายเป็นหันหลังให้ทางเข้า จนเป็นที่ฮือฮาคนเดินทางมาดูและทำบุญจำนวนมาก

    เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีพระประธานของวัดโนนสว่าง บ้านสำราญ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย หันหลังให้ทางเข้า ต่างจากพระพุทธรูปอื่นๆ ที่หันหน้าออก จึงเดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง พบว่าเป็นพระปางสมาธิ ทางวัดสร้างศาลาขนาดเล็กครอบองค์พระ เมื่อเดินเข้าไปจะเห็นด้านหลังองค์พระ มีเครื่องบูชาวางอยู่ เมื่อเดินออกไปหลังศาลาจึงเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปแย้มสรวลเล็กน้อย



    พระอธิการดอน คตสาโร อายุ 69 ปี เจ้าอาวาสเล่าถึง ความเป็นมาของการสร้างองค์พระประธานหันหลังให้ทางเข้าว่า วัดโนนสว่างนั้นอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ประตูเข้าวัดอยู่ทางทิศตะวันตก เมื่อปีพ.ศ.2540 หลวงพ่อคุ้ย ท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ตอนนี้ทราบว่าท่านมรณภาพแล้ว มีความคิดว่าที่วัดไม่มีพระประธาน จึงได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างพระประธาน เป็นพระประธานปางสมาธิ ขึ้นที่ศาลากลางวัด โดยใต้ฐานพระพุทธรูปจะมีวัตถุมงคลใส่ไว้ การสร้างทำตามประเพณีนิยม คือ หันหน้าองค์พระออกทางประตู

    "หลังจากสร้างเสร็จ หลวงพ่อก็ออกจากวัดไปเป็นการแก้เคล็ด
    แต่ปรากฏว่าไม่มีพระมาจำพรรษาอยู่เลย ชาวบ้านก็ไม่มีที่ทำบุญ
    และเกิดฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล บางวันมีผู้สูงอายุเสียชีวิต 2-3 รายก็มี

    ต่อมามีพระผู้ใหญ่ผ่านมาเห็นและเตือนว่าพระประธานหันหน้าทางทิศตะวันตกไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดอาเพศ
    ชาวบ้านจึงรวมตัวกันประชุม และตัดสินใจกลับฐานองค์พระให้หันหน้าทางทิศตะวันออก แบบเช่นทุกวันนี้"
    พระอธิการดอนกล่าว



    ด้านนายกิตติ จำปานิล อายุ 54 ปี กำนัน ต.ท่าศาลา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เดิมบ้านสำราญมีอีกชื่อหนึ่งคือ บ้านหนองศพ เนื่องจากมีหนองน้ำขนาดใหญ่และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งรับประทานได้เรียกว่าต้นสพ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ บ้านสำราญนั้นมีอายุกว่า 100 ปี เป็นหมู่บ้านเก่าแก่หมู่บ้านหนึ่งมีวัดในหมู่บ้าน คือ วัดโนนสว่าง แต่ก่อนชาวบ้านเรียกว่า วัดบ้านหนองศพ ต่อมามีผู้หลักผู้ใหญ่ทักท้วงกันมากเลยมาเปลี่ยนเป็น บ้านสำราญจนทุกวันนี้

    ส่วนเรื่องพระประธานหันหลังให้ทางเข้านั้น นายกิตติกล่าวว่า หลังจากมีพระผู้ใหญ่ทักจึงตัดสินกลับฐานองค์พระ ทำให้เมื่อชาวบ้านเข้ามาทำบุญที่ศาลาจะเห็นด้านหลังของท่าน แต่ทุกคนก็ยกมือไหว้ด้วยความเคยชิน และตั้งแต่กลับฐานให้องค์พระหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข และมีพระหลายรูปมาจำพรรษา มีกฐินเข้ามาในวัด 2-3 ปีแล้ว

   ขณะที่คนจากหมู่บ้านอื่นเมื่อทราบว่าก็จะเดินทางมาดูกันจำนวนมาก เพราะไม่เคยเห็นพระประธานนั่งในลักษณะนี้มาก่อน



ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhNREV5TURVMU5RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHdOUzB4TWc9PQ==
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย DuangAesthetic
ขอบคุณ http://hilight.kapook.com/



เผยแพร่เมื่อ 10 พ.ค. 2012 โดย DuangAesthetic
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

TC9

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังแหวกกระแส
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 137
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ความเชื่อ เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนมุม บ้างก็ดีคะ อาจจะจริง ก็ได้คะ .....

แต่ชาวพุทธ ชั้นปัญญาชน คงจะคิดว่า ไม่เห็นเกี่ยวเลยใช่หรือไม่คะ.... เพราะพระพุทธรูป พระพุทธเจ้า หันไปทางไหน ก็มงคลทั้งนั้น ดูอย่างความเชื่อเรื่องการนอนหันหัวไปทางทิศตะวันตก สิคะ แต่ถ้าดูพระสารีบุตร เวลาพระอัสสชิ อยู่ทางไหน ท่านทราบข่าวก็หันศรีษะไปทางนั้น ....

   :coffee2: :coffee2: :coffee2: :s_hi:
บันทึกการเข้า