สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 04, 2015, 10:58:12 am



หัวข้อ: อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 04, 2015, 10:58:12 am

(http://www.posttoday.com/media/content/2015/08/03/2E5DE2BC82EB487C94C35307B9CC1406.jpg)

อะเมซิ่งไทยแลนด์ @ วัดพระเชตุพน
คอลัมน์ เที่ยวทั่วไทย โดย..แมงโก้หวาน ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

เมื่อพูดถึงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ บอกได้เลยว่าพระอารามหลวงแห่งนี้ไม่ใช่วัดธรรมดาๆ แต่เป็นแหล่งรวมสรรพศาสตร์และสรรพศิลป์ชั้นเยี่ยมที่ควรแก่การทัศนะและศึกษาอย่างยิ่ง

แค่ย่างเข้าประตูวัดถ้าไม่สักแต่เดินๆ แหงนหน้ามองจะเห็นซุ้มประตูทรงมงกุฎประดับกระเบื้องที่ตัดเป็นรูปกลีบดอกไม้เรียงกันลดหลั่นสีสันสดสวย ลอดซุ้มเข้าไปหันกลับมาจะเห็นตุ๊กตาหินจีนในมือถืออาวุธ เรียกว่า “ลั่นถัน” (ทวารบาล) แต่เมื่อเดินทั่ววัดจะเห็นตุ๊กตาศิลปะจีนมากมายทั้งรูปปั้นและแกะสลักศิลา



(http://www.posttoday.com/media/content/2015/08/03/E81AEE7D67FC481494F272852579F26C.jpg)


เข้าไปในพระอุโบสถ เห็น “พระพุทธเทวปฏิมากร” ใจยิ่งเบิกบานเพราะองค์พระสวยมาก ที่ยิ่งกว่านั้นบนฐานชุกชีชั้นที่ 1 บรรจุพระบรมอัฐิและพระราชสรีรังคาร รัชกาลที่ 1 ด้วย ส่วนผนังพระอุโบสถก็งามงดด้วยภาพจิตรกรรมหลายเรื่อง เช่น เรื่องมโหสถบัณฑิต พระสาวกที่ได้รับเอตทัคคะ 41 องค์ยิ่งรู้ยิ่งทึ่งในความสามารถของช่างวาด

ด้านศาสนสถานอื่นๆ เช่น พระปรางค์ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป พิพิธภัณฑ์พระไตรปิฎกใบลานและสมุดไทย รวมถึงพระวิหารพุทธไสยาสน์ ล้วนประณีตงดงามแสดงถึงฝีมือช่างไทยได้อย่างดี เฉพาะองค์พระนอนก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทองงดงามที่สุดในประเทศไทย พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ตรงกลางเป็นรูปกงจักรตามตำรามหาปุริสลักษณะ ภาพจิตรกรรมภายในก็อะเมซิ่งมาก!



(http://www.posttoday.com/media/content/2015/08/03/DC22863F4B6B41468C563D966845C816.jpg)


ขณะที่ศาลารายคู่หน้าพระมหาเจดีย์ซึ่งอยู่ระหว่างมหาเจดีย์และพระอุโบสถ ศาลารายหลังเหนือ(ศาลาหมอนวด) จารึกตำรานวดแผนโบราณ มีจิตรกรรมลายเส้นบอกตำแหน่งนวดจารึกอยู่ที่คอสองเฉลียงลดทั้งหมด 32 แผ่น ด้านหลังจารึกสุภาษิตพระร่วง กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ได้ความรู้ไปเต็มๆ

สำหรับสถานที่ออกแนวธรรมชาติต้องยกให้ “เขามอ” หรือสวนหย่อม เป็นสวนหินปลูกไม้ประดับรัชกาลที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้รื้อก้อนศิลาใหญ่เล็กในสวนขวาในพระบรมมหาราชวัง พอครั้งรัชกาลที่ 3 ได้ก่อเป็นภูเขาเป็นสวนประดับรอบวัด ปลูกต้นไม้ต่างๆ มีรูปตุ๊กตาจีน รูปสัตว์สี่เท้า สถูปและเสาโคมแบบจีนเรียงราย



(http://www.posttoday.com/media/content/2015/08/03/E32C3F26AB764E54A4C8EEC4881D8F59.jpg)


เขามอมี 24 ลูก เด่นมากคือเขาฤษีดัดตน อยู่ใกล้กับวิหารทิศใต้ สวนนี้รัชกาลที่ 1 โปรดให้มีการรวบรวมการแพทย์แผนโบราณและศิลปวิทยาการสมัยอยุธยาไว้ แล้วทรงเห็นว่าท่าดัดตนเป็นการพักผ่อนอิริยาบถแก้ปวดเมื่อย จึงเอามาประยุกต์กับคติไทยที่ยกย่องฤษี ปั้นเป็นรูปฤษีดัดตนท่าต่างๆ สมัยแรกปั้นดิน ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 หล่อเป็นเนื้อชินอยู่ถึงวันนี้ เดิมมี 80 ท่า เหลือแค่ 24 ท่า 25 ตนจนในปี 2551 ทางวัดได้ดำเนินการปั้นหล่อฤษีดัดตนด้วยสังกะสีดีบุกตามแบบเดิมจนครบ 80 ท่า

รูปปั้นฤษีดัด เป็นการออกกำลังกายที่ใช้ศิลปะเพื่อการมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ตรงกับท่าหลักโยคะของโยคีอินเดีย ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของวัดก็ว่าได้ เพราะถ้าถามถึงวัดโพธิ์หลายคนจะนึกถึงรูปปั้นฤษีดัดตน ซึ่งไม่ได้มีแค่รูปปั้นแต่ยังมีจารึกเป็นโคลงสี่สุภาพลงในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามศาลาราย เช่น ศาลาเปลื้องเครื่อง เป็นต้นอีกด้วย



(http://www.posttoday.com/media/content/2015/08/03/5F070B9644DC4DA7A7B5520850FBBB8A.jpg)



อะเมซิ่งครับ ไปแล้วชอบ บอกได้เลยว่าการเข้าไปชมแต่ละครั้ง 2-3 ชั่วโมง เป็นการเที่ยวชม แค่กวาดสายตา แต่หากพินิจพิเคราะห์หยั่งลึกถึงแก่นแท้แห่งภูมิปัญญาช่างศิลป์ไทยกันแล้วนับว่าชั่วชีวิตกันเลย


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.posttoday.com/travel/thailand/379831 (http://www.posttoday.com/travel/thailand/379831)