หัวข้อ: การดูกีฬา เหล่านี้เป็นบุญหรือบาป คะ เริ่มหัวข้อโดย: เมตตา ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 03:36:44 pm เห็นคุณพ่อ เป็นคนชอบดูคะ
มีรายการ มวยไทย มวยปล้ำ เป็นต้นคะ เห็นดูแล้วออกอาการเชียร์นอกจอด้วยคะ ไม่ทราบการดูอย่างนี้เป็นบาปมากหรือไม่คะ :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: การดูกีฬา เหล่านี้เป็นบุญหรือบาป คะ เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2011, 02:24:00 am การดูกีฬา นั้นเป็นทั้งสองอย่างคะ
กีฬา ๆ เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน ( เนื้อหา คน เป็น คน เหมือนเดิมเลยคะ ) ที่นี้การดูกีฬานั้น ก็จัดเป็นกิเลสอยู่คะ เพราะยังประกอบด้วยราคะ ความพอใจ และ ไม่พอใจ ยิ่งคนที่ดูบอล มวย ต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงศิลปะ แล้วผสม ความโหดร้ายลงไป สะใจ ด้วยความชอบใจ พิจารณาแล้ว ก็เป็นกิเลส คะ สำหรับพระพุทธศาสนา นั้นจะย้อนศรเรื่องเหล่านี้ด้วยการไม่เข้าไปยุ่ง ในศีลข้อที่ 7 เว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ( รวมถึงกีฬา ) เป็นต้นคะ :13: :13: :13: หัวข้อ: Re: การดูกีฬา เหล่านี้เป็นบุญหรือบาป คะ เริ่มหัวข้อโดย: juntra ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2011, 04:47:08 am การดูกีฬา เป็น บุญ หรือ บาป ถ้าต้องวินิจฉัยอย่างนี้ต้องหยุดการกระทำในโลก คะ เพราะว่า
กิจกรรมทุกอย่างที่มนุษย์ทำนั้น มีทั้งบุญและบาป แต่จะชี้ชัดว่าอะไรเป็นบุญหรือ บาป ก็ยังไม่ได้ ต้องดูภาวะ เหตุปัจจัย อันเนื่องซึ่งกันและกันด้วยคะ ดูกีฬา เพื่อส่งเสริม วัฒนธรรม และ สุขภาพ ก็เป็นบุญ คะ ดูกีฬา เพื่อส่งเสริม การพนัน และ ความสะใจแห่งจิต ก็เป็นบาป คะ :banghead: หัวข้อ: Re: การดูกีฬา เหล่านี้เป็นบุญหรือบาป คะ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2011, 11:44:39 am ถาม : ผลของการอนุโมทนาบุญหรือการยินดีในบาปของผู้อื่นจะเป็นอย่างไร?
ตอบ :เอาที่พระพุทธองค์ตรัสเล่าเองนะครับ ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นลูกชาวประมง เห็นคนทั้งหลาย ฆ่าปลาแล้วเกิดความโสมนัส คือชื่นชมยินดีในบาปของผู้อื่น (เกิดอกุศลจิตประกอบด้วยโสมนัส) ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้นทำให้ชาติสุดท้ายพระองค์ต้องปวดพระเศียรขณะที่เจ้าศากยะญาติพระองค์ ถูกไล่ล่าฆ่าฟัน อีกเรื่องที่มีมาในพระไตรปิฎก พระอนุรุทธเถระได้ถามนางเทพธิดาตนหนึ่งซึ่งมีผิวพรรณ งามยิ่ง รัศมีส่องสว่างไสวเรืองรองไปทั่วทุกทิศ ว่าเคยทำกรรมอันใดมา นางตอบว่าเมื่อครั้งเป็น มนุษย์นั้นได้เป็นสหายแห่งวิสาขามหาอุบาสิกาผู้สร้างมหาวิหารถวายสงฆ์ ซึ่งนางเพียงเห็นมหา วิหารแล้วก็มีจิตเลื่อมใสอนุโมทนา และเพียงเพราะการอนุโมทนาด้วยจิตบริสุทธิ์แต่อย่างเดียวเท่านั้น ก็ได้ผลคือวิมานอัศจรรย์อันเป็นที่รักแล้ว (ขอให้ทราบด้วยว่าผลแห่งความดีที่ทำเป็นประจำนำนาง มาเกิดในสวรรค์ แต่เฉพาะวิมานอันงามแปลกนั้นเป็นส่วนที่ได้จากการอนุโมทนาประการเดียว) สรุป แค่จากสองตัวอย่างข้างต้นนี้คือ การยินดีในบาปและการเลื่อมใสในบุญของผู้อื่น นั้น อาจให้ผลใหญ่หลวงอย่างคาดไม่ถึง สิ่งที่เราเห็นว่าเล็กน้อย นึกว่าเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว หรือ ทึกทักเอาเองว่าแค่คิดอยู่ในใจคงไม่เป็นไร แท้ที่จริงอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย และคะเนยากว่า จะให้ผลเมื่อใด คราวนี้ขอยกตัวอย่างในสิ่งที่เป็นปัจจุบันเห็นได้ทันตา ในคอลัมน์เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวซึ่ง เพิ่งลงในบางกอกฉบับที่ ๒๔๑๘ นี้เอง คงจำได้ว่าผมขอให้ทุกคนทดลองตั้งใจรักษาศีลข้อแรก ไม่ ประหัตประหารสิ่งมีชีวิตแม้ยุงสักตัวให้ได้หนึ่งวัน กับทั้งขอให้ทำจิตอนุโมทนา ปลาบปลื้มยินดีที่จะ มีผู้อ่านได้ตั้งใจร่วมกันเป็นจำนวนมหาศาล เท่าที่ฟังเสียงเล่าจากหลายคนคือรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เกิดขึ้นจริงขณะมีจิต เลื่อมใสในการร่วมรักษาศีลข้อแรกนั้น บางคนเห็นผลทันที เช่นเป็นภูมิแพ้จมูกตันอยู่ก็กลับ โปร่งโล่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ มาลองใหม่อีกทีก็ได้ หลายคนที่ฟังพุทธพจน์แล้วเริ่มเห็นคล้อยตามว่าท่าทางบุญกรรมจะมี จริง กรรมที่ให้วิบากเป็นสุข และกรรมที่ให้วิบากเป็นทุกข์ น่าจะไม่ใช่เรื่องหลอก ทำจิตเข้าไปใน ความจริงว่า คนจำนวนมากเริ่มซาบซึ้งและศรัทธาในพระพุทธเจ้า รู้ทางถูกทางตรง ละทาง ผิดทางพลาด หากเกิดความปลาบปลื้มยินดีในความจริงนั้น จะเหมือนตาสว่างขึ้นมาชั่ว ขณะหนึ่ง และหากจดจำความรู้สึกตาสว่างดังกล่าวไว้ ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงในตนเองในระยะ ยาว คือจากที่เคยรู้ทั้งรู้ว่าเลือกอะไรด้วยความเขลา เหมือนมีฝ้าหมอกหนาทึบมาบดบังปัญญา ต่อไปก็จะเหมือนฝ้าหมอกนั้นเบาบางลง และพร้อมจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ถูกต้องได้มากขึ้น การอนุโมทนาบุญก็ดี การชื่นชมบาปก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ความเลวนั้นๆ ลงในจิตวิญญาณของเรา ฉะนั้นถึงแม้ไม่คำนึงถึงผลอันเป็นรางวัลหรือโทษทัณฑ์ กระทบตัว ก็ขอให้คำนึงถึงแนวโน้มทางนิสัยว่าจะต้องเป็นไปในแบบนั้นๆ ด้วย พูดง่ายๆ ว่า ความยินดีในกรรมใดๆ ที่ผู้อื่นประกอบขึ้นนั้น ถ้ายกระดับขึ้นเป็น ความติดใจแล้วล่ะก็ หวังได้เลยว่าไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องก่อกรรมประการนั้นๆ ด้วยตนเอง อย่างแน่นอน อ้างอิง เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ๑ โดย ดังตฤณ กีฬาที่เป็นการต่อสู้ เป็นการทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน เป็นบาปอยู่แล้ว ถ้าหากเราเห็นคนอื่นทำบาปแล้วยินดี มีความสุข ผลกรรมที่ได้ ก็จะเป็นไปตามบทความที่นำเสนอ ;) :49: :25: |