ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ญาณะ ๑๐_ ญาณะ ๖_ เป็นเช่นไรหนอ ?  (อ่าน 1763 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ญาณะ ๑๐_ ญาณะ ๖_ เป็นเช่นไรหนอ ?
« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 11:00:53 am »
0
ญาณะ ๑๐_ ญาณะ ๖_ เป็นเช่นไรหนอ ?


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๑ ชื่อปฏิสัมภิทามรรค
( เป็นสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๓) ( ทางแห่งความแตกฉาน )


ญาณะ ( ความรู้ ) ข้อนี้มีบทตั้งแสดงถึงญาณ ( ความรู้ ) อันได้แก่ปัญญา ๗๓ ประการ พร้อมทั้งกล่าวว่า ในญาณ ๗๓ ประการเหล่านี้ ๖๗ ข้อเป็นของทั่วไปแก่พระสาวก ส่วนอีก ๖ ข้อไม่ทั่วไปแก่พระสาวก.   

ในการอธิบายญาณต่าง ๆ นั้น บทตั้ง ( ซึ่งเป็นภาษิตของพระสาริบุตร มิใช่พระพุทธภาษิต ) อธิบายว่าปัญญาอย่างนั้น ๆ ชื่อว่าญาณ ขอยกตัวอย่างตั้งแต่ข้อที่ ๑ ไป รวม ๑๐ ดังนี้ :-

   ๑. ปัญญาในการเงี่ยโสต ( สดับ ) ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยการฟัง   

   ๒. ครั้นฟังแล้ว ( เกิด ) ปัญญาในการสำรวม ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยศีล   


   ๓. ครั้นสำรวมแล้ว ( เกิด ) ปัญญาในการตั้งจิตมั่น ชื่อว่าญาณอันสำเร็จด้วยการเจริญสมาธิ   

   ๔. ปัญญาในการกำหนดรู้ปัจจัย ชื่อว่าญาณในความตั้งอยู่แห่งธรรม ( ธัมมัฏฐิติญาณ ) 
 
   ๕. ปัญญาในการรวบรวมธรรมที่เป็นอดีต,  อนาคต,   ปัจจุบัน แล้วกำหนดรู้ ชื่อว่าญาณในการพิจารณา ( สัมมสเน ญาณ )   

   ๖. ปัญญาในการพิจารณาเห็นความปรวนแปรแห่งธรรมอันเป็นปัจจุบัน ชื่อว่าญาณในการพิจารณาความเกิด ความเสื่อม ( อุทยัพพยานุปัสสเน ญาณ )   


   ๗. ปัญญาในการพิจารณาอารมณ์แล้วพิจารณาเห็นความแตกดับ ชื่อว่าญาณในการเห็นแจ้ง(วิปัสสเนญาณ )
 
   ๘. ปัญญาในความปรากฏเป็นของน่ากลัว (แห่งสังขาร) ชื่อว่าญาณ คือความรู้ในโทษ ( อาทีนเว ญาณ ) 
   
   ๙. ปัญญาที่ทำให้เกิดการพิจารณาด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย ชื่อว่าญาณในความวางเฉยในสังขาร(สังขารุเปกขาสุ ญาณ) 
 
   ๑๐. ปัญญาในการออกในการหมุนกลับจากเครื่องหมายแห่งสังขารภายนอก ชื่อว่าโคตรภูญาณ


( ต่อจากนี้เป็นการแสดงมัคคญาณ, ผลญาณ, วิมุตติญาณ, ปัจจเวกขณญาณเป็นต้น มีญาณในอริยสัจจ์ ๔   และในปฏิสัมภิทา ๔  เป็นที่สุดรวม ๖๗ ญาณ  เป็นญาณที่ทั่วไปแก่พระสาวก ).



    ส่วนญาณอีก ๖ ประการที่มีเฉพาะแก่พระพุทธเจ้า ไม่ทั่วไปแก่พระสาวก คือ   

   ๑. อินทริยปโรปริยัตตญาณ (ญาณหยั่งรู้อินทรีย์อันยิ่งหย่อนของสัตว์)   

   ๒.อาสยานุสยญาณ ( ญาณหยั่งรู้อาสัยคือความน้อมใจไปทั้งทางดีทางชั่ว และอนุสัยคือกิเลสที่นอนเนื่องในสันดานมีกามราคะ เป็นต้น มีอวิชชาเป็นที่สุด ) 

 
   ๓. ยมกปาฏิหิรญาณ ( ญาณอันทำให้สามารถแสดงปาฏิหาริย์ได้ คือปาฏิหาริย์เนื่องด้วยธาตุน้ำและธาตุไฟ แสดงออกพร้อมกัน )   

   ๔. มหากรุณาสมาบัตติญาณ ( ญาณในการเข้าสมาบัติ มีมหากรุณาเป็นอารมณ์ )
   
   ๕. สัพพัญญุตญาณ ( ญาณคือความเป็นผู้รู้สิ่งทั้งปวง ) 
 
   ๖. อนาวรณญาณ ( ญาณอันไม่มีความข้องขัดไม่มีเครื่องกั้น ).



อ้างอิง
พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน (อ.สุชีพ ปุญญานุภาพ)
http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/k21.htm
ขอบคุณภาพจากwww.dhammajak.net

อ่านรายละเอียดได้ที่
พระไตรปิฏก(สยามรัฐ) เล่มที่ ๓๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๓
ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_page/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ