ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความตั้งใจของผู้ศรัทธา กับครูอาจารย์ที่มีแก่นสาร (ชีวประวัติหลวงปู่ชอบ)  (อ่าน 3242 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เพียงเ็พ็ญ ก่ำสุข

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0



     มีตอนหนึ่งที่หลวงปู่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไปกราบขอตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่มั่น  ท่านต้องเดินเท้าจาก อ.หนองวัวซอ อุดร ไป อ.ศรีสงคราม นครพนม ระยะทางประมาณ 200 กิโล ด้วยเส้นทางที่ไม่คุ้นชิน ผ่านป่า ผ่านเขา เจอหมู่บ้านก็อาศัยบิณฑบาต  แล้วก็จัดบริขารเดินทางต่อไป ไม่ลดละ ( อ่านไปก็เหมือนเห็นภาพท่านลำบากมาก   มานึกเทียบตัวเอง จะไปไหนสบายมีรถ มีแอร์ นั่งกันสบาย )

           พอถึงเขตเสนาสนะป่าบ้านสามผง  ท่านเล่าว่ามันช่างเงียบเหลือเกิน ท่านประหม่าขนลุก เกิดวังเวงชอบกล ( หลวงปู่มั่นท่านขึ้นชื่อลือชาว่าดุมาก) จากนี้คือตอนที่ท่านเล่าต่อด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ว่า

  " ผมยังไม่ทันจะห่มผ้าเฉวียงบ่าเสร็จเรียบร้อยดีเลย   องค์หลวงปู่มั่นก็ดุใส่เข้าก่อนทันที  แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  ถ้าเป็นฝนตกก็ไม่มีเค้าเมฆมาตั้งให้ครึ้มก่อน "

        หลวงปู่บอกว่า  ท่านทั้งงุนงง ทั้งตกใจ  ที่โดนหลวงปู่มั่นดุด่า ขับไล่เสียงดัง บอกให้หนีออกไปจากสำนัก  ไม่ยอมให้อยู่ด้วย

   "หนีไปเดี๋ยวนี้เลย  พราะผีบ้า ! มาทำอะไรที่นี่  ครูบาอาจารย์บ่มีบ่ ? ถึงได้ดั้นด้นมาถึงนี่  พระเคาขาดแบบนี้เราบ่เอาไว้ดอก  หนีเดี๋ยวนี้ ! ไปเดี๋ยวนี้!
อย่ามาอยู่กับเรา  จะไปไหนก็ไปเลย ! มาทางไหนก็ให้กลับไปทางนั้นเดี๋ยวนี้  ไม่ต้องมากราบเรา !  ไป! ไปเดี๋ยวนี้ ! "


   จขกท  อ่านถึงตรงนี้เสร็จ  ยังกะเห็นภาพอยู่ตรงหน้า  ไม่รู้ก้อนอะไรมาจุกที่คอ  น้ำตาก็ไหลออกมาซะงั้น  พลันก็คิดไปว่า  เออหนอ......กว่าครูบาอาจารย์จะได้สำเร็จในธรรม  ท่านต้องลำบากมาก....มากจริง ๆ  บางครั้งอาจจะเกินที่เรา ๆ จะคิด  จะนึกถึงก็เป็นได้     กว่าจะได้ธรรมมาสอนพวกเรา ๆ ฆราวาส   ที่ดูเหมือนจะได้ฟังกันง่ายดาย  ทั้งออนไลน์  ทั้งหนังสือ ฯลฯ   แทบไม่ต้องลงทุนลำบากอะไรเลย     ก็เลยนึกเวทนาในความโง่ของตัวเองไปเลย


       ก่อนนี้ กราบพระสวดมนต์ บทท่องสวดสุปฏิปัณโณ...  ตัวเองก็พอรู้ความหมายอยู่  แต่ก็ยังไม่ใช่รู้ซึ้งแก่ใจ  จนได้อ่านปฏิปทาครูบาอาจารย์ก็เลยได้กราบแบบที่เรียกว่า ถึงจิตถึงใจ ซึ้งจนสาแก่ใจเลย 

        เพียงเล่าสู่กันฟังกับเพื่อนนักปฏิบัติค่ะ....ขอทุกท่านเจริญในธรรมนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 19, 2012, 08:14:02 am โดย เพียงเ็พ็ญ ก่ำสุข »
บันทึกการเข้า
ประเทศชาติมีได้ เพราะมีสถาบัน ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
หยุดทำร้ายซึ่งกันและกัน เสียเถิด เพราะเราเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งนั้น

เพียงเ็พ็ญ ก่ำสุข

  • ศิษย์ตรง
  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 68
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สาธุ อ่านแล้ว ก็เห็นความพยายามของหลวงปู่ที่ต้องการเป็นศิษย์ หลวงปู่มั่น อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางแรนรอนมา 200 กม. เป็นเวลาช้านานพอมาถึงก็โดน หลวงปู่มั่น กล่าวว่า แท้ที่จริงก็เป็นบททดสอบที่ครูอาจารย์ดูความตั้งใจของศิษย์ ถ้ามุ่งมั่นเป็นศิษย์แล้ว เรื่องแค่นี้ำย่อมไม่หวั่นไหวอยู่แล้ว สาธู

 
บันทึกการเข้า
ประเทศชาติมีได้ เพราะมีสถาบัน ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์
หยุดทำร้ายซึ่งกันและกัน เสียเถิด เพราะเราเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งนั้น

บูรณะ

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 11
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผม ว่า ครูอาจารย์ ท่านก็ต้องมีการทดสอบ ผู้ที่จะมาเป็นศิษย์ด้วยนะครับ

เพื่อดูกำลัง จิต โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรม ในพุทธศาสนา เรื่องแรกที่ควรจะผ่าน คือโลกธรรม 8 ประการ

 

 :49:

 โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ (มนุษย์พอใจ)
     1. ได้ลาภ
     2. ได้ยศ
     3. มีสรรเสริญ
     4. มีสุข
โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ (มนุษย์ไม่พอใจ)
     1. เสื่อมลาภ
     2. เสื่อมยศ
     3. มีนินทา
     4. มีทุกข์
     โลกธรรมทั้ง 8 ประการนี้ จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ จะมีข้อแตกต่างกันเพียงว่า เมื่อโลกธรรมเกิดขึ้นแล้ว ใครจะควบคุมตนเองได้โดยไม่ดีใจหรือเสียใจมากจนเกินไปเท่านั้น
     โดยทั่วไป คนเราเมื่อได้ลาภ ได้ยศ ได้รับการสรรเสริญ หรือได้รับความสุข จะมีความดีใจเฉลิมฉลองกัน บางคนถึงขั้น
ลุ่มหลงอยู่กับสิ่งนั้น ๆ จนกลายเป็นคนหลงตัว ลืมตน แต่เมื่อใดที่ประสบกับความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา หรือได้รับ
ความทุกข์ จะเกิดความเศร้าโศกเสียใจ ความวิตกกังวล ความเครียด บางคนถึงขั้นทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
บันทึกการเข้า