ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธรูปเรืองแสงเป็นสีเขียวมรกต องค์เดียวในประเทศไทย  (อ่าน 2126 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระพุทธรูปเรืองแสงเป็นสีเขียวมรกต

พระพุทธรูปเรืองแสงเป็นสีเขียวมรกต องค์เดียวในประเทศไทย
 
พระพุทธรูปเรืองแสงคงไม่มีที่ไหนอีกที่ประดิษฐานองค์ใหญ่ที่เห็นได้ชัดที่สุดและสัมผัสได้มีแห่งเดียวในประเทศไทยอยู่ที่สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส (ดอยวังเฮือ) เป็น “พระโคตมพุทธเจ้า” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เครื่องทรงจักรพรรดิที่งดงามมากเมื่อปิดประตูหน้าต่าง “พระโคตมพุทธเจ้า” จะเรืองแสงเป็นสีเขียวมรกตงดงามมากเป็นที่แปลกหูแปลกตาสำหรับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
 

พระพุทธรูปเรืองแสง ประดิษฐานสำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส (ดอยวังเฮือ) ตั้งอยู่เลขที่ 283 หมู่ 4 บ้านผาลาด ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ทางเข้าอยู่ทางเดียวกันกับทางเข้าทะเลลำปาง อ่างเก็บน้ำวังเฮือ ไม่ไกลจากสามแยกเข้าแม่เมาะ (ด้านตรงข้ามกับแยกเข้าแม่เมาะ) องค์เดียวในประเทศไทย หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ เจ้าสำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส (ดอยวังเฮือ) หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ ได้ความว่า

สำนักสงฆ์แห่งนี้มีมานานแล้วไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างกันแต่เมื่อใด สมัยหนึ่ง หลวงพ่อเมือง (พระครูอะดมเวชวรกุล) พระเกจิชื่อดังของลำปาง เจ้าอาวาสวัดท่าแหน อ.แม่ทะ เคยมาปลีกวิเวกปฏิบัติธรรม วิปัสสนา และได้เริ่มสร้างเจดีย์และกุฏิขึ้น เมื่อหลวงพ่อเมืองมรณภาพ ประมาณปี 2519 หลวงพ่อแสน ได้รับช่วงดูแลสำนักสงฆ์มาจนกระทั่งประมาณปี 2540 ได้รับประทาน พระบรมสารีริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปรินายก แล้วอัญเชิญมาบรรจุไว้ในพระเจดีย์

 

“หลังจากหลวงพ่อแสนมรณภาพ สถานที่แห่งนี้ไม่ค่อยได้รับการดูแลอย่างก่อน ถูกปล่อยให้รกร้างมาเป็นเวลาหลายปี ถึงปี 2553 หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ จึงได้ร่วมกับลูกศิษย์และคณะศรัทราพัฒนาพื้นที่และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มเติม ปัจจุบันมีสิ่งที่โดดเด่นประจำสำนักสงฆ์ได้แก่ พระพุทธรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์เรียงรายรอบพื้นที่ตั้งแต่ทางเข้าสำนักสงฆ์

ส่วนองค์ที่ 28 เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ ประดิษฐานในวิหาร พระนามว่า “พระโคตมพุทธเจ้า” คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เครื่องทรงจักรพรรดิ ที่มีขนาดความสูง 18 ศอก หน้าตักกว้าง 8 ศอก ก่อสร้างด้วยปูนทั้งองค์ และเคลือบด้วยสารเรืองแสงถึง 3 ชั้น โดยมีหลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ เจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นผู้ดูแล และคิดริเริ่มที่จะสร้างพระพุทธรูปเรืองแสงขนาดใหญ่ขึ้น

 


“การสร้างพระโคตมพุทธเจ้าสร้างขึ้นเมื่อปี 2554 หลวงพ่อภูริปัญโญ ภิกขุ ได้ตั้งใจสร้างให้มีความพิเศษกว่าพระพุทธรูปทั่วไป คือสามารถเรืองแสงได้เมื่อสิ้นแสงสว่างจากภายนอก คือ เมื่อเริ่มค่ำ หรือเมื่อปิดประตูหน้าต่างวิหารทุกบาน พระพุทธรูปองค์นี้จะเรืองแสงเป็นสีเขียวมรกตงดงามมาก ยามเมื่อเปิดหน้าต่างและประตูพระพุทธรูปจะปรากฏองค์สีขาวตามเดิม เป็นความอัศจรรย์แก่ผู้พบเห็น

แต่โดยในระหว่างการสร้างหลวงพ่อได้ศึกษาหาข้อมูลที่จะสร้างให้พระพุทธรูปองค์นี้เรืองแสงได้อย่างที่ตั้งใจ จึงเดินทางค้นหาวัสดุที่จำเป็นตามแหล่งต่างๆ มา โดยในระหว่างนั้นหลวงพ่อเล่าว่าดุจมีสิ่งดลใจให้หาวัสดุที่จะสร้างองค์พระได้เจอในเวลาอันสั้นโดยใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน เคยมีวัดแห่งอื่นๆ ที่ทำเช่นกัน แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จ ซึ่งถือว่า “พระโคตรมพุทธเจ้า” เป็นพระพุทธรูปเรืองแสงองค์เดียวในประเทศไทย



จากนั้นก็จะมีคณะศรัทธาที่มาสำนักสงฆ์แห่งนี้มากราบไหว้ประจำอย่างไม่ขาดสายส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างจังหวัด และคนขับรถผ่านทางพลัดหลงเข้ามา เพราะคนในพื้นที่เองยังไม่ทราบว่ามีการบูรณะและสร้างพระพุทธรูปขึ้นในที่แห่งนี้ ทั้งที่อยู่ห่างจากเมืองลำปางไม่ถึง 10 กิโลเมตร ส่วนสำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอขึ้นทะเบียนตั้งเป็นชื่อวัด ซึ่งยังอยู่ในเรื่องการดำเนินการอยู่
 
หลังจากสร้างพระพุทธรูปแล้วเสร็จ ข่าวพระพุทธรูปเรืองแสงปรากฏไปทั่วอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนแห่มากราบไหว้ถ่ายรูปพระเรืองแสงองค์นี้กันแน่นวิหารอย่างต่อเนื่อง

 
บทความโดย วิทยา ยะเปียง/ลำปาง
ขอบคุณภาพและบทความ http://www.banmuang.co.th/news/region/18803
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ