มีเสียงวิตกวิจารย์ ถึงครูบาอาจารย์ ด้วยรูปแบบต่างๆ กันสรุปว่าเป็นเสียงปีติ 5 อันผัดผัน โต่งข้างสุขทุกข์ก็มาก โต่งข้างประคองไว้ก็มี ได้คะแนนเท่ากัน คือความเห็นนั้นเป็นอนัตตา เป็นศูนย์คือไม่ได้อะไร เดี๋ยวถึงเวลาท่านก็ออกมา..... ย้อนไปดูกันหน่อย ตอนที่พระอาจารย์ท่านอยู่เราทําตามที่ท่านบอกหรือเปล่า และตอนที่ท่านไม่อยู่ เรายังคงไว้ซึ่งคําสอนของท่านหรือเปล่า(ตอบไม่ได้) เอาไปทํากันหรือเปล่า สร้างงานของความดีกันหรือยัง เริ่มหรือยัง...กัมมัฏฐาน ฐานของความดี มีแต่จิตเท่านั้นที่เดินทางอย่างอื่น เรื่องอื่นคือติดในสมมุติ เรื่องศิล สมาธิ ปัญญา ไปวิมุติ.....อย่ามัวติดวิจิกิจฉาลังเล ติดไม่วางถือตัวหลงสักกายหลงตัว...จะเสียเวลาไม่ได้ไปเที่ยวนี้นะจ๊ะ.....ก่อนที่พระตถาคตจะเสด็จดับขันธ์ ท่านทรงตรัสว่า"ถึงตอนที่พระตถาคตไม่อยู่ พระธรรมก็คือตัวแทนของพระศาสดา แทนเราตถาคต"ฉะนั้น ศิล สมาธิ ปัญญา คือทางเดิน คือมรรค อย่างอื่น ไม่ใช่มรรค ความคิดไม่ใช่มรรค เชื่อความคิดติดความเห็น อาจจะขวางกั้นคุณธรรมที่อาจมีได้ เป็นได้ อย่าปิดกั้นความดีของตัวเอง ให้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย ที่มั่นคง อํานาจพระพุทธานุสติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหนุนเราจวบถึง พอศอห้าพัน...อย่ามัวหลงไหลไปในกระแสโลก คือภพสาม ความสุข ความทุกข์ ความเฉยๆ เฉยนี้อย่าเข้าใจว่าเก่ง เพราะเตรียมที่จะเป็นสุขกับเป็นทุกข์...ส่วนผู้ที่ได้ปฏิบัติอยู่แล้วก็ดีอยู่แล้ว เพราะได้เข้าปีติ ได้ล้างสังขต ฟอกธาตุ ล้างธาตุ กันไป ทําต่อเนื่องทุกวันนะ เบาบางเอง เห็นเอง กระบวนการ ธาตุล้างธาตุ ก็จะดําเนินไปตามระบบของเค้าเอง เราแค่ทําเป็นก็เป็นพอ เดียวได้เอง ได้อะไร คนที่ปฏิบัติอยู่แล้วคงพอเข้าใจ ระบบของ ศิลสมาธิ ปัญญาในที่นี้ พูดถึงเฉพาะศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ เท่านั้นนะ กรรมฐานอื่นเราไม่ไปกล่าวล่วง เราทราบจุดมุ่งหมายของเราก็เพียงพอ สําหรับผู้ที่สนใจมาใหม่ ขอเชิญไปขึ้นกรรมฐานที่วัดราชสิทธาราม ที่คณะ 5 ได้กราบ บูรพาจารย์พระอาจารย์กรรมฐานยุคตันกรุงรัตนโกสินทร์ ท่านคือ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน" เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ"แล้วจะรู้เองว่าได้อะไร เกาะธรรมยังดีกว่าเกาะกิเลส เกาะธรรมได้เห็นกิเลสนอนตาย..ไปไว ได้ทํา ไปช้า ยังไม่ได้ทํา-ความดี ไม่มีขาย ต้องทํา ทําแล้วรู้ได้ด้วยตัวเอง ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ-ทําให้ได้ถึงที่สุด"ไม่ตาย ไม่เกิด" เช่นสิ่งสองสิ่ง ความสงสัยกับความสงบระงับ อย่างไหนดีกว่า รู้กับไม่รู้อย่างไหนดีกว่า มีกับไม่มีอย่างไหนดีกว่า ไม่เอากับเอาอย่างไหนดีกว่า ใบไม้ทั้งป่ากับใบไม้กํามือ อย่างไหนมากกว่า มีความเห็นกับหมดสงสัยอย่างไหนสงบระงับ ตอบตัวเองได้ตามกระแสจริต......ขอให้ถึงความสุขกันทุกรูป-ทุกนาม อย่าลืมฟอกธาตุล้างธาตุกันเน้อ...
ศิษย์ธัมมะวังโสอาโลโก