เรื่องทั่วไป > สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน
ขอคำแนะนำ เพื่อน ๆ ในห้องนี้เรื่อง คุณลุงกิตติศักดิ์ ค่ะ
VongoleX:
อะตีตัง นาน๎วาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง
บุคคลไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย, และไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ตอนแรกผมไม่เข้าใจ ว่าครูประสิทธิ์ เอาบทสวดนี้มาทำไม พอได้อ่านทบทวนแ้ล้วก็บางอ้อครับ
1.เหตุเฉพาะหน้า คือ ความช่วยเหลือ พระอาจารย์ให้รักษาเว็บได้
2.เหตุที่ยังไม่เกิด คือ การเสื่อมเสียเรื่องการยักยอกปัจจัยต่าง ๆ ทั้งที่มีระบบอยู่แล้ว
เหตุเฉพาะหน้า คือ ควรจะต้องทำ และ ควรกล่าวอนุโมทนา ซึ่งกันและกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ
เหตุที่ยังไม่เกิด ก็เป็น แนวของการระวัง รับฟังกันไว้ ก็ไม่เห็นจะต้องออกตัวอะไรกันมากมาย ขนาดนั้น
สิ่งสำคัญ ท่านทั้งหลาย ดูแลครูอาจารย์ของท่านกันดีหรือยัง ???
ชั่งน้ำหนัก แล้ว ....... ผมก็ต้อง อนุโมทนา สาธุ ครับ
:s_hi: :c017: :25:
ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ,
อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ตัง วิทธา มะนุพ๎รูหะเย
ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าที่นั้นๆ อย่างแจ่มแจ้ง,
ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน, เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
ปัจจุบันสภาวะ คือ อะไร ? อันนี้เป็นประโยคกินใจผมเลยครับ
ธรรมะ ปุจฉา:
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เคยมีเกิดขึ้นแล้ว
ในเดือน ตุลาคม 2553 ต้องต่อสัญญาค่าโดเมน และ ค่าเช่าโฮสติ้ง เป็นจำนวนเงิน 2000 บาทใครต้องการเป็นเจ้าภาพ ในการแจกธรรมก็ติดต่อแจ้งความประสงค์มาที่ อาตมาได้
ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดทำหนังสือ คำบรรยาย กรรมฐาน + cd file บรรยายธรรม ของขวัญปีใหม่
ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ดูรายชื่อได้ที่ลิงก์นี้ นะจ๊ะ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=1415.msg6522#msg6522
ที่สอบถามกันมานะจ๊ะ ในการร่วมทำบุญ ส่งเสริม ธรรมทาน เผยแผ่ โดยการส่งปัจจัย
เป็นธนาณัติ สั่งจ่าย ปณจ.ปากเพรียว 18001 ในนาม
พระสนธยา ธัมมะวังโส
สำนักงานส่งเสริม พระกรรมฐาน สระบุรี
6/14 ซอย 10 ถนน เทศบาล 4 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี 18001
ที่เป็นตัวสีฟ้า พระอาจารย์เคยให้ไว้เองที่ : http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=572.msg2273#msg2273
นี้เป็นสิ่งที่ พระอาจารย์ ได้ให้ไว้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ถูกต้องแล้ว คิดว่า ความคิดความอ่านของพวกเรา
คงจะไม่มีใคร เก่ง รอบคอบ ชัดเจน เิกินพระอาจารย์ นะ!
แต่กลับจะเป็นสิ่งที่ดีมากด้วยซ้ำ ที่การที่เราจะทำบุญนี้ได้ อีกนัยหนึ่ง ก็จะต้อง มีความเพียรพยายาม พอสมควร
เราจึงจะพาตัวเรา ไปที่ไปรษณีย์ได้
ถ้าเราจะมามองกันให้เกิดประโยนช์นั้นมีมาก
เริ่มตั้งแต่
- ต้องมีความตั้งใจอย่างสูง ที่จะทำบุญ
- ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ ละความสบาย ที่เคยทำธุระกรรม
- ต้องมีการว่างแผน การจัดการเวลา การจัดการการเิดินทาง ศึกษาดูว่าที่ทำการไปรษณีย์
เปิดบริการตอนไหนบ้าง ตั้งอยู่ที่ตรงไหน จะเดินทางไปที่ทำการไปรษณีย์ได้อย่างไร
สิ่งทั้งหมดเหล่านี้ จะว่าง่าย ก็ง่าย จะว่ายาก ก็ยาก แต่การที่เราสามารถทำได้ นั้นแสดงให้เห็นว่า เราได้ละเงื่อนไขของตัวเองที่มี และยอมรับคนอื่น
และสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง ในสังคม ถ้าเราทุกคนละเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เราได้สร้างขึ้นมา เป็นกรอบกำแพง ล้อมรอบตัวเอง ปิดกั้นตัวเอง คุณจะเห็น สิ่งอื่นๆ ที่ดีๆ อีกมากมาย ที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ ที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน
ส่วนหนึ่งคิดว่าพระอาจารย์ รู้ดีอยู่แล้วว่า จะไม่มีใครไปที่ไปรษณีย์ แน่นอน ก็สอดคล้องกันกับ ที่ไม่ได้บอกเลขบันชี แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้ร่วมทำบุญกัน
แต่ถ้าหากมีความแนวแน่ตั้งใจจริง อย่างสุดซึ้งแล้ว การที่เราจะไปส่งธนาณัติ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เดินทางไปต่างจังหวัดยังไกลกว่า นานกว่าเลย
เหล่านี้ ก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง ที่จะทำใ้ห้ท่านทั้งหลายได้บุญมาก
ส่วนได้บุญมากอย่างไร คงต้องรบกวน ให้คุณnathaponsonมาบอกเหล่าให้ได้รู้กัน
และในส่วนที่ผู้เขียน เขียนนี้ ผู้เขียน ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว พระศรีคเณศ ปัญญาปโชโต
tang-dham:
ผมว่า คุณ Admax ทำ simulation มากเกินไป หมายถึง ๆ จำลองเหตุการณ์อย่างจริงจัง
สมมุติ ว่า เขาจะมีตัวหัวฉัน ...... จะทำอย่างไร ?
simulation วิธีการ ต่าง ๆ ไว้
สมมุติ ว่า เขาจะด่าฉัน..... จะทำอย่างไร ?
simulation วิธีการ ต่าง ๆ ไว้
สมมุติ ว่า พระอาจารย์ ยักยอกทรัพย์ บริจาค มีการใส่ร้าย เรื่องเงินบริจาค
simulation วิธีการ ต่าง ๆ ไว้
ประเด็น 1 เขาไม่ได้ถวายให้วัด ผมมีเงิน 100 บาทผมจะถวายอาจารย์ ก็แล้วแต่พระอาจารย์จะเอาไปใช้ สิครับ
ประเด็น 2 ทางลิงก์ก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัด ไม่ได้ใช้นามวัดมาเรียไร ไม่ได้ประกาศบอกบุญ แต่เขาบอกกันในกลุ่มที่มีไม่กี่ท่านเท่านั้น
ประเด็น 3 ไต่ตรองไว้ก่อนแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น สิครับว่า อาจจะโดนคัดค้าน หรือ เห็นด้วย สปิริต ปิดทาง เพราะจิตนำไป ไม่สมเกรียตินักภาวนา
ทั้ง 3 ประเด็น เป็นประเด็น simulation คือ เหตุการณ์จำลอง สมมุติขึ้นมาว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แท้ที่จริงควรจะรับทราบว่า ตรงนี้เป็นเป็นเพียงจิตนำไป
ที่สำคัญ คิดมากเกินไป จิตสังขารนำไป จนหลุดกรอบ นักภาวนาต้องยืดหยุ่นได้ รับฟังซึ่งกันและกัน คุยกันด้วยเหตุผล
แต่ส่วนที่ไม่ได้ สมมุติ และเป็นจริงอยู่คือ
1.พระอาจารย์กำลังลำบากเรื่อง ปัจจัย บริหารเว็บ และ สถานีออนไลน์ ประจำเดือน เนื่องด้วยท่านไม่มีรายได้ อันนี้เป็นของจริง ไม่ได้ simulation ควรจะต้องช่วยเหลือ ส่วนวิธีการนั้น ระดับ พระอาจารย์ ก็ย่อมมีคุณธรรมบิรหารอยู่แล้ว ดูจากประกาศแจ้งต่าง ๆก็รู้ จะบอกว่าไม่มีระบบบริหารก็ไม่ได้หรอกครับ
2.การดำเนินการรวบรวมปัจจัย เสร็จสิ้นลงไปแล้ว โดยมีรายชื่อรวมแสดง และ มีการตัดผ้าไตรพร้อมถวายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่ได้มาเรียกร้องให้ผู้ใดมาบริจาคเพิ่มเติม ทางกลุ่มนำมาประกาศเพื่อให้เราอนุโมทนาบุญ กันให้ทราบว่าได้ดูแลพระอาจารย์กันบ้างแล้ว ตามอัตภาพที่พอจะทำกันได้ ไม่ต้อง simulation แต่ควรกระทำอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ บุญที่ทำได้ง่ายที่สุด
3.พระอาจารย์เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ได้รับมอบจากศิษย์ด้วยความเคารพ ซึ่งทางศิษย์ไม่ได้บอกว่าให้นำไปถวายวัด แต่ให้พระอาจารย์บริหารตามอัธยาศัย ซึ่ง ไม่น่าจะมีครหาอันใด เพราะปัจจัยก็อย่างที่ี คุณ นักเดินทางบอกไว้นั่นแหละครับ ปัจจัยแค่หลักพัน ไม่ใช่หลักล้าน อย่างของคนอื่น ไม่ต้องระวังขนาดนั้นหรอกครับ ดังนั้นการที่ตั้งสมุฏฐานว่า พระอาจารย์ต้องยักยอกอย่างนั้น อย่างนี้ ผมว่าแรงส่วนนี้ คนถ้าเคารพในธรรมของครูอาจารย์จริงๆจะไม่สมมุติแบบนี้ ไม่ควรปรามาสด้วยการสมมุติอย่างนี้
ดังนั้น ในเหตุการณ์ นี้ มีประเด็น อยู่ 2 ประการ
1.ประเ็ด็นเหตุการณ์จริง
2.ประเด็นเหตุการณ์จำลอง
ผู้มีปัญญาพึ่งใคร่ครวญให้ถ่องแท้ อย่าให้จิตนำไป ซึ่งไม่เป็นกุศล นะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ธัมมะวังโส:
จริง ๆ ด้วยนะอาตมา ได้อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว พิจารณาแล้วพวกท่านทั้งหลาย อย่าให้จิตนำไป กันมาก
พึงตั้งสติ กำหนด พุทโธ แล้ว พิจารณาตามความเป็นจริง
และที่สำคัญ ไม่ต้องไปตั้งสมุฏฐาน ใด ๆ สมมุติ เรื่องใด ๆ ขึ้นมา มิฉะนั้นการมองเห็นตามความเป็นจริงจะมีไม่ได้ นั่นเป็นเพราะเหตุว่าท่านทั้งหลายเอาแต่ฝึกสติ ตั้งรับ เมื่อตั้งรับไม่ได้ ก็จะถอยกันและจากกัน โดยเหตุที่มิสมควรกันเเป็นส่วนมาก ซึ่งหลายปีนี้มานี้ อาตมาก็เห็นศิษย์หลายท่าน ผู้นับถือหลายคน ก็มักจะเป็นเช่นนี้
ดังนั้น การปฏิบัติกรรมฐาน มีการปฏิบัติ รวม ๆอยู่ 3 แนว ที่ต้องภาวนาไปควบคู่กัน คือ
1.ปฏิบัติแบบป้องกัน มี ศีล +ปัญญาเป็นต้น
2.ปฏิบัติแบบตั้งรับ มี ศีล+สติ +ปัญญา เป็นต้น
3.ปฏิบัติแบบรวมมรรค มี ศีล+ สมาธิ+ปัญญา เป็นต้น
ดังนั้นอย่าให้คุณธรรม ในใจ ของท่านที่มีอยู่ ซึ่งเป็นเป้าหมายการภาวนาธรรม ของเราหายไปได้ เมื่อนั่นท่านก็จะแจ่มใส เพราะการภาวนาธรรม อย่างผ่องแผ้ว เหมือนสังข์ที่ขาวผ่อง
และขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง แต่ เรื่อง มันยังไม่มี และ ก็คิดว่าไม่มี ขอท่านทั้งหลาย จงเห็นตามความเป็นจริงอย่างนี้เถิด
ส่วน สนง.ส่งเสริมกรรมฐาน ไม่มีกองทุนระดับหมื่นนะจ๊ะ จึงไม่ต้องมาเป็นห่วงเรื่องนี้ และที่สำคัญอาตมา ระวังมาก ในเรื่องนี้ จึงยังไม่เคยเปิดบัญชี รับบริจาค โดยตรง
แค่มีใช้จ่ายประจำเดือน ก็รบกวนโยมแม่ และศิษย์ที่อุปถัมภ์ใกล้ ๆ อาตมา มากแล้ว และการทำงานตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับวัด เป็นการทำงานอิสระ ไม่ขึั้นตรงทั้งวัดที่อาตมาสังกัด และ วัดที่ทำการเผยแผ่พระกรรมฐาน
สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน เป็นเพียง สำนักงานเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งโดยอาตมาเอง เพื่อ ส่งเสริม พระกรรมฐาน เท่านั้น ทำงานภายใต้ขอบเขตคือการปิดทองหลังพระ เมื่อท่านทั้งหลาย ทำบุญกับอาตมาก็อยู่ในขอบเขตนี้เข่นกัน เพราะอาตมาไม่มีใบอนุโมทนาใด ๆ ให้กับผู้ทำบุญ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีแต่ศิษย์ ที่ไว้วางใจ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก ที่จะสามารถติดต่ออาตมาได้ เป็นผู้สนับสนุน
ก็อนุโมทนากับทุกท่าน ที่ยังสนับสนุนการปิดทองหลังพระ นี้ต่อไป เจริญธรรม[/]
สำหรับกระทู้ นี้ก็ขอให้ท่านทั้งหลาย หยุดจิตนำไปกันได้แล้ว จึงขอปิดกระทู้นี้ไม่ให้โพสต์ต่อ นะจ๊ะ
Aeva Debug: 0.0005 seconds.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว