พิมพ์

[raponsan]

วางมาตรการเข้ม ดูแลงาน ลอยกระทง'58

7 หน่วยงาน บูรณาการแผนรณรงค์ประเพณีลอยกระทง 2558 วางมาตรการเข้มงวด เน้นรณรงค์ประชาชนสืบสานประเพณีไทยด้วยความปลอดภัย ใช้วัสดุธรรมชาติ ลดปริมาณขยะ งดเล่นพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย โคมควัน ด้าน วธ. สรุปมาตรการเสนอ ครม.วันที่ 17 พ.ย.นี้

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานแถลงข่าวบูรณาการประเพณีลอยกระทง ประจำปี2558 "เทิดวัฒนธรรมประเพณี สืบทอดวิถีแห่งปวงประชา ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมใจเที่ยวไทย ปลอดภัยวันลอยกระทง" ร่วมกับ 6 หน่วยงาน โดยนายวีระ กล่าวว่า ทุกหน่วยงานตกลงร่วมกันรณรงค์ประเพณีลอยกระทงปี 2558 ภายใต้มาตรการ 5 ด้าน ได้แก่
     1.ใช้วัสดุย่อยสลายง่ายทำกระทง
     2. รักษาประเพณีที่ดีงามของไทย มีวินัย น้ำใจ ไมตรี
     3.แต่งกายอย่างไทย สุภาพ สง่างาม
     4.ฉลองรื่นเริงด้วยความสุข สนุกสนาน โดยไม่กระทำผิดศีลธรรม และ
     5. ไม่เล่นพลุ ดอกไม้ไฟ โคมลอย โคมควัน ในสถานที่และพื้นที่เสี่ยงต่ออากาศยาน
ทั้งนี้ขอให้พี่น้องชาวไทยได้มีส่วนร่วมสืบสานประเพณีไทยในเทศกาลลอยกระทงให้คงคุณค่าความเป็นไทยอย่างยั่งยืน และเป็นเจ้าบ้านที่ดีต่อการมาเยือนของชาวต่างชาติ ที่จะได้ประทับใจในความเป็นไทย อย่างไรก็ตามวธ.จะสรุปแผนรณรงค์ลอยกระทงของทุกหน่วยงานนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ก่อนประกาศใช้เป็นมาตรการเดียวกันทั่วประเทศต่อไป

นายบรรพต อมราภิบาล ผอ.กองส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในปีนี้จะเน้นรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลอยกระทงแบบรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดก่อขยะ โดยใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อย่อยสลายง่าย ทั้งนี้ ในปี 2557 พบว่ามีประชาชนหันมานิยมใช้กระทงที่ทำจากใบตองมากถึงร้อยละ 90 และยังมีปริมาณกระทงที่ทำจากใบตองมากถึง 982,064 ใบ ส่วนกระทงที่ทำจากโฟมมีแค่ 96,069ใบ

 

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวว่า มท. ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้บูรณาการกับทุกหน่วยงานในการกำหนดมาตรการรองรับประเพณีลอยกระทง โดยจะเน้นการเข้มงวดกวดขันเรื่องการจำหน่ายพลุ ประทัด และดอกไม้เพลิง สถานบริการและแหล่งบันเทิงให้เป็นไปตามกฎหมาย ขอให้แจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของประทัด และดอกไม้เพลิง และสิ่งอันตรายต่างๆ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่จัดงานลอยกระทง นอกจากนี้ต้องการให้มีการตรวจสอบสถานที่จัดงานไม่ให้มีการแสดงที่ขัดต่อประเพณี รวมถึงดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเรือ โป๊ะ สถานีขนส่ง ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และรณรงค์ป้องกันอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังช่วงการจัดงาน ที่สำคัญขอให้ช่วยดูแลเรื่องความสะอาดหลังงานด้วย

นายวิจิตต์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า ได้จัดเตรียมแผนอำนวยความสะดวกและปลอดภัยระหว่างวันที่ 24 – 26 พ.ย.นี้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาล 4 แผน ได้แก่
    1.แผนการบริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เช่น เพิ่มจำนวนรถโดยสารประจำทาง/ ไม่ประจำทางเพิ่มจำนวนตู้โดยสารรถไฟและเที่ยววิ่ง เที่ยวบินเสริมพิเศษรองรับประชาชนได้เกือบ 6 แสนคน
    2.จัดรถกู้ภัยออกตรวจตราสิ่งผิดปกติในทางพิเศษต่างๆ ตลอด 24ชั่วโมง
    3.จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยานและอาคารผู้โดยสารสถานีรถไฟ รถไฟฟ้า ให้พร้อมรองรับปริมาณการใช้บริการของประชาชน และ
    4.แผนบริหารความปลอดภัย โดยกำหนดให้อุบัติเหตุจากการขนส่งสาธารณะต่างๆ ต้องเป็นศูนย์ รวมทั้งต้องไม่มีผู้เสียชีวิตและที่สำคัญพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เรือ ต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยต้องไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือดระหว่างการให้บริการ

 

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ. 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวว่า ปีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะประชาชนที่ออกไปเที่ยวงานลอยกระทงต่างจังหวัด โดยได้มีโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวร่วมดูแลเป็นพิเศษ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ ที่สำคัญ สตช. จะร่วมรณรงค์กับทุกภาคให้คนไทย ไม่ดื่มสุราในพื้นที่จัดงานวันลอยกระทง เช่นเดียวกับงานเทศกาลสงกรานต์ ที่รณรงค์จนสำเร็จมาแล้ว ที่สำคัญจะเน้นรณรงค์ ไม่ให้มีการปล่อยโคมลอย โคมไฟ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ก่อให้เกิดความเสียหาย และเกิดผลกระทบต่อบุคคลอื่นๆ ในช่วงทั้งก่อนและหลังงานลอยกระทง 7 วัน

โดยเฉพาะในพื้นที่ กรุงเทพฯ จังหวัดสมุทรปราการ และปริมณฑล ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเครื่องบินบินผ่าน หากพบว่า มีผู้กระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะเดียวกันก่อนลอยกระทง 10 วัน สตช. จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และกวาดล้าง ผู้ประกอบการที่จำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และจะกวดขันห้ามประชาชนเล่นในพื้นที่จัดงาน

“ส่วนใหญ่ช่วงวันลอยกระทง จะพบปัญหาอาชญากรรม จากการ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วไปทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งก่อให้เกิดการล้มบาดเจ็บล้มตายมากที่สุด ดังนั้นเราจึงต้องรณรงค์ อย่างหนัก ร่วมกับ มาตรการการตีวงสุรา โดยมีการเข้าตรวจค้น ระงับเหตุ และหยุดยั้งไม่ให้มีการดื่มสุรามากเกินเหตุ และจะมีการระดมกำลังชุดบูรณาการเฝ้าระวังพื้นที่ ภาค 1 ,2 และ 7 ประกอบด้วย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัคร และชุดเฝ้าถนนคอยดูแล การแข่งรถมอเตอร์ไซด์ ของกลุ่มเด็กแว้น ประจำทุกคืน ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถลดปัญหาได้ ทั้งนี้ ประชาชน สามารถแจ้งเหตุฉุกเฉิน ได้ ที่หมายเลย สายด่วน 191 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แจ้งตำรววจท่องเที่ยว หมายเลข 1155 แจ้งปัญหาจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ 1197 และ 1193” ที่ปรึกษา สบ. 10 กล่าว“

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/360017