ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บูชาคนที่ควรบูชา  (อ่าน 1137 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28479
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
บูชาคนที่ควรบูชา
« เมื่อ: มีนาคม 13, 2020, 06:42:45 am »
0

 :25: :25: :25:

สูตรความสำเร็จในชีวิต (4) : บูชาคนที่ควรบูชา

สูตรสำเร็จในชีวิตข้อต่อไปนี้คือ การบูชาคนที่ควรบูชา พอได้ยินคำว่า “บูชา” ก็คงนึกถึงดอกไม้ธูปเทียนขึ้นมาทันทีใช่ไหมครับ

เราเคยไปวัดกับคุณพ่อคุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เห็นท่านเอาดอกไม้ไปประดับที่แท่นพระ จุดเทียนสองเล่ม ธูปสามดอก ยกจบศีรษะแล้วทำปากขมุบขมิบ ว่าอะไรไม่รู้ แล้วท่านก็หันมาบอกว่า เอ้า บูชาพระเสียลูก

นี่คือ ความหมายของการบูชาที่เราได้ทราบ การบูชาคนที่ควรบูชา ก็คงหมายถึงเอาดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ท่านเหล่านั้น ไม่น่าจะเป็นอย่างอื่น


@@@@@@

ช้าก่อนโยม การบูชานั้นมีหลายอย่าง อย่างที่ว่ามานั้นก็ใช่ แต่ยังไม่หมด การบูชาสามารถแสดงออกได้ 3 ทาง คือ
    1. ยกย่อง เช่น เรายกย่องคนดี (ปัคคหะ) เป็นการบูชาอย่างหนึ่ง
    2. บูชาด้วยสิ่งของ (สักการะ) เป็นการบูชาอย่างหนึ่ง
    3. นับถือ (สัมมานะ) ก็เป็นการบูชาอีกอย่างหนึ่ง

จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้เรียกว่า “บูชา” เหมือนกันหมด แต่ละอย่างต้องใช้ให้ถูกต้อง เช่น
    - ตึ๋งพูดกับต้อยว่า “ต้อยสุดบูชาของพี่” หมายความว่า ตึ๋งยกย่องให้เกียรติ (ปัคคหะ) สาวคู่รัก มิใช่จุดธูปเทียนบูชา
    - ชาติชาย (คนละคนกับท่านนายกฯ) บูชาพระรัตนตรัย หมายความว่า ชาติชายชุดธูปเทียนสักการะพระรัตนตรัย (สักการะ)
    - ประมาณ (คนละคนกับท่านรัฐมนตรีมหาดไทย) พูดว่าจำลอง (คนละคนกับหัวหน้าพรรคพลังธรรม) เป็นคนบูชาตัวเอง หมายความว่า จำลองนับถือตัวเอง (สัมมานะ)

เพราะฉะนั้น การบูชาคนที่ควรบูชา ก็หมายถึงยกย่อง เชิดชูคนที่ควรบูชานั้นแล แจ้งจางปางแล้วใช่ไหมครับ

@@@@@@

บุคคลที่ควรบูชาระดับสูง คือ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์
รองลงมาก็คือ อุปัชฌาย์ อาจารย์ บิดา มารดา พระมหากษัตริย์

วัตถุที่ควรบูชา คือ
    1. ธาตุเจดีย์ (พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระสาวก)
    2. บริโภคเจดีย์ (สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา ปรินิพพาน และต้นพระศรีมหาโพธิ)
    3. ธรรมเจดีย์ (คัมภีร์พระไตรปิฎก และคำสอนที่จารในใบลาน หรือจารึกในแผ่นศิลา เป็นต้น) และ
    4. อุทเทสิกเจดีย์ (พระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท และรูปอรหันต์สาวก)


@@@@@@

การที่ใครๆ ยกย่องบูชาคนดีที่ควรเคารพนับถือบูชาบ่อยๆ เป็นการถ่ายเทหรือซึมซับเอาความดีของบุคคลนั้นมาไว้ในตนโดยไม่รู้ตัว อย่างเช่นนั้นเด็กที่นิยมความกล้าหาญบูชานักรบผู้กล้า เช่น พระนเรศวรมหาราช ก็อาจรับมรดกความกล้าหาญมาสู่ตัวโดยอัตโนมัติน่าอัศจรรย์

บางทีกิริยาท่าทางหรือคำพูดละม้ายคล้ายคนที่เขายกย่องบูชาสุดชีวิตจิตใจก็มี เพราะฉะนั้น จึงควรยกย่องบูชาคนดีๆ ไว้เถอะครับ แล้วสักวันเราจะกลายเป็นคนดีไปกับเขาด้วย ข้อสำคัญ ขอให้ดูดีๆ อย่าหลงยกย่องบูชาคนดีเทียมเข้าก็แล้วกัน



ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_276836
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กุมภาพันธ์ 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28479
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: บูชาคนที่ควรบูชา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 15, 2020, 06:47:11 am »
0

 :25: :25: :25:

สูตรสำเร็จในชีวิต (5) : บูชาคนที่ควรบูชา (2)

สัปดาห์ที่แล้วได้พูดไว้ว่า การจุดธูปเทียนไหว้ก็เป็นการบูชา การยกย่องเชิดชูก็เป็นการบูชา การแสดงความนับถือก็เป็นการบูชา คำว่า “บูชา” ใช้ในหลายความหมาย ในกรณีไหนใช้ในความหมายไหน ข้อความแวดล้อม (บริบท) จะบ่งบอกเอง

ในหนังสือ มังคลัตถทีปนี (หนังสือแต่งอธิบายมงคล 38) พระสิริมังคลาจารย์ท่านเล่านิทาน คนบูชาผิดกาลเทศะ แทนที่จะได้คุณ กลับได้รับโทษถึงตาย อ่านแล้วขำดี ขอนำมาขยายให้ฟัง เรียบเรียงสำนวนให้ฟังง่ายสักสองเรื่อง


@@@@@@

เรื่องที่หนึ่ง สัญชีวมาณพ เรียนมนต์เสกสัตว์ตายให้คืนชีพจากสำนักอาจารย์ดังแห่งหนึ่งมา วันหนึ่งเดินผ่านป่าพร้อมเพื่อนๆ หลายคน เห็นเสือโคร่งนอนตายอยู่ตัวหนึ่ง สัญชีวะบอกเพื่อนๆ ว่า “ข้าจะเสกมนต์ให้เสือตัวนี้ฟื้น”

“ลูกพี่เก่งขนาดนั้นเชียวเรอะ” เพื่อนอีกคนพูดเยาะ
“ไม่ได้พูดเล่นนะ ข้าเรียนมนต์นี้มาจริงๆ ไม่เชื่อจะทำให้ดู” เขาพูดขึงขัง
จริงหรือไม่จริง “ปลอดภัยไว้ก่อน” ดีกว่า พรรคพวกคิดแล้วก็ปีนขึ้นต้นไม้กันหมด เหลือแต่มาณพคนเก่งคนเดียวบนพื้น แกร่ายมนต์เป่าพรวดเข้าร่างเสือ พยัคฆ์ร้ายคืนชีพขึ้นมาลืมตาขึ้นเห็นคนอยู่ข้างๆ จึงตะปบก้านคอล้มลงสิ้นชีวิตตรงนั้นทันที

@@@@@@

เรื่องที่สอง ปริพาชกคนหนึ่ง เป็นประเภทคนดีโง่บริสุทธิ์เดินผ่านไปยังสถานชนแพะ (คงคล้ายๆ ที่ชนวัว ตีไก่ อะไรทำนองนั้น) มีเมืองพาราณสี ที่มีคนสัญจรไปมาพลุกพล่าน แพะตัวหนึ่งเห็นปริพาชกหัวเกรียน ต้องการขวิดให้ถนัดจึงย่อตัวลง

“แหม แพะตัวนี้ฉลาดจริง คนในที่นี้มากมายไม่รู้จักว่าข้าเป็นใคร มีแพะตัวนี้ตัวเดียวรู้จักเคารพผู้ทรงศีลเช่นข้า” ปริพาชกพูดพลางยิ้มปากกว้าง

“พระคุณเจ้า นั่นแพะมันจะขวิดท่าน รีบหนีเถอะ” พ่อค้าคนหนึ่งเห็นเข้า ตะโกนบอกเสียงดัง
“ไม่ใช่ดอกโยม แพะมันเคารพอาตมาต่างหาก” ยังโอ่สำแดงความโง่ต่อไป

“สัตว์หน้าขนไว้ใจได้ที่ไหนท่าน รีบหลบๆ ไปเถอะน่า” โยมผู้ปรารถนาดีเตือนซ้ำ คนเราลงได้มีมิจฉาทิฐิแล้ว ใครจะบอกจะเตือนไม่สนใจทั้งนั้น ปริพาชกแกก็ประคองอัญชลี (ประนมมือ) รับไหว้ ตามธรรมเนียมที่ว่า “ผู้ไหว้ย่อมได้รับการไหว้ตอบ”

จริงดังพ่อค้าคนนั้นบอก แพะตัวนั้นวิ่งมาโดยเร็วเอาเขาเสยปริพาชกล้มทั้งยืน แกครวญครางก่อนตายอย่างน่าเวทนา “ใครก็ตามบูชาคนที่ไม่ควรบูชา ผู้นั้นจะถูกคนชั่วร้ายนั้นทำร้ายเอา เหมือนเราผู้โง่เขลา ยกมือไหว้แพะโดนแพะขวิดเอานอนรอความตายอยู่บัดนี้” กว่าจะรู้ว่ายกย่องบูชาคน (ความจริงสัตว์) ผิดก็สายเสียแล้วครับ


@@@@@@

ช่วงมีเลือกตั้งทีไร ก็มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนดีเสนอหน้ามาให้เลือกมากมาย หน้าที่ของประชาชนก็คือต้องใช้วิจารณญาณดูให้ดีหน่อยว่าดีพอจะยกย่องหรือไม่ แต่มีนักการเมืองประเภทแพะกับฤๅษีไหว้แพะ ประชาชนอย่างผมคงลำบากใจพิลึก เพราะไม่เอาไหนพอๆ กัน


ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ 2563
คอลัมน์ : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ผู้เขียน : เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563
ขอบคุณ : https://www.matichonweekly.com/column/article_280445
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ