ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - poepun
หน้า: 1 2 [3] 4
81  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / คาถาชินบัญชร หลายเวอร์ชั่น เมื่อ: มีนาคม 01, 2011, 06:00:13 pm
chin คาราโอเกะ 01 พระคาถาชินบัญชร MP3.mp3 (25.53 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?zmn1fzjfyyj

chin คาราโอเกะ 02 พระคาถาชินบัญชร WMV.WMV (4.62 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?mimba0wdddz

chin คาราโอเกะ 03 พระคาถาชินบัญชร WMV.WMV (37.18 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?hz0maztxcod

chin คาราโอเกะ 04 พระคาถาชินบัญชร DAT วัดอินทรวิหาร.DAT (53.02 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?k0l4y2wy40m

chin คาราโอเกะ 05 พระคาถาชินบัญชร FLV.flv (90.31 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?2yznqnnyzly

chin คาราโอเกะ 06 พระคาถาชินบัญชร WMV.wmv (57.94 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?ylkogmmdjky

chin01 สวดคาถาชินบัญชร.mp3 (4.72 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?y9vdbzoxzt0

chin02 สวดสังโยคชินบัญชร.mp3 (31.49 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?hgurrdnvbic

chin03 เพลงคาถาชินบัญชร อินเดีย.mp3 (3.63 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?dmzlgyg1oki

chin04 เพลงกาพย์ยานีชินบัญชร.mp3 (21.27 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?dm5qmmttihy

chin05 เพลงกาพย์ยานีชินบัญชร (แปล).mp3 (21 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?y2lmgmbommg

chin06 ชินบัญชร ทำนองสรภัญญะ.mp3 (13.5 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?nny2yztmdmy

chin07 ชินบัญชร ทำนองสรภัญญะ (ประสานเสียง).mp3 (8.07 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?zrtwgwoytzk

chin08 ชินบัญชร ทำนองสรภัญญะ (ดนตรีประกอบ).mp3 (9.03 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?mmnzzlmtyxq

chin09 เพลงแปลชินบัญชร (ชินกร ไกรลาศ).mp3 (18.69 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?dlmjtzmhoyk

chin10 เพลงคาถาชินบัญชร ทิเบต.mp3 (10.67 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?zmyowmaruht

chin11 เพลงคาถาชินบัญชร สรภัญญะ (สำหรับผู้เริ่มฝึกหัด).mp3 (32.51 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?yjojzngjzvn

chin12 เพลงคาถาชินบัญชร ฉบับชำระใจ.mp3 (35.86 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?i52zzmmwzuv

chin13 เพลงคาถาชินบัญชร (ภาษาบาลี) เสฐียรพงษ์.mp3 (12.57 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?e5mz1iovnge

chin14 เพลงคาถาชินบัญชร (ภาษาไทย) เสฐียรพงษ์.mp3 (12.51 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?jnwzmmvzmzy

chin15 เพลงคาถาชินบัญชร (แปล).mp3 (26.54 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?ttm2ztlzyol

chin16 เพลงคาถาชินบัญชร บาลี (ประสานเสียงเด็ก).mp3 (25.51 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?gmnzwnndygn

chin17 เพลงคาถาชินบัญชร (ร้องคู่).mp3 (20.74 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?nxfgd2mmm2t

chin18 เพลงคาถาชินบัญชร แปล (ร้องคู่).mp3 (21.04 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?l3kdzlmnld2

chin19 สวดคาถาพาหุงและคาถาชินบัญชรพร้อมแปลอธิบาย.mp3 (18.91 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?gmj2mnixnzn

chin20 เพลงคาถาชินบัญชร (ภาษาบาลี) ชุดเงิน.mp3 (9.65 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?mnw4dyzqozm

chin21 เพลงคาถาชินบัญชร (ภาษาไทย) ชุดเงิน.mp3 (11.61 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?a5m2f2izm0q

chin22 พระคาถาชินบัญชร MP4.mp4 (10.72 MB)
http://www.mediafire.com/download.php?yomztndjmym


http://www.mediafire.com/imageview.php?quickkey=jzgmmyymjed&thumb=4
82  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: มีใครเคยประสพปัญหาชีวิต ถึงขั้นตกอับยากจน ล้มละลาย เพื่อนทิ้ง ประมาณนี้ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 04:51:11 am
ต้องติดตามอ่าน ครับแต่ปัญหา วางลิงก์ตรงสักลิงก์ ได้หรือไม่ครับ เข้าไปเว็บสวนพีระมิดแล้วหาไม่เจอครับ

 :57:
83  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: หลักธรรมเพื่อการบรรลุธรรม เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 04:05:26 am
เป็นธรรมที่ควรแก่การสนใจ มากครับเพราะโพธิปักขิยธรรม กล่าวว่าเป็นธรรมที่ทำให้พ้นจากสังสารวัฏได้

ชื่ออีกอย่างว่า อภิญญาเทสิตธรรม

อ้างถึง
และหวังผล ๒ อย่าง คือ อรหัตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีความถือมั่นเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี
(สํ.มหา. ๑๙/๕๓๕/๓๖๘ มหาจุฬาเตปิฏกํ ๒๕๐๐.)

เป็นหลักการภาพรวมสำหรับ ชาวพุทธอย่างเรามากเลยนะครับ


อนุโมทนาด้วยครับ
 :25:
84  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: พุทโธ ใครก็ได้ช่วยผมที เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2011, 01:24:53 am

ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1185.0

การเดินจงกรม สามารถเดินเป็น ฌานได้หรือป่าวคะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1803.0

และด้่านในก็จะมีลิงก์ีที่เกี่ยวกับเรื่องเดินจงกรมอีกครับ
ต้องลองอ่านวิธีการ ก่อนครับ

 :25:
85  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เริ่มต้นศึกษาหลักธรรม เพื่อภาวนาให้ชีิวิตมีความสุข เริ่มจาก... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:19:05 am
อนุโมทนาก่อนในเบื้องต้นครับ

 :25:
86  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: รับศีล แต่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้.. เมื่อรับมาแล้ว รักษาไม่ได้ เป็นบาปมากหรือไม่. เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 04:03:20 am
พอไปที่วัด ทำบุญ พระท่านก็จะให้สมาทานศีล แต่เรื่องศีล โดยเฉพาะเรื่อง มุสาวาท นั้นบางครั้งก็มีการพูดเล่น

กับเื่พื่อน ๆ กัน จึงไม่แน่ใจว่า เรารับศีลมา้เพื่อสร้างบุญให้จิต แต่ตอนที่เราผิดศีล ตอนนี้เป็นบาปมากหรือไม่คะ

ดังนั้นถ้าเราไม่มั่นใจ เราไม่รับศีลเลยจะดีกว่าหรือไม่คะ

 :c017:

ไม่น่าจะผิด นะครับ เพราะความตั้งใจคือ ไม่ตั้งใจผิด ผมว่ารับไว้ดีกว่า ไม่รับครับ เพราะการสมาทานเขามีทาง

ออกไว้ให้แแล้วครับ อยู่ตอนที่กล่าวว่า เวระมะณี สิกขา ปะทัง สะมาทิยามิ , แต่ถ้าแบบ อุโบสถเลยต้องทำให้

ได้เขาจะว่า แค่ เวระมะณี เท่านั้น คำแปลไม่ค่อยถนัดเดี๋ยวให้ผู้รู้มาแปลกันต่อครับ

 :25:
87  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: สวดมนต์ กับ นั่งสมาธิ เป็นการปฏิบัติสมาธิเหมือนกันหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 07:01:28 am
อานิสงส์ของการสวดมนต์
เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ที่บ้าน

ครั้นพลบ ค่ำ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆังมายังบ้านของท่าน เจ้าพระยาสรรเพชรภักดี ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยาเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์ “ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่า

ยัง มีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมายเพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าว ถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไรการสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็น สมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์

ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ

• เมื่อฟังธรรม
• เมื่อแสดงธรรม
• เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์
• เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
• เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ

การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล

พระ พุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

• กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
• ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
• วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว

อาตมาภาพ ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า

ถ้า หากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอนการสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดับพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก

ก็จะมา ชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดีจะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล..

จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต พรหมรังษี
ที่มา ธรรมะดิลิเวอร์ลี่

ที่มาเนื้่อหา
http://variety.teenee.com/foodforbrain/5510.html
88  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การขึ้นกรรมฐาน หลายที่ นั้นเป็นการปรามาสครูอาจารย์หรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 02:10:02 am
ยิ่งเรียนมาก ก็ยิ่งจะยากนานครับ ผมกว่าจะสรุปรวมลงได้ที่สายพระป่า ก็ลองผิด ลองถูก ไปครึ่งคนแล้วนะครับ
เวลาเรามีไม่มาก คิดให้รอบคอบครับ เพราะการภาวนาในยุคปัจจุบัน ทำให้เราสับสนได้ครับ

ยุคนี้ถ้าพระจะนิยมสอนเรื่องสติปัฏฐาน ตามแนวสายพม่าครับ และ ระบบยุบหนอ พองหนอ ประมาณนี้ครับ
ตามแนวสายพม่าทั้งหมด ผมไปสนทนาที่วัดแม้วัดแก่งขนุน ขณะที่พระอาจารย์ไม่อยู่ก็ยังไม่สนับสนุนกรรมฐาน
มัชฌิมา แบบลำดับนะครับ ซึ่งพวกผมเองก็ยัง งง ๆ อยู่บ้าง แต่คิดว่าเพราะพระอาจารย์ไม่ได้อยู่วัดนะครับ

 :25:
89  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าพบพระอาจารย์ยังไม่ได้ช่วงนี้ อยากทราบศิษย์เอกพระอาจารย์มีใครพอสนทนาได้บ้างครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 02:06:35 am
อนุโมทนาครับ กับข่าวสาร กิจกรรมงานบุญ
 :25:
90  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ชวนทุกท่านมาปลุก พลังบวก ในตัวเราให้แกร่งเถิดครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 16, 2011, 02:05:43 am
เป็นรายการที่นิยมในกลุ่มพวกผม อยู่แล้วครับ

อนุโมทนา ครับ
 :25:
91  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญชมภาพบรรยากาศ ในงานสวดมนต์ ต้นปี 2554 วัดหนองบัวหิ่ง เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 01:12:37 am
แหมได้ อารมณ์ดีครับ ไปสวดมนต์บนเืรือเก่า

น่าสนใจมากครับ ถ้ามีเวลาผมจะไปเที่ยว ทำบุญที่วัดหนองบัวหิ่ง

ว่าแต่แผนที่มีหรือไม่ครับ

 :25:
92  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: เชิญชมภาพงานพุทธาภิเษก ใครไปมาแล้ว รำลึกภาพวันงาน ที่วัดพลับ ครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 01:11:20 am
อนุโมทนา ด้วยครับกับเส้นทางเข้าไปชมภาพ รู้สึกว่าจะเป็นภาพในวันลอยกระทงปีที่ผ่านมานะครับ

ถ้าจำไม่ผิด ก็ไปด้วยครับ

 :25:
93  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: นักปฏิบัติธรรม ทุกท่าน มีความเห็นอย่างไรที่ เรา ยังชอบดูการ์ตูน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 01:10:17 am
การดูการ์ตูน ถ้าว่าไป สำหรับปุถุชนผู้ยังแล่นอยู่ ในพุทธภูมิ ก็ไม่แปลกอะไรครับ

สำหรับ พระสาวกภูมินั้น ท่านอาจจะไม่ค่อยใส่ใจ จะดูการ์ตูน หรือ จะมองภาพในปัจจุบัน

ลักษณะก็จบคล้าย ๆ กัน คือปรุงแต่งทางอารมณ์ มากน้อยขนาดไหนครับ

 :25:
94  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ถ้านอนดึก ตื่นสาย ปฏิบัติธรรมได้หรือไม่จ๊ะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2011, 01:08:29 am
ตอบว่าได้ ครับ เรื่องนอนดึก ก็แบบผมนี่แหละครับต้องเข้าเวร ดูแลคน...
นอนตื่นสาย..ผมนอนตื่นบ่าย...เลยครับ

การภาวนานั้น จัดเป็น อกาลิโก ภาวนาต้องสอดคล้องกับการดำรงชีิวิต คือสัมมาอาชีวะด้วยครับ
ในกลุ่มผมนั้น ต้องเ้ข้าเวรครับ ต้องพร้อม 24 ชม. ครับเพราะเกี่ยวข้องกับชีวิต ความเป็น ความตาย ของคนครับ

 :25: :25: :25:
95  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เมื่อลูกศิษย์ ถามผมว่า "ปล่อยปลาลงแม่น้ำได้บุญ หรือบาปครับ" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 04:07:25 am
ขณะที่ไปสอนวันนี้ ลูกศิษย์ผมคนหนึ่งถามเชิงเล่น เชิงจริงว่า

  อาจารย์ถามเรื่องการปล่อยสัตว์ หน่อยได้บุญหรือไม่

  ผมตอบไปว่า ถ้าจิตเราบริสุทธิ์ เพื่อช่วยชีวิตสัตว์ ก็เป็นบุญ

  งั้นปลาที่หนูไปปล่อย เป็นปลาปิรันย่า ปล่อยลงแม่น้ำไปประมาณ 30 ตัว จะได้บุญหรือไม่คะ

  ผมเองก็งง .....

แต่ฟังแล้ว ก็นำกลับมาคิดในอีกแง่มุมหนึ่งว่า

  การทำบุญในยุคนี้ อาจจะเป็นการทำบาป ก็ได้ เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรครับกับเรื่องนี้

 :c017:
96  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การถวายผ้าแด่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมได้บุญ แต่การถวายผ้าห่ม แด่พระพุทธรูปได้... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2011, 03:56:47 am
อ้างถึง
... สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธา
มาก่อสร้างสัพพาทานหลาย ๆ ชนิดเป็นต้นว่า

สร้างพระพุทธรูปก็จักได้อานิสงส์ ๙ กัลป
สร้างพระไตรปิฏกธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ก็ได้อานิสงส์ ๑๐ กัลป
ผู้ใดได้บวชตนเป็นสามเณร ก็จักได้อานิสงส์ ๑๒ กัลป
ผู้ไดได้บวชตนเป็นพระภิกษุ ก็จักได้ อานิสงส์ ๒๔ กัลป

ก็แสดงว่า พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนเรื่องการไม่สร้างพระพุทธรูป สิครับ
เพราะผมเห็นเข้าใจผิดกันในเรื่องนี้มาก ถึงขึ้นทำลายพระพุทธรูป แบบ บามิยัน
97  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: “สัปดาห์ปฏิบัติธรรมวันมาฆบูชา” ระหว่างวันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ 2554 ศิริราช เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 02:19:07 am
อนุโมทนา กับข่าวสารครับ
 :25:
98  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การดูหนังสือโป๊ และ หนังโป๊ ผิดศีลข้อสามหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 02:12:40 am


ผู้ชายต่างกับผู้หญิงตรงที่ว่า โฮโมนเพศชายทำให้เกิดความต้องการทางเพศ
ครับ ถึงจะไม่ได้ดูหรือคิดอะไรก็ตาม อย่างไรผู้ชายก็จะมีความต้องการทางเพศ
ส่วนผู้หญิงนั้น ไม่มีครับ ยกเว้นได้รับการกระตุ้นเท่านั้น

กามราคะเป็นสภาวะธรรม เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่มีอยู่คู่โลกคู่ภพภูมิ (กามภพ) คุณมีอายตนะก็ไปเห็นกามราคะเข้า ถ้าเห็นกามราคะแล้วเฉยๆ ก็จบเรื่องไม่ไปสานต่อไม่ไปต่อยอดความคิด (สัญญา แท๊กทีมกับ สังขาร)  จะเห็นกามราคะทั้งวันก็ไม่เดือดร้อน พอถึงเวลากามราคะก็หายไปเอง  แต่ถ้าเห็นกามราคะแล้ว เกิดไม่ชอบใจกามราคะขึ้นมา นึกอยากทำให้กามราคะมันดับหายไป  ทำยังไงดีครับ  ก็ยุ่งสิครับ  ไปเอาธุระนอกตัวมาทำก็เป็นเรื่อง วุ่นวาย ปวดหัวใจ เพราะทำไม่สำเร็จ คิดว่ากามราคะเป็นเราก็ทุกข์ ที่ทำได้คือแก้ที่จิตเรา ไม่อยากมีกามราคะก็หนีเข้าที่ไม่มีกามราคะ  คือลองหามีดอีโต้มาสักเล่มหนึ่ง แล้วดึงตัวการออกมาแล้วยกมีดลองสับลงไปดูสิครับ เราไม่เอากาม ดูสิมันยังจะอยากมีกามราคะอยู่ไหม มันก็จะโดดหนีจากกามราคะ ไปหาความกลัวแทนแล้วจิตก็จะยั้งไม่ให้สับ จับอยู่ที่ความกลัวกับความโกรธแทน 555 พอหายแล้วเดี๋ยวกามก็โผล่มาใหม่ ผลุบๆ โผล่ๆ ถ้ารู้ทันมันก็สบาย  ของมันมีอยู่คู่โลกไม่ได้หายไปไหน  เดี๋ยวเช้ามันก็โผล่ เดี๋ยวตกหัวค่ำมันก็ไป ๆ มาๆ ตามธรรมชาติเป็นเรื่องของกายสังขาร  มันมีคู่โลก คู่ภพภูมิ 

99  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การดูหนังสือโป๊ และ หนังโป๊ ผิดศีลข้อสามหรือไม่คะ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 01:58:56 am
การดูหนังสือโป๊ และ หนังโป๊ ผิดศีลข้อสามหรือไม่คะ

คือไปแอบเห็นพวกผู้ชาย ชอบแอบอ่านกัน และชอบแอบถ่าย นักเรียนหญิงด้วย

คนพวกนี้ผิดศีลข้อ 3 หรือไม่คะ

 :91: :41: :character0029:

ถ้า คำถามว่าผิดศีลข้อ 3  หรือไม่ ก็คือไม่ผิดครับ

เพราะการอ่าน การดูหนังโป๊ เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชายครับ ที่หมกหมุ่นกับ กามราคะ

แต่การอ่าน การดูนั้น ไม่ได้ไปผิดลูก ผิดเมีย ใครก็ไม่ได้ผิดศีลครับ

 :smiley_confused1:
100  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทรงติเตียนภิกษุผู้แสดงอิทธิปาฏิหารย์ว่า "เหมือนมาตุคามแสดงของลับ" เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 01:20:54 am
สมัยนี้ หาแสดงฤทธิ์ ได้จริง ๆ นั้นแทบไม่มีแล้ว ยิ่งเอาพระสูตรบทนี้ออกมาให้อ่าน ยิ่งไม่ต้องหาเลยครับ

แต่ก็แปลกดีนะ ผมส่วนมากเวลาไปในแวดวงเพื่อน ๆ ที่ศรัทธาพระพวกเกจิ นี้แต่ละรูป แต่ละองค์ ล้วนแล้ว

มีฤทธานุภาพ แตกต่างกันไป จนผมส่งสัยเหมือนกัน นำพระเถระเหล่านี้ลงไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนเลยดี

หรือไม่ครับ เพื่อจะได้มีพระที่ปลอดภัย และประชาชนไม่เป็นอันตราย

 :13: :13: :13:

101  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ขลัง ศักดิ์สิทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์ งมงายหรือไม่งมงาย ? เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:20:52 pm
อันนี้ ผมเคยสงสัย เรื่อง ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิปาฏิหาริย์ ของเครื่องบูชา วัตถุมงคล ต่าง ๆ เมื่อก่อนผมได้รับมา
ก็จะแค่เก็บไว้ ไม่เคยคิดว่าเรื่องเหล่านี้จะช่วย อะไรได้ตามคนที่มีสติปัญญาแบบพุทธ ครับ

แต่เมื่อผมได้ประสพกับสิ่งที่ไม่คาดหมาย กับตัวผม และผมรอดมาได้ ผมคิดอะไรไม่ออกสิ่งที่เป็นสรณะอันแรก
ยามเราประสพภัย ก็คือวัตถุมงคล อันจะทำให้ใจเย็น ใจสงบความว้าวุ่นไปได้

การที่เราจะเชื่อมั่นใน พุทธคุณ ก็ต้องเชื่อเรื่องเหล่านี้ด้วยครับ เชื่อว่าพุทธคุณ นั้นมีอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ตามที่
พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้จริง ครับ มิฉะนั้น วัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่ต่างอะไรจาก เศษดิน เศษหิน เศษเหล็ก เศษทองเหลือง เศษเงิน เ้ป็นต้น

ดังนั้นขอให้ทุกท่านเชื่อมั่น ในพระพุทธคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยครับ จะมีความศักดิ์สิทธิ์
จริง ๆ ครับ พระพุทธรูป หลายองค์นะครับพอเราเข้าไปศึกษาประวัติความเป็นมา ทั้งที่อ้างอิงแล้วทุกคนล้วนแล้ว
จะเห็นว่า สิ่งเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์ จริง ๆครับ

  ไม่ว่า จะเป็น พระแก้วมรกต พระพุทธโสธร หลวงพ่อโตวัดบางพลี หลวงพ่อวัดบ้านแหม พระพุทธชินราช เป็นต้น ตลอดถึงพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอรหันต์ ทั้งหลายเหล่านี้้่ ล้วนแล้วต้องอาศัยศรัทธา ความเชื่อเป็นหลัก
ไม่ใช่ มองอย่างวิทยาศาสตร์

 :25:
102  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไมทำทานมามากมาย ก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:13:48 pm
การทำทาน ที่ขาดอุปการะ ทางธรรม

  1.อาบน้ำโคลน ทำทานนี้เพราะเพียงเพื่อ สิ่งตอบแทนเป็นรูปธรรม เช่น อยากถูกหวย อยากดวงดี เป็นต้น

  2.อาบน้ำหอม ทำทานนี้เพราะชื่อเสียง คือ โลกธรรมฝ่ายบวก เช่น ต้องการให้เขาสรรเสริญ ว่าเป็นคนใจบุญ เป็นต้น

  3.อาบน้ำสะอาด ทำทานด้วยความรู้สึกว่าทานนี้เพื่อการสละกิเลส

    ผมเคยไปนั่งฟังพระอาจารย์สนธยา ที่ลานวัดในวันปริวาส เมื่อปีที่แล้วท่านพูดการทำทาน 8 อย่าง

    ผมฟังแล้วปลื้มมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะการทำทานข้อสุดท้าย คือการทำทาน ที่เว้นว่างจากเรา จากของเรา

จากตัว จากตนของเรา ( เสียดายปีนี้ไม่ได้ฟังท่านพูดอีก เห็นว่าไม่ได้มา ) ฟังแต่เรื่องเรียไรบอกบุญ จริง ๆ ครับ

ปีนี้

 :25: :25: :25:
103  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อิฐสองก้อน จาก คุณร่มพร เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:09:01 pm
เป็นเรื่องที่น่าคิดมาก จริง ๆ ครับ

 ผมเคยได้ฟัง พระอาจารย์ พูดในงานวัดอยู่ครั้งหนึ่งว่า

   เวลาคนทำของหล่นไปในหลุม แล้วเอามือเอื้อมไม่ถึง คนนั้นมักจะพูดขึ้นว่า หลุมนี้ลึกจริง ๆ
   และก็ตีโพย ตีพาย ว่าหลุมมันลึกมาก ๆจึงหยิบไม่ได้ แต่ในทางมุมกลับกัน ถ้าคน ๆ นั้นเป็น
   คนเข้าใจหลักธรรมก็จะพูดขึ้นก่อนว่า แขนผมมันสั้น จึงหยิบไม่ถึง แล้วไปหาวิธีการที่จะหยิบ
   ของก้นหลุมขึ้นมา

  ฉันใด ก็ ฉันนั้น ผมสรุป ตรงนี้ก็คือ เวลาคนภาวนาไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ มักจะไปโทษ ครูบาอาจารย์
ว่าท่านสอนไม่ดี แต่บางครั้งถ้ามุมกลับมา อาจจะเป็นเพราะว่า ตัวเราเองนั้นบารมียังไม่พอ คือเรียนน้อย
ภาวนาน้อย เป็นต้น

   เหมือนเรื่อง อิฐสองก้อน ที่เรียงผิด แต่  อิฐก้อนอื่น ๆ นั้น ก็เรียงถูก เนื้อหาไม่ได้อยู่ที่เรียงถูก หรือ เรียงผิด
แต่เนื้อหาความจริง เรื่องนี้ต้องการสอนให้เรารู้ว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรสมบูรณ์หมดจด คนที่มีศีล ก็มาจากคน
ที่ไม่มีศีล คนที่ไม่มีธรรม ก็ใช่ว่า จะยังไม่มีธรรม คนที่โง่ ก็ใช่ว่าจะโง่เสมอไป แต่สิ่งบกพร่องในชีิวิตนี้ ต้องอยู่
กันได้ด้วยความเข้าใจ

  เคยฟังอีกเรื่อง จากพระอาจารย์ เรื่องผัวเมีย ที่หย่าร้างกัน เพราะเมียอ้างในคำหย่า่ว่า ผัวนอนกรน และอ้วน
ฉันเลยขอเลิก ฟังแล้วข้าง ๆ คู ๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่มีมากในสังคม

 คิดว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ ในแง่คิดมาก ๆ ครับ

  :25: :25: :25:
104  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อรหันต์องค์นี้ เรียกชาวบ้านทุกคนว่า "เจ้าคนถ่อย" อยู่เสมอ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:01:34 pm
อันนี้เรียกว่า คำ สบถ คือ พูดออกมาเป็นประจำ คำไทยเรียกว่า คำพล่อย

ไม่จัดเป็นคำด่า หรือ ว่า หรือ ตำหนิ แต่เนื่องด้วยคำที่พูดออกมานี้ เป็นคำแสลงใจ

ที่เมื่อผู้ฟังได้ฟังแล้ว มีความรู้สึกว่า ด่าเรา ทันทีเลยครับ

  เหมือนคำว่า เหี้ย ตะกวด ตัวเงิน ตัวทอง คำเหล่านี้ ล้วนแล้ว ถึงจะพูดให้ไพเราะขึ้น ผู้ฟังก็ยังฟังเข้าใจในเนื้อหา
ว่าเป็นคำด่า อยู่ดี

  ผมนั่งฟัง เวทีพันธมิตร พูดวันนี้ ที่มักจะพูดหลายครั้งโดยนานสนธิ
  จะเรียกคนที่ไม่ชอบว่า ไอ้หัว.....( ตามด้วยชื่อ ) ตรงจุด ๆ นั้นไม่ได้พูด แต่คนฟังก็ยังเข้าใจความหมาย
อยู่ดีว่า กล่าวถึงอะไร

  พยายามจะพิมพ์ความเข้าใจ โดยที่ไม่มีคำหยาบ ผิดพลาด ขออภัยด้วยนะครับ

 :67:
105  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 09:56:56 pm
อ่านตั้งแต่ข้อที่สี่เลยนะครับ ผมนำเสนอไว้แล้วบางส่วนครับ

เรื่องรวม ๆ เกี่ยวกับสมาธิ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2889.0

ถ้าจะให้แน่น ก็ขอรับหนังสือจากพระอาจารย์สนธยา เล่มล่าสุดครับ เล่มนี้มีประโยชน์ในการฝึก
อานาปานสติ มาก ๆ ครับ

หรือไม่ก็ไปอ่านที่นี่ก่อนนะครับ

อานาปานสติ ปฏิสัมภิทามรรค เพื่อการภาวนา
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=811.0
106  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ฝึกอานาปานสติ แล้วไม่หายใจ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 09:52:36 pm
ไม่เป็นอันตราย ครับ ยิ่งฝึกได้อย่างนี้แสดงว่า ลมหายใจ ปกติแล้วครับ
แต่ที่นี้ต้องพิจารณาตามขั้นตอน นะครับ

เพราะของคุณอยู่ ขั้นที่ 4 ระงับกายสังขารหายใจเข้า หายใจออก การกำหนดรู้ลมหายใจเปลี่ยนแล้วนะครับ

ต่อไปต้องกำหนดปีติ หายใจเข้า และ หายใจออก ปีติ คือ ความยินดีที่ระงัึบกายสังขารได้ นะครับ

ถ้าไม่มีก็แสดงว่า คุณกำลังเข้าสู่ อทุกขมสุขเวทนา คือวางอารมณ์เป็นกลางเฉย ๆเท่านั้นอันนี้มีประโยชน์ในการ
พักผ่อนครับ แต่ไม่มีประโยชน์ในการดับกิเลสครับ

อนุโมทนาด้วยครับ
 :25:
107  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ขอเชิญร่วมงานบุญ วัดบ้านค่าย ระยอง 1 - 5 มีนาคม 2554 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 02:37:43 am
ขอเชิญพี่น้องชาวระยอง พุทธศาสนิกชน และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน

ร่วมงานปิดทองประจำปี 2554 ณ วัดบ้านค่าย

ในระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2554

ร่วมปิดทองพระประธาน ร.ศ.103 หลวงพ่อวงศ์ หลวงพ่อติ่ง

และในวันที่ 4 มีนาคม 2554 มีเทศน์มหาชาติ พร้อมชมมหรสพสมโภชได้ตลอดงาน
108  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / วันที่ 8 ก.พ. - 25 ก.พ. 56 เทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 02:31:31 am


งานวัดเขาวงพระจันทร์ครับ

อยาลืมไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท กันนะครับ


109  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: แฟนผมโดนผีเข้าบ่อย แก้ไขยังไงดีครับ เครียดมาก เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 12:31:55 am
ผมว่ารีบดำเนินการ ตามคำแนะนำก่อน อย่าลังเลเลยครับ

 เพราะถ้าจะมัวแต่ไปพิสูจน์ นั้นเป็นเรื่องยาก เชื่อไว้ไม่เสียหลายครับ

 ข้างบ้านผม ก็มีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนผีเข้า ไปที่วัดพระท่านอาบน้ำมนต์ให้ กลับมาก็ไม่มีอาการคลุ้มคลั่ง

ปกติผมเป็นคนที่เชื่อแต่เรื่องปัญญา ในกรณีนี้ผมก็ไม่มีคำอธิบาย

 แต่ผู้ทำต้องมีศรัทธา เคยถามหลวงพ่อท่านว่า คนที่มีอาการผีเข้า ส่วนมากเป็นคนที่มีจิตอ่อนเกิดวันเดือนดับ

พวกนี้จิตอ่อน พวกสัมภะเวสีชอบอาศัยร่าง

 :25:
110  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เขมรโจมตีไทย....ภาวะสนามรบชายแดนเดือด เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2011, 12:19:59 am
สงสารคนชายแดน จริง ๆ

บ้านเมืองเรา ผีซ้ำด้ามพลอย ตลอดปีเลย ๆ คนหาเช้ากินค่ำ ลำบากตลอดศก

 :41:
111  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: น้องชายซึ่งเป็นพระ ได้ขอให้ผมไปลงโปรแกรมให้พระที่วัด... เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2011, 11:57:10 pm
เห็นด้วยครับ ว่าเราทำแล้วไม่สบายใจ อย่าไปทำเลยครับ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่จะต้องทำให้ได้นะครับ

 :s_hi:
112  เรื่องทั่วไป / IT สาระประโยชน์ชาวธรรม / Re: วิธีเพิ่มความเร็วเน็ต แบบง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง ผมทำแล้วได้ผลดีมาก ครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 11:09:54 pm
ขอบคุณมากครับ วันนี้ผมทดสอบลองทำกับเครื่องผม ที่เป็น winxp sp3 ครับ

ด้านล่างคือภาพก่อนทำที่ผมจะหงุดหงิดมาตั้งแต่ติดตั้ง ทั้ง ๆ ที่ทาง 3bb ก็ให้ใช้ 6 mb มาตั้งหลายเดือนแล้ว



วันนี้หลังจากผมทำการเปลี่ยนแปลง ตามครบทุกข้อ และ test เครื่องอยู่เห็นชัดทันทีครับ

เข้าเว็บนี้ ปรู๊ด ปร๊าด พอ  test อีกครั้ง ก็ได้ความเร็วตามภาพที่สองนี่แหละครับ



ตอนนี้ test เ้ครื่องใช้งานอยู่ครับทุกอย่างปกติดี ครับ อย่างไรเสีย ถ้ามีปัีญหาในสามวันนี้ผมจะกลับมาแจ้ง

เพื่อน ๆ สมาชิก ทุกท่านครับ

ขอบคุณท่าน จขกท. ด้วยครับ
 :25: :25: :25:
113  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ทำไม พระสงฆ์ปัจจุบัน ถึงได้ พยายามสร้าง เทวรูป ต่าง ๆ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 09:54:37 pm
ไม่แปลกใจ ผมไปที่วัดมาในวันนี้เป็นวันพระ วัดหนึ่ง มีเจ้าอาวาส เป็นเปรียญครับ

ท่านชวนผมร่วมปฏิบัติธรรม แต่พออยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับเป็นผมนั่งภาวนา อยู่กับเพื่อนอีกสองสามคน

เจ้าอาวาสไปนั่งดูทีวีเฉยเลยครับ พอถามธรรมะท่านก็ชวนบริจาคสร้างกุฏิ วิหาร ไปนั่น

สรุปแล้วผมว่ายุคนี้ พระไม่ได้ปฏิบัติภาวนาจริง ผมให้ตัวเลขถึง 80%เลยครับ คงเหลือแต่วัด สายวัดป่า

ที่ยังเห็นมีการภาวนา ถ่ายทอดธรรม


  เอาง่าย ๆ ครับ วัดใน กทม. มีกี่วัด ครับ แต่พอพูดถึงวัดที่มีการภาวนา ถ่ายทอดธรรม ผมว่าท่านไล่ชื่อกันได้
ไม่ถึง 100 วัดแน่ครับ

  ในสระบุรี มี 400 กว่าวัด ๆ ที่มีการภาวนาจริง ๆ มีไม่ถึง 30 วัด ครับขนาดประกาศสำนักปฏิบัติธรรม ยังไม่เกิน
20 วัดเลยครับ ถ้าเอา 400 หาร 20 ดูครับ ยิ่งกว่า 80% อีกครับ นี่ผมเอาจังหวัดที่ผมอยู่นะครับ

น่ากลัวว่ายุคนี้ พระอนาคามี ก็แทบจะหายากเลยครับ

 :smiley_confused1:

114  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / การวางอารมณ์ในกรรมฐาน มีขั้นตอนอย่างไรครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2011, 11:02:14 pm
อยากทราบวิธีการวางอารมณ์ ในกรรมฐาน นั้นมีขั้นตอนอย่างไรครับ

 ต้องเรียน อะไรก่อน หลัง และ ต้องภาวนา อะไร ก่อน หลัง ครับ

 :25:
115  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ไฟไหม้ตลาดนัดสนามหลวง2วอด เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 12:50:00 am
ไฟไหม้ตลาดนัดสนามหลวง2นานนับชั่วโมงวอดกว่า200ล็อคคาดไฟฟ้าลัดวงจร

 วันนี้( 28 ม.ค.)  ร.ต.ท.ราชันอ่อนใจ พนักงานสอบสวน (สบ 1)สน. ศาลาแดง เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายสินค้าในตลาดนัดสนามหลวง 2 ถนนทวีวัฒนา จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาพร้อมรถดับเพลิงกว่า 50 คันรุดไปที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงอยู่ระหว่างการลุกไหม้ ช่วงโซน 1 เป็นร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด ของเบ็ดเตล็ด โดยต้นเพลิงเกิดจากร้านเฟอร์นิเจอร์ ไม้สักล็อกที่  13-16 ก่อนลุกลามไปยังร้านขายผ้าม่านที่อยู่ใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำสกัด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบพบร้านค้าถูกเพลิงไหม้เสียหายกว่า 200 ล็อก จาก การสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาปิดทำการมีเพียงพ่อค้า-แม่ค้าที่นำของ มาลงเพื่อเตรียมขายในวันเสาร์-อาทิตย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหาย อยู่ระหว่างการสอบสวนต่อไป.

ที่มา
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=561&contentId=118135
116  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ที่มาของรูปที่เขาร่ำลือกันว่าเป็นรูปของพระพุทธเจ้า เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 12:43:57 am




อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องได้ที่ลิงก์ ด้านล่างครับ เยอะมากในคำวิจารณ์ ที่มีประโยชน์ ครับ

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/11/Y4842339/Y4842339.html

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/02/Y8849023/Y8849023.html
117  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ธรรมเจดีย์ อายุเก่าแก่กว่า ๒,๐๐๐ ปี ... เมื่อ: มกราคม 29, 2011, 12:34:20 am
ธรรมเจดีย์  เป็นพระะคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอันศักดิ์สิทธิ์ อายุเก่าแก่กว่า ๒,๐๐๐ ปี

พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณที่ถูกค้นพบในถ้ำแถบหุบเขาบามิยัน แคว้นคันธาระ ประเทศอัฟกานิสถานปัจจุบัน

คาดว่าถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปีพุทธศตวรรษที่ ๖ โดยพระสาวกรุ่นแรกๆ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ถือได้ว่าเป็นต้นฉบับพระไตรปิฎกของพุทธศาสนา

หลังจากถูกค้นพบพระคัมภีร์ถูกนำไปเก็บไว้ ณ สถาบันอนุรักษ์สเคอเยน

ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เอกสารโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ได้มีการชำระพระคัมภีร์โดยความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาสันสกฤตโบราณ

และมหาวิทยาลัยออสโล ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานถึง ๑๒ ปี

เนื่องจากเป็นเอกสารโบราณล้ำค่าที่เก่าแก่มาก

ทางสถาบันอนุรักษ์สเคอเยนยังไม่เคยอนุญาตให้นำไปจัดแสดงที่ไหน

แต่ด้วยความร่วมมือจากรัฐบาลนอร์เวย์

ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่พระคัมภีร์จะถูกอัญเชิญออกนอกประเทศนอร์เวย์

เพื่อมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย เป็นเวลา ๙๐ วัน

งานนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลนอร์เวย์ ที่ได้มีการเตรียมการมาเกือบ ๒ ปี การจัดงานในครั้งนี้

เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย–นอร์เวย์

ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นมาร้อยกว่าปีนับแต่รัชสมัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเยือนนอร์เวย์เป็นครั้งแรก


และนับว่ามีความสำคัญยิ่งต่อประเทศไทยและพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่จะได้สักการะธรรมเจดีย์ 

ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

และจะได้ศึกษาเรื่องราวแห่ง   พระธรรมคำสั่งสอนจากนิทรรศการที่จะได้จัดให้มีขึ้นต่อไป

หาก ท่านที่สนใจ จะไปกราบสักการะ ไปได้ที่

 อาคารพิพิธภัณฑางพระพุทธศาสนา พุทธมณฑล  และชมนิทรรศการถึงความเป็นมาแห่งพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เริ่มมาตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ น. – ๑๘.๐๐ น. ทุกวันค่ะ

ที่มา http://www.onab.go.th/index.php?option=com_content&view=article&id=3899:2010-11-09-17-02-50&catid=25:2008-09-16-16-33-35&Itemid=219


ควรหาโอกาสไปสักการะค่ะ เพราะจะอัญเชิญกลับประเทศนอร์เวย์เร็ววันนี้ค่ะ







ที่มาจากคุณ mod2002 ครับ
118  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สติ เหนือกรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ) เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 12:23:38 am
สติ เหนือกรรม (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)




ทุก คนชอบบุญ ทุกคนไม่ชอบบาป แต่ปัจจุบันก็น้อยคนนักที่ปฏิเสธคำยั่วยุต่างๆ นานาของบาป หรือของกรรมนั่นเอง มีน้อยคนนักที่เข้มแข็งปฏิเสธคำยั่วยุของบาปกรรมได้สำเร็จ การทำบาปทำไม่ดีจึงไม่เบาบางจากโลก ทั้งยิ่งวันก็ยิ่งมากขึ้นทุกที


ที่ รู้ได้ดังนี้ก็ด้วยเราพากันสารภาพเอง บอกเองว่า โลกทุกวันนี้มืดแล้ว ไม่มีแสงแห่งความดีงามเพียงพอจะสู่กับอำนาจเลวร้ายของกรรม ที่จริงเราพากันแพ้กรรม ยอมตกอยู่ใต้อำนาจบังคับบัญชาของกรรม ยอมคิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย ได้ต่างๆ นานา


ไม่ใช่เพราะเราอยากทำเช่นนั้น ไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดี ไม่มีใครอยากเป็นคนชั่ว แต่ที่พากันเป็นคนชั่วคนไม่ดีก็เพราะตกอยู่ใต้อำนาจของกรรม โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกกรรมบัญชา ถูกกรรมสั่งให้ยอมเป็นคนไม่ดี ความยินยอมพร้อมใจไปกับกรรมก็เพราะขาดสติอย่างสิ้นเชิง จนไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว ไม่รู้ความควร ไม่รู้ความไม่ควร


สติจึงสำคัญนัก สำคัญที่สุด สติจะทำให้ผู้มีสติรู้ผิดรู้ชอบดังกล่าวแล้วไม่มีใครอยากทำผิด ถ้ามีสติรู้ตัวรู้ผิดชอบ จะรู้เมื่อกรรมเข้ามาบัญชา จะไม่ยอมแพ้กรรม นั่นก็คือจะสามารถรักษาตัวให้พ้นจากการเป็นคนคิดชั่ว คนพูดชั่ว คนทำชั่วได้


จงเห็นความสำคัญที่สุดของสติ พยายามมีสติไว้ให้เสมอ คือพยายามอย่าให้ขาดสติ อะไรเกิดขึ้นได้จะได้ไม่ยอมเป็นผู้แพ้กรรม จะรู้ถูกรู้ผิด รู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ชอบ อะไรจะพาไปถูกก็รู้ อะไรจะพาไปผิดก็รู้ อะไรจะพาไปดีก็รู้ อะไรจะพาไปชั่วก็รู้


ความ มีสติรู้เช่นนี้สำคัญนัก ให้มีสติจริง ให้รู้จริง จะไม่ตกอยู่ใต้บังคับบัญชาที่เลวร้ายรุนแรงของกรรม กรรมที่ทุกคนได้ทำไว้มากมายด้วยกันทั้งนั้น เพราะเป็นสิ่งที่สั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน


อกุศลกรรมคือกรรม ไม่ดี ตามทันเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละที่จะบังคับบัญชาผู้ที่ได้ทำกรรมไม่ดีไว้ ให้ทำบาปทำชั่วต่างๆ นานา อันจะฉุดกระชากลากถูไปสู่ห้วงเหวแห่งความชั่วร้าย ที่จะให้โทษทุกข์รุนแรงทั้งสิ้น


: แสงส่องใจ ๑ มกราคม ๒๕๔๙
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
119  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: อยากให้เพิ่ม ส่วน ฟอร์เวิร์ดเมล์ ธรรมะ ครับ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 11:39:38 pm
ปาติหาน กับ เรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้

ดูแล้วซึ้ง ดี ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้สัก 1 % ก็ถือว่าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว ในโลกไซเบอร์

 :s_good:
120  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / เรื่องรวม ๆ เกี่ยวกับสมาธิ เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 12:40:01 am
การทำสมาธิ

การทำสมาธิของคนส่วนใหญ่ประสบกับความล้มเหลว
หรือก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นลบกับการทำสมาธิ
เพราะขาดแนวทางที่ถูกต้อง
หรือมองแนวทางที่ถูกต้องแบบผิดๆ
ซึ่งก็หมายความว่ายิ่งทำสมาธิเท่าไร
ใจก็ยิ่งแกว่ง หรือห่างไกลจากสมาธิที่ถูกที่ชอบมากขึ้นเท่านั้น
ความเข้าใจขั้นพื้นฐานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด
ถ้าขาดความเข้าใจแล้วกระโดดไปพยายามทำสมาธิเลย
เกือบร้อยทั้งร้อยจะพยายามเพ่งจับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแน่นเกินไป
หรือไม่ก็จ้องบังคับความคิดของตัวเองให้ดับไปดื้อๆ
การทำสมาธินั้น ทุกคนหวังจะได้ผลเป็นความสุขสงบ
พูดง่ายๆ สมาธิคือการเปลี่ยนอึดอัดเป็นสบาย
แต่หลายคนทำสมาธิแล้วเปลี่ยนสบายเป็นอึดอัด
แล้วจะไปชอบใจหรือเห็นค่าของสมาธิได้อย่างไรกัน?
เพื่อจะมองเห็นทั้งเป้าหมายของสมาธิแบบที่พระพุทธเจ้าสอน
ตลอดจนทราบขั้นตอนของความสำเร็จอย่างชัดเจน
ก็ขอให้ทำความเข้าใจผ่านข้อสงสัยในหมู่นักเจริญสติ
ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด และก่อให้เกิดความละล้าละลังที่สุด ดังต่อไปนี้


๑) การทำสมาธิกับการเจริญสติต่างกันอย่างไร?
สมาธิคือภาวะของจิตที่ "ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว"
คือนิ่งอยู่กับตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งสิ่งอื่น
หรือเมื่อมีสิ่งอื่นมารบกวนก็ไม่แกว่งไกวตามง่ายๆ
สติคือภาวะของจิตที่ "รู้เรื่องรู้ราว"
คือไม่ใช่เอากันแค่นิ่งอยู่ในฝัก
แต่ตัดเชือกกันว่าเอาตัวรอดได้หรือเปล่าด้วย
เปรียบเทียบได้กับคนที่เผชิญกับอุบัติเหตุกะทันหัน
ต้องนิ่งด้วย แล้วก็มีความเฉียบคมฉับไวด้วย
จึงจะหลีกหลบสิ่งที่พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเป็นอัตโนมัติทันเวลา
ทางพุทธเปรียบสิ่งกระทบหูตาและกายใจทั้งหลาย
ว่าเหมือนเป็นภัยหรือยาพิษ
เมื่อไม่รู้ว่าเป็นภัยหรือยาพิษเราก็ไม่หลีกหลบ
ผลลัพธ์คือจิตเกิดความเสียหายอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน
สัมมาสติคือฝึกรู้ในสิ่งที่ควรรู้
ไม่ว่าจะนับจากก้าวแรกที่เห็นลมหายใจ
ไปจนถึงก้าวสุดท้ายที่เห็นธรรมทั้งปวง
ล้วนแต่ควรรู้ว่าเหล่านั้นไม่เที่ยง
บังคับให้เป็นอย่างใจไม่ได้
ไม่อาจคงรูปให้เป็นตัวเป็นตนอย่างใดอย่างหนึ่งถาวร
เมื่อรู้ความจริงก็จะได้ไม่มีอาการยึด
เช่น เมื่อรู้แล้วว่าจิตไม่เที่ยง
บังคับจิตให้เป็นไปตามต้องการไม่ได้
เราก็จะได้ไม่คาดหวัง
ยึดมั่นสำคัญผิดว่าจะให้มันทรงนิ่งอยู่ตลอด
หรือเมื่อรู้แล้วว่ากายไม่เที่ยง
เหนี่ยวรั้งให้กายคงอยู่ในสภาพใดสภาพหนึ่งไม่ได้
เราก็จะหมดความทุรนทุรายเมื่อมันเหี่ยวย่นลง
หรือแม้กระทั่งร่างของบุคคลอันเป็นที่รักแตกดับ
เราก็จะไม่ร่ำร้องคร่ำครวญให้ร่างนั้นกลับฟื้นคืนชีพ
การเจริญสติมุ่งหมายเอาการฝึกรู้กายใจตามจริง
ผลลัพธ์สุดท้ายคือสมาธิที่เรียกว่า "อริยสมาธิ"
คือจิตตั้งมั่นรู้อยู่เองเป็นอัตโนมัติว่า
กายใจไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวเราจริงๆ
ดังนั้น ถ้าจะกล่าวโดยภาพรวม
ก็ต้องบอกว่าการทำสมาธิแบบพระพุทธเจ้า
คือ "การเจริญสติ" แบบที่เราได้ยินกันมากขึ้นในยุคนี้นั่นเอง
เมื่อทำสมาธิจนเป็นอริยสมาธิเต็มขั้น
ก็คือการเกิดปรากฏการณ์ล้างผลาญกิเลสเป็นขั้นๆ
เรียกว่ามรรคผลขั้นโสดา สกทาคา อนาคา และอรหัตต์ตามลำดับ


๒) สมถะกับวิปัสสนาต่างกันอย่างไร?
สมถะหมายถึงการอาศัยวิธีอันเป็นธรรมใดๆ
ทำให้ใจสงบจากกิเลส เพื่อให้พร้อมรู้เป็นวิปัสสนา
พูดสั้นๆคือ "ทำจิตให้สงบลงพร้อมตื่นรู้ตามจริง"
ปัจจุบันคนมักพูดถึงการทำสมถะ
ว่าคือการนั่งสมาธิและเดินจงกรม
หรือหนักกว่านั้นคือสมถะเป็นเครื่องถ่วง
ไม่ให้สนใจวิปัสสนา
ติดสมถะแล้วคือได้ไปเป็นพรหม
หมดสิทธิ์เข้าถึงมรรคผลนิพพาน
สมถะเลยถูกมองเป็นผู้ร้าย
และเห็นวิปัสสนาเป็นพระเอก
ข้อเท็จจริงก็คือไม่มีใครเป็นผู้ร้าย
ไม่มีใครเป็นพระเอก
มีแต่ขาสองข้างที่พาเราเดินไปถึงฝั่ง
ขาดข้างใดข้างหนึ่งก็เรียกว่าขาเป๋
เดินลำบาก ไปถึงปลายทางได้ยาก
หรือยิ่งถ้าขาข้างที่เหลือป้อแป้ปวกเปียก
ก็อาจออกจากจุดเริ่มต้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
คำว่า "วิปัสสนา" นั้น
รากของนิยามมาจากที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสในวิธีเจริญสติ
ใจความคือให้
"ดูกายใจนี้ตามจริงเท่าที่ปรากฏอยู่เป็นปกติ"
และที่เป็นปกติเลยก็คือทั่วทั้งกายใจนี้
กำลังแสดงความไม่เที่ยงให้เราเห็นอยู่ตลอดเวลา
นับตั้งแต่ลมหายใจเข้าออกไปจนกระทั่งความรู้สึกนึกคิด
ใครจะทำหรือไม่ทำวิปัสสนา
กายใจก็แสดงความจริงอยู่อย่างนั้น
ผู้ทำวิปัสสนาเพียงแต่เข้าไปดู เข้าไปรู้อย่างยอมรับเท่านั้นเอง
ฟังดูเหมือนง่าย
แต่ลงมือทำจริงจะยาก
นั่นก็เพราะจิตกระเพื่อมด้วยพลังกระตุ้นของกิเลสอยู่เรื่อยๆ
เช่น แค่ไม่อยากยอมรับว่าเราเป็นฝ่ายผิด
จิตจะบิดเบี้ยว กิเลสจะกระตุ้นให้หาเหตุผลสารพัด
มาพูดให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูก
คนเราสั่งสมนิสัยเช่นนี้กันโดยมาก
คนส่วนใหญ่จึงมีจิตที่ยอมรับตามจริงได้ยาก
หรืออย่างตอนฟุ้งซ่านหาทางแก้ตัวอยู่
ตอนฟุ้งซ่านหาทางมีความสัมพันธ์ทางเพศ
ตอนฟุ้งซ่านหาทางแก้เผ็ดคนที่ทำให้เราเจ็บใจ
จะไม่มีสิทธิ์เห็นความฟุ้งซ่าน
และความฟุ้งซ่านย่อมบดบังทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นโลกภายนอกที่ปรากฏตรงหน้า
หรือจะเป็นโลกภายในทางกายทางใจใดๆ
การทำสมถะจึงมีบทบาทสำคัญ ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ยังกระเพื่อมไหวอยู่มาก
หากอาศัยสมถะมาช่วย ก็จะเห็นอะไรชัดกระจ่างแตกต่างไป
สรุปว่าสมถะคือการลดระดับความกระเพื่อมไหว
หรือสมถะคือการรักษาจิตไว้ไม่ให้กระเพื่อมไหวก็ได้
ประเด็นคือเมื่อจิตลดความกระเพื่อมไหวแล้ว
จึงค่อยมีความสามารถเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาชัดๆ
ไม่ใช่เห็นแบบโคลงเคลง ไม่ใช่เห็นแบบโยกไปไหวมา


๓) จะต้องเริ่มด้วยสมถะหรือวิปัสสนาก่อน?
มักมีการอ้างถึงพระอานนท์
ที่ท่านใจกว้าง เปิดรับทั้งลูกศิษย์ที่ชอบทำสมถะก่อนวิปัสสนา
หรือแบบที่อยากทำวิปัสสนาก่อนสมถะ
ตลอดจนแบบที่อยากทำทั้งสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไป
ความจริงก็คือถ้าเราดูที่ตัวเองอย่างเข้าใจ
ว่าเหมาะกับอะไร
ไม่ถือเอาตายตัวเป็นสากลว่าเริ่มอันไหนก่อนถึงจะดีกว่า
ปัญหาก็จะหมดไป และไม่ต้องกังขาอยู่เนืองๆ
ยกตัวอย่างถ้าเป็นคนกลัดกลุ้มรุ่มร้อนในราคะ โทสะ โมหะอยู่เรื่อยๆ
ก็อย่าเพิ่งฝืนทำวิปัสสนาให้ยาก
ต้องหาทางลดความรุ่มร้อนลงเสียบ้าง
เช่น ลดเหตุแห่งความตรึกนึกถึงเรื่องกามและเรื่องโกรธ
หันมาแผ่เมตตาหรือปลงสังเวชในความเน่าเปื่อยแห่งกายเสียบ้าง
พอร้อนเปลี่ยนเป็นเย็น พอทะยานอยากเปลี่ยนเป็นสงบระงับ
จิตถึงค่อยพร้อมจะเห็นตามจริงแบบวิปัสสนาได้
แต่หากเป็นคนยอมรับตามจริงได้ง่ายมาแต่ไหนแต่ไร
เคยมีนิสัยเห็นประโยชน์ตามที่มันเป็นประโยชน์
เห็นโทษตามที่มันเป็นโทษ สำนักผิดตามที่ทำผิด
กับทั้งรักษาวาจาสัตย์ พูดคำไหนคำนั้นไม่กลับกลอก
ไม่พูดเอาดีเข้าตัว ไม่โยนชั่วให้คนอื่น
เช่นนี้ไม่ต้องพยายามทำสมถะมากก็ยกขึ้นวิปัสสนาได้เลย
ทำวิปัสสนาไป เดี๋ยวจิตคลายความยินดีในกิเลสทั้งหลาย
กลายเป็นสมถะไปในตัวได้เอง


๔) อานาปานสติคืออะไร?
อานาปานสติเป็นทั้งการทำสมาธิและการเจริญสติ
เป็นทั้งสมถะและวิปัสสนาในคราวเดียวกัน
แต่อย่างที่กล่าวแล้วว่าต้องมี "ความเข้าใจ" เป็นทุนก้อนแรกไว้ก่อน
หากปราศจากความเข้าใจแล้ว
อานาปานสติอาจเป็นสมาธิเก๊ๆ เป็นการเจริญสติเทียมๆ
หรืออาจเป็นสมถะถ่วงความเจริญ หรืออาจเป็นวิปัสสนายาพิษ
แทนที่จะเห็นอะไรตามจริง
กลับเห็นแต่อะไรที่ส่งเสริมสนับสนุนให้เข้าข้างตัวเอง
พอกพูนมานะอัตตาให้ยิ่งๆขึ้นไปได้ทุกวัน
ขอให้ทำความเข้าใจอย่างถูกต้อง
หากกล่าวว่าอานาปานสติเป็นสมาธิ
ก็หมายความว่าเป็นสมาธิ
ที่อาศัยลมหายใจเป็นหลักตรึงจิตให้ตั้งมั่น
หากกล่าวว่าอานาปานสติเป็นการเจริญสติ
ก็ต้องหมายความว่าเป็นการเจริญสติ
ที่อาศัยการยอมรับตามจริงว่าลมหายใจไม่เที่ยง
ยอมรับตามจริงว่าเมื่อใดถึงเวลาเข้า เมื่อใดถึงเวลาออก
เมื่อถึงเวลาควรหยุด
กระทั่งเห็นชัดขึ้นมาเองว่าลมหายใจนั้น
เข้าแล้วต้องออก ออกแล้วต้องหยุด หยุดแล้วก็ต้องเข้าใหม่
เดี๋ยวก็ยาว เดี๋ยวก็สั้น หาความเที่ยงไม่ได้
มีแต่ภาวะพัดไหวของธาตุลม
ไม่ได้ต่างจากสายลมที่พัดกิ่งไม้ใบหญ้าแม้แต่นิดเดียว
เห็นจนพอ ในที่สุดจิตก็ยอมรับตามจริงว่าลมไม่เที่ยง
ไม่มีลมไหนเลยในชีวิตที่เป็นตัวเรา
ไม่มีลมไหนเลยที่เป็นบุคคล ตัวตน เราเขา
แม้สุขที่เกิดจากอานาปานสติ
ตั้งอยู่ได้นานแค่ไหนก็ต้องเสื่อมลงเป็นธรรมดา
ไม่ต่างจากลมหายใจแต่อย่างใดเลย
เมื่อเข้าใจอยู่ด้วยมุมมองข้างต้น
คำว่าสมถะและวิปัสสนาก็กลายเป็นเครื่องเสริมกัน
ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องมาตีกันในอานาปานสติ
ลมหายใจและความสุขสดชื่นจะเป็นเครื่องล่อใหม่
ให้จิตของเราผละออกมาจากเหยื่อล่อแบบโลกๆ
นั่นถือเป็นสมถะ ยกจิตให้พร้อมรู้
และความไม่เที่ยงของลมหายใจที่ปรากฏให้รู้
ก็จะก่อให้เกิดปัญญาเห็นตามจริง
กระทั่ง "ทิ้ง" อุปาทาน เกิดปรากฏการณ์มรรคผลขึ้นในที่สุด


๕) ทำอานาปานสติควรลืมตาหรือหลับตา?
คำตอบคือขึ้นอยู่กับว่าเรามีเวลาเท่าไร ทำที่ไหน
มีเวลามากสักชั่วโมงหลับตาก็ดีจะได้ไม่วอกแวก
มีเวลาน้อยตอนคอยใครจะลืมตาก็ดีจะได้ไม่หลงเพลิน
ในอานาปานสติสูตร
พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงเจาะจงให้ลืมตาหรือหลับตา
แต่ขอให้พิจารณาตามจุดยืนจริงๆของแต่ละคน แต่ละขณะ
ถ้าลืมตาจะวอกแวกตามเหยื่อล่อสายตาไหม?
ถ้าหลับตาจะเคร่งเครียดเห็นนิมิตล่อใจวุ่นวายไหม?
ถ้ากำลังลืมตาหรือหลับตาแล้วเกิดข้อเสียใดๆ
ก็สลับกันเสีย เพื่อขับไล่ข้อเสียนั้นๆไป เท่านี้ก็จบ
หากลืมตาแล้วรู้ลมหายใจได้ต่อเนื่อง ก็ควรลืมตาให้มาก
หากหลับตาถึงจะรู้ลมหายใจได้นานๆ ก็ควรหลับตาให้ต่อเนื่อง
อย่าไปกลัว หรือไปยึดรูปแบบว่าจะเอาอย่างไหนถึงจะถูก
เพราะมันถูกตรงจิต ตรงสติ ตรงความสามารถรู้ความไม่เที่ยง
ไม่ใช่ถูกตรงหลับตาหรือลืมตา
สำหรับคนส่วนใหญ่จะพบว่าการหลับตา
คือการปิดกั้นเครื่องรบกวนสายตา อันนี้ก็ถูก
แต่สำหรับคนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ถูกรบกวนด้วยเครื่องล่อตาง่ายๆ
และสมัครใจลืมตาทำอานาปานสติ อันนี้ก็อย่าว่ากัน


๖) ทำอานาปานสติควรนั่งขัดสมาธิหรือนั่งเก้าอี้?
ถ้านั่งขัดแข้งขัดขานานๆ
กล้ามเนื้อจะหดเกร็ง
และยิ่งถ้าได้ความพยายามเพ่งลมหายใจมาเสริม
สักพักเดียวก็อาจพบว่าเหน็บกินเหมือนร่ำๆจะพิการได้
แรกเริ่มจึงควรนั่งเก้าอี้ก่อน
อย่าไปติดยึดว่านั่งขัดสมาธิได้ถึงจะเก่งหรือถึงจะถูก
เมื่อนั่งเก้าอี้เจริญอานาปานสติจนบังเกิดความชุ่มชื่นแล้ว
คุณจะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อผ่อนคลายสบายมาก
เพราะร่างกายหลั่งสารดีๆออกมา
และจิตก็ไม่ก่ออาการบีบคั้นร่างกายดังเคย
ถึงตรงนั้นถ้าเลื่อนขั้นมานั่งขัดสมาธิ
ก็จะได้ความสมดุลครบวงจร
ตามที่พระพุทธเจ้าแนะว่าอานาปานสติที่สมบูรณ์


๗) เสียงช่วยกำกับการฝึกอานาปานสติมีประโยชน์อย่างไร?
ปกตินักทำสมาธิหรือนักเจริญอานาปานสติมือใหม่
จะจับทิศจับทางไม่ถูก ได้หน้าลืมหลัง ไม่รู้จะเริ่มหนึ่ง สอง สามอย่างไร
ถ้ามีเสียงบอกคอยช่วย ก็จะมีประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องหลงทาง
เหมือนคนเพิ่งฟื้นจากสลบกลางหมอกจัด
ถ้ามีใครมาจูงมือและคอยบอกว่าต้องก้าวขึ้นบันไดอย่างไร
เตือนให้ช้าหรือเร่งให้เร็วตามความเหมาะสมที่จังหวะไหน
โอกาสจะเข้าเขตปลอดโปร่ง ไม่ต้องหลงวกวนค่อยสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อจับหลักได้ถูกต้องแม่นยำแล้ว
ก็ไม่ควรอาศัยเสียงเป็นเครื่องช่วยกำกับ
เพราะเสียงเป็นปฏิปักษ์กับสมาธิจิต
ถ้าคอยพะวงฟังเสียงหรือแปลความหมายของเสียงอยู่
จิตก็จะไม่วิเวกเต็มรอบ เข้าถึงฌานได้ยาก
ไฟล์เสียงช่วยกำกับการฝึกอานาปานสติจากดังตฤณ
แบ่งออกเป็นหลายช่วง
จุดประสงค์เป็นไปเพื่อให้ฟังแล้วเข้าใจตลอดสาย
ว่าจะดำเนินจิตแบบนับหนึ่ง สอง สาม กันท่าไหน
ขณะหนึ่งๆอยู่ตรงขั้นใดของอานาปานสติ
และกระทั่งจะนำไปเทียบเคียงกับโพชฌงค์ได้อย่างไร


http://www.dungtrin.com
หน้า: 1 2 [3] 4