ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เคยได้ยินมาว่า สมัยพระอาจารย์เป็นสามเณร เคยเดินเท้าเปล่า 21 กม.2 ชม.จริงหรือไม่?  (อ่าน 5967 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

whuchi

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 80
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เคยได้ยินมาว่า สมัยพระอาจารย์เป็นสามเณร เคยเดินเท้าเปล่า 21 กม.2 ชม.จริงหรือไม่?
ทราบมาว่า พระอาจารย์ ในสมัยเป็นสามเณร เคยเดินเท้าเปล่า เยี่ยงนั้นจริงหรือไม่ หรือ เป็นข่าวลือ
เท่านั้น คะ

  :smiley_confused1: :s_hi: :c017: :25:
บันทึกการเข้า

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ด้วยครับ รอพระอาจารย์ หรือ ศิษย์ใกล้ชิด มาเล่ากันเร็ว ๆ นะครับ

 อยากรู้เรื่องของพระอาจารย์บ้างครับ หลายปีแล้วไม่พบท่าน

   :coffee2:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

vichai

  • ศิษย์ตรง
  • พอพึ่งพาได้
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 207
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
มาศึกษาธรรมะ ครับ ยินดีรู้จักทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตร ครับ
เครดิต คุณกบแย้มกะลา

เสริมสุข

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 223
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมขอเล่าแก้ขัด ให้ก่อนนะครับ เพราะทราบทาง Facebook ว่าพระอาจารย์กลับไปที่วัดแก่งขนุน ในช่วงงานปริวาส นี้ตั้งแต่ 10 ม.ค. แล้วครับ

 เพราะเมื่อวานมีสายรายงานมาว่า พระอาจารย์กำลังล้างศาลาด้านหน้า อยู่ในช่วงเที่ยง ๆ ถึง บ่ายสาม

 

สำหรับ เรื่องนี้รับรองว่าเป็นความจริงครับ เพราะผมเคยได้ฟังท่านเล่า ไว้เมื่อครั้งเป็นสามเณร อยู่ ที่ พุแค วันนั้นท่านเกิดฟุ้งซ่าน จึงอธิษฐานถึงครูอาจารย์ให้สอนกรรมฐานเกี่ยวกับเดินทางไกล ซึ่งก็ได้รับการถ่ายทอดเรื่องการเดินจิตกรรมฐานเป็นครั้งแรก ท่านเล่าว่า ได้ทดสอบการเดิน อธิษฐานกรรมฐานเสร็จ แล้วก็ปิดวาจาเดินตั้งแต่ พุแค ไปวัดหนองจาน เขาพรหมสวรรค์ ระยะทาง 18 กม. 1 ชม.ถึงวัดเขาพรหมสวรรค์ และออกจากวัดเขาพรหมสวรรค์ ไปยังหน้าพระลานแล้วกลับมาพุแค อีก 19 กม. 1 ชม.ถึงสวนพุแค

  ท่านได้สรุปว่า ตอนเดินธุดงค์จากสงขลา กลับมาที่ สระบุรี ใช้เวลา 9 เดือน 1 ชม.แบกของพร้อมเดินเต็มที่ สปีดอย่างสูงแบบไม่กำหนดจิตในวิชา ก็เดินได้เพียง 3 - 4 กม. ต่อ ชม.เท่านั้น

  และท่านสรุปไว้ว่า วิชานี้ นำมาใช้ บ่อย ๆ ไม่ดี เพราะว่า เมื่อใช้แล้ว ก็ต้องไปใช้หนี่ ด้วย

   อันนี้เคยได้ฟังทาง RDN ไปครั้งหนึ่ง ช่วงที่ท่านเล่าประวัติการฝึกเดินจงกรม นะครับ

  คงพอแก้ขัดได้ นะครับ

   :08: :25:

บันทึกการเข้า
อยากได้รับความสุข จาก ธรรมะ อยากได้รับ ..... แหมก็อยากนี้จ๊ะ

pinmanee

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 163
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อยากฟังเรื่อง ของพระอาจารย์ บ้างคะ คือ สมัยที่ท่านเริ่มภาวนา ออกธุดงค์ น่าจะมีประโยชน์ มากนะคะ

 :s_hi:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เป็นเรื่องเมื่อครั้ง เป็น สามเณร ก็เป็นไปตามนัั้นตอนนั้นอายุประมา 17 ปี เกิดความฟุ้งซ่านมาก ฟังธรรมในแนวทางสวนโมก ( ครั้งเมื่ออยู่ที่สวนอิทัป ) แล้วเกิดอยากปฏิบัติให้ิสิ้นภพ สิ้นชาติ อย่างแรงกล้า ก็เลยมุมานะฝึกวิชา อานาปานสติ จากหนังสือ ธรรมโฆษณ์ หลวงพ่อพุทธทาส แต่สุดท้ายฟุ้งซ่าน มาก ๆ รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เดินกระสับกระส่าย ฟุ้งซ่านในป่า

    ครั้นเดินไปมาก ๆ รู้สึกเหนื่อย พอเหนื่อยก็มานั่งแล้ว ก็นึกในใจว่า อยากเรียนวิชาเดินเร็วจัง จะได้เดินให้หายฟุ้งซ่านกันไปข้าง นึกดังนั้น ก็พนมมือนึกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้แจ้งในวิชากกรรมฐาน เพื่อคลาย ความกระสับกระส่าย นึกอยู่อย่างนั้น เป็นเวลา 2 วัน ก็ปรากฏมีพรสงฆ์รูปหนึ่งเป็นพระชราภาพ ท่านเดินธุดงค์ผ่านมา ขอน้ำฉันหน้ากุฏิ
   
     ตอนนั้นก็สงสัยอยู่ว่า หลวงตาที่มาขอน้ำท่านเดินธุดงค์อย่างไร ไม่มีเครื่องอัฏฐบริขารเลย ก็นึกอยู่เช่นนั้น ท่านก็ชวนคุยไปสักพัก ก็ถามว่า  เณร อยากเรียน วิชาเดินไว ไหม จะสอนให้ หลวงตาพูดเหมือนรู้ใจ ก็โดนใจ ท่านก็บอกว่าจะสอนให้ ก็เลยขอเรียนกับท่าน วิชานี้ เรียกว่า วิชาย่นฟ้าย่อพสุธา ( ชื่อเป็นทางการ ) ในวิชามีการเดินจิต ธาตุลมไปใส่ที่เท้าสองข้าง และให้ปิดวาจากห้ามพูดคุยกับใครทั้งสิ้นจนกว่าจะถึงเป้าหมาย ในขณะเคลื่อนตัวไป ให้บริกรรม อิติปิโส ถอยหลังไปเรื่อยๆ  วิชาก็มีเท่านี้

     หลังจากหลวงตา ท่านจากไปก็เริ่มฝึกท่อง อิติปิโส ถอยหลัง ท่องอยู่ 2 วันถึงใช้ร่วมกับ ลูกประคำ 108 เม็ด วันที่ 3 ก็นึกสนุกตามประสา เณรหนุ่ม จึงอธิษฐานไปสถานที่รู้จักใกล้ ๆ ตอนนั้นก็นึกถึงเขาพรมสวรรค์ เคยไปเที่ยวมาและพอจะอยู่ใกล้ ๆ ก็เลยอธิษฐานจิต และ เริ่มบริกรรม แล้วออกเดิน สมัยนั้นเป็นทางลูกรัง ก็เดินเท้าเปล่าไป การเดินก็เดินธรรมดา แต่พอรู้ตัว ก็ึถึงวัดที่กำหนดแล้ว เหลียวมองนาฬิกาลาน ทีพกมาด้วยปรากฏว่าใช้เวลาไป 1 ฃม. ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่า เดินไว ก็เลยแวะคุยกับ หลวงพี่เจ้าอาวาสวัดหนองจาน ( หลวงพี่ศรีนวล )
     ท่านก็ถามว่า เณรมาอย่างไร นี่
     ก็ตอบว่า เดินมาครับ   
     หลวงพี่ศรีนวล ถามต่อ แล้วเณรเดินมาจากไหน
     ผมเดินมาจาก สวนพุแค ครับ
     โอ เก่งนี่ เดินมากี่โมง
     ตอนเที่ยงครับ  ถึงนี่ บ่ายโมง
     หลวงพี่ศรีนวล พูดด้วยความแปลกใจว่า ไม่ใช่มั้งเณรจะเดินมาถึงนี่ 1 ชม เป็นไปไม่ได้
     ด้วยความสงสัยก็เลยถามว่า ทำไมครับ หลวงพี่
     หลวงพี่ศรีนวล  ก้จาก พุแค มาถึงนี่ 18 กม.นะจะเป็นไปได้อย่างไร ที่จะเดินได้ไวอย่างนั้น
     ตัวเองก็เลยสงสัย ว่า หลวงพี่พูดหลอกเราแล้วกระมัง เราว่ามันแค่ 3 กม. เอง ( ในใจคิดอย่างนั้น )
     ก็เลยถามท่านว่า  หลวงพี่ ถ้าผมเดินกลับไปทางหน้าพระลาน จะใกล้หรือ ไกลว่า ครับ
     หลวงพี่ศรีนวล ตอบว่า ถ้าเณร กลับไปทางจะใกล้กว่าประมาณ 2 กม. ประมาณ 19 กม.
                    จากวัดเขาพรหมสวรรค์ ถึง แยกเขารวก 7 กม.
                    จากแยกเขารวก ถึง หน้าพระลาน 7 ก.ม.   
                    จากแยกหน้าพระลาน ถึง สวนประมาณ 5 กม.   
   
     ขากลับก็ลองจับระยะทาง กับ เวลาเดินกลับตอน 15.00 น. ถึง สวนพุแค 16.00 น. ตรง ๆ เลย
     อันนี้คือประสบการณ์ ตอนเป็นสามเณร นะจ๊ะ ไม่ใช่มากล่าวอุตริ ปัจจุบันวิชานี้ไม่ได้นำมาใช้ เพราะมีข้อห้ามคือ เมื่อเรา ย่นระยะทางลงเท่าใด เราต้องไปเดินจงกรมตามระยะทางที่ย่นลงไปด้วย ไม่งั้นเป้นหนี้บุญ คือบุญบารมีที่สร้างมาจะหมดได้ ให้ยามจำเป็น ในชีวิตนี้ อาตมาใช้วิชานี้ 3 ครั้งเอง

      เล่าพอให้ได้รื่นรมย์ ในการภาวนานะจ๊ะ
      ดังนั้นใครฟุ้งซ่าน ให้เดินจงกรม ด้วยนะจ๊ะ

       ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

komol

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +7/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 643
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขอให้พระอาจารย์ พิจารณา ทำหนังสือเล่าประวัติ การภาวนาของพระอาจารย์ ผมขอเสนอไว้อีกครั้ง เพราะน่าสนใจมาก สาธุ อนุโมทนาที่พระอาจารย์ มาเล่าให้ฟัง อีกครับ

   :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
พลังจิต พลังปราณ พลังสมาธิ เป็นพลังสมดุลย์ เพื่อปัญญา

meditation

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 127
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ประวัติการภาวนา ของพระอาจารย์ น่าจะมีประโยชน์ นะคะ
 :coffee2: :coffee2: :coffee2:
บันทึกการเข้า
ข้าพเจ้าปรียบเหมือนนกที่กำลังหัดเดิน มีสิ่งใดที่ล่วงเกินใคร ก็ขอกราบอภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ภาวนากรรมฐาน เพื่อใคร เพื่ออะไร ทำไม ? หาคำตอบจากใจเราก่อนนะคะ