ถาม : สามีเป็นคนกิเลสหนา ชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มองไม่เห็นคุณและโทษ
ตามจริง เห็นใครทำบุญก็ชอบขัดขวาง อัตตาแรง ชอบข่มผู้อื่น อยากให้เขากลับใจมาฝักใฝ่
ธรรมะอย่างเราบ้าง จะมีอุบายวิธีแก้นิสัยบ้างไหม?
ตอบ :
ผมขออนุญาตแปลงคำถามใหม่ให้เกิดมุมมองที่ชัดเจนขึ้นนะครับ
คุณกำลังถามว่า ‘ทำอย่างไรจึงจะสามารถเปลี่ยนชีวิตสามีให้เป็นตรงข้ามได้?’
เมื่อเห็นโจทย์ให้ชัดเจนเสียอย่างนี้ก็จะพอรู้ว่าต้องลงทุนลงแรงกันประมาณใด
การเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิต หรืออีกนัยหนึ่งคือการพลิกความรู้สึกนึกคิดของใครคนหนึ่งให้
เป็นตรงข้ามกับที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น ลองตรองดูนะครับว่าจะมีสิ่งใดยากเย็นเท่านี้ได้อีก
คุณกำลังทำในสิ่งที่ท้าทายที่สุด ยากเย็นที่สุดแล้ว
ลองนึกดูว่าชั่วชีวิตเราเปลี่ยนแปลงตัวเองมากี่ครั้ง ชนิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือน่ะครับ
ถ้าหากว่าเคยมีประสบการณ์เปลี่ยนแปลงชนิดพลิกคว่ำคะมำหงายมาก่อน ขอให้ลองถามตัวเอง
ว่าคุณต้องพบเจอแรงบันดาลใจที่ทรงอิทธิพลเพียงใดจึงสามารถแปรคุณไปได้มากขนาดนั้น
แน่นอนว่าคงไม่ใช่การชักชวนเล่นๆ ง่ายๆ เหมือนใครชวนเราดูทีวีหรือตีปิงปองเป็นแน่
บางคนบอกว่าไม่ต้องมีใครชักชวน ก็ชอบธรรมะมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะที่บ้านมีบรรยากาศ
ธรรมะธัมโมอยู่แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอให้มองว่าฐานชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าพ่อแม่เริ่มพูด
เรื่องธรรมะให้ลูกๆ ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ถือว่าลูกๆ นั้นได้รับผลกรรมอันดีที่มีมาแต่ชาติปาง
ก่อนแล้ว แค่เกิดมายังไม่ทันต้องขวนขวายใดๆ ธรรมะก็เข้าหล่อหลอมจิตใจให้กลายเป็น
คนดีมีศีลสัตย์เสียแล้ว
ใครมีชีวิตแบบไหน ก็จะรู้สึกว่าชีวิตแบบนั้นเป็นของง่าย เห็นตัวเองอยู่บนเส้นทางที่เคยคุ้น
เป็นอันดี แต่จะรู้สึกฝืนหรือเกิดแรงต้านในทันทีที่ถูกตะล่อมให้เปลี่ยนเส้นทางเป็นอื่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางที่ขนานกันราวกับไม่มีวันหาจุดตัดจุดข้ามได้เลย
หากคุณประสงค์จะให้เขาข้ามมา ก่อนอื่นต้องใช้ประโยชน์จากความเป็นคนใกล้ชิดกับ
เขาให้เต็มที่ นั่นคือทำตัวเป็นสะพานเชื่อมทางขนานที่ข้ามยากนั้นให้กับเขาครับ!
หากคนใกล้ตัวที่สุดเป็นแรงบันดาลใจอย่างที่สุด การเปลี่ยนแปลงเป็นตรงข้ามก็มี
สิทธิ์เกิดขึ้นได้จริง
อ้างอิง หนังสือ “เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว” ๑ โดย “ดังตฤณ”