ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วิศวกรสันติภาพ 'มจร'ปฐมนิเทศ ประกาศอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ  (อ่าน 1315 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


วิศวกรสันติภาพ'มจร'ปฐมนิเทศประกาศอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ

วิศวกรสันติภาพ'มจร'ปฐมนิเทศประกาศอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ : พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส หัวหน้าโครงการปริญญาโทหลักสูตรสันติศึกษา และผอ.สถาบันภาษา มจร รายงาน

     "ฤาจะให้แคมป์สนสุดสิ้นพร้อมกับการสิ้นสุดชีวิตของอาจารย์พร รัตนสุวรรณ" จารึกธรรมที่ปรากฏอยู่ข้างรูปปั้นของอาจารย์พร รัตนสุวรรณที่ประพันธ์ฝากไว้เพื่อย้ำเตือนลูกศิษย์รุ่นหลังๆ เพื่อให้ช่วยกันดูแล และพัฒนาแคมป์สนให้เป็นแหล่งรองรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาจากทิศต่างๆ เพื่อแสวงหาความสุข สงบ เย็นและเป็นสันติสุข อาจจะต้องกลายเป็นเพียงความห่วงใยในช่วงหนึ่งของกาลเวลาไปแล้ว
     เมื่อโครงการปริญญาโท หลักสูตรสันติศึกษา ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มหาจุฬาฯ ได้ออกแบบขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของสังคมที่กำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้งและความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ได้นำนิสิตในฐานะวิศวกรสันติภาพ จำนวน ๓๕ รูป/คน เดินทางไปปฐมนิเทศ และศึกษาดูงานในระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์


กิจกรรมของการปฐมนิเทศนั้น ประกอบไปด้วยพิธีการมอบตัวเป็นศิษย์ที่จัดว่าเป็น “อริยประเพณี” ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตได้ปวารณาตนเพื่อแสดงตนเป็นลูกศิษย์เพื่อจะทำให้คณาจารย์ หรือนักสันติภาพทุกท่านที่ได้รับการนิมนต์และเชิญมาเป็นวิทยากรสามารถทำหน้าที่ได้เต็มศักยภาพ และทำให้การเข้าสู่การพัฒนาให้นิสิตเป็น “วิศวกรสันติภาพ” เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันเนื่องด้วยท่าทีของนิสิตที่ยินยอมพร้อมใจที่จะเปิดใจน้อมรับองค์ความรู้และแนวทางปฏิบัติต่อการเป็นนักสันติภาพต่อไป

หลังจากนั้น นิสิตปริญญาโท สาขาสันติศึกษา มจร ทุกท่านจึงเข้าสู่จุดเริ่มต้มต้นสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มนิสิตด้วยกันในกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ โดยมีท่านรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลหล่มสัก นายอภิชัย ไพรเพชรศักดิ์ และคณะเป็นวิทยากรนำกระบวนการ กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์มีความจำเป็นและสำคัญอย่างต่อการทำให้นิสิตทุกท่านซึ่งมีความแตกต่างทั้งทางการงาน อายุ ความรู้ ประสบการณ์ และเพศ สามารถจะรู้จัก และเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างกันและกันมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การเปิดพื้นที่และพรมแดนของความสัมพันธ์ให้กว้าง และยอมรับในความต่างมากยิ่งขึ้น

พิธีที่ถือได้ว่าสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฐมนิเทศครั้งนี้คือ “พิธีจุดเทียนอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ” โดยได้กำหนดให้มีขึ้นในวันอัฏฐมีบูชา ซึ่งเป็นวันประชุมเพลิง หรือเผาร่างกายของพระพุทธเจ้า ร่างกายของพระองค์มอดไหม้กลับคืนไปสู่ธาตุสี่คือ ดิน น้ำ ลม และไฟไปแล้ว
   แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงมี และปรากฏมาจนถึงวันนี้คือ "ลมหายใจแห่งสันติภาพ"
  ทุกย่างก้าวที่พระองค์เสด็จไปนั้น เต็มไปด้วยสันติภาพในทุกย่างก้าว
  พระองค์เข้าถึงสันติภาพที่ซ่อนตัวอยู่ภายในใจจนทำให้พระองค์อุทานว่า "สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี"



หลังจากนั้น พระองค์จึงได้ประกาศอุดมการณ์แห่งสันติภาพแก่มวลมนุษยชาติ นักสันติภาพในโครงการปริญญาโทสันติศึกษา รุ่นที่ ๑ จึงร่วมกันประกาศอุดมการณ์แห่งสันติภาพที่จะร่วมกันสานต่อลมหายใจแห่งสันติภาพ ทุกย่างก้าวที่ทอดเดินไปจะเต็มไปด้วยการรู้ ตื่น และเบิกบาน อุทิศตนทำงานเพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขและอนุเคราะห์มวลมนุษยชาติในทุกจังหวะ และโอกาส ที่ใดมีความมืด มีความทุกข์ ความขัดแย้ง และความรุนแรง เราจะร่วมกันจุดเทียนแห่งสันติภาพให้สว่างไสวแก่ชีวิตของตัวเอง และโลกใบนี้ตราบสิ้นลมหายใจ เปลวเทียนละลายแท่งเพื่อเปล่งแสงอันอำไพ ชีวิตก่อนตายจากไปสร้างสังคมสันติสุขไว้ทดแทน

เมื่อนิสิตทุกท่านได้เข้าใจมิติต่างๆ เกี่ยวกับคุณค่าและความสำคัญของสันติภาพ ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า “สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี” แล้ว เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โครงการจึงได้นำวิศวกรสันติภาพไปศึกษาดูงานชุมชนสันติสุข ศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำตำบลปากดุก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยมีดร.เกษร วงศ์มณี สาธารณสุขอำเภอหล่มสัก ได้ถอดบทเรียน และแรงบันดาลใจสำคัญต่อการเสียสละประโยชน์ตนเพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งสันติสุขตามปรัชญาการทำงานของพระราชบิดาที่ติดไว้ ณ สาธารณสุขอำเภอหล่มสักว่า

"ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง" ดร.เกษรเป็นนักสันติภาพที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งทำหน้าที่สำคัญนำองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษางานด้านสันติวิธีมาพัฒนากระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนจนเป็นที่มาของ "โรงพยาบาลตำบล" และได้รับรางวัลจากความสำเร็จทั้งในระดับชาติ และนานาชาติมากมาย


เชื่อมั่นว่า หลักสูตรปริญญาโท สาขาสันติศึกษาจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญที่จะเป็น “ประทีปเพื่อส่องทางแห่งสันติให้แก่สังคมไทย” เมื่อนิสิตเหล่านี้ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นวิศวกรสันติภาพที่สมบูรณ์ในระดับหนึ่งแล้ว จะสามารถที่จะนำหลักการและเครื่องมือที่ได้จากการทำงานร่วมกันภายใต้บันทึกลงนามความร่วมมือระหว่างมหาจุฬาฯ สถาบันพระปกเกล้า และสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรม ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ชุมชน และสังคมในโอกาสต่อไป



(หมายเหตุ : วิศวกรสันติภาพ'มจร'ปฐมนิเทศประกาศอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ : พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส หัวหน้าโครงการปริญญาโทหลักสูตรสันติศึกษา และผอ.สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) รายงาน และชมภาพประกอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mcu.ac.th/site/news_in.php?group_id=1&NEWSID=10041)

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20130603/160066/วิศวกรสันติภาพมจรปฐมนิเทศประกาศอุดมการณ์เพื่อสันติภาพ.html#.Ua1XV9j0YXF
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ