ผมขอตอบอย่างผู้ไม่รู้นะครับ ต้องรอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ
มันเป็นธรรมชาติของจิตเมื่อจิตรวมลงได้เข้าสู่อุปจาระสมาธิ
อน่างพระโมคคัลลานะเถระ เมื่อท่านเห็นแสงนี้ก้อเข้าเพ่งแสงเป็นอาโลกกสินบังคับให้เล็กใหญ่ได้ตามใจ ไม่ติดในแสงด้วยเห็นความไม่เที่ยงของมันสักแต่เป็นเพียงจิตสังขาร จนจิตรวมลงเป็นฌาณบรรลุอรหันต์ ตามตำราว่าไว้ประมาณนี้
ส่วนตัวผมก็ทำประมาณนี้ครับ เมื่อไม่ติดใจไรๆกับมันเพ่งมันไปเรื่อยจิตยกขึ้นดวงแสงนั้นหายไปความปิติสุขก็เข้ามา จนเมื่อผ่านสุขนั้นไปจึงเข้าสู่ความสงบรำงับ นิ่งว่าง สลัดจากความคิด มีแต่สภาพรู้มันรู้โดยไม่คิดไรๆมันสักแต่แลดูอยู่ เห็นความเป็นไปในสภาพธรรมที่เกิดขึ้น อันนี้ผมก็เรียกว่าเป็นเพียงสมาธิไม่ใช่ฌาณญาณใดๆ เพียงแค่มันควรแก่งานมากขึ้น มันสักแต่เป็นเพียงสังขารปรุงแต่งให้จิตมันเป็นไป แล้วสิ่งไรๆแต่เก่าก่อนที่เคยเห็นเคยมีเคยรู้มันก้อพรั่งพรูออกมาหมด จนเห็นสิ่งไรๆ รู้สิ่งไรๆก็วิเคราะห์ลงในธรรมได้ทั้งหมด